ก่อนอื่นเลยพูดถึงลักษณะเราก่อน ตอนนี้เราอายุ 19ปี เป็นคนรูปร่างอวบๆไม่ห่วงสวยเลย เป็นคนที่เชยมาก วันๆใส่เเต่เสื้อบอลกางเกงบอล คือเเต่งตัวไม่ได้โชว์เนื้อโชว์หนังเลย
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นเด็กที่ครอบครับมีฐานะพออยู่พอกิน ไม่ได้รวยอะไรเลย ช่วงที่เกิดต้มยำกุ้งครอบครัวเราต้องย้ายกลับไปที่ตจว. เเต่ไปอยู่ไม่ได้นานก็ต้องขึ้นมากรุงเทพเหมือนเดิม ครอบครัวเรา มีเรา พ่อ เเม่ เรากับครอบครัวเช่าห้องเช่าอยู่อาศัยกัน ซึ่งเราขอไม่ระบุพิกัดนะคะ เราพักอยู่ที่นี่ตั้งเเต่เราอายุ9ขวบจนถึงตอนนี้เราอายุ19เเล้ว เหตุการณ์ก็เป็นปกติไม่ได้มีอะไร จนกระทั่งย้อนกลับไปตอนช่วงเรากำลังจะจบม.6ใกล้เข้ามหาลัย ลุงคนนี้ เขาเช่าห้องอยู่ชั้น1 ส่วนเราอยู่ชั้น3 เราเห็นเขาตั้งเเต่เด็กๆก็ไม่ได้คิดอะไร เขาเป็นคนที่จะว่าดีก็ดีมั้งเพราะเวลามีอะไรก็คอยช่วยเหลือครอบครัวเรา เช่น รับพัสดุให้ หรือบางครั้งก็ยื่นมือมาช่วยพ่อเราขนของหนักๆเช่น โทรทัศน์หรือตู้เย็นไรงี้ เพราะห้องเราอยู่ชั้น3 เราเป็นผู้หญิงยกกับพ่อ2คนก็ไม่ค่อยจะไหว เเล้วเเกน่าจะอายุ30เกือบ40เเล้วเรากะๆเอานะไม่เเน่ใจเพราะไม่ได้ถาม แล้วก็ไม่มีภรรยาซึ่งเราก็เเปลกใจเรื่องนี้อยู่นิดๆ เวลาเราจอดจักรยานหรือจะลงไปซื้อของข้างล่าง เราไม่รู้ว่าเราคิดมากไปหรือป่าว เพราะความรู้สึกเราเริ่มบอกว่า เขาเหมือนจะเริ่มเข้าหาเราอย่างบอกไม่ถูก ด้วยความที่เราโตเเล้ว เราเลยเริ่มเเยกเเยะสิ่งที่มันผิดปกติได้รึป่าว เรารู้สึกเขาเริ่มชวนเราคุยมากขึ้น เริ่มพยายามจะเข้าใกล้มากขึ้น ซึ่งเรารู้สึกได้เพราะตั้งเเต่ไหนเเต่ไรก็ไม่ได้สนิทอยู่เเล้ว บวกกับนิสัยเราที่เป็นคนเข้ากับผู้ใหญ่ไม่ได้ ไม่รู้จะชวนคุยไรดี เราเลยไม่ค่อยพูดคุยกับใคร มาในส่วนเรื่องที่เราตกใจมากๆไม่คิดว่าเขาจะทำ คือเราจะไปตลาด เราก็จะต้องลงไปเอารถจักรยานออกซึ่งมันอยู่ชั้น1อยู่เเล้ว เขาเดินเข้ามาเเล้วพูดกับเราว่า "อ้วนจะไปไหนเหรอ" พร้อมกับเรามือมาจี้เอวเรา คือเราตกใจมากทำไรไม่ถูกเลย เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำ ได้เเต่หัวเราะเเล้วยิ้มเจื่อนๆไป เเต่เหมือนเขาคงจะเห็นเราไม่อะไรมั้ง เขาก็เลยทำหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เจอหน้าก็จะถามเเต่ ไออ้วนไปไหน อ้วนไปตลาดอ่อ เเล้วก็ตามด้วยอย่างเคย มาจี้เอวเรา บางครั้งก็เดินมาเงียบๆเเล้วมาจี้ หนักสุดเข้าเอามือมาจี้เอวนี่เเหละเเต่มันไม่ใช่เอวไง มันจี้มาโดนตรงใต้ราวนมเลย แถวๆขอบเสื้อในเลย นี่คือตกใจมาก คือมันเริ่มรู้สึกไม่ใช่เเล้วอ่ะ ไม่ใช่มากๆด้วย ตอนเเรกเราไม่คิดที่จะเล่าให้พ่อแม่ฟังเลย กลัวจะมีปัญหากัน หรือเราอาจจะเข้าใจผิดไปเอง แต่หลังๆมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เราเลยตัดสินใจเอาเรื่องนี้เล่าให้เเม่ฟังเเค่คนเดียวก่อน กะให้เเม่รับรู้ว่าตอนนี้มีปัญหาอะไรบ้าง เเละไม่โอเคเรื่องไรบ้าง คือเราเล่าทั้งหมดเลยตั้งเเต่ต้นเลย เค้าก็ช็อคเเหละ คงไม่คิดว่าเราจะเจออะไรเเบบนี้ เพราะพ่อกับเเม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา เราอยู่คนเดียวตั้งเเต่8ขวบเลย ถ้าช่วงเปิดเทอมก็คือไปโรงเรียน เเต่ถ้าช่วงปิดเทอม เช้ามาพ่อเเม่ไปทำงานเราก็ต้องพึ่งตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองตลอดจนถึงตอนนี้ เค้าก็บอกเราดูเชิงไว้ก่อน เเต่ถ้าเขาทำอีกก็ให้บอกไปว่า อย่าทำ ไม่ชอบ ไม่โอเค พูดไปตรงๆด้วยความหนักแน่นเลย จนเวลานั้นมันก็มาถึงจริงๆ เราเลยตัดสินใจพูดเลย วันเเรกเราพูดไปเเต่ดูเขาไม่ได้รู้สึกผิด แถมยกเรื่องอื่นมากลบเกลื่อนเเบบ "พูดอะไรสำเนียงเหมือนพม่าเลย" เรานี่เเบบ WHAT!!!!! เหี้*ไรเนี่ยคืองง จนวันที่สองเราก็บอกอย่าทำ ไม่ชอบ เขานี่คือเงียบไปเลย เราก็หวังว่าเขาจะเข้าใจเเละเลิกทำนิสัยเเบบนี้ซักที ที่เราจะสื่อ คือไม่ว่าผญหรือผช ไม่ว่าเพศไหนๆ ไม่ควรต้องมาเจอเรื่องเเบบนี้ คือมันเเย่มาก หลายคนชอบบอกว่าก็เพราะเเต่งตัวโป๊ ดูเคสเราเป็นตัวอย่างได้เลยนะ เราเป็นคนที่เชยมาก แต่งตัวมิดชิดมากยังโดนเลย เรื่องนี้มันไม่ใช่ว่าเเต่งตัวโป๊ไม่โป๊เเล้วผิด มันอยู่ที่ตัวเขา ควรจะควบคลุมพฤติกรรมของตัวเอง ที่เรามาเล่าวันนี้ ที่นี่ เราเเค่อยากเเชร์เรื่องราวเเย่ๆของเรา เผื่อมีใครที่เจอเรื่องเเบบนี้ มาเเชร์มาเล่า รวมถึงเเนะนำทางออกที่ดีให้กันเเละกัน เราก็จะพยายาม ถ้ามันถึงที่สุดจริงๆเราคงต้องทบทวนใหม่เรื่องด้านทางกฎหมายเเล้วคงย้ายที่อยู่ใหม่ (ถ้าเป็นไปได้นะ เพราะค่าเช่าถูกมาก เเล้วเราก็คุ้นเคยกับที่นี่นานเเล้ว) เเต่เราจะไม่ทนให้เค้าทำเราฝ่ายเดียวเเน่นอน เป็นกำลังใจให้ตัวเองและทุกคนที่เจอเรื่องเเบบนี้เหมือนกันนะคะ สู้ๆค่ะ
ลุงทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ คนเราควรโดนแบบนี้เหรอ
คือเรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นเด็กที่ครอบครับมีฐานะพออยู่พอกิน ไม่ได้รวยอะไรเลย ช่วงที่เกิดต้มยำกุ้งครอบครัวเราต้องย้ายกลับไปที่ตจว. เเต่ไปอยู่ไม่ได้นานก็ต้องขึ้นมากรุงเทพเหมือนเดิม ครอบครัวเรา มีเรา พ่อ เเม่ เรากับครอบครัวเช่าห้องเช่าอยู่อาศัยกัน ซึ่งเราขอไม่ระบุพิกัดนะคะ เราพักอยู่ที่นี่ตั้งเเต่เราอายุ9ขวบจนถึงตอนนี้เราอายุ19เเล้ว เหตุการณ์ก็เป็นปกติไม่ได้มีอะไร จนกระทั่งย้อนกลับไปตอนช่วงเรากำลังจะจบม.6ใกล้เข้ามหาลัย ลุงคนนี้ เขาเช่าห้องอยู่ชั้น1 ส่วนเราอยู่ชั้น3 เราเห็นเขาตั้งเเต่เด็กๆก็ไม่ได้คิดอะไร เขาเป็นคนที่จะว่าดีก็ดีมั้งเพราะเวลามีอะไรก็คอยช่วยเหลือครอบครัวเรา เช่น รับพัสดุให้ หรือบางครั้งก็ยื่นมือมาช่วยพ่อเราขนของหนักๆเช่น โทรทัศน์หรือตู้เย็นไรงี้ เพราะห้องเราอยู่ชั้น3 เราเป็นผู้หญิงยกกับพ่อ2คนก็ไม่ค่อยจะไหว เเล้วเเกน่าจะอายุ30เกือบ40เเล้วเรากะๆเอานะไม่เเน่ใจเพราะไม่ได้ถาม แล้วก็ไม่มีภรรยาซึ่งเราก็เเปลกใจเรื่องนี้อยู่นิดๆ เวลาเราจอดจักรยานหรือจะลงไปซื้อของข้างล่าง เราไม่รู้ว่าเราคิดมากไปหรือป่าว เพราะความรู้สึกเราเริ่มบอกว่า เขาเหมือนจะเริ่มเข้าหาเราอย่างบอกไม่ถูก ด้วยความที่เราโตเเล้ว เราเลยเริ่มเเยกเเยะสิ่งที่มันผิดปกติได้รึป่าว เรารู้สึกเขาเริ่มชวนเราคุยมากขึ้น เริ่มพยายามจะเข้าใกล้มากขึ้น ซึ่งเรารู้สึกได้เพราะตั้งเเต่ไหนเเต่ไรก็ไม่ได้สนิทอยู่เเล้ว บวกกับนิสัยเราที่เป็นคนเข้ากับผู้ใหญ่ไม่ได้ ไม่รู้จะชวนคุยไรดี เราเลยไม่ค่อยพูดคุยกับใคร มาในส่วนเรื่องที่เราตกใจมากๆไม่คิดว่าเขาจะทำ คือเราจะไปตลาด เราก็จะต้องลงไปเอารถจักรยานออกซึ่งมันอยู่ชั้น1อยู่เเล้ว เขาเดินเข้ามาเเล้วพูดกับเราว่า "อ้วนจะไปไหนเหรอ" พร้อมกับเรามือมาจี้เอวเรา คือเราตกใจมากทำไรไม่ถูกเลย เพราะไม่คิดว่าเขาจะทำ ได้เเต่หัวเราะเเล้วยิ้มเจื่อนๆไป เเต่เหมือนเขาคงจะเห็นเราไม่อะไรมั้ง เขาก็เลยทำหนักขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เจอหน้าก็จะถามเเต่ ไออ้วนไปไหน อ้วนไปตลาดอ่อ เเล้วก็ตามด้วยอย่างเคย มาจี้เอวเรา บางครั้งก็เดินมาเงียบๆเเล้วมาจี้ หนักสุดเข้าเอามือมาจี้เอวนี่เเหละเเต่มันไม่ใช่เอวไง มันจี้มาโดนตรงใต้ราวนมเลย แถวๆขอบเสื้อในเลย นี่คือตกใจมาก คือมันเริ่มรู้สึกไม่ใช่เเล้วอ่ะ ไม่ใช่มากๆด้วย ตอนเเรกเราไม่คิดที่จะเล่าให้พ่อแม่ฟังเลย กลัวจะมีปัญหากัน หรือเราอาจจะเข้าใจผิดไปเอง แต่หลังๆมันหนักขึ้นเรื่อยๆ เราเลยตัดสินใจเอาเรื่องนี้เล่าให้เเม่ฟังเเค่คนเดียวก่อน กะให้เเม่รับรู้ว่าตอนนี้มีปัญหาอะไรบ้าง เเละไม่โอเคเรื่องไรบ้าง คือเราเล่าทั้งหมดเลยตั้งเเต่ต้นเลย เค้าก็ช็อคเเหละ คงไม่คิดว่าเราจะเจออะไรเเบบนี้ เพราะพ่อกับเเม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เรา เราอยู่คนเดียวตั้งเเต่8ขวบเลย ถ้าช่วงเปิดเทอมก็คือไปโรงเรียน เเต่ถ้าช่วงปิดเทอม เช้ามาพ่อเเม่ไปทำงานเราก็ต้องพึ่งตัวเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเองตลอดจนถึงตอนนี้ เค้าก็บอกเราดูเชิงไว้ก่อน เเต่ถ้าเขาทำอีกก็ให้บอกไปว่า อย่าทำ ไม่ชอบ ไม่โอเค พูดไปตรงๆด้วยความหนักแน่นเลย จนเวลานั้นมันก็มาถึงจริงๆ เราเลยตัดสินใจพูดเลย วันเเรกเราพูดไปเเต่ดูเขาไม่ได้รู้สึกผิด แถมยกเรื่องอื่นมากลบเกลื่อนเเบบ "พูดอะไรสำเนียงเหมือนพม่าเลย" เรานี่เเบบ WHAT!!!!! เหี้*ไรเนี่ยคืองง จนวันที่สองเราก็บอกอย่าทำ ไม่ชอบ เขานี่คือเงียบไปเลย เราก็หวังว่าเขาจะเข้าใจเเละเลิกทำนิสัยเเบบนี้ซักที ที่เราจะสื่อ คือไม่ว่าผญหรือผช ไม่ว่าเพศไหนๆ ไม่ควรต้องมาเจอเรื่องเเบบนี้ คือมันเเย่มาก หลายคนชอบบอกว่าก็เพราะเเต่งตัวโป๊ ดูเคสเราเป็นตัวอย่างได้เลยนะ เราเป็นคนที่เชยมาก แต่งตัวมิดชิดมากยังโดนเลย เรื่องนี้มันไม่ใช่ว่าเเต่งตัวโป๊ไม่โป๊เเล้วผิด มันอยู่ที่ตัวเขา ควรจะควบคลุมพฤติกรรมของตัวเอง ที่เรามาเล่าวันนี้ ที่นี่ เราเเค่อยากเเชร์เรื่องราวเเย่ๆของเรา เผื่อมีใครที่เจอเรื่องเเบบนี้ มาเเชร์มาเล่า รวมถึงเเนะนำทางออกที่ดีให้กันเเละกัน เราก็จะพยายาม ถ้ามันถึงที่สุดจริงๆเราคงต้องทบทวนใหม่เรื่องด้านทางกฎหมายเเล้วคงย้ายที่อยู่ใหม่ (ถ้าเป็นไปได้นะ เพราะค่าเช่าถูกมาก เเล้วเราก็คุ้นเคยกับที่นี่นานเเล้ว) เเต่เราจะไม่ทนให้เค้าทำเราฝ่ายเดียวเเน่นอน เป็นกำลังใจให้ตัวเองและทุกคนที่เจอเรื่องเเบบนี้เหมือนกันนะคะ สู้ๆค่ะ