ช่วงเดือนที่ผ่านมาบริษัทเฟสบุ๊คได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “เมตา (Meta)” พร้อม มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ได้แสดงวิสัยทัศน์ในการผลักดันแผนการพัฒนา “เมตาเวิร์ส” ซึ่งจะกลายเป็นปรากฏการณ์ในการสร้างโลกเสมือนจริงที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช้ชีวิตได้!
มาถึงจุดนี้… ผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่า “โครงการดังกล่าว” จะคล้ายคลึงกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง “Ready Player One” หรืออนิเมะ “Sword Art Online” ที่เรากลายเป็นตัวละครในโลกเสมือนจริงที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากหรือน้อยเพียงใด?
ดังนั้นทาง The Wild Choronicles จึงขออาสาเป็นผู้นำทุกท่านเดินทางสู่โลกอันไร้ขีดจำกัดด้านจินตนาการของ “เมตาเวิร์ส” กันได้เลยครับ!
*** จากเฟสบุ๊คสู่เมตา ***
“ในปัจจุบันเฟสบุ๊คมีตัวเลขผู้ใช้บริการมากกว่า 2,800 ล้านบัญชี!” ซึ่งหากเทียบประเทศจริงๆอย่างจีนที่มีประชากรราว 1,400 ล้านคน ก็นับว่ามากกว่าถึงสองเท่า แน่นอนว่าในจำนวนนี้ย่อมมีบัญชีปลอม แต่ถึงหักไปอย่างไรเฟสบุคก็ยังเปรียบเหมือน “ประเทศออนไลน์” ที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง
ภาพแนบ: สัญลักษณ์ Meta
ในวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทเฟสบุ๊คได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “เมตา” (Meta) ซึ่งมีความหมายว่า “สิ่งที่เหนือกว่า” พร้อมกับประกาศช่องทางการให้บริการในธุรกิจอื่นๆ นอกจากจากโซเชี่ยลมีเดีย อาทิ:
แว่นตาอัจฉริยะที่สามารถรับโทรศัพท์, ฟังเพลง, ถ่ายภาพนิ่ง, และคลิปวิดีโอในราคาราว 299 เหรียญสหรัฐภายใต้ชื่อ Ray-Ban Stories (พัฒนาร่วมกับทางแว่นตา Ray-Ban) แว่น VR ที่ต่อยอดจากแว่นในโครงการแคมเบรียที่เฟสบุคเป็นเจ้าของ
ทว่าประเด็นซึ่งได้รับความสนใจมากที่สุดคือการพูดถึง “เมตาเวิร์ส” หรือโลกเสมือนจริงที่จะกลายเป็นอนาคตของการติดต่อสื่อสารที่ผู้คนสามารถติดต่อกันได้อย่างเป็นอิสระ
ภาพแนบ: ตัวอย่าง Metaverse ในโฆษณา
*** เมตาเวิร์สคืออะไร? ***
“Metaverse” นั้นเกิดจากการคำว่า Meta ซึ่งแปลว่า “สิ่งที่เหนือกว่า” เมื่อมาเข้ารวมกับ Universe หรือ “จักรวาล” ทำให้เกิดนิยามว่า “จักรวาลที่เหนือกว่า” ซึ่งตอกย้ำแนวคิดของการออกแบบแพลตฟอร์มที่เป็นมากกว่าการแลกเปลี่ยนข้อความ, ภาพถ่าย, และคลิปวิดีโอ แต่เป็น “ประสบการณ์รูปแบบใหม่” ที่ผู้ใช้บริการสามารถสร้างอวตารของตน เพื่อพบปะกับเพื่อนๆและคนรู้จัก รวมถึงเพิ่มสีสันการใช้ชีวิต เช่นสร้างบรรยากาศออฟฟิศที่พนักงานทุกคนกลายเป็นตัวอวตารซึ่งสามารถสื่อสารกันได้แม้จะทำงานที่บ้าน หรือการจัดเกมและกีฬาเพื่อความบันเทิงที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงยิ่งกว่าการเล่นเพียงในจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์
ภาพแนบ: ภาพยนตร์ Ready Player One ที่นำทุกคนเข้าสู่จินจนาการโลกเสมือนจริง
เมื่อได้ยินเช่นนี้… หลายท่านคงพอเห็นภาพของโลกเสมือนจริงซึ่งเราอาจเข้าไปมีส่วนร่วมและสร้างโลกตามจินตนาการไม่เหนือความจริงอีกต่อไป แม้ว่าปัจจุบันจะยังอยู่แค่ในจุดเริ่มต้นก็ตาม
ภาพแนบ: โฆษณาแว่น VR ซีรี่ย์ Oculus Quest
*** การเข้าถึงเมตาเวิร์ส***
วิธีการเข้าถึงและเครื่องมือที่สามารถรองรับแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สในปัจจุบันนั้น พูดกันว่ามีอยู่ 3 วิธีการด้วยกันที่ประกอบด้วย:
การเล่นผ่านแว่น VR ตระกูล Oculus Quest โดยเฉพาะ Quest 3 ซึ่งกำลังจะวางจำหน่ายในปี 2022 และเครื่องเล่นอื่นๆ ที่ทางบริษัทกำลังซุ่มพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานในเมตาเวิร์สเต็มรูปแบบ
ภาพแนบ: แว่น Ray-Ban Stories ซึ่งเป็น Smart Glasses ที่เกิดจากความร่วมมือ ระหว่าง Meta และ Ray Ban
การเข้าใช้บริการแบบที่สองคือ smart glasses ที่สามารถสวมใส่ออกนอกบ้านในชีวิตประจำวันได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเล่นกิจกรรมพื้นฐาน แต่ไม่สามารถเล่นทุกอย่างได้เหมือนการสวมแว่น VR โดยปัจุบันทางบริษัทกำลังพยายามผลักดันโครงการนาซาเร (Project Nazare’) เพื่อสร้าง smart glasses ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
การเข้าใช้บริการแบบสุดท้ายที่มีราคาถูกที่สุดคือการเข้าผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้งานทั่วไป แต่ยังไม่มีการแจ้งรูปแบบของการให้บริการหรือความสามารถเข้าถึงที่ผู้ใช้งานจะเข้าไปมีส่วนร่วมได้
เห็นได้ว่ารูปแบบการให้บริการหลักๆ ยังคงอยู่กับการใช้งานบนแว่นตระกูล Oculus Quest ซึ่งเป็นสินค้าของ บริษัท เช่นเดียวกับแว่น smart glasses ที่ทางเมตากำลังจะวางจำหน่ายในอนาคต ขณะที่เราคงต้องติดตามข่าวในการเข้าถึงเมตาเวิรส์จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ต่อไป
ภาพแนบ: Facebook Horizon ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2020
*** ฮอไรซอนก้าวแรกสู่เมตาเวิร์ส ***
เฟสบุ๊คฮอไรซอน (Facebook Horizon) คือ โซเชี่ยลมีเดียรูปแบบโลกเสมือนจริง (Visual Reality) ซึ่งออกมาเมื่อปี 2020
ภาพแนบ: Horizon Workrooms
ต่อมามีการเสริมให้ผู้เล่นสามารถออกแบบสถานที่ต่างๆ ตามจินตนาการ มีตัวเลือกให้กับผู้เล่นสามารถเลือกได้อาทิ:
Horizon Home = สถานที่รวบรวมผู้คนมาพบปะกันบนโลกเสมือนจริงและทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การดูหนัง, เล่นเกมตีปิงปอง, และเกมอื่นๆ แม้จะอยู่คนละซีกโลก
Horizon Workrooms = แพลตฟอร์มห้องทำงานหรือสำนักงานเสมือนจริง เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ผู้ใช้งานสามารถพบกับเพื่อนร่วมงานแม้จะอยู่บ้านได้ ที่เพิ่งจะเปิดตัวในปีนี้
ภาพแนบ: รูปแบบการสร้างคาแรคเตอร์ใน Metaverse
ในอนาคตอาจมีการเพิ่มให้สามารถเปิดคอร์สวิชาต่างๆ, ธนาคาร, ร้านค้าออนไลน์, แม้แต่การเปิดคอนเสิร์ต เพื่อปูทางสู่การสร้างโลกเมตาเวิร์สในอนาคต
*** ธุรกิจเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส ***
เมตาเวิรส์กลายเป็นหมุดหมายใหม่ ซึ่งเปิดพื้นที่ให้กับธุรกิจจำนวนมากเข้ามาแสวงโอกาสตั้งแต่กลุ่มผู้ผลิตแว่น VR, แว่น AR, และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้งานกับโซเชียลแพลตฟอร์มที่กำลังถูกพัฒนาอยู่ ขณะที่กลุ่มธุรกิจอีกประเภทคือบริษัทผู้ผลิตแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาโปรแกรมเสริมต่างๆ ให้กับโลกเสมือนจริงใบนี้ เช่นเดียวกับการพัฒนาแอพบนมือถือในยุคปัจจุบัน
ภาพแนบ: V-Avenue visual mall ที่ทาง AIS เป็นผู้สร้าง
นอกจากนี้กลุ่มสินค้าต่างๆ สามารถใช้พื้นที่ของเมตาเวิรส์ ในการนำสินค้าต่างๆ มาวางจำหน่ายในรูปแบบของห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง (Visual Mall) ที่ผู้ซื้อสามารถเดินเล่นไปตามร้านต่างๆ เพื่อเลือกชมสินค้าของร้านออนไลน์ได้ นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจอื่นๆ อย่างทีมกีฬาต่างๆ ยังสามารถมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการชมกีฬาถึงขอบสนาม หรือธุรกิจบันเทิงก็สามารถจัดกิจกรรมทั้งงานแสดงคอนเสิร์ต, การเปิดตัวภาพยนตร์, และกิจกรรมพบปะแฟนๆ ที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้แม้จะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม
ข้อสำคัญประการสุดท้ายคือ “การซื้อขายที่ดินและสินทรัพย์ดิจิตอล” คือบนเมตาเวิร์สก็มี “ที่ดิน” ที่ไม่มีลักษณะทางกายภาพ แต่มีมูลค่าการซื้อขาย สามารถนำมาปั่นราคาคล้ายกับกรณีของคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งผู้วิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเป็นการลงทุนที่น่าจับตามองในอนาคต
*** การคาดการณ์เกี่ยวกับอนาคตของเมตาเวิร์ส ***
อนาคตของเมตาเวิร์สยังคงเป็นทางเดินที่ยาวไกล ทำให้มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วย และแสดง ความกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น อาทิ สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้วิเคราะห์ว่าเป็นแผนการอันแยบยลของทางเมตา ที่จะปฏิวัติโลก โดยลดการพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่สำคัญอย่างโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ
ขณะที่อีกฝ่ายก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอาทิ มีนักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทเธอดาม (University of Notre Dame) แสดงทัศนะว่า “ตราบใดที่ผู้บริหาร FB ไม่สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้บริการในโลกความจริงได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อถือพวกเขาในโลกเสมือนจริง”
นอกจากนี้ยังมีข่าวอื้อฉาวอย่าง “The Facebook Papers” ที่ถูกปล่อยออกมาจากอดีตพนักงานรายหนึ่งว่า “บริษัทให้ความสำคัญต่อธุรกิจและการสร้างกำไรมากกว่าผู้ใช้บริการ นอกจากนี้เฟสบุ๊คยังไม่ให้ความสำคัญในการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ”
เมื่อเป็นเช่นนั้น… จึงเกิดคำถามว่าทางผู้ให้บริการสามารถเก็บรักษาข้อมูลที่จะมีปริมาณมากขึ้นกว่าในเฟสบุ๊คอย่างมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน? หรือหากเกิดการกระทำผิดบน Metaverse จะถูกลงโทษอย่างไร? หรือหน่วยงานไหนจะเข้ามาจัดการกับเรื่องราวเหล่านี้?
อย่างไรก็ตาม… เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าช่วงเวลาของเมตาเวิร์สกำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น และเส้นทางของการสร้างโลกเสมือนจริงยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างตามวิสัยทัศน์ที่ถูกวางแผนเอาไว้
*** บทสรุป ***
ในอดีตเฟสบุ๊คเคยสร้างปรากฏการณ์ในการเชื่อมผู้บริการจากทั่วโลกเข้าหากัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จะประกาศอย่างทะเยอทะยานว่า “จะทำให้เมตาเวิร์สสามารถยกระดับการเชื่อมต่อผู้ใช้บริการจากทั่วโลกและกลุ่มธุรกิจต่างๆ เข้าหากันผ่านโลกเสมือนจริง ไม่ต่างจากมโนทัศน์บนโลกภาพยนตร์ที่มนุษย์สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดบนโลกแห่งความจริง”
เป้าหมายแรกของเมตาคือการ “ย้ายผู้ใช้บริการเฟสบุ๊คราว 1,000 ล้านคนจาก 2,800 ล้านคนย้ายเข้ามายังแพลตฟอร์มแห่งนี้”
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของย่างก้าวแห่งอนาคตที่จะนำพามนุษย์เข้าสู่ “ทางเลือกใหม่แห่งการติดต่อสื่อสาร” ที่ยังต้องรอพิสูจน์ตนเองอีกมาก ทั้งต่อข้อจำกัดด้านเทคนิคต่างๆ, ความไม่ไว้วางใจด้านการจัดเก็บข้อมูล, และความเป็นไปได้ในการสร้างธุรกิจที่ทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมอย่างโปร่งใส?
แหล่งอ้างอิง:
fossbytes (ดอต) com/facebook-connect-2021-everything-announced/
fossbytes (ดอต) com/facebook-planning-to-reveal-new-oculus-quest-headsets/
www (ดอต) oculus (ดอต) com/facebook-horizon/
www (ดอต) neatothailand (ดอต) com/facebookhorizon/
www (ดอต) scb (ดอต) co (ดอต) th/th/personal-banking/stories/grow-your-wealth/cryptocurrency101 (ดอต) html
time (ดอต) com/6104899/facebook-reckoning-frances-haugen/
www (ดอต) forbes (ดอต) com/sites/lisakim/2021/10/28/facebook-announces-new-name-meta/?sh=544d768d7f83
:: ::: :::
สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตามเพจ
https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/
กรุ๊ปประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ
https://www.facebook.com/groups/thewildchronicles/
กรุ๊ปท่องเที่ยว เที่ยวโหดเหมือนโกรธบ้าน
https://www.facebook.com/groups/wildchroniclestravel/
Line Square:
https://line.me/ti/g2/8pIcVHp3cc6-jyQJdzIFrg
และ youtube:
https://youtube.com/user/Apotalai
*** Metaverse ก้าวแรกสู่โลกใบใหม่? ***
มาถึงจุดนี้… ผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยว่า “โครงการดังกล่าว” จะคล้ายคลึงกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง “Ready Player One” หรืออนิเมะ “Sword Art Online” ที่เรากลายเป็นตัวละครในโลกเสมือนจริงที่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากหรือน้อยเพียงใด?
ดังนั้นทาง The Wild Choronicles จึงขออาสาเป็นผู้นำทุกท่านเดินทางสู่โลกอันไร้ขีดจำกัดด้านจินตนาการของ “เมตาเวิร์ส” กันได้เลยครับ!
*** จากเฟสบุ๊คสู่เมตา ***
“ในปัจจุบันเฟสบุ๊คมีตัวเลขผู้ใช้บริการมากกว่า 2,800 ล้านบัญชี!” ซึ่งหากเทียบประเทศจริงๆอย่างจีนที่มีประชากรราว 1,400 ล้านคน ก็นับว่ามากกว่าถึงสองเท่า แน่นอนว่าในจำนวนนี้ย่อมมีบัญชีปลอม แต่ถึงหักไปอย่างไรเฟสบุคก็ยังเปรียบเหมือน “ประเทศออนไลน์” ที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง
ภาพแนบ: สัญลักษณ์ Meta
ในวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทเฟสบุ๊คได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น “เมตา” (Meta) ซึ่งมีความหมายว่า “สิ่งที่เหนือกว่า” พร้อมกับประกาศช่องทางการให้บริการในธุรกิจอื่นๆ นอกจากจากโซเชี่ยลมีเดีย อาทิ:
แว่นตาอัจฉริยะที่สามารถรับโทรศัพท์, ฟังเพลง, ถ่ายภาพนิ่ง, และคลิปวิดีโอในราคาราว 299 เหรียญสหรัฐภายใต้ชื่อ Ray-Ban Stories (พัฒนาร่วมกับทางแว่นตา Ray-Ban) แว่น VR ที่ต่อยอดจากแว่นในโครงการแคมเบรียที่เฟสบุคเป็นเจ้าของ
ทว่าประเด็นซึ่งได้รับความสนใจมากที่สุดคือการพูดถึง “เมตาเวิร์ส” หรือโลกเสมือนจริงที่จะกลายเป็นอนาคตของการติดต่อสื่อสารที่ผู้คนสามารถติดต่อกันได้อย่างเป็นอิสระ
ภาพแนบ: ตัวอย่าง Metaverse ในโฆษณา
*** เมตาเวิร์สคืออะไร? ***
“Metaverse” นั้นเกิดจากการคำว่า Meta ซึ่งแปลว่า “สิ่งที่เหนือกว่า” เมื่อมาเข้ารวมกับ Universe หรือ “จักรวาล” ทำให้เกิดนิยามว่า “จักรวาลที่เหนือกว่า” ซึ่งตอกย้ำแนวคิดของการออกแบบแพลตฟอร์มที่เป็นมากกว่าการแลกเปลี่ยนข้อความ, ภาพถ่าย, และคลิปวิดีโอ แต่เป็น “ประสบการณ์รูปแบบใหม่” ที่ผู้ใช้บริการสามารถสร้างอวตารของตน เพื่อพบปะกับเพื่อนๆและคนรู้จัก รวมถึงเพิ่มสีสันการใช้ชีวิต เช่นสร้างบรรยากาศออฟฟิศที่พนักงานทุกคนกลายเป็นตัวอวตารซึ่งสามารถสื่อสารกันได้แม้จะทำงานที่บ้าน หรือการจัดเกมและกีฬาเพื่อความบันเทิงที่ให้ความรู้สึกเสมือนจริงยิ่งกว่าการเล่นเพียงในจอโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์
ภาพแนบ: ภาพยนตร์ Ready Player One ที่นำทุกคนเข้าสู่จินจนาการโลกเสมือนจริง
เมื่อได้ยินเช่นนี้… หลายท่านคงพอเห็นภาพของโลกเสมือนจริงซึ่งเราอาจเข้าไปมีส่วนร่วมและสร้างโลกตามจินตนาการไม่เหนือความจริงอีกต่อไป แม้ว่าปัจจุบันจะยังอยู่แค่ในจุดเริ่มต้นก็ตาม
ภาพแนบ: โฆษณาแว่น VR ซีรี่ย์ Oculus Quest
*** การเข้าถึงเมตาเวิร์ส***
วิธีการเข้าถึงและเครื่องมือที่สามารถรองรับแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สในปัจจุบันนั้น พูดกันว่ามีอยู่ 3 วิธีการด้วยกันที่ประกอบด้วย:
การเล่นผ่านแว่น VR ตระกูล Oculus Quest โดยเฉพาะ Quest 3 ซึ่งกำลังจะวางจำหน่ายในปี 2022 และเครื่องเล่นอื่นๆ ที่ทางบริษัทกำลังซุ่มพัฒนาเพื่อรองรับการใช้งานในเมตาเวิร์สเต็มรูปแบบ
ภาพแนบ: แว่น Ray-Ban Stories ซึ่งเป็น Smart Glasses ที่เกิดจากความร่วมมือ ระหว่าง Meta และ Ray Ban
การเข้าใช้บริการแบบที่สองคือ smart glasses ที่สามารถสวมใส่ออกนอกบ้านในชีวิตประจำวันได้ โดยผู้ใช้งานสามารถเล่นกิจกรรมพื้นฐาน แต่ไม่สามารถเล่นทุกอย่างได้เหมือนการสวมแว่น VR โดยปัจุบันทางบริษัทกำลังพยายามผลักดันโครงการนาซาเร (Project Nazare’) เพื่อสร้าง smart glasses ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
การเข้าใช้บริการแบบสุดท้ายที่มีราคาถูกที่สุดคือการเข้าผ่านสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ซึ่งใช้งานทั่วไป แต่ยังไม่มีการแจ้งรูปแบบของการให้บริการหรือความสามารถเข้าถึงที่ผู้ใช้งานจะเข้าไปมีส่วนร่วมได้
เห็นได้ว่ารูปแบบการให้บริการหลักๆ ยังคงอยู่กับการใช้งานบนแว่นตระกูล Oculus Quest ซึ่งเป็นสินค้าของ บริษัท เช่นเดียวกับแว่น smart glasses ที่ทางเมตากำลังจะวางจำหน่ายในอนาคต ขณะที่เราคงต้องติดตามข่าวในการเข้าถึงเมตาเวิรส์จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ต่อไป
ภาพแนบ: Facebook Horizon ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2020
*** ฮอไรซอนก้าวแรกสู่เมตาเวิร์ส ***
เฟสบุ๊คฮอไรซอน (Facebook Horizon) คือ โซเชี่ยลมีเดียรูปแบบโลกเสมือนจริง (Visual Reality) ซึ่งออกมาเมื่อปี 2020
ภาพแนบ: Horizon Workrooms
ต่อมามีการเสริมให้ผู้เล่นสามารถออกแบบสถานที่ต่างๆ ตามจินตนาการ มีตัวเลือกให้กับผู้เล่นสามารถเลือกได้อาทิ:
Horizon Home = สถานที่รวบรวมผู้คนมาพบปะกันบนโลกเสมือนจริงและทำกิจกรรมต่างๆ อาทิ การดูหนัง, เล่นเกมตีปิงปอง, และเกมอื่นๆ แม้จะอยู่คนละซีกโลก
Horizon Workrooms = แพลตฟอร์มห้องทำงานหรือสำนักงานเสมือนจริง เพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ผู้ใช้งานสามารถพบกับเพื่อนร่วมงานแม้จะอยู่บ้านได้ ที่เพิ่งจะเปิดตัวในปีนี้
ภาพแนบ: รูปแบบการสร้างคาแรคเตอร์ใน Metaverse
ในอนาคตอาจมีการเพิ่มให้สามารถเปิดคอร์สวิชาต่างๆ, ธนาคาร, ร้านค้าออนไลน์, แม้แต่การเปิดคอนเสิร์ต เพื่อปูทางสู่การสร้างโลกเมตาเวิร์สในอนาคต
*** ธุรกิจเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส ***
เมตาเวิรส์กลายเป็นหมุดหมายใหม่ ซึ่งเปิดพื้นที่ให้กับธุรกิจจำนวนมากเข้ามาแสวงโอกาสตั้งแต่กลุ่มผู้ผลิตแว่น VR, แว่น AR, และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อใช้งานกับโซเชียลแพลตฟอร์มที่กำลังถูกพัฒนาอยู่ ขณะที่กลุ่มธุรกิจอีกประเภทคือบริษัทผู้ผลิตแอพพลิเคชั่น ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาโปรแกรมเสริมต่างๆ ให้กับโลกเสมือนจริงใบนี้ เช่นเดียวกับการพัฒนาแอพบนมือถือในยุคปัจจุบัน
ภาพแนบ: V-Avenue visual mall ที่ทาง AIS เป็นผู้สร้าง
นอกจากนี้กลุ่มสินค้าต่างๆ สามารถใช้พื้นที่ของเมตาเวิรส์ ในการนำสินค้าต่างๆ มาวางจำหน่ายในรูปแบบของห้างสรรพสินค้าเสมือนจริง (Visual Mall) ที่ผู้ซื้อสามารถเดินเล่นไปตามร้านต่างๆ เพื่อเลือกชมสินค้าของร้านออนไลน์ได้ นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจอื่นๆ อย่างทีมกีฬาต่างๆ ยังสามารถมอบประสบการณ์สุดพิเศษในการชมกีฬาถึงขอบสนาม หรือธุรกิจบันเทิงก็สามารถจัดกิจกรรมทั้งงานแสดงคอนเสิร์ต, การเปิดตัวภาพยนตร์, และกิจกรรมพบปะแฟนๆ ที่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้แม้จะอยู่คนละซีกโลกก็ตาม
ข้อสำคัญประการสุดท้ายคือ “การซื้อขายที่ดินและสินทรัพย์ดิจิตอล” คือบนเมตาเวิร์สก็มี “ที่ดิน” ที่ไม่มีลักษณะทางกายภาพ แต่มีมูลค่าการซื้อขาย สามารถนำมาปั่นราคาคล้ายกับกรณีของคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งผู้วิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเป็นการลงทุนที่น่าจับตามองในอนาคต
*** การคาดการณ์เกี่ยวกับอนาคตของเมตาเวิร์ส ***
อนาคตของเมตาเวิร์สยังคงเป็นทางเดินที่ยาวไกล ทำให้มีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วย และแสดง ความกังวลกับสิ่งที่เกิดขึ้น อาทิ สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้วิเคราะห์ว่าเป็นแผนการอันแยบยลของทางเมตา ที่จะปฏิวัติโลก โดยลดการพึ่งพาฮาร์ดแวร์ที่สำคัญอย่างโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ
ขณะที่อีกฝ่ายก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวอาทิ มีนักวิชาการแห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทเธอดาม (University of Notre Dame) แสดงทัศนะว่า “ตราบใดที่ผู้บริหาร FB ไม่สามารถสร้างความไว้วางใจให้กับผู้ใช้บริการในโลกความจริงได้ ก็ไม่มีเหตุผลที่จะเชื่อถือพวกเขาในโลกเสมือนจริง”
นอกจากนี้ยังมีข่าวอื้อฉาวอย่าง “The Facebook Papers” ที่ถูกปล่อยออกมาจากอดีตพนักงานรายหนึ่งว่า “บริษัทให้ความสำคัญต่อธุรกิจและการสร้างกำไรมากกว่าผู้ใช้บริการ นอกจากนี้เฟสบุ๊คยังไม่ให้ความสำคัญในการรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้บริการ”
เมื่อเป็นเช่นนั้น… จึงเกิดคำถามว่าทางผู้ให้บริการสามารถเก็บรักษาข้อมูลที่จะมีปริมาณมากขึ้นกว่าในเฟสบุ๊คอย่างมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพแค่ไหน? หรือหากเกิดการกระทำผิดบน Metaverse จะถูกลงโทษอย่างไร? หรือหน่วยงานไหนจะเข้ามาจัดการกับเรื่องราวเหล่านี้?
อย่างไรก็ตาม… เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าช่วงเวลาของเมตาเวิร์สกำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น และเส้นทางของการสร้างโลกเสมือนจริงยังต้องใช้เวลาอีกมากกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างตามวิสัยทัศน์ที่ถูกวางแผนเอาไว้
*** บทสรุป ***
ในอดีตเฟสบุ๊คเคยสร้างปรากฏการณ์ในการเชื่อมผู้บริการจากทั่วโลกเข้าหากัน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จะประกาศอย่างทะเยอทะยานว่า “จะทำให้เมตาเวิร์สสามารถยกระดับการเชื่อมต่อผู้ใช้บริการจากทั่วโลกและกลุ่มธุรกิจต่างๆ เข้าหากันผ่านโลกเสมือนจริง ไม่ต่างจากมโนทัศน์บนโลกภาพยนตร์ที่มนุษย์สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดบนโลกแห่งความจริง”
เป้าหมายแรกของเมตาคือการ “ย้ายผู้ใช้บริการเฟสบุ๊คราว 1,000 ล้านคนจาก 2,800 ล้านคนย้ายเข้ามายังแพลตฟอร์มแห่งนี้”
อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของย่างก้าวแห่งอนาคตที่จะนำพามนุษย์เข้าสู่ “ทางเลือกใหม่แห่งการติดต่อสื่อสาร” ที่ยังต้องรอพิสูจน์ตนเองอีกมาก ทั้งต่อข้อจำกัดด้านเทคนิคต่างๆ, ความไม่ไว้วางใจด้านการจัดเก็บข้อมูล, และความเป็นไปได้ในการสร้างธุรกิจที่ทุกฝ่ายสามารถมีส่วนร่วมอย่างโปร่งใส?
แหล่งอ้างอิง:
fossbytes (ดอต) com/facebook-connect-2021-everything-announced/
fossbytes (ดอต) com/facebook-planning-to-reveal-new-oculus-quest-headsets/
www (ดอต) oculus (ดอต) com/facebook-horizon/
www (ดอต) neatothailand (ดอต) com/facebookhorizon/
www (ดอต) scb (ดอต) co (ดอต) th/th/personal-banking/stories/grow-your-wealth/cryptocurrency101 (ดอต) html
time (ดอต) com/6104899/facebook-reckoning-frances-haugen/
www (ดอต) forbes (ดอต) com/sites/lisakim/2021/10/28/facebook-announces-new-name-meta/?sh=544d768d7f83
:: ::: :::
สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตามเพจ https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat/
กรุ๊ปประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ https://www.facebook.com/groups/thewildchronicles/
กรุ๊ปท่องเที่ยว เที่ยวโหดเหมือนโกรธบ้าน https://www.facebook.com/groups/wildchroniclestravel/
Line Square: https://line.me/ti/g2/8pIcVHp3cc6-jyQJdzIFrg
และ youtube: https://youtube.com/user/Apotalai