............. สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมต้องออกตัวก่อนเลยว่า เรื่องนี้รับฟังจากคนรู้จักอีกที ชื่อพี่หมาน เป็นคนจังหวัดเชียงรายเรื่องเกิดขึ้นเมื่อสามสิบกว่าปีมาเเล้ว ซึ่งยุคนั้นการเก็บรักษาศพยังไม่ดีนัก ยิ่งชาวบ้านในชนบท จะทำกันเองตามความรู้ความสามารถที่มี ถ้าเป็นศพคนเฒ่าคนแก่ ศพตายป่วยไข้ทั่วไปก็พอทำเนา
หมอบ้าน คือคนที่เคยผ่านทหารเกณฑ์ เคยผ่านการฝึกอบรมรู้วิธีฉีดยา จะฉีดฟอร์มาลินเข้าไปตามเส้นเลือดแดงใหญ่ของศพ บางศพใช้น้ำเเข็งก้อน ชาวบ้านเรียกน้ำเเข็งมือ ใส่ลงโลงไปด้วย ก็พอจะชะลอการเน่าสลายได้บ้างครับ
ตามที่เกริ่นไว้ครับ ชาวบ้านทำไปตามความเข้าใจ มันจึงได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ช่วงไหนอากาศร้อนอบอ้าว ศพจะบวมอืดอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าศพเป็นคนเจ้าเนื้อ ตอนที่ญาติยังไม่ได้นำศพเข้าโลง ใบหน้าจะพองผิดรูปเดิม มันฟูมันพองซีดจาง หรือคล้ำไปเลย พาให้คนมองใจหวิวไหวชอบกล
ยิ่งถ้าเป็นศพไม่สมประกอบ มีบาดเเผลภายนอก หรือภายใน หมายถึงตายโหงนะครับ เรื่องทำศพจะยุ่งยากมาก ฟอร์มาลินเอย น้ำเเข็งเอยเอาไม่อยู่หรอกครับ โดยเฉพาะวันสุดท้าย จะต้องนำศพไปเผา คนมีภาระต้องแบกหามโลง จะเวียนหัวกับกลิ่นจนเเทบทนไม่ไหว ออกมาโก่งคออ้วกกันเลยก็มี
เรื่องนี้มันมีอยู่ว่า วันหนึ่งมีชาวบ้านหาของป่าไปพบศพผู้หญิงวัยกลางคน ใกล้กับน้ำตก หลังจากเเจ้งเรื่องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรับทราบ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาชันสูตรพลิกศพ มดได้กินใบหน้าไปกว่าครึ่งเเล้วจนเห็นกระดูก คาดว่าผู้ตายจะกินยาฆ่าตัวตาย เพราะพบขวดยาฆ่าแมลงตกอยู่ใกล้กัน สันนิษฐานเวลาตายได้ประมาณสามวัน คนตายเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันกับคนหาของป่า จึงทราบชื่อ ขอเอ่ยนามสมมุตินะครับชื่อ นางเขียว
ศพเป็นคนค่อนข้างเจ้าเนื้อ เเช่ในน้ำครึ่งตัว จึงเน่าเปื่อยไวส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมาก พอชันสูตรเสร็จ ได้ให้ญาตินำศพกลับไปทำพิธีได้เลย ผู้ตายมีสามีชื่อนายจัน อาชีพขับรถบรรทุก นายจันคนนี้มีนิสัยชอบเล่นการพนัน ต่อมาได้ขายรถยนต์ และขายที่นา
ไม่ต้องบอกผู้ฟังก็น่าเข้าใจได้นะครับ ทรัพย์สินคงละลายไปในบ่อนหมดเเล้ว ต่อมาได้หันมาเป็นลูกจ้างขับรถบรรทุก แต่ก็ยังชอบเล่นการพนันจนเป็นนิสัยเสียติกตัว ด้วยเหตุนี้จึงมีปากเสียงกับนางเขียวบ่อยครั้ง ตามการให้ปากคำของญาติและเพื่อนบ้าน จึงสันนิษฐานว่าที่นางเขียว กินยาฆ่าตัวตาย สาเหตุมาจากความน้อยใจสามี หรือประชดชีวิต
คืนนั้นที่พี่หมานกับเพื่อนชมรมคณิตคิดเร็ว ไปนั่งเล่นกันเพื่อเป็นเพื่อนศพ คนต่างจังหวัดก็แบบนี้แหละครับ ดึก ๆ มาภายหลังพระสวด แขกเหรื่อส่วนใหญ่กลับบ้านกัน จะเหลือส่วนน้อยอยู่ช่วยงาน บรรยากาศมันเงียบเหงาชวนขนหัวลุกหากไม่มีกิจกรรมให้ทำ คนที่เหลือจะพาลอยากกลับบ้านเอาได้ ญาติเขาก็ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนให้กำลังใจกัน
ดังนั้นการละเล่นประเภท ไฮโล ดัมมี่ ป๊อกเด้ง ไพ่ผสมสิบจึงต้องมี บางทีญาติก็มาเล่นด้วย จะได้ลืมความเศร้าโศกไปชั่วขณะ พี่ลือเพื่อนรุ่นพี่ของพี่หมาน พึ่งกลับจากกรุงเทพฯ อาชีพไม่ชัดเจน อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เป็นคนเก่งในเชิงพนันทุกชนิด คืนนี้จะมาเป็นเจ้ามือไพ่ป๊อกเด้ง มองดูขาป๊อกเด้งยังมีไม่กี่คนเอง เล่นกันข้างโลงศพ เลยหันมาทางพี่หมานที่นั่งหลังพิงเสา นั่งสูบยาเส้น กะว่าหมดมวนก็จะกลับบ้านไปนอน
"หมาน เอ็งไม่มาเล่นหน่อยเหรอวะ"
"ไม่ล่ะพี่ลือ วันนี้ผมพึ่งไถดะมา" พอพูดจบก็เอามือปิดปากหาว ทำท่าจะลุกหนี แต่พี่ลือตามมาคว้าข้อมือเสียก่อน
"เถอะน่าไม่เล่นไม่เป็นไร มาช่วยพี่เก็บค่าต๋งก็ได้ "
ด้วยความที่ไม่อยากขัดใจเพื่อนรุ่นพี่ พี่หมานเลยกระเถิบก้นไปนั่งข้างๆ พี่ลือนอกจากจะเป็นนักพนัน ยังเป็นนักเล่าเรื่องสยองขวัญชนิดใครได้ฟัง ไม่มีทางลุกออกจากวงไพ่ บ่อนวิ่งตามงานศพก็เเบบนี้ มีเหล้ามีกับเเกล้มให้กินฟรีๆ พอได้ซดสี่สิบห้าดีกรีเข้าไปไล่เลือดลม แล้วหยิบเนื้อมากัดคำหนึ่ง รู้สึกกลิ่นมันตุ๊ๆ เลยหันไปมองที่โลงศพที่ตั้งห่างออกไปไม่กี่เมตร แล้วหันไปกระซิบกับพี่ลือ พี่พยักหน้าเป็นอันรับรู้กัน
เรื่องกลิ่นสาบสาง และกลิ่นธูปเทียนมันปกติอยู่เเล้วกับศพที่ตายไม่ปกติ หรือตายโหง ถ้ารักจะอยู่เป็นเพื่อนญาติผู้ตายให้ถึงสว่าง ต้องมีย้อมใจกันหน่อย ไม่เเน่วิญญาณคนตายอาจนั่งลุ้นไปกับไพ่ของพวกเราอยู่ก็เป็นได้ พี่ลือสัพยอกมา ทำเอาคนฟังจะว่ายิ้มก็ไม่ใช่หัวเราะก็ไม่เชิง ต้องรินเหล้ายกซดอีกเป๊กเพื่อเพิ่มความกล้า ความจริงไม่ได้ง่วงนักหรอก แต่ได้ยินข่าวลือวิญญาณผีตายโหงไปโผล่บ้านโน่น ไปหลอกคนนี้ ให้สะเทือนขวัญตั้งแต่ยังไม่รู้ข่าวว่าตาย
“เอ้าเข้ามาเล่นกัน ไพ่ป้อกเด้ง ขาละบาท เล่นเป็นเพื่อนเจ้าภาพ ถือเป็นน้ำใจกัน”
พี่ลือจ่ายไพ่ออกไปด้วยนิ้วมืออันคล่องเเคล่ว ปากก็พูดเรื่องของนางเขียวไปด้วย พี่หมานมัวเเต่ทำงานในนา เลยยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จะได้ฟังเรื่องราวก็ตอนนี้ พี่ลือเล่ามาถึงช่วง ผู้ชายสี่คนช่วยกันหามศพออกมาจากในป่า อากาศช่วงนี้มันร้อน ศพจึงเน่าอย่างรวดเร็ว ที่น่าพะอืดพะอมที่สุดก็คือหยดน้ำเลือดสีคล้ำหยดเป็นทาง บางคนทนไม่ไหวถึงกับโก่งคออาเจียนระหว่างทาง พอเข้ามาในเขตหมู่บ้าน ฝูงหมามันทั้งเห่าทั้งหอนด้วยอาการตื่นตกใจ
ไอ้น้อยกับไอ้บอยสองเด็กหนุ่มรุ่น ๆ พึ่งขึ้นมาจุดธูปไหว้ศพ ล้วนเเต่เป็นญาติกัน พอได้ยินเรื่องเล่าจากปากของพี่ลือ บวกกับกลิ่นของศพ เเม้มีกลิ่นธูปยังกลบไม่ไหว ทำหน้าเลิ่กลั่ก หันมามองมาที่กลุ่มขาไพ่ เเล้วรีบถลาเข้ามาร่วมวง
"อะไรของมีงสองตัววะ เข้ามาเบียดกูอยู่ได้"
"พี่ๆ พี่หมาน รู้สึกอะไรแปลกๆ มั้ย"
"ก็กลิ่นของศพไง จะอะไรอีก"
แกตอบไปอย่างรำคาญ เพราะกำลังลุ้นไพ่ในมือพี่ลือ
ไอ้น้อยกับเพื่อนปากคอสั่น บอกว่าได้ยินเสียงดังแปลกๆ มาจากในโลง พี่หมานครางเออตอบเเรงๆ ใครมันจะได้กลิ่น หรือได้ยินอะไรบ้าง มันก็เรื่องธรรมดาของศพตายโหง คืนแรกไม่รู้จะเจออะไรบ้าง รักจะซื้อน้ำใจกัน ต้องอยู่ให้ทนถึงเช้า ทันใดนั้นพี่ลือแกก็หงายไพ่ สิบแจ็คแหม่ม ไพ่บอดเล่นเอาลูกมือเฮลั่น โดยเฉพาะคนที่ได้สองเด้ง
"มันเรื่องธรรมดาของคนตายคืนเเรก เขายังไม่รู้ว่าตัวเองตาย ถ้าพวกเอ็งสงสารอ้ายจัน ก็อยู่เป็นเพื่อนแกหน่อย เหล้ายาปลาปิ้งก็มีให้พร้อม ขอแค่ทนกลัวผีไม่กี่คืนเอง" พี่ลือยังมีกะใจมาพูดโน้มน้าวเด็กหนุ่ม
"พี่หมาน ฉ.. ฉันกลับบ้านไม่ได้แล้ว ชะ ช่วยเดินไปส่งที พวกฉันกลัวน้าเขียวตามไปด้วย เมื่อวานแม่ยังบอก อาเขียวมาขานเรียกจากหน้าบ้านตอนมืด ๆ แกนึกว่าหูฝาดตาฝาดไปเอง อาเขียวตามไปถึงบ้านเลยนะ"
"ถ้าไม่กล้ากลับเอง มีงสองคนก็นั่งเล่นสิวะ ตาละบาทก็ได้ นั่งเล่นถึงเช้าค่อยกลับ"
พี่ลือกำลังรอจะจ่ายไพ่ให้ขาใหม่ ไอ้บอยจำใจล้วงกระเป๋ากางเกงได้เเบงค์ยี่สิบออกมาวางเดิมพันลงไป แล้วต้องเฮ้ดัง เมื่อได้ป้อกเก้าสองเด้ง
ฉบับเสียงอ่านก็มีครับ แวะเวียนมาฟังกันได้
เล่นไพ่เป็นเพื่อนศพ
หมอบ้าน คือคนที่เคยผ่านทหารเกณฑ์ เคยผ่านการฝึกอบรมรู้วิธีฉีดยา จะฉีดฟอร์มาลินเข้าไปตามเส้นเลือดแดงใหญ่ของศพ บางศพใช้น้ำเเข็งก้อน ชาวบ้านเรียกน้ำเเข็งมือ ใส่ลงโลงไปด้วย ก็พอจะชะลอการเน่าสลายได้บ้างครับ
ตามที่เกริ่นไว้ครับ ชาวบ้านทำไปตามความเข้าใจ มันจึงได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ช่วงไหนอากาศร้อนอบอ้าว ศพจะบวมอืดอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าศพเป็นคนเจ้าเนื้อ ตอนที่ญาติยังไม่ได้นำศพเข้าโลง ใบหน้าจะพองผิดรูปเดิม มันฟูมันพองซีดจาง หรือคล้ำไปเลย พาให้คนมองใจหวิวไหวชอบกล
ยิ่งถ้าเป็นศพไม่สมประกอบ มีบาดเเผลภายนอก หรือภายใน หมายถึงตายโหงนะครับ เรื่องทำศพจะยุ่งยากมาก ฟอร์มาลินเอย น้ำเเข็งเอยเอาไม่อยู่หรอกครับ โดยเฉพาะวันสุดท้าย จะต้องนำศพไปเผา คนมีภาระต้องแบกหามโลง จะเวียนหัวกับกลิ่นจนเเทบทนไม่ไหว ออกมาโก่งคออ้วกกันเลยก็มี
เรื่องนี้มันมีอยู่ว่า วันหนึ่งมีชาวบ้านหาของป่าไปพบศพผู้หญิงวัยกลางคน ใกล้กับน้ำตก หลังจากเเจ้งเรื่องให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองรับทราบ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาชันสูตรพลิกศพ มดได้กินใบหน้าไปกว่าครึ่งเเล้วจนเห็นกระดูก คาดว่าผู้ตายจะกินยาฆ่าตัวตาย เพราะพบขวดยาฆ่าแมลงตกอยู่ใกล้กัน สันนิษฐานเวลาตายได้ประมาณสามวัน คนตายเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันกับคนหาของป่า จึงทราบชื่อ ขอเอ่ยนามสมมุตินะครับชื่อ นางเขียว
ศพเป็นคนค่อนข้างเจ้าเนื้อ เเช่ในน้ำครึ่งตัว จึงเน่าเปื่อยไวส่งกลิ่นเน่าเหม็น ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมาก พอชันสูตรเสร็จ ได้ให้ญาตินำศพกลับไปทำพิธีได้เลย ผู้ตายมีสามีชื่อนายจัน อาชีพขับรถบรรทุก นายจันคนนี้มีนิสัยชอบเล่นการพนัน ต่อมาได้ขายรถยนต์ และขายที่นา
ไม่ต้องบอกผู้ฟังก็น่าเข้าใจได้นะครับ ทรัพย์สินคงละลายไปในบ่อนหมดเเล้ว ต่อมาได้หันมาเป็นลูกจ้างขับรถบรรทุก แต่ก็ยังชอบเล่นการพนันจนเป็นนิสัยเสียติกตัว ด้วยเหตุนี้จึงมีปากเสียงกับนางเขียวบ่อยครั้ง ตามการให้ปากคำของญาติและเพื่อนบ้าน จึงสันนิษฐานว่าที่นางเขียว กินยาฆ่าตัวตาย สาเหตุมาจากความน้อยใจสามี หรือประชดชีวิต
คืนนั้นที่พี่หมานกับเพื่อนชมรมคณิตคิดเร็ว ไปนั่งเล่นกันเพื่อเป็นเพื่อนศพ คนต่างจังหวัดก็แบบนี้แหละครับ ดึก ๆ มาภายหลังพระสวด แขกเหรื่อส่วนใหญ่กลับบ้านกัน จะเหลือส่วนน้อยอยู่ช่วยงาน บรรยากาศมันเงียบเหงาชวนขนหัวลุกหากไม่มีกิจกรรมให้ทำ คนที่เหลือจะพาลอยากกลับบ้านเอาได้ ญาติเขาก็ต้องการคนอยู่เป็นเพื่อนให้กำลังใจกัน
ดังนั้นการละเล่นประเภท ไฮโล ดัมมี่ ป๊อกเด้ง ไพ่ผสมสิบจึงต้องมี บางทีญาติก็มาเล่นด้วย จะได้ลืมความเศร้าโศกไปชั่วขณะ พี่ลือเพื่อนรุ่นพี่ของพี่หมาน พึ่งกลับจากกรุงเทพฯ อาชีพไม่ชัดเจน อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง เป็นคนเก่งในเชิงพนันทุกชนิด คืนนี้จะมาเป็นเจ้ามือไพ่ป๊อกเด้ง มองดูขาป๊อกเด้งยังมีไม่กี่คนเอง เล่นกันข้างโลงศพ เลยหันมาทางพี่หมานที่นั่งหลังพิงเสา นั่งสูบยาเส้น กะว่าหมดมวนก็จะกลับบ้านไปนอน
"หมาน เอ็งไม่มาเล่นหน่อยเหรอวะ"
"ไม่ล่ะพี่ลือ วันนี้ผมพึ่งไถดะมา" พอพูดจบก็เอามือปิดปากหาว ทำท่าจะลุกหนี แต่พี่ลือตามมาคว้าข้อมือเสียก่อน
"เถอะน่าไม่เล่นไม่เป็นไร มาช่วยพี่เก็บค่าต๋งก็ได้ "
ด้วยความที่ไม่อยากขัดใจเพื่อนรุ่นพี่ พี่หมานเลยกระเถิบก้นไปนั่งข้างๆ พี่ลือนอกจากจะเป็นนักพนัน ยังเป็นนักเล่าเรื่องสยองขวัญชนิดใครได้ฟัง ไม่มีทางลุกออกจากวงไพ่ บ่อนวิ่งตามงานศพก็เเบบนี้ มีเหล้ามีกับเเกล้มให้กินฟรีๆ พอได้ซดสี่สิบห้าดีกรีเข้าไปไล่เลือดลม แล้วหยิบเนื้อมากัดคำหนึ่ง รู้สึกกลิ่นมันตุ๊ๆ เลยหันไปมองที่โลงศพที่ตั้งห่างออกไปไม่กี่เมตร แล้วหันไปกระซิบกับพี่ลือ พี่พยักหน้าเป็นอันรับรู้กัน
เรื่องกลิ่นสาบสาง และกลิ่นธูปเทียนมันปกติอยู่เเล้วกับศพที่ตายไม่ปกติ หรือตายโหง ถ้ารักจะอยู่เป็นเพื่อนญาติผู้ตายให้ถึงสว่าง ต้องมีย้อมใจกันหน่อย ไม่เเน่วิญญาณคนตายอาจนั่งลุ้นไปกับไพ่ของพวกเราอยู่ก็เป็นได้ พี่ลือสัพยอกมา ทำเอาคนฟังจะว่ายิ้มก็ไม่ใช่หัวเราะก็ไม่เชิง ต้องรินเหล้ายกซดอีกเป๊กเพื่อเพิ่มความกล้า ความจริงไม่ได้ง่วงนักหรอก แต่ได้ยินข่าวลือวิญญาณผีตายโหงไปโผล่บ้านโน่น ไปหลอกคนนี้ ให้สะเทือนขวัญตั้งแต่ยังไม่รู้ข่าวว่าตาย
“เอ้าเข้ามาเล่นกัน ไพ่ป้อกเด้ง ขาละบาท เล่นเป็นเพื่อนเจ้าภาพ ถือเป็นน้ำใจกัน”
พี่ลือจ่ายไพ่ออกไปด้วยนิ้วมืออันคล่องเเคล่ว ปากก็พูดเรื่องของนางเขียวไปด้วย พี่หมานมัวเเต่ทำงานในนา เลยยังไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ จะได้ฟังเรื่องราวก็ตอนนี้ พี่ลือเล่ามาถึงช่วง ผู้ชายสี่คนช่วยกันหามศพออกมาจากในป่า อากาศช่วงนี้มันร้อน ศพจึงเน่าอย่างรวดเร็ว ที่น่าพะอืดพะอมที่สุดก็คือหยดน้ำเลือดสีคล้ำหยดเป็นทาง บางคนทนไม่ไหวถึงกับโก่งคออาเจียนระหว่างทาง พอเข้ามาในเขตหมู่บ้าน ฝูงหมามันทั้งเห่าทั้งหอนด้วยอาการตื่นตกใจ
ไอ้น้อยกับไอ้บอยสองเด็กหนุ่มรุ่น ๆ พึ่งขึ้นมาจุดธูปไหว้ศพ ล้วนเเต่เป็นญาติกัน พอได้ยินเรื่องเล่าจากปากของพี่ลือ บวกกับกลิ่นของศพ เเม้มีกลิ่นธูปยังกลบไม่ไหว ทำหน้าเลิ่กลั่ก หันมามองมาที่กลุ่มขาไพ่ เเล้วรีบถลาเข้ามาร่วมวง
"อะไรของมีงสองตัววะ เข้ามาเบียดกูอยู่ได้"
"พี่ๆ พี่หมาน รู้สึกอะไรแปลกๆ มั้ย"
"ก็กลิ่นของศพไง จะอะไรอีก"
แกตอบไปอย่างรำคาญ เพราะกำลังลุ้นไพ่ในมือพี่ลือ
ไอ้น้อยกับเพื่อนปากคอสั่น บอกว่าได้ยินเสียงดังแปลกๆ มาจากในโลง พี่หมานครางเออตอบเเรงๆ ใครมันจะได้กลิ่น หรือได้ยินอะไรบ้าง มันก็เรื่องธรรมดาของศพตายโหง คืนแรกไม่รู้จะเจออะไรบ้าง รักจะซื้อน้ำใจกัน ต้องอยู่ให้ทนถึงเช้า ทันใดนั้นพี่ลือแกก็หงายไพ่ สิบแจ็คแหม่ม ไพ่บอดเล่นเอาลูกมือเฮลั่น โดยเฉพาะคนที่ได้สองเด้ง
"มันเรื่องธรรมดาของคนตายคืนเเรก เขายังไม่รู้ว่าตัวเองตาย ถ้าพวกเอ็งสงสารอ้ายจัน ก็อยู่เป็นเพื่อนแกหน่อย เหล้ายาปลาปิ้งก็มีให้พร้อม ขอแค่ทนกลัวผีไม่กี่คืนเอง" พี่ลือยังมีกะใจมาพูดโน้มน้าวเด็กหนุ่ม
"พี่หมาน ฉ.. ฉันกลับบ้านไม่ได้แล้ว ชะ ช่วยเดินไปส่งที พวกฉันกลัวน้าเขียวตามไปด้วย เมื่อวานแม่ยังบอก อาเขียวมาขานเรียกจากหน้าบ้านตอนมืด ๆ แกนึกว่าหูฝาดตาฝาดไปเอง อาเขียวตามไปถึงบ้านเลยนะ"
"ถ้าไม่กล้ากลับเอง มีงสองคนก็นั่งเล่นสิวะ ตาละบาทก็ได้ นั่งเล่นถึงเช้าค่อยกลับ"
พี่ลือกำลังรอจะจ่ายไพ่ให้ขาใหม่ ไอ้บอยจำใจล้วงกระเป๋ากางเกงได้เเบงค์ยี่สิบออกมาวางเดิมพันลงไป แล้วต้องเฮ้ดัง เมื่อได้ป้อกเก้าสองเด้ง