ถ้าแฟนเรามาอยู่บ้านทางบ้านให้ช่วยออกค่าใช้จ่ายเดื่อนละ5000บาทต่อเดื่อนมันจะมากไปไหม
เราขออธิบายยาวหน่อยนะคะ เรากับแฟนคบกันมา9ปีแต่หลังจาก2ปีแรกก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านเรา ซึ่งในช่วงนั้นพ่อแม่ซื่อบ้านหลังนี้เพื่อพักอาศัยกัน บ้านท้าวเฮ้า2ห้อง2ห้องน้ำ
แต่ว่าในช่วงแรกๆเป็นระยะเวลา6ปีเราได้พาอแฟนมาหาทำงานแถวบ้านที่กทมเงินเดื่อนอยู่ที่12Kไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลยคือให้เงินเราใช้กินเที่ยวไปวันๆ จนกระทั้งเมื่อ3ปีที่แล้วเราไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ทำให้แฟนต้องพักอาศัยอยู่คนเดียว (เนื้องจากพ่อแม่น้องสาวและหลานชายไปพักอาศัยอยู่อีกที่นึง)
-ที่บ้านเราเป็นครอบครัวที่ไม่จนแต่ก็ไม่รวยพอมีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
จนมาเมื่อปี61 ที่บ้านเจอวิกิตโควิด น้องสาวเลยตัดสินใจเอาเงินจำนวนล้านกว่าบาทมารีโนเวทบ้านใหม่เพื่อกับมาอยู่อาศัยที่นี่ ทำห้องนอนเป็น3ห้องนอน ห้องนอนน้องสาว ห้องนอนแม่ และห้องนอนเรากับแฟน และอุปกรการอำนวยความสะดวากทุกอย่างมีในบ้านหมด เครื่องครัว แอร์ เฟอร์นิเจอร์ใหม่หมด
พอย้ายเข้ามาอยู่เมื่อช่วงต้นปี62ซึ่งตอนนี้เราก็ได้กับเข้ามาอยู้ด้วยแล้ว พ่อแม่เราไม่ได้ทำงาน แม่เป็นแม่บ้านเรากับน้องให้พ่อแม่คนละ5000บาทต่อเดื่อน
ค่ากับข้าวที่ทำกินด้วยกัน3มื้อวันละ200ตกเดื่อนละ6000 ค่าไฟตกเดื่อนละ5000บาท ค่าของใช้จิปาถะ สบู่ยาสีฟัน เครื่องครัว แฟบ ยาสระผม บลาๆๆๆ
ตกเดื่อนละ3000บาท แฟนเราไม่ต้องจับแตะอะไรเลย ทำงานเช้าลงมาก็มีข้าวกิน พักเที่ยงกับมากินข้าวบ้าน เย็นก็กินที่บ้าน คือบ้านเราแม่เราจัดการหมด ซักเสื้อผ้าเก็บกวาดบ้าน ทำอาหาร ทำให้กะทั้งซักบลอคเซอร์ แต่ถุงเท้าเค้าเราจะซักให้ ซึ่งเค้ามีหน้าที่จ่ายเดื่อนละ5000บาท แต่เค้ามาตัดพ้อว่าจ่ายไม่ไหวจนน้องเราได้ยิน เลยให้เราไปพูดกะแฟนเราว่าถ้าไม่ไหวจะลองออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกก็ได้นะ เราลำบากใจมาก แต่เราก็คงเลื่อกครอบครัวอะคะ
1 จ่ายเยอะไปใหม
2 ถ้าเราจะเลื่อกครอบครัวเราผิดไหม
3 เราจะบอกเค้ายังไงดี
*เค้าเป็นคนดีคนนึงเลยค่ะไม่มีปากไม่มีเสียงที่บ้านเรากับเค้าอยู่ด้วยกันมาดีตลอด แต่ติดตรงเรื่องนี้เรื่องเดียว แต่เรื่องลดค่าใช้จ่ายในบ้านคือเอาตรงๆภาระไปอยู่ที่น้องสาวเราคนเดียว เหมื่อนเป็นคนกลางแล้วตอนนี้ เพื่อนๆคิดยังไงกับบ้างค่ะ
ถ้าแฟนเรามาอยู่บ้านทางบ้านให้ช่วยออกค่าใช้จ่ายเดื่อนละ5000บาท
เราขออธิบายยาวหน่อยนะคะ เรากับแฟนคบกันมา9ปีแต่หลังจาก2ปีแรกก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านเรา ซึ่งในช่วงนั้นพ่อแม่ซื่อบ้านหลังนี้เพื่อพักอาศัยกัน บ้านท้าวเฮ้า2ห้อง2ห้องน้ำ
แต่ว่าในช่วงแรกๆเป็นระยะเวลา6ปีเราได้พาอแฟนมาหาทำงานแถวบ้านที่กทมเงินเดื่อนอยู่ที่12Kไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลยคือให้เงินเราใช้กินเที่ยวไปวันๆ จนกระทั้งเมื่อ3ปีที่แล้วเราไม่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ ทำให้แฟนต้องพักอาศัยอยู่คนเดียว (เนื้องจากพ่อแม่น้องสาวและหลานชายไปพักอาศัยอยู่อีกที่นึง)
-ที่บ้านเราเป็นครอบครัวที่ไม่จนแต่ก็ไม่รวยพอมีเงินเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน
จนมาเมื่อปี61 ที่บ้านเจอวิกิตโควิด น้องสาวเลยตัดสินใจเอาเงินจำนวนล้านกว่าบาทมารีโนเวทบ้านใหม่เพื่อกับมาอยู่อาศัยที่นี่ ทำห้องนอนเป็น3ห้องนอน ห้องนอนน้องสาว ห้องนอนแม่ และห้องนอนเรากับแฟน และอุปกรการอำนวยความสะดวากทุกอย่างมีในบ้านหมด เครื่องครัว แอร์ เฟอร์นิเจอร์ใหม่หมด
พอย้ายเข้ามาอยู่เมื่อช่วงต้นปี62ซึ่งตอนนี้เราก็ได้กับเข้ามาอยู้ด้วยแล้ว พ่อแม่เราไม่ได้ทำงาน แม่เป็นแม่บ้านเรากับน้องให้พ่อแม่คนละ5000บาทต่อเดื่อน
ค่ากับข้าวที่ทำกินด้วยกัน3มื้อวันละ200ตกเดื่อนละ6000 ค่าไฟตกเดื่อนละ5000บาท ค่าของใช้จิปาถะ สบู่ยาสีฟัน เครื่องครัว แฟบ ยาสระผม บลาๆๆๆ
ตกเดื่อนละ3000บาท แฟนเราไม่ต้องจับแตะอะไรเลย ทำงานเช้าลงมาก็มีข้าวกิน พักเที่ยงกับมากินข้าวบ้าน เย็นก็กินที่บ้าน คือบ้านเราแม่เราจัดการหมด ซักเสื้อผ้าเก็บกวาดบ้าน ทำอาหาร ทำให้กะทั้งซักบลอคเซอร์ แต่ถุงเท้าเค้าเราจะซักให้ ซึ่งเค้ามีหน้าที่จ่ายเดื่อนละ5000บาท แต่เค้ามาตัดพ้อว่าจ่ายไม่ไหวจนน้องเราได้ยิน เลยให้เราไปพูดกะแฟนเราว่าถ้าไม่ไหวจะลองออกไปเช่าห้องอยู่ข้างนอกก็ได้นะ เราลำบากใจมาก แต่เราก็คงเลื่อกครอบครัวอะคะ
1 จ่ายเยอะไปใหม
2 ถ้าเราจะเลื่อกครอบครัวเราผิดไหม
3 เราจะบอกเค้ายังไงดี
*เค้าเป็นคนดีคนนึงเลยค่ะไม่มีปากไม่มีเสียงที่บ้านเรากับเค้าอยู่ด้วยกันมาดีตลอด แต่ติดตรงเรื่องนี้เรื่องเดียว แต่เรื่องลดค่าใช้จ่ายในบ้านคือเอาตรงๆภาระไปอยู่ที่น้องสาวเราคนเดียว เหมื่อนเป็นคนกลางแล้วตอนนี้ เพื่อนๆคิดยังไงกับบ้างค่ะ