สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เราว่าข้อมูลที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้คือ พ่อสามีคุณคิดยังไงกับการที่คุณมาอยู่บ้านนี้
คงต้องลองให้สามีไปพูดคุยดูค่ะ ถ้าเค้ารู้สึกไม่ชอบใจที่คุณมาอยู่ที่นี่ คุณก็ควรย้ายออก ไม่ควรฝืนทนอยู่ต่อเพื่อจะทำตัวเป็นนางเอก
เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ มีแต่จะอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ
บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าตัวเองทำดีแล้ว คนอื่นอาจจะไม่ชอบใจก็ได้
เช่นการที่คุณไปช่วยดูแลแม่สามี คุณอาจคิดว่ากำลังแบ่งเบาภาระของพ่อสามี
แต่พ่อสามีอาจจะรู้สึกว่าตัวเองถูกแย่งความสำคัญไปก็ได้
หรือบางทีเค้าอยากอาจใช้เวลาส่วนตัวกับลูกชายเค้าบ้าง แต่คุณกลับอยากเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ตลอดเวลา
เรื่องแบบนี้ก็สร้างความไม่พอใจขึ้นมาได้เหมือนกัน
เรื่องแบบนี้มันต้องคุยกันค่ะ อยู่กับฝรั่งควรรู้จักคุยกันตรงๆ ไม่ใช่คุณคิดเอาเองว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้วอดทนอยู่คนเดียว
ถ้าถึงจุดที่มันควรย้ายออกก็ต้องย้ายค่ะ แล้วค่อยไปมาหาสู่กันเอา
ไม่ใช่เจ้าของบ้านออกปากไล่แล้วคุณยังไม่ไปแถมยังอ้างว่าไม่อยากเป็นตัวปัญหา แบบนี้มันก็ไม่ถูกนะคะ
สรุปสั้นๆก็คือ คุณควรคุยกับสามีหรือพ่อสามีตรงๆค่ะ ไม่ควรเก็บเงียบอยู่คนเดียวแบบนี้
บางทีคุณอาจทำตัวไม่ถูกใจเค้าเพราะความต่างของวัฒนธรรม คุณก็ควรเปิดใจยอมรับปัญหาพวกนี้
การที่คุณเอาแต่เก็บเงียบไม่ยอมพูดและเอาแต่อดทน มันไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรอกนะคะ
มีแต่จะแย่ลงด้วยซ้ำเพราะวันไหนคุณทนไม่ไหวก็จะถึงจุดแตกหักอยู่ดี
สู้คุยกันตรงๆในตอนนี้และพยายามปรับตัวให้ถูกใจเค้าดีกว่าค่ะ
คงต้องลองให้สามีไปพูดคุยดูค่ะ ถ้าเค้ารู้สึกไม่ชอบใจที่คุณมาอยู่ที่นี่ คุณก็ควรย้ายออก ไม่ควรฝืนทนอยู่ต่อเพื่อจะทำตัวเป็นนางเอก
เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ มีแต่จะอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ
บางทีสิ่งที่คุณคิดว่าตัวเองทำดีแล้ว คนอื่นอาจจะไม่ชอบใจก็ได้
เช่นการที่คุณไปช่วยดูแลแม่สามี คุณอาจคิดว่ากำลังแบ่งเบาภาระของพ่อสามี
แต่พ่อสามีอาจจะรู้สึกว่าตัวเองถูกแย่งความสำคัญไปก็ได้
หรือบางทีเค้าอยากอาจใช้เวลาส่วนตัวกับลูกชายเค้าบ้าง แต่คุณกลับอยากเข้าไปมีส่วนร่วมอยู่ตลอดเวลา
เรื่องแบบนี้ก็สร้างความไม่พอใจขึ้นมาได้เหมือนกัน
เรื่องแบบนี้มันต้องคุยกันค่ะ อยู่กับฝรั่งควรรู้จักคุยกันตรงๆ ไม่ใช่คุณคิดเอาเองว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้วอดทนอยู่คนเดียว
ถ้าถึงจุดที่มันควรย้ายออกก็ต้องย้ายค่ะ แล้วค่อยไปมาหาสู่กันเอา
ไม่ใช่เจ้าของบ้านออกปากไล่แล้วคุณยังไม่ไปแถมยังอ้างว่าไม่อยากเป็นตัวปัญหา แบบนี้มันก็ไม่ถูกนะคะ
สรุปสั้นๆก็คือ คุณควรคุยกับสามีหรือพ่อสามีตรงๆค่ะ ไม่ควรเก็บเงียบอยู่คนเดียวแบบนี้
บางทีคุณอาจทำตัวไม่ถูกใจเค้าเพราะความต่างของวัฒนธรรม คุณก็ควรเปิดใจยอมรับปัญหาพวกนี้
การที่คุณเอาแต่เก็บเงียบไม่ยอมพูดและเอาแต่อดทน มันไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นหรอกนะคะ
มีแต่จะแย่ลงด้วยซ้ำเพราะวันไหนคุณทนไม่ไหวก็จะถึงจุดแตกหักอยู่ดี
สู้คุยกันตรงๆในตอนนี้และพยายามปรับตัวให้ถูกใจเค้าดีกว่าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
รู้สึกว่าพ่อของสามีรำคาญเรา(กระทู้ระบาย กับขอวิธีจัดการความรู้สึกตัวเอง)
สรุปว่าเราถูกรำคาญจากการเข้าไปช่วยจริงๆ เราคิดสรุปเอาเองว่าการเข้าไปช่วยเล็กๆน้อยๆสามารถทำได้ เนื่องจากทุกปีที่มาคือช่วยตลอด พ่อก็ไม่เคยมีท่าทีแบบนี้กับเราเลย มาอยู่ครั้งนี้ เราเลยเข้าใจผิดว่าครั้งสามารถช่วยได้ ส่วนเรื่องย้ายออก เขาไม่อยากให้ย้ายออกค่ะ เขาอยากให้อยู่แบบนี้ เขามีความสุขกับการใช้เวลาด้วยกันทุกวันช่วงอาหารเย็นแบบนี้ เขาบอกสามีกับเรามาแบบนี้นะคะ
ต่อไปเราจะทำตัวตามสบายดู ไม่ต้องแคร์ใครดู เป็นความต่างของวัฒนธรรมที่เราต้องปรับตัว ข้อเสียมากๆของเราคือแคร์คนอื่นมากไป มีจิตคิดช่วยคนอื่นก่อนเขาขอเป็นนิสัยที่น่าจะติดมาจากที่เคยทำงานพยาบาล เรารู้แล้วว่าต้องปรับเปลี่ยน
ถึงทุกท่านที่แนะนำให้เราย้ายออก เราเห็นด้วยทุกประการเลยค่ะ เราเองไม่อยากมาอยู่นานแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อยู่บ้านคนอื่นยังไงก็อึดอัด แต่เรายังต้องทนอยู่ เพราะสามีอยากอยู่ที่นี่ พ่อแม่อยากให้สามีอยู่บ้านเดียวกันแบบนี้ เหมือนเขาอยากใช้เวลาด้วยกันให้มากที่สุด ก่อนที่แม่จะอาการแย่ไปกว่านี้ ร่วมกับสามีเราไม่คิดจะมาอยู่ยาวๆแบบนี้อีก และหลังจากหมดการมาอยู่ยาวรอบนี้ ก็อาจจะะเป็นอีกหลายปีที่จะได้กลับมาเยี่ยม
เพิ่มเติมค่ะ
เนื่องจากมีความเห็นที่3ที่ว่าเราถูก
ออกปากไล่แล้วยังไม่ย้ายออกจากไปอีก ไม่มีในเนื้อหากระทู้ที่เราลบไปแล้วนะคะว่าเราถูกไล่ ไม่ได้เคยพิมพ์ไว้เลยค่ะ เผื่อมีใครผ่านเข้ามาอ่านอีก ไม่อยากตัวเองให้ถูกเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ว่าทำไมเราประหลาดหรือ
หน้าทนจัง ถูกไล่แล้วยังไม่ไปอีก เพราะถ้าถึงขั้นถูกไล่แล้ว กระทู้นี้จะไม่เกิดขึ้นเลยค่ะ ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาคือคืออยากระบายและขอคำแนะนำในการปรับใจ ให้อยู่พอได้ ให้ผ่านไปได้ ตอนนี้ก็ได้ข้อสรุปแล้ว จึงขอปิดกระทู้ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านจริงๆค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้