[ช่วยหนูทีค่ะ] ธุรกิจส่วน(ครอบครัว)ตัว กับ งานบริษัท จะตัดสินใจเลือกยังไง

เคยทำงานบริษัทและกดดันเครียดอึดอัด  
เป็นซึมเศร้ากลับมาด้วย 55555555
เลยตั้งใจเก็บเงินมาเปิดร้านอาหารที่บ้านค่ะ คิดว่ามีไรเป็นของตัวเอง ตั้งแต่ตอนนี้ยังมีเวลาล้ม
เงินทำร้านไม่ได้มีแค่เงินเก็บเรา แต่เราเอาเงินจากบัตรกดเงินสดทาลงด้วยค่ะ ร้านไปได้ดีมีลูกค้าเริ่มติด และเริ่มมาหาถึงหน้าร้านเลยค่ะ เริ่มมีเงินเข้ามาหมุนแต่รายได้แต่ละวัน ก็ต้องซื้อของเข้าร้านเกือบหมดเช่นกันค่ะ เพื่อให้มีของของขายในวันต่อๆไป และมันก็ไม่ได้มีพอให้เจียดออกมาใช้ได้เลยค่ะ
พี่เราเห็นเรามีหนี้ต้องใช้ เขาเลยเจียดจากร้านมาให้เราได้วันละ 200 บาทค่ะ (แต่เอาจริงไม่ได้อยากได้เลยค่ะ เพราะทุกคนเหนื่อย แต่เราได้คนเดียว มันไม่แฟร์)
เลยคิดว่าอยากกลับไปทำงานเหมือนเดิมแล้ว
ทิ้งร้านให้พี่สาวและแม่ดูแลต่อไป แต่เขาก็บอกว่า มันควรจะเป็นเราที่ควรจะทำร้าน เพราะอายุยังน้อย ยังดูแลร้านต่อไปได้อีกนาน ให้เขาดูแลกันเขาไม่ทำอะ ทำไม่ได้หรอกมันเหนื่อยมากถ้าต้องทำกันแค่นี้ เขาจะไปทำอย่างอื่น เอาจริง ๆ เขามีแผนของเขาไว้แหละค่ะ แต่แผนของเขา เขาไม่ลงมือทำสักที พอได้เงินมา ก็ใช้สนองความต้องการของตัวเขาก่อน จนตอนนี้เงินเขาเริ่มหมด เขาเลยอยากไปทำสิ่งที่เราคิด ซึ่งเราเฟลนะ เพราะเราตั้งใจมาเปิดให้แม่และพี่เราแหละค่ะเพราะแม่บอกอยากให้ทำไรเป็นของบ้านเราเอง
และเราอยากให้เงินมันหมุนในบ้าน ใช้จ่ายในบ้าน ค่าน้ำค่าไฟต่าง ๆ มีข้าวกินกัน ถ้าไม่อยากไปเป็นลูกจ้างเขาก็อยู่บ้าน ขายของ เราลงทุนไปให้ก่อน ที่เหลือก็ช่วยกัน  เพราะที่ผ่านมามีหนี้สินเยอะค่ะ (ซึ่งตัวเราไม่ใช่คนสร้างเลยแต่ก็ลำบากไปด้วยกัน)
ตอนเราทำงานที่ต่างจังหวัด เขาก็โทรมาบ่น ร้องห่มร้องไห้ และขอความช่วยเหลือ เราก็มีให้บ้างเล็กน้อย เราไม่สบายใจเลยเพราะเราออกไปใกล้บ้านก็มีค่าใช้จ่าย ค่าเช่า ค่ากิน และเราออกรถกับแฟน 1 คัน ยิ่งตอนก่อนลาออกงานที่ต่างจังหวัดเราเลยคิดว่า ทำร้านให้เขา เหมือนทำอู่ข้าวอู่น้ำให้ และหลังจากนั้น เราจะพักสักแปปและออกหาเงินต่อเพื่ออนาคตตัวเอง และก็เก็บเงินไว้เผื่อจะต่อเติมถ้ามันไปได้ดี แต่ตอนนี้มันผิดแผนหมดค่ะ ที่คุยกันก่อนจะลาออก ก่อนจะทำร้าน ผิดหมด เขาช่วยนะตอนนี้ แต่เขาไม่ได้เอาด้วยค่ะ เขาคิดจะแยกตัวอยู่แล้ววันข้างหน้า 

ตอนนี้ เรามีค่าใช้จ่ายส่วนตัวทั้งบัตรเงินสดที่กดมาทำร้านนี้จนมาได้ขนาดนี้ และหมุนในช่วงแรกๆที่ไม่มีลูกค้าเลย และหนี้สินส่วนตัวนิดหน่อย รายเดือน รวม ๆ แล้วก็เดือนละ 6000-8000 ที่ผ่านมาเรายังพอหมุนตัวเราเองได้เพราะว่าขายของออนไลน์ด้วย แต่ก็ไม่ใช่จะได้ทุกวัน และตอนนี้ลูกค้าร้านอาหารจากแอปอาหารก็เข้าตลอดแทบไม่มีเวลาใส่ใจการขายของออนไลน์ของตัวเองเหมือนก่อนแล้วค่ะ
ส่วนตัวคิดไว้นะคะ ว่าถ้าพี่กะแม่ดูร้านกันสองคนถ้าไม่ไหวก็ปิดไปเลย ในใจคือไม่เสียดายเงินที่ลงไปแล้วค่ะ อยากใช้หนี้ทำตัวเองให้โล่งมีเงินมากพอที่จะดำเนินชีวิตให้ได้ก่อน หนี้รถที่ผ่าน แฟนก็จ่านแทนคนเดียวไม่ไหวแล้ว เราสงสารเขาอยากช่วยเขาหาเงินส่งรถแล้วค่ะตอนนี้

ตอนนี้มีทางแยก และ ทางเลือกอยู่ 2 อย่าง

1. พี่เราเสนอว่าถ้าอยู่บ้านทำร้านช่วยเขา เขาจะให้แฟนเขาขับแกร๊บด้วยและให้เราวันละ 200 ก็ตกเดือนละ 6000 บาท  พอกับรายจ่าย อาจจะต้องหาเติมเองด้วยบ้างถ้าอยากใช้ส่วนตัว และตั้งใจทำร้านนี้ เพราะวะนนึงเราคงต้องได้ดูแลร้านนี่เองคนเดียวทั้งหมด 

2. ออกไปทำงานนอกบ้านเหมือนเดิม
 มีบริษัทเสนอเงิน 12000 ค่าคอมต่างหาก (ทำงาน 6 วัน/ อาทิตย์ ปกติของบริษัท อาจจะมีเข้ากะบ้าง) ตำแหน่ง sale online/admin ค่ะ

หรือไม่ก็หาบริษัทอื่นเงินเดือนเริ่มที่ 10,000 ถามว่าพอไหม เราไม่ทีปัญหา เราไม่คลั่งแบน ไม่ฟุ่มเฟือยค่ะ 

เอาจริง ๆ หนักใจมาก ๆ กับคำว่าครอบครัว เพราะตอนแรกก็ตั้งใจกลับมาหาเขา และอยากทำเพื่อเขา และถ้าทิ้งร้านไปตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรไหมแต่ใจไม่อยู่ตรงร้าน เพราะสมองคิดถึงแต่เงินที่มากกว่านี้ตลอดเวลา แต่ก็ไม่กล้าทิ้งร้าน

และถ้ากลับไปทำงานบริษัทในสภาพแวดล้อมที่กดดันเหมือนเดิมเราก็ไม่มั่นใจว่าเราจะทำได้นานไหม ไม่รู้ควรตัดสินใจยังไงค่ะ อยากฟังความเห็นคนอื่น ไปด้วย

ปกติเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก ๆ  กล้าตัดสินใจ และทำได้หมด เชื่อมั่นในตัวเอง แต่ตอนนี้ ผ่านเหตุการณ์ที่ไม่ดีเท่าไหร่มา ซึมเศร้า อยากฆ่าตัวตายตลอด ตัวเองเปลี่ยนไปมาก ๆ เลยค่ะ จิตใจแย่ ร้องไห้ทุกเช้า ไม่ทีความสุขจริง ๆ สักวัน แต่ตอนนี้กำลังจะหาทางออกที่มันดีสำหรับตัวเอง ปรึกษาใครก็ไม่ได้ คุยกะใครก็ไม่ได้เลย ยิ่งครอบครัวรู้สึกว่ามันไม่สนิทใจ

แต่มันยังไม่ตายค่ะ ชีวิตมันต้องไปต่อแต่ไม่รู้จะไปยังไงต่อ ขอความเห็นพี่ ๆ หน่อยนะคะ

หนูขอร้องว่าอย่าด่าว่ากันรุนแรงนะคะ หนูขอความคิดเห็นจากผู้ใหญ่หรือคนรุ่นใหม่เหมือนกัน มีความเห็นกันยังไงคะ เพื่อที่จะได้ปรับตัว ปรับใจ ใช้ชีวิตต่อไปได้ในโลกนี้ หรือถ้าต้องตัดใจทิ้งร้านจริงๆเพื่อทางที่ดีกว่านี้ ก็อยากได้ความคิดที่สนับสนุบค่ะ หนูคุยกะใคร ก็ไม่ค่อยมีคนที่จะปรึกษาได้รอบข้าง  เม่าเหม่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่