ดูเพราะเห็นว่ามีสามภาค 75 ตอนยาวดีถ้าไม่สนุกคงไม่ทำมายาวขนาดนี้ ปรกติไม่ได้ดูแนวโชโจเลย มังงะไม่ได้อ่านชอบดูแบบลุ้นไปกับเรื่องเลย ดูแบบไม่รู้อะไร เปิดมาก็หาเรือจะลง ดูไปนิดหนึ่งตัดสินใจลงเรือแว่น เพราะชอบนิสัยที่อดทน พยายาม ทำงานหาเงินตั้งแต่เด็กเก่งแค่คารุตะ พานางเอกให้รู้จักความสนุกของคารุตะ สองคนเชื่อมความผูกพันธ์กันด้วยคารุตะ ความประทับใจในตัวแว่นอาจมีหลายแบบปนกันไป ส่วนนายหล่อ รวย เก่ง ฉลาดนั้น ที่เอาแว่นไปซ่อนนั้น ตรงนี้แสดงความไม่ซื่อตรงในใจออกมา ความไม่กล้า จุดนี้เริ่มต้นผมจึงลงเรือแว่น จากนั้นเริ่มเชียร์ เหมือนดูมวย หมัดแย๊บ กับหมัดฮุกสู้กัน ต้องชมผู้เขียนที่สร้างตัวละคร และโครงเรื่องได้ดีมากๆ เรื่องราวคงดูกันหมดแล้ว ขอเล่าความประทับใจบางตอนนะครับ
แว่น นี่ชอบความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีเป้าหมายชัดเจนที่จะไปเป็นเมจินิใครว่าแว่นดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร ไม่ใช่เลย ตอนที่ปู่ที่สอนคารุตะเสียไปถึงกับเล่นอีกไม่ได้เลย เหมือนจิฮายะที่หล่อลาออก จากนั้นนางเอกพากลับมา ในความคิดของแว่นที่มองถ้าจริงๆแว่นชอบนางเอกเหมือนกันตั้งแต่แรก แต่ถ้ามองในมุมแว่น หล่อนั้นอยู่ข้างนางเอกตลอด กับคนที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น หล่อ รวย ฉลาด ชอบนางเอกอีก แล้วตัวเองมีอะไร ก็มีแต่คารุระแค่นั้น หล่อนั้นเป็นเพื่อนตัวเองจะไปแข่งกับหล่ออย่างไหน คารุตะ หล่อก็ไม่ใช่คู่แข่งได้ แข่งชิงหัวใจนางเอก ดูสถานะตัวเอง สู้ไม่ได้ แถมต้องจากกันไปอยู่คนละที่อีก
ฉากตอนที่ถามหล่อว่าจิฮายะเป็นของนายหรือเปล่า นี่นายช่างแมนมากรู้อยู่แล้วว่าหล่อชอบ อันนี้ถ้าไม่ชอบนางเอกมากๆจะกล้าถามไปไหม ตัวเองต้องการคำตอบที่ชัดเจน หล่อมาเปิดอกคุยกัน ถ้าหล่อตอบว่าเป็นของฉันนี่ มันจะโกหก ตอบว่าไม่ใช่ ก็โอเค แต่ กลับหนีไป จุดนี้เพื่อนรักมาเปิดอกถามแบบนี้ก็น่าจะมาตกลงแข่งกันแบบเป็นทางการให้แมนๆหน่อยดันเดินหนีไป เหมือนบอกว่าเอ็งจะทำไรก็ตามบาย อันนี้แว่นคิดถึงทั้งนางเอกและหล่อ ได้ใจไป หล่อนั้นมองแว่นเป็นคู่แข่งนึกถึงตัวเองมากกว่า เออ ตามใจเอ็ง
อีกฉากที่ประทับใจมาที่สุดในเรื่องคือ ตอนที่อาราตะแข่งชิงกับอาจารย์ตัวเอง อาจารย์ของทั้งสามคน มารยาท การแสดงความเคารพต่ออาจารย์อย่างสุดที่ส่งผ่านออกมานั้นมันโคตรเท่ห์ ความเคารพ จริงใจส่งผ่านออกมาได้เลย แต่จากนั้น เรือแว่นกับสั่นสะเทือนแทบแตก เพราะนางเอกถามตัวเองว่าอะไรสำคัญ ตอนเด็กคืออาราตะ ตอน ม.ต้นก็อาจารย์คนนี้ ตอนนี้ล่ะ หันกลับไปมองหล่อ ตรงนี้แสดงถึงความพยายามของหล่อเริ่มส่งผล หมัดแย๊บเริ่มออกอาการบาดเจ็บสะสม แป้วแล้วเรือเว่น จะแพ้ความใกล้ชิดหรือนี่ แต่..จากนั้นพออาราตะแพ้อาจารย์ ไพ่ทีจะหยิบได้ กลับหลุดมือในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ไพ่จิฮายะที่อยู่ข้างตัวกลับไม่ออก ยังกับอาจารย์สอน. เสียใบที่มั่นใจว่าจะหยิบได้ เพราะเฝ้ามองมากเกินไป จากนั้นก็ได้คุยกับนางเอก ว่านางเอกจะเล่นอย่างไร นางเอกยิ้มและบอกว่าไพ่ที่ตัวเอกอยากจะได้ ต้องออกไปคว้าด้วยตัวเองคิดดูว่า คนที่รักมาพูดตรงนี้ข้างหน้าจะรู้สึกอย่างไรวินาทีนั้น ตรงนี้เเหละที่อาราตะ ตัดสินใจบอกรักนางเอก ฉันชอบเธอ ก้มหัวคำนับนางเอก แล้วพูดต่อ แม้ว่ามันอาจจะไม่ดีต่อไทจิ (คิดถึงเพื่อน และเหมือนส่งผ่านคำขอโทษไปถึงไทจิ และขอโทษนางเอกที่อาจต้องลำบากใจ แสดงความสุภาพและตั้งใจ) ปีหน้าฉันจะมาเรียนที่โตเกียว(ฉันจะมาอยู่ข้างเธอ ปิดจุดอ่อนตัวเองที่อยู่ไกล) ถ้าไม่ว่าอะไร เรามาเล่นคารุตะด้วยกันนะ(คนที่มุ่งมั่น ยึดถือในคารุตะ เป็นชีวิตจิตใจ เหมือนกับบอกขอแต่งงานเลยทีเดียว) อันนี้เป็นหมัดหนักสุด ไม่เสียแรงที่เชียร์ นายรู้ว่าควรทำอะไร เวลาไหน เพราะความซื่อตรง สมบูรณ์ จิฮายะฟุรุ เหมือนลูกข่าง ที่หมุนตั้งตรง เหมือนไม่เคลื่อนที่ แต่เคลื่อนที่อย่างรุนแรง มั่งคง สมบูรณ์ ไม่ต้องการบรรยากาศโรแมนติกใดๆ เพราะมันสมบูรณ์แบบจริงๆในการสารภาพครั้งนี้ มันผ่านกระบวนการ ผ่านความคิด และช่วงเวลา และการออกไปคว้าหัวใจนางเอก คนในชมรมถึงกับเหวอ ส่วนหล่อออกไปส่งผ้าพันคอคืนเมจิน แล้วยังดันโกหกเมจินอีกว่านางเอกเป็นเเฟนตัวเอง อย่ามาแย่ง แมนมากไอ้หล่อ
นับว่าเป็นฉากบอกรักที่กระแทกใจมากกว่าอีกหลายเรื่อง บางคนอาจมองธรรมดา นางเอกมีความสำคัญกับแว่นแค่ไหน แค่บอกให้แว่นตั้งทีมจะได้มีเพือ่น แว่นก็ตั้งทั้งๆทีอยู่ปีสามแล้ว และต้องแข่งชิงเมจินอีก ถ้าไม่แคร์ไม่คิดจะทำทำไม
แว่นตอนที่อาจารย์แพ้ให้กับเมจิน ที่เหมือนไม่ได้จริงจังกับคารุตะ ทั้งที่อาจารย์นางเอก ทุ่มเทตลอดชีวิต นางเอกเจ็บใจจนร้องไห้ที่ตัวเองเป็นผู้หญิง ตอนเมจินจะบอกเลิกเล่น นางพุ่งตัวออกไป แว่นเปิดประตูเจอกันพอดี ยกมือบอกนางเอก น้องไม่ต้องเดี๋ยวพี่เอง นี่ไม่ต้องพูดสักคำ ทำไมรู้ใจขนาดนี้ เป็นพยาธิอยู่ในท้องเรอะ เอ็งช่างกล้ามาก เก่งมาก ขอบใจไอ้แว่น ไม่เสียแรงเชียร์ ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร นายมันได้ใจโว้ย
พูดถึงแว่น มีความพยายาม แต่ไร้ความกล้า มุ่งมั่นไม่พอ ขาดความซื่อตรง โทษดวง ไม่เคยโทษตัวเอง ไม่เข้มแข็ง ไม่รู้ว่าเวลาไหนจะต้องทำอะไร อาจไบแอสเพราะทีมแว่นแต่หลายเวลาที่หล่อแสดงออกมา อย่างตอนแรกก่อนไปหาแว่นที่เลิกเล่น ตัวเองเลิกแฟนเพราะรู้ว่าตัวเองชอบนางเอก คบแฟนไปงั้นเพราะมาสารภาพรักสุดท้ายก็ทิ้งไป โอเคฝืนไปก็ไม่รอด แต่จุดนี้ขาดความสง่างามไปนิดหน่อย ไม่ว่ากันแต่ เลิกแล้ว รู้ตัวว่าชอบ ถ้าตัวเองไม่ชัดเจนพอกับคนที่ชอบจริง กลับชักข้าไม่บอกนางเอกก่อนไปเจอแว่น ถ้าบอกก่อนนี่จะเหมาะกว่า พอนางเอกวิ่งไป มือก็คว้าลม จากนั้นเอาตัวมาหลบหลัง friend zone แทนที่จะเดินหน้าต่อ บอกชอบไปสิแล้วค่อยพัฒนาเติบโตแว่นจะกลายเป็นลาสบอส แม้ว่าจะคอยดูแลแต่ ไม่แสดงออกอะไรมามาก นางเอกนั้นจดจ่ออยู่กับคารุตะขนาดนั้น มันก็ต้องคิดถึงแว่นตลอด แว่นถามว่าเป็นของนายหรือเปล่า ก็คิดว่ายังไม่เป็นของใคร อ้าวแล้วเอ็งยังไงต่อ มาแข่งกันแฟร์ดิ นี่ไม่ชัดเจน กลับมาในfrend zone ออกหมัดเย็บต่อ ตอนสารภาพรักกับนางเอกนี่เกือบสมบูรณ์แบบ บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม ฉันชอบเธอ ขอบทุกอย่าง..บลาๆยกเว้นตอนเธอคิดถึงอาราตะ อ้าวปากพาจน นางคิดถึงอาราตะ โดนปฎิเสธ ถ้าบอกก่อนแว่นนี่จะดีกว่า จริงๆน่าจะบอกและขอนางเอกอย่าเพิ่งให้คำตอบจนกว่าจะให้คำตอบอาราตะก่อน หล่อจะมีโอกาสสู้แฟร์ๆและมีโอกาสเพิ่มขึ้น นางเอกตามไป กลับดึงมาจูบ แมนมากไอ้บ้า แล้วต่อว่าเธอคิดว่าฉันทำมาจากหินเหรอไพ่ เป็นสีดำไปหมด เรียกน้ำตาแม่ยกเรอะ สักหน่อยไปเล่นกับเมจินแล้วทิ้งนางเอก จนเล่นคารุตะไม่ไหว หล่อสำคัญขนาดนั้น เรือแว่นเริ่มสั่นอีก แต่คิดว่าแว่นเอ็งจะปลอบใจนางเอกไง ตอนจบภาค3
แว่นบอกหล่อว่าตั้งทีมให้มาแข่งกัน หล่อต้องรู้แล้วว่านางเอกต้องการตัวเองมาช่วย ตอนนางเอกอ่านข้อความแว่น แล้วนึกถึงคำพูดไทจินี่ว่าอาราตะจะกลับมา อาราตาบอกนางเอกว่า ไทจิตะกลับมา เรามาฝึกให้เก่งรอไทจิกลับมากัน โห เชื่อตัวเพื่อน และรู้ว่าจะพูดอะไรทำอะไรถูกที่ ถูกเวลา ออกมาแต่ละดอกเนื้อๆ
อาราตะเหมือนสายน้ำเป็นตัวแทนของสายน้ำ จิฮายะเป็นเมเปิ้ลแดงที่ไหลไปด้วยกัน มีความรู้สึกผูกพันธ์รุนเเรง ตามความหมายที่สมบูรณ์ของจิฮายะฟุรุตามบทกลอน เริ่มต้นด้วยคารุตะ ผูกพันธ์ด้วยคารุตะ จบลงที่คารุตะ ทั้งสองคนมีทั้งมิตรภาพ ความรัก ถ้าพระเจ้าคารุตะมีจริงคงอวยพรให้สองคนนี้คู่กัน
แต่ถ้าสุดท้ายจิฮายะเลือกไทจิก็ได้ ไม่เป็นไร
แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นการแข่งอย่างอื่น หรืออะไรก็ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่เรื่องนี้ความสำคัญของความหมายจิฮายะฟุรุ นั้นส่งผลกับเรื่องราวอย่างมาก เทพเจ้าเเห่งคารุระจะส่งหญิงสาวที่งดงามและรักในคารุตะผู้นี้ไปให้ใคร จะรอชม ss. ต่อไป ครับ
Chihayafuru เพิ่งดูจบss3 เกือบพลาดเรื่องดีๆ สนุกกว่าที่คิด ทีมแว่น ทีมหล่อ มาคุยกัน มีสปอย
แว่น นี่ชอบความมุ่งมั่น ตั้งใจ มีเป้าหมายชัดเจนที่จะไปเป็นเมจินิใครว่าแว่นดูเหมือนไม่รู้สึกอะไร ไม่ใช่เลย ตอนที่ปู่ที่สอนคารุตะเสียไปถึงกับเล่นอีกไม่ได้เลย เหมือนจิฮายะที่หล่อลาออก จากนั้นนางเอกพากลับมา ในความคิดของแว่นที่มองถ้าจริงๆแว่นชอบนางเอกเหมือนกันตั้งแต่แรก แต่ถ้ามองในมุมแว่น หล่อนั้นอยู่ข้างนางเอกตลอด กับคนที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้น หล่อ รวย ฉลาด ชอบนางเอกอีก แล้วตัวเองมีอะไร ก็มีแต่คารุระแค่นั้น หล่อนั้นเป็นเพื่อนตัวเองจะไปแข่งกับหล่ออย่างไหน คารุตะ หล่อก็ไม่ใช่คู่แข่งได้ แข่งชิงหัวใจนางเอก ดูสถานะตัวเอง สู้ไม่ได้ แถมต้องจากกันไปอยู่คนละที่อีก
ฉากตอนที่ถามหล่อว่าจิฮายะเป็นของนายหรือเปล่า นี่นายช่างแมนมากรู้อยู่แล้วว่าหล่อชอบ อันนี้ถ้าไม่ชอบนางเอกมากๆจะกล้าถามไปไหม ตัวเองต้องการคำตอบที่ชัดเจน หล่อมาเปิดอกคุยกัน ถ้าหล่อตอบว่าเป็นของฉันนี่ มันจะโกหก ตอบว่าไม่ใช่ ก็โอเค แต่ กลับหนีไป จุดนี้เพื่อนรักมาเปิดอกถามแบบนี้ก็น่าจะมาตกลงแข่งกันแบบเป็นทางการให้แมนๆหน่อยดันเดินหนีไป เหมือนบอกว่าเอ็งจะทำไรก็ตามบาย อันนี้แว่นคิดถึงทั้งนางเอกและหล่อ ได้ใจไป หล่อนั้นมองแว่นเป็นคู่แข่งนึกถึงตัวเองมากกว่า เออ ตามใจเอ็ง
อีกฉากที่ประทับใจมาที่สุดในเรื่องคือ ตอนที่อาราตะแข่งชิงกับอาจารย์ตัวเอง อาจารย์ของทั้งสามคน มารยาท การแสดงความเคารพต่ออาจารย์อย่างสุดที่ส่งผ่านออกมานั้นมันโคตรเท่ห์ ความเคารพ จริงใจส่งผ่านออกมาได้เลย แต่จากนั้น เรือแว่นกับสั่นสะเทือนแทบแตก เพราะนางเอกถามตัวเองว่าอะไรสำคัญ ตอนเด็กคืออาราตะ ตอน ม.ต้นก็อาจารย์คนนี้ ตอนนี้ล่ะ หันกลับไปมองหล่อ ตรงนี้แสดงถึงความพยายามของหล่อเริ่มส่งผล หมัดแย๊บเริ่มออกอาการบาดเจ็บสะสม แป้วแล้วเรือเว่น จะแพ้ความใกล้ชิดหรือนี่ แต่..จากนั้นพออาราตะแพ้อาจารย์ ไพ่ทีจะหยิบได้ กลับหลุดมือในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ไพ่จิฮายะที่อยู่ข้างตัวกลับไม่ออก ยังกับอาจารย์สอน. เสียใบที่มั่นใจว่าจะหยิบได้ เพราะเฝ้ามองมากเกินไป จากนั้นก็ได้คุยกับนางเอก ว่านางเอกจะเล่นอย่างไร นางเอกยิ้มและบอกว่าไพ่ที่ตัวเอกอยากจะได้ ต้องออกไปคว้าด้วยตัวเองคิดดูว่า คนที่รักมาพูดตรงนี้ข้างหน้าจะรู้สึกอย่างไรวินาทีนั้น ตรงนี้เเหละที่อาราตะ ตัดสินใจบอกรักนางเอก ฉันชอบเธอ ก้มหัวคำนับนางเอก แล้วพูดต่อ แม้ว่ามันอาจจะไม่ดีต่อไทจิ (คิดถึงเพื่อน และเหมือนส่งผ่านคำขอโทษไปถึงไทจิ และขอโทษนางเอกที่อาจต้องลำบากใจ แสดงความสุภาพและตั้งใจ) ปีหน้าฉันจะมาเรียนที่โตเกียว(ฉันจะมาอยู่ข้างเธอ ปิดจุดอ่อนตัวเองที่อยู่ไกล) ถ้าไม่ว่าอะไร เรามาเล่นคารุตะด้วยกันนะ(คนที่มุ่งมั่น ยึดถือในคารุตะ เป็นชีวิตจิตใจ เหมือนกับบอกขอแต่งงานเลยทีเดียว) อันนี้เป็นหมัดหนักสุด ไม่เสียแรงที่เชียร์ นายรู้ว่าควรทำอะไร เวลาไหน เพราะความซื่อตรง สมบูรณ์ จิฮายะฟุรุ เหมือนลูกข่าง ที่หมุนตั้งตรง เหมือนไม่เคลื่อนที่ แต่เคลื่อนที่อย่างรุนแรง มั่งคง สมบูรณ์ ไม่ต้องการบรรยากาศโรแมนติกใดๆ เพราะมันสมบูรณ์แบบจริงๆในการสารภาพครั้งนี้ มันผ่านกระบวนการ ผ่านความคิด และช่วงเวลา และการออกไปคว้าหัวใจนางเอก คนในชมรมถึงกับเหวอ ส่วนหล่อออกไปส่งผ้าพันคอคืนเมจิน แล้วยังดันโกหกเมจินอีกว่านางเอกเป็นเเฟนตัวเอง อย่ามาแย่ง แมนมากไอ้หล่อ
นับว่าเป็นฉากบอกรักที่กระแทกใจมากกว่าอีกหลายเรื่อง บางคนอาจมองธรรมดา นางเอกมีความสำคัญกับแว่นแค่ไหน แค่บอกให้แว่นตั้งทีมจะได้มีเพือ่น แว่นก็ตั้งทั้งๆทีอยู่ปีสามแล้ว และต้องแข่งชิงเมจินอีก ถ้าไม่แคร์ไม่คิดจะทำทำไม
แว่นตอนที่อาจารย์แพ้ให้กับเมจิน ที่เหมือนไม่ได้จริงจังกับคารุตะ ทั้งที่อาจารย์นางเอก ทุ่มเทตลอดชีวิต นางเอกเจ็บใจจนร้องไห้ที่ตัวเองเป็นผู้หญิง ตอนเมจินจะบอกเลิกเล่น นางพุ่งตัวออกไป แว่นเปิดประตูเจอกันพอดี ยกมือบอกนางเอก น้องไม่ต้องเดี๋ยวพี่เอง นี่ไม่ต้องพูดสักคำ ทำไมรู้ใจขนาดนี้ เป็นพยาธิอยู่ในท้องเรอะ เอ็งช่างกล้ามาก เก่งมาก ขอบใจไอ้แว่น ไม่เสียแรงเชียร์ ไม่ว่าตอนจบจะเป็นอย่างไร นายมันได้ใจโว้ย
พูดถึงแว่น มีความพยายาม แต่ไร้ความกล้า มุ่งมั่นไม่พอ ขาดความซื่อตรง โทษดวง ไม่เคยโทษตัวเอง ไม่เข้มแข็ง ไม่รู้ว่าเวลาไหนจะต้องทำอะไร อาจไบแอสเพราะทีมแว่นแต่หลายเวลาที่หล่อแสดงออกมา อย่างตอนแรกก่อนไปหาแว่นที่เลิกเล่น ตัวเองเลิกแฟนเพราะรู้ว่าตัวเองชอบนางเอก คบแฟนไปงั้นเพราะมาสารภาพรักสุดท้ายก็ทิ้งไป โอเคฝืนไปก็ไม่รอด แต่จุดนี้ขาดความสง่างามไปนิดหน่อย ไม่ว่ากันแต่ เลิกแล้ว รู้ตัวว่าชอบ ถ้าตัวเองไม่ชัดเจนพอกับคนที่ชอบจริง กลับชักข้าไม่บอกนางเอกก่อนไปเจอแว่น ถ้าบอกก่อนนี่จะเหมาะกว่า พอนางเอกวิ่งไป มือก็คว้าลม จากนั้นเอาตัวมาหลบหลัง friend zone แทนที่จะเดินหน้าต่อ บอกชอบไปสิแล้วค่อยพัฒนาเติบโตแว่นจะกลายเป็นลาสบอส แม้ว่าจะคอยดูแลแต่ ไม่แสดงออกอะไรมามาก นางเอกนั้นจดจ่ออยู่กับคารุตะขนาดนั้น มันก็ต้องคิดถึงแว่นตลอด แว่นถามว่าเป็นของนายหรือเปล่า ก็คิดว่ายังไม่เป็นของใคร อ้าวแล้วเอ็งยังไงต่อ มาแข่งกันแฟร์ดิ นี่ไม่ชัดเจน กลับมาในfrend zone ออกหมัดเย็บต่อ ตอนสารภาพรักกับนางเอกนี่เกือบสมบูรณ์แบบ บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม ฉันชอบเธอ ขอบทุกอย่าง..บลาๆยกเว้นตอนเธอคิดถึงอาราตะ อ้าวปากพาจน นางคิดถึงอาราตะ โดนปฎิเสธ ถ้าบอกก่อนแว่นนี่จะดีกว่า จริงๆน่าจะบอกและขอนางเอกอย่าเพิ่งให้คำตอบจนกว่าจะให้คำตอบอาราตะก่อน หล่อจะมีโอกาสสู้แฟร์ๆและมีโอกาสเพิ่มขึ้น นางเอกตามไป กลับดึงมาจูบ แมนมากไอ้บ้า แล้วต่อว่าเธอคิดว่าฉันทำมาจากหินเหรอไพ่ เป็นสีดำไปหมด เรียกน้ำตาแม่ยกเรอะ สักหน่อยไปเล่นกับเมจินแล้วทิ้งนางเอก จนเล่นคารุตะไม่ไหว หล่อสำคัญขนาดนั้น เรือแว่นเริ่มสั่นอีก แต่คิดว่าแว่นเอ็งจะปลอบใจนางเอกไง ตอนจบภาค3
แว่นบอกหล่อว่าตั้งทีมให้มาแข่งกัน หล่อต้องรู้แล้วว่านางเอกต้องการตัวเองมาช่วย ตอนนางเอกอ่านข้อความแว่น แล้วนึกถึงคำพูดไทจินี่ว่าอาราตะจะกลับมา อาราตาบอกนางเอกว่า ไทจิตะกลับมา เรามาฝึกให้เก่งรอไทจิกลับมากัน โห เชื่อตัวเพื่อน และรู้ว่าจะพูดอะไรทำอะไรถูกที่ ถูกเวลา ออกมาแต่ละดอกเนื้อๆ
อาราตะเหมือนสายน้ำเป็นตัวแทนของสายน้ำ จิฮายะเป็นเมเปิ้ลแดงที่ไหลไปด้วยกัน มีความรู้สึกผูกพันธ์รุนเเรง ตามความหมายที่สมบูรณ์ของจิฮายะฟุรุตามบทกลอน เริ่มต้นด้วยคารุตะ ผูกพันธ์ด้วยคารุตะ จบลงที่คารุตะ ทั้งสองคนมีทั้งมิตรภาพ ความรัก ถ้าพระเจ้าคารุตะมีจริงคงอวยพรให้สองคนนี้คู่กัน
แต่ถ้าสุดท้ายจิฮายะเลือกไทจิก็ได้ ไม่เป็นไร
แต่ถ้าเรื่องนี้เป็นการแข่งอย่างอื่น หรืออะไรก็ได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก
แต่เรื่องนี้ความสำคัญของความหมายจิฮายะฟุรุ นั้นส่งผลกับเรื่องราวอย่างมาก เทพเจ้าเเห่งคารุระจะส่งหญิงสาวที่งดงามและรักในคารุตะผู้นี้ไปให้ใคร จะรอชม ss. ต่อไป ครับ