สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน ก่อนหน้านี้ได้แต่ตามอ่านกระทู้ท่านอื่นมานานวันนี้เลยอยากมาตั้งกระทู้ของตัวเองบ้าง ผิดพลาดประการใดขออภัยนะคะ
เนื่องจากวันนี้ลูกสาวกลับไปเรียนที่โรงเรียนวันแรก หลังจากเรียนออนไลน์มาอย่างยาวนาน ถึงจะสบายใจมากขึ้นทั้งแม่ทั้งลูกที่ไม่ต้องเรียนออนไลน์แล้ว แต่ลึกๆแม่ยังแอบกังวลค่ะ ว่าจะได้กลับมาเรียนออนไลน์อีกรอบมั้ย เพราะผลพวงมาจากการเรียนออนไลน์ที่ผ่านมาทำให้ลูกสาวสุขภาพย่ำแย่ไปมาก
ลูกสาวตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.5 ค่ะ ส่วนตัวเค้าเป็นเด็กตั้งใจเรียนมากๆอยู่แล้ว แล้วก็ค่อนข้างเข้มงวดกับตัวเองพอสมควร แต่ตอนเรียนที่โรงเรียนไม่เคยเห็นเค้าเครียดขนาดนี้มาก่อนเลย พอเรียนออนไลน์เหมือนเวลาชีวิตเค้าเปลี่ยนไปหมด ทานข้าว นอน ไม่เป็นเวลา แม้การเรียนจะมีตารางเวลาที่แน่นอนก็จริง แต่เค้าบอกว่าในคาบเรียนมันไม่เหมือนเรียนในห้องเลย ครูสอนเร็วมากและไม่เคลียร์เหมือนตอนเรียนที่โรงเรียน ต้องมาหาอ่าน ทบทวน ดูจากที่อื่นเพิ่มเติมเองเยอะกว่าเดิม แม่ก็เข้าใจว่าครูที่โรงเรียนอาจจะไม่ถนัดการสอนออนไลน์ ไม่ได้มีการโน้มน้าวให้เด็กเข้าใจได้เหมือนพวกครูติวเตอร์ที่สอนออนไลน์มาตลอด ไหนจะการบ้าน รายงาน ที่เยอะมากๆ จนเด็กแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
ส่วนตัวลูกเราตื่นเช้ามาก็จะเตรียมดูเนื้อหาที่จะเรียน เข้าเรียนตามเวลา พักเที่ยงทานข้าวบ้างไม่ทานบ้าง ก็กลับไปทำงานหรือไม่ก็นั่งดูบทเรียนต่อ พักเหมือนไม่ได้พัก พอเลิกงานตอนเย็น ทานข้าวเสร็จ เห็นเค้าไถมือถือเล่นนู่นเล่นนี่พักเดียว ก็ขึ้นห้องไปอ่านทบทวน ทำงาน ทำการบ้านต่อ นอนเที่ยงคืน ตี 1 เกือบทุกคืน วันธรรมดาคือแทบไม่มีเวลาพักเลยค่ะ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็มีทำการบ้าน ทำรายงานที่เยอะมากอีกเหมือนเดิม เห็นแล้วก็สงสารลูก เราก็บอกเค้าว่าไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกดดันขนาดนั้น แม่เข้าใจ ว่ามันยากงานมันเยอะ แต่เค้าก็อยากทำให้ดีอ่ะค่ะ จะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วด้วย เค้าเลยยิ่งกดดันตัวเอง คือเครียดจนป่วยบ่อยมาก ป่วยออดๆแอดๆมาตลอด หนักสุดก็ทอนซิลอักเสบเพิ่งหาย แรกๆเจ็บคอ มีไข้ เราก็ตกใจว่าลูกติดโควิดมั้ย เพราะเราเองก็ออกไปทำงานนอกบ้านบ่อยๆ กลัวเอามาติดลูก เลยรีบพาไปตรวจ ไม่เจอโควิด แต่เจอหนองในคอแทน สรุปคือทอนซิลอักเสบ หมอบอกว่าสาเหตุเป็นได้หลายอย่าง รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเค้าด้วย ทั้งเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะรับเชื้ออะไรได้ง่าย ช่วงนั้นก็เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากค่ะประมาณ 6 - 7 รอบ กว่าจะหาย โดนค่ารักษาไปเยอะเหมือนกัน ตอนรอบแรกแม่ยื่นบัตรประกันสุขภาพไปเป็นตัวซิมเพิลไลฟ์ของโตเกียวมารีนเค้าบอกเบิกไม่ได้ตัวนี้ เบิกได้เฉพาะแอดมิท เลยไปปรึกษาตัวแทนเค้าก็แนะนำให้เสริมตัวกู๊ดเฮลธ์เพิ่มมาเพราะเบิกได้หมด เลยได้เบาเงินแม่ไปเยอะ ไม่งั้นอ่วม เพราะไปหารอบนึงก็เป็นพันแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่เพิ่งซื้อเมื่อเดือนสิงหาตอนนี้ใช้ไปจะเกินเบี้ยละ เรายังดีมีประกันช่วย สงสารก็แต่ลูกกว่าจะหาย แต่สุขภาพระยะยาวเค้าก็แย่ไปเลย
ไหนจะเรื่องสุขภาพจิตใจอีก แม่สังเกตว่าลูกกลายเป็นเด็กไม่ร่าเริง แถมบางครั้งยังดูเหม่อๆลอยๆ เหมือนคิดอะไรตลอดเวลา แต่ถามเค้าก็บอกว่าเปล่า กลายเป็นเด็กพูดน้อย หงุดหงิดง่ายด้วย แม่ว่าเป็นเพราะเค้าเรียนอยู่แต่กับหน้าจอ คร่ำเครียดกับเรียนออนไลน์ ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนฝูงหรือเปล่า
นี่วันนี้ไปเรียนที่โรงเรียนวันแรกตอนเช้าเค้าตื่นเต้นมาก ทั้งดีใจทั้งบอกว่ารู้สึกแปลกๆ ไม่ได้เจอเพื่อนเจอครูนาน แต่ก็อยากเรียนที่โรงเรียนมากกว่าอยู่ดี เดี๋ยวเย็นนี้กลับบ้านมาน่าจะมีเรื่องมาเล่าให้แม่ฟังเยอะแน่ๆเลย
บ้านอื่นเป็นยังไงกันบ้างคะ ลูกๆคนไหนเครียดจนกระทบสุขภาพกายใจกันแบบนี้บ้างมั้ย หรือเด็กๆมาแชร์กันได้นะคะว่าเรียนออนไลน์ที่ผ่านมาเป็นยังไงกันบ้าง แล้วใครกลับไปเรียนที่โรงเรียนแล้วบ้าง
อีกอย่างที่อยากรู้คือคิดว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้เด็กๆจะเรียนแบบ on site ได้ตลอดมั้ยคะ ท่านอื่นคิดเห็นยังไงกันบ้าง ส่วนตัวแม่อยากให้ลูกได้ไปเรียนที่โรงเรียนแบบตลอดรอดฝั่งเหมือนเดิมจังค่ะ
เด็กๆบ้านไหนเรียนออนไลน์แล้วเครียดจนป่วยแบบนี้บ้างคะ
เนื่องจากวันนี้ลูกสาวกลับไปเรียนที่โรงเรียนวันแรก หลังจากเรียนออนไลน์มาอย่างยาวนาน ถึงจะสบายใจมากขึ้นทั้งแม่ทั้งลูกที่ไม่ต้องเรียนออนไลน์แล้ว แต่ลึกๆแม่ยังแอบกังวลค่ะ ว่าจะได้กลับมาเรียนออนไลน์อีกรอบมั้ย เพราะผลพวงมาจากการเรียนออนไลน์ที่ผ่านมาทำให้ลูกสาวสุขภาพย่ำแย่ไปมาก
ลูกสาวตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ม.5 ค่ะ ส่วนตัวเค้าเป็นเด็กตั้งใจเรียนมากๆอยู่แล้ว แล้วก็ค่อนข้างเข้มงวดกับตัวเองพอสมควร แต่ตอนเรียนที่โรงเรียนไม่เคยเห็นเค้าเครียดขนาดนี้มาก่อนเลย พอเรียนออนไลน์เหมือนเวลาชีวิตเค้าเปลี่ยนไปหมด ทานข้าว นอน ไม่เป็นเวลา แม้การเรียนจะมีตารางเวลาที่แน่นอนก็จริง แต่เค้าบอกว่าในคาบเรียนมันไม่เหมือนเรียนในห้องเลย ครูสอนเร็วมากและไม่เคลียร์เหมือนตอนเรียนที่โรงเรียน ต้องมาหาอ่าน ทบทวน ดูจากที่อื่นเพิ่มเติมเองเยอะกว่าเดิม แม่ก็เข้าใจว่าครูที่โรงเรียนอาจจะไม่ถนัดการสอนออนไลน์ ไม่ได้มีการโน้มน้าวให้เด็กเข้าใจได้เหมือนพวกครูติวเตอร์ที่สอนออนไลน์มาตลอด ไหนจะการบ้าน รายงาน ที่เยอะมากๆ จนเด็กแทบไม่มีเวลาพักผ่อน
ส่วนตัวลูกเราตื่นเช้ามาก็จะเตรียมดูเนื้อหาที่จะเรียน เข้าเรียนตามเวลา พักเที่ยงทานข้าวบ้างไม่ทานบ้าง ก็กลับไปทำงานหรือไม่ก็นั่งดูบทเรียนต่อ พักเหมือนไม่ได้พัก พอเลิกงานตอนเย็น ทานข้าวเสร็จ เห็นเค้าไถมือถือเล่นนู่นเล่นนี่พักเดียว ก็ขึ้นห้องไปอ่านทบทวน ทำงาน ทำการบ้านต่อ นอนเที่ยงคืน ตี 1 เกือบทุกคืน วันธรรมดาคือแทบไม่มีเวลาพักเลยค่ะ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ก็มีทำการบ้าน ทำรายงานที่เยอะมากอีกเหมือนเดิม เห็นแล้วก็สงสารลูก เราก็บอกเค้าว่าไม่ต้องเครียด ไม่ต้องกดดันขนาดนั้น แม่เข้าใจ ว่ามันยากงานมันเยอะ แต่เค้าก็อยากทำให้ดีอ่ะค่ะ จะขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วด้วย เค้าเลยยิ่งกดดันตัวเอง คือเครียดจนป่วยบ่อยมาก ป่วยออดๆแอดๆมาตลอด หนักสุดก็ทอนซิลอักเสบเพิ่งหาย แรกๆเจ็บคอ มีไข้ เราก็ตกใจว่าลูกติดโควิดมั้ย เพราะเราเองก็ออกไปทำงานนอกบ้านบ่อยๆ กลัวเอามาติดลูก เลยรีบพาไปตรวจ ไม่เจอโควิด แต่เจอหนองในคอแทน สรุปคือทอนซิลอักเสบ หมอบอกว่าสาเหตุเป็นได้หลายอย่าง รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเค้าด้วย ทั้งเครียด นอนดึก พักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำ ก็จะรับเชื้ออะไรได้ง่าย ช่วงนั้นก็เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากค่ะประมาณ 6 - 7 รอบ กว่าจะหาย โดนค่ารักษาไปเยอะเหมือนกัน ตอนรอบแรกแม่ยื่นบัตรประกันสุขภาพไปเป็นตัวซิมเพิลไลฟ์ของโตเกียวมารีนเค้าบอกเบิกไม่ได้ตัวนี้ เบิกได้เฉพาะแอดมิท เลยไปปรึกษาตัวแทนเค้าก็แนะนำให้เสริมตัวกู๊ดเฮลธ์เพิ่มมาเพราะเบิกได้หมด เลยได้เบาเงินแม่ไปเยอะ ไม่งั้นอ่วม เพราะไปหารอบนึงก็เป็นพันแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นี่เพิ่งซื้อเมื่อเดือนสิงหาตอนนี้ใช้ไปจะเกินเบี้ยละ เรายังดีมีประกันช่วย สงสารก็แต่ลูกกว่าจะหาย แต่สุขภาพระยะยาวเค้าก็แย่ไปเลย
ไหนจะเรื่องสุขภาพจิตใจอีก แม่สังเกตว่าลูกกลายเป็นเด็กไม่ร่าเริง แถมบางครั้งยังดูเหม่อๆลอยๆ เหมือนคิดอะไรตลอดเวลา แต่ถามเค้าก็บอกว่าเปล่า กลายเป็นเด็กพูดน้อย หงุดหงิดง่ายด้วย แม่ว่าเป็นเพราะเค้าเรียนอยู่แต่กับหน้าจอ คร่ำเครียดกับเรียนออนไลน์ ไม่ได้ออกไปเจอเพื่อนฝูงหรือเปล่า
นี่วันนี้ไปเรียนที่โรงเรียนวันแรกตอนเช้าเค้าตื่นเต้นมาก ทั้งดีใจทั้งบอกว่ารู้สึกแปลกๆ ไม่ได้เจอเพื่อนเจอครูนาน แต่ก็อยากเรียนที่โรงเรียนมากกว่าอยู่ดี เดี๋ยวเย็นนี้กลับบ้านมาน่าจะมีเรื่องมาเล่าให้แม่ฟังเยอะแน่ๆเลย
บ้านอื่นเป็นยังไงกันบ้างคะ ลูกๆคนไหนเครียดจนกระทบสุขภาพกายใจกันแบบนี้บ้างมั้ย หรือเด็กๆมาแชร์กันได้นะคะว่าเรียนออนไลน์ที่ผ่านมาเป็นยังไงกันบ้าง แล้วใครกลับไปเรียนที่โรงเรียนแล้วบ้าง
อีกอย่างที่อยากรู้คือคิดว่าสถานการณ์ปัจจุบันนี้เด็กๆจะเรียนแบบ on site ได้ตลอดมั้ยคะ ท่านอื่นคิดเห็นยังไงกันบ้าง ส่วนตัวแม่อยากให้ลูกได้ไปเรียนที่โรงเรียนแบบตลอดรอดฝั่งเหมือนเดิมจังค่ะ