https://mgronline.com/around/detail/9640000116050
สื่อสหรัฐฯ เผยการทดสอบระบบอาวุธ “ไฮเปอร์โซนิก” ของจีนเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมามีการปล่อย “ขีปนาวุธลูกที่ 2” ออกจากยานซึ่งเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงเกิน 5 เท่า นับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่แม้แต่สหรัฐฯ และรัสเซียเองก็ยังทำไม่ได้
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส และหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ซึ่งออกมาตีแผ่ข้อมูลนี้ระบุตรงกันว่า การทดสอบระบบอาวุธดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ติดหัวรบนิวเคลียร์ของจีนก้าวหน้าไปไกลยิ่งกว่าที่หลายฝ่ายคาดคิด และแม้แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
การปล่อยขีปนาวุธออกจากยานแม่ซึ่งเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงเกิน 5 เท่าขึ้นไปนั้นถือเป็นศักยภาพขั้นสูงที่สหรัฐฯ และรัสเซียยังไม่เคยแสดงให้โลกเห็นว่าสามารถทำได้
ไฟแนนเชียลไทม์สระบุด้วยว่า กูรูด้านการทหารของสหรัฐฯ กำลังสืบเสาะว่าจีนทำอย่างไรจึงมีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีในด้านนี้เกินหน้าเกินตาคู่แข่ง
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า จีนได้ทดสอบขีปนาวุธศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง ซึ่งวนรอบโลกในวงโคจรระดับต่ำ ก่อนจะดิ่งลงสู่เป้าหมายภายในประเทศจีนเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งเพียงเท่านี้ก็สร้างความตกตะลึงให้กับสหรัฐฯ มากพอดูอยู่แล้ว
แม้จรวดไฮเปอร์โซนิกดังกล่าวจะพลาดเป้าหมายไปไกลประมาณ 20 กิโลเมตรเศษๆ แต่ พล.อ.จอห์น อี. ไฮเทน รองประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งอาวุโสเบอร์ 2 ของเพนตากอน ระบุว่าแค่นี้ก็นับว่า “แม่น” พอสมควรแล้ว สำหรับการทดสอบครั้งแรก
แต่สิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นก็คือ จรวดไฮเปอร์โซนิกของจีนได้ปล่อยขีปนาวุธอีกลูกหนึ่งออกมาในขณะที่กำลังทะยานร่อนด้วยความเร็วมากกว่า 6,175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้ตกลงสู่ทะเลจีนใต้โดยไม่ทำอันตรายต่อฝ่ายใด
จีน:มหาอำนาจกองทัพอวกาศของโลก ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง
สหรัฐฯ ผงะ! จีนโชว์ศักยภาพยิง ‘ขีปนาวุธลูกที่ 2’ ออกจากจรวดไฮเปอร์โซนิกที่เดินทางเร็วกว่าเสียงเกิน 5 เท่า
สื่อสหรัฐฯ เผยการทดสอบระบบอาวุธ “ไฮเปอร์โซนิก” ของจีนเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมามีการปล่อย “ขีปนาวุธลูกที่ 2” ออกจากยานซึ่งเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงเกิน 5 เท่า นับเป็นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่แม้แต่สหรัฐฯ และรัสเซียเองก็ยังทำไม่ได้
หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส และหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล ซึ่งออกมาตีแผ่ข้อมูลนี้ระบุตรงกันว่า การทดสอบระบบอาวุธดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเทคโนโลยีขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์ติดหัวรบนิวเคลียร์ของจีนก้าวหน้าไปไกลยิ่งกว่าที่หลายฝ่ายคาดคิด และแม้แต่เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ก็ยังรู้สึกประหลาดใจ
การปล่อยขีปนาวุธออกจากยานแม่ซึ่งเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียงเกิน 5 เท่าขึ้นไปนั้นถือเป็นศักยภาพขั้นสูงที่สหรัฐฯ และรัสเซียยังไม่เคยแสดงให้โลกเห็นว่าสามารถทำได้
ไฟแนนเชียลไทม์สระบุด้วยว่า กูรูด้านการทหารของสหรัฐฯ กำลังสืบเสาะว่าจีนทำอย่างไรจึงมีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีในด้านนี้เกินหน้าเกินตาคู่แข่ง
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า จีนได้ทดสอบขีปนาวุธศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง ซึ่งวนรอบโลกในวงโคจรระดับต่ำ ก่อนจะดิ่งลงสู่เป้าหมายภายในประเทศจีนเมื่อช่วงเดือน ก.ค. ซึ่งเพียงเท่านี้ก็สร้างความตกตะลึงให้กับสหรัฐฯ มากพอดูอยู่แล้ว
แม้จรวดไฮเปอร์โซนิกดังกล่าวจะพลาดเป้าหมายไปไกลประมาณ 20 กิโลเมตรเศษๆ แต่ พล.อ.จอห์น อี. ไฮเทน รองประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตำแหน่งอาวุโสเบอร์ 2 ของเพนตากอน ระบุว่าแค่นี้ก็นับว่า “แม่น” พอสมควรแล้ว สำหรับการทดสอบครั้งแรก
แต่สิ่งที่ทำให้สหรัฐฯ เซอร์ไพรส์ยิ่งกว่านั้นก็คือ จรวดไฮเปอร์โซนิกของจีนได้ปล่อยขีปนาวุธอีกลูกหนึ่งออกมาในขณะที่กำลังทะยานร่อนด้วยความเร็วมากกว่า 6,175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และขีปนาวุธลูกดังกล่าวได้ตกลงสู่ทะเลจีนใต้โดยไม่ทำอันตรายต่อฝ่ายใด
จีน:มหาอำนาจกองทัพอวกาศของโลก ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง