JJNY : “หมอภูมินทร์”ทิ้งพปชร. เตรียมกลับพท.│‘นักร้อง-นักดนตรีกลางคืน’ร้องสภาฯ│ทบ.สั่งสอบปมอมเงิน│อังคณาซัดผู้อาวุโสคนดี

“หมอภูมินทร์” ทิ้ง พลังประชารัฐ เตรียมกลับซบเพื่อไทย จับตาศิษย์เก่าตามมาอีก
https://www.thairath.co.th/news/politic/2243681
 
“หมอภูมินทร์” โพสต์โชว์ใบลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เตรียมกลับรังเดิมเพื่อไทย พร้อมควง "มาลินี-อมรเทพ" กลับด้วย จับตาศิษย์เก่าทยอยกลับอีก
 
วันที่ 17 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ศรีสะเกษ ได้โพสต์ภาพหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้ยื่นกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 16 พ.ย. พร้อมโพสต์ข้อความว่า
 
“วันนี้ วันดี เวลา 13:00 น. เดินทางไปสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นแล้วก็เบาตัว ลองทายดูดิ ว่าไปต่อที่ไหน???”
   
ทั้งนี้ นพ.ภูมินทร์ เคยดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นอดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 3 สมัยพรรคไทยรักไทย อดีต ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคความหวังใหม่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 ศรีสะเกษ พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งปี 62
 
โดยมีรายงานข่าวว่า นพ.ภูมินทร์ เตรียมกลับไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเร็วๆ นี้ ร่วมกับ 2 อดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ นายอมรเทพ สมหมาย ที่ลาออกจากสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา โดยยื่นหนังสือลาออกที่ กกต.แล้ว เมื่อวันที่ 16 พ.ย. และนางมาลินี อินฉัตร อดีตสมาชิกพรรคเพื่อชาติ ทั้ง 2 คนเตรียมกลับพรรคเพื่อไทยด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 3 คนจะไปสมัครสมาชิกพรรคเพื่อไทยพร้อมกัน ทั้งนี้ ยังมีอีกหลายคนที่เป็นอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เตรียมย้ายกลับพรรคเพื่อไทย
 

 
‘กลุ่มนักร้อง-นักดนตรีกลางคืน’ ร้อง สภาฯ หลังถูกเลื่อนเปิดผับบาร์ไป ม.ค. 65
https://www.matichon.co.th/politics/news_3045761

‘กลุ่มนักร้อง-นักดนตรีกลางคืน’ ร้อง สภาฯ หลังถูกเลื่อนเปิดผับบาร์ไป ม.ค. 65 จี้ รบ.ยกเลิกจำกัดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-เปิดกิจการตามกำหนดเดิม
 
เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่ด้านหน้ารัฐสภา กลุ่มนักร้อง นักดนตรี และอาชีพอิสระกลางคืน นำโดย นายเอกราช อุดมอำนวย อดีตแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร และนายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. เพื่อเรียกร้องกรณีรัฐบาลเลื่อนการเปิดผับ บาร์ จากที่เคยกำหนดไว้เบื้องต้นในเดือนธันวาคม เป็นวันที่ 16 มกราคม 2565
 
โดยตัวแทนผู้ประกอบการฯ กล่าวว่า การเตรียมความพร้อมเปิดผับ บาร์ มีต้นทุนที่ต้องลงทุน เกินหลักหมื่น ทั้งต้นทุนเตรียมวัตถุดิบอาหาร ต้นทุนเตรียมค่าจ้าง รวมไปถึงการเรียกนักร้อง นักดนตรี และพนักงานประจำร้าน กลับมาทำงาน แต่เมื่อพวกเขาเหล่านี้กลับมาพร้อมทำงานก็ต้องเจอคำสั่งของรัฐบาลที่เลื่อนการเปิดออกไป ทำให้ได้รับผลกระทบที่หนักกว่าเดิม จึงมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการ ดังนี้ 
 
1. ยกเลิกการจำกัดเวลาจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามกฎหมายปกติ 
 
2.ขอให้ดำเนินการเปิดประเทศและเปิดกิจการตามลำดับเวลาที่นายกรัฐมนตรีได้ลั่นวาจาแถลงต่อสาธารณะไว้ หากรัฐบาลและศบค.ไม่สามารถทำได้ ขอให้ใช้กลไกสภาฯ ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตั้งกระทู้ถาม หรือดำเนินการอื่นๆ โดยเร็ว 
 
3. ขอให้ ส.ส. กดดันภาครัฐในการเร่งช่วยเหลือเยียวยาวธุรกิจและศิลปินที่ตกงานอย่างเร่งด่วน 4.ออกมาตรการให้สามารถเปิดกิจการได้ โดยมีมาตรการป้องกันโรคเหมือนสถานที่อื่นๆ และ 5.หากข้อเรียกร้องทั้งหมดไม่สามารถดำเนินการได้ ขอให้ ส.ส.หรือกมธ. หาหนทางตามกฎหมายฟ้องร้องดำเนินคดี เพื่อเรียกร้องแทนกลุ่มศิลปินที่ได้รับผลกระทบ
 
ด้าน น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นประเด็นที่เรียกร้องกันมาหลายครั้งแล้ว และทางตนไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามหยิบยกประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้รัฐบาลเห็นถึงความเดือดร้อนของคนอาชีพอิสระกลางคืน
  
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักร้อง นักดนตรี และอาชีพอิสระกลางคืน ได้มีการทำกิจกรรมร้องเพลงบอกเล่าความเดือดร้อนที่ต้องเผชิญด้วย
  


ทบ.สั่ง ทภ. 3 สอบปม อมเงินหน่วยปฏิบัติการฐาน 60-70% ตัดค่าน้ำมัน กระทบภารกิจ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3045693

ทบ.สั่ง ทภ. 3 ตรวจสอบ ปมอมเงินหน่วยปฏิบัติการฐานต่างๆ ถูกอมเงิน 60-70% ตัดค่าน้ำมันรถ กระทบภารกิจ ด้าน มทภ.3 ส่งทีมงานเช็คข้อมูล เตรียมรายงานผลโดยเร็ว
 
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน จากกรณีกำลังพล ของกองทัพภาคที่ 3 ร้องเรียนและเรียกร้องให้ตรวจสอบงบประมาณการพัฒนาพื้นที่ และความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ชายแดน เพื่อการแก้ไขป้องกันปัญหายาเสพติด ในส่วนของฝ่ายกิจกรรมมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ส่วนแยกหนึ่งกองกำลังนเรศวร ใน 3 ประเด็นประกอบด้วย
 
1. ค่าน้ำมันรถ ไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานจากเดิมที่เคยได้เดือนละ 300 ลิตร ซึ่งก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว แต่ปัจจุบันถูกปรับลดทำให้บางฐานปฏิบัติการได้น้ำมันเพียง 100 กว่าลิตร
 
2. เงินแก้ปัญหาแต่ละเดือน ลดลงทุกปี แต่ภาระปัจจุบันเพิ่มขึ้น เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าซ่อมบำแซม ที่พักอาศัยและอื่นๆ ตอนไปฟังนโยบายทุกฐานจะได้รับเงินจำนวนเต็มแต่พอได้รับจริงก็หายไปเกินครึ่ง ทั้งค่าวัสดุอุปกรณ์ค่าดูแลรถหลวง
 
และ 3. งบฝึกอบรมทุกฐานรู้ยอดเต็มที่จะจ่ายเข้ามา แต่พอจ่ายจริงเงินหายไปประมาณ 60-70%
โดยล่าสุด กองทัพบก ได้ส่งเรื่องดังกล่าวให้กองทัพภาคที่ 3 ตรวจสอบ พร้อมรายงานผลโดยเร็ว
 
ด้าน พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ตนได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลแล้ว แต่ยืนยันไม่ใช่การตั้งคณะกรรมการสอบสวนแต่อย่างใด เพราะเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับหน่วยปฏิบัติงานด้วย ตอนนี้ยังชี้แจงอะไรไม่ได้ ต้องรอให้ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนเสียก่อน
 
“ผมได้คุยกับทีมงานที่ส่งไปว่าให้ตรวจสอบข้อมูลกับหน่วยปฏิบัติงานใน 3 ประเด็นที่ร้องเรียนทั้งค่าน้ำมัน งบฝึกอบรม งบแก้ปัญหารายเดือน ว่าจากเดิมที่เคยได้รับอยู่ที่จำนวนเท่าไหร่ ปัจจุบันได้เท่าไหร่ บูรณาการกันอย่างไร ให้แต่ละหน่วยได้ปฏิบัติหน้าที่สมเหตุสมผลหรือไม่ แต่ขณะนี้ผมยังตอบอะไรไม่ได้ จนกว่าจะได้ข้อมูลที่ชัดเจน”
 
เมื่อถามว่า ในส่วนตัดค่าน้ำมัน เป็นไปได้หรือไม่เพราะราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ทำให้หน่วยได้รับการจัดสรรน้ำมันน้อยลง พล.ท.พล.ท.อภิเชษฐ์ กล่าวว่า ก็อาจเป็นได้ สมมุติจากเคยได้รับงบประมาณเท่านี้ แต่พอราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ก็ทำให้ได้รับน้ำมันน้อยลง แต่เป็นแค่เพียงการคาดเดา คงต้องรอผลการติดตามข้อมูลของทีมงานที่ลงพื้นที่ก่อน จึงสามารถชี้แจงและให้ความชัดเจนในเรื่องนี้ได้ พร้อมทั้งต้องชี้แจงไปยังกองทัพบกให้รับทราบด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่