The Beatles ปฏิวัติวงการเพลงด้วยคำว่า ‘yeah’ ได้อย่างไร?



เพราะบทเพลง มีเรื่องราว (She Loves You – The Beatles)

เมื่อพูดถึงซีนดนตรีในยุค 60’s วงร็อคในตำนานอย่าง The Beatles ได้สร้างปรากฏการณ์ Beatlemania จนโด่งดังไปทั่วโลก ‘She Loves You’ นอกจากจะเป็นซิงเกิ้ลที่ขายดีที่สุดตลอดกาลของ The Beatles แล้ว มันได้กลายเป็นลายเซ็นของวงในยุคแรก และเป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของการนำเพลงจากฝั่งอังกฤษไปบุกตลาดอเมริกา ที่เรียกว่า The British Invasion

ซิงเกิ้ล She Loves You วางแผงเมื่อวันที่ 23 กันยายน ค.ศ. 1963 ติดอันดับในชาร์ทเพลงอังกฤษนานถึง 31 สัปดาห์ และครองอันดับ 1 ติดต่อกัน 4 สัปดาห์ ส่วนในชาร์ท Billboard ของอเมริกานั้นต้องใช้เวลาปลุกปั้นหลายเดือน รอจนกระทั่งกระแส Beatlemania สุกงอม และแล้ว She Loves You ก็ทะยานขึ้นอันดับ 1 ได้สำเร็จในวันที่ 21 มีนาคม 1964 ถัดจากเพลง I Want to Hold Your Hand


She Loves You เป็นผลงานการประพันธ์ของคู่หู Lennon-McCartney ซึ่งพวกเขาใช้เวลา 2 วันในการแต่งเนื้อเพลงนี้ ย้อนกลับไปในวันที่ 26 มิถุนายน 1963 ระหว่างที่วงกำลังทัวร์อยู่ในเมืองนิวคาสเซิล ไอเดียของจอห์น-พอลเกิดขึ้นบนรถทัวร์ พอลนึกถึงเพลง Forget Him ของ Bobby Rydell ที่กำลังดัง มันเป็นเพลงรักมีเนื้อหาตัดพ้อ พูดถึงหญิงสาวที่กำลังตัดใจจากแฟนหนุ่มผู้ไม่สนใจใยดี โดยพอลตั้งใจจะแต่งเพลงล้อให้มีท่อนฮุคโต้ตอบ คนหนึ่งร้องนำว่า ‘She Loves you’ แล้วอีกคนร้องประสานเป็นลูกคู่ว่า ‘Yes, yes.’ แต่ทีแรกพวกเขาก็คิดเหมือนกันว่ามันฟังดูเชย ๆ

เมื่อกลับถึงห้องพักที่โรงแรม คู่ซี้จอห์น-พอล ก็นำกีตาร์มานั่งบนเตียง ค่อย ๆ ขัดเกลาเนื้อเพลง พอลปิ๊งไอเดียว่า แทนที่จะแต่งเนื้อร้องตามขนบเพลงรักแบบเดิม ๆ เขาอยากให้ She loves you เป็นเพลงที่เล่าผ่านมุมมองของบุคคลที่สาม ให้คนเล่าเรื่องซึ่งเป็นผู้สังเกตการณ์ ทำหน้าที่เป็นกาวใจ เชียร์ให้พ่อหนุ่มกลับไปง้อขอคืนดีแฟนสาว เพราะว่าเธอยังรักเขาอยู่ ขณะที่จอห์นเล่าว่าพวกเค้าได้ไอเดียท่อนฮุค “เย้…เย” มาจากเพลงต่าง ๆ ในยุคนั้น เช่น เพลง ‘All Shook Up’ ของ Elvis Presley ที่มีการฮัมเพลง “อื่อฮือฮึ เย้ เย”

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

วันที่ 27 มิถุนา วงได้หยุดพักอีกวัน จอห์นไปหาพอลที่บ้านในย่านฟอร์ธลินโรด พวกเขาช่วยกันเกลาเพลง She Loves You จนเสร็จในห้องครัว เผอิญว่าวันนั้น จิม คุณพ่อของพอลอยู่บ้านพอดี ก็เลยได้ฟังเพลงนี้เป็นคนแรก พอลถามพ่อว่าฟังแล้วรู้สึกยังไง พ่อตอบว่า “ก็เพราะดีนะลูก แต่เพลงมันฟังดูอเมริกันจ๋าเลย ไอ้ท่อนนั้นน่ะช่วยเปลี่ยนเป็น She loves you, yes yes yes. ได้ไหม?” พอลฟ้งแล้วก็ส่ายหัว และแย้งว่าพ่อนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย

พ่อของพอลไม่ใช่ผู้ใหญ่คนเดียวที่ไม่ปลื้ม แม้แต่ Norman Smith ซาวด์เอนจิเนียร์ เมื่อได้เห็นเนื้อเพลงในห้องอัดครั้งแรกก็ยังกุมขมับ เขาคิดว่ามันไม่น่าจะเวิร์กหรอก แต่ทันทีที่ได้ยิน The Beatles ร้องเพลงนี้สด ๆ เขาก็ต้องร้องว้าว เพราะเพลงนี้มีท่อนฮุคติดหูมาก ๆ มันจะต้องดังระเบิดแน่ ๆ



และความสำเร็จแบบถล่มทลายของเพลง She loves you ในเวลาต่อมา ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าจอห์น-พอลตัดสินใจถูก ในช่วงที่วงกำลังพีค ๆ นั้น หนังสือพิมพ์ทั้งในอังกฤษและอเมริกาเคยลงข่าว The Beatles พร้อมกับพาดหัวว่า Yeah, Yeah, Yeah เพื่อสื่อถึงปรากฏการณ์ Beatlemania วลีติดหูอย่าง Yeah นอกจากจะทำให้เพลงของ The Beatles โด่งดังไปทั่วโลกแล้ว มันยังได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเพลงป็อบไปโดยปริยาย

She Loves you จึงกลายเป็นตัวอย่างโดดเด่น ที่สะท้อนถึงความสร้างสรรค์ กล้าคิดกล้าทำของ The Beatles ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมมองของบุคคลที่สาม ซึ่งถือว่าแหวกขนบสำหรับเพลงรักสมัยก่อน หรือการนำวลี Yeah และ Woo ของศิลปินฝั่งอเมริกามาทำให้เป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นในเพลง จนกลายเป็นท่อนฮุคติดหู


 
เพราะบทเพลง มีเรื่องราว มีเวอชั่น Podcast ให้ฟังด้วยนะ
ฟังได้ที่แรก ที่แอพ Tiktok >> @albertpotjes
Podcast ฉบับเต็ม ฟังได้ใน Youtube >> https://www.youtube.com/watch?v=rTCgKPInorI
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่