[CR] ดูบอล WELLA DA CAFE CHIANGMAI ฉำฉา สันกำแพง ทัดหมอกเด่นทีวี บ้านระเบียงดาว เมืองคอง เชียงใหม่

"อย่าให้ข้อจำกัด มาเป็นอุปสรรคในการเดินทาง คนเดียว"
.
หลังจากที่สถานนะโควิดเริ่มดีขึ้น ก็ลองหาที่พักผ่อน นอนชิลๆ ก็เลยคิดว่าเชียงใหม่น่าจะเป็นที่ใช่สำหรับเรา ด้วยที่เราเองก็ไปเชียงใหม่จะทุกๆปีให้หลังมานี่ แต่ก็ยังมีสถานที่ใหม่ๆให้เราออกไปโอบล้อมธรรมชาติอยู่อีกหลายๆที่เช่นเดียวกัน
.
ทริปนี้ติดกล้องฟิล์มไปด้วย คือไม่ได้ถ่ายรูปฟิล์มนานมากน่าจะ 4 ปี พร้อมกับขาตั้งกล้องคู่ใจ เพื่อเอาไว้ตั้งถ่ายตัวเอง เพราะไปคนเดียวนี่ จะให้ใครมาถ่ายให้ล่ะ XT30 ตอบโจทย์ด้วย เพราะสามารถสั่งกดชัตเตอร์ได้จากมือถือ ภาพทั้งหมดในทริปนี้ใช้ XT30 กับ Canonet QL17 ฟิล์ม Kodak Colorplus 200 ติดไป 2 ม้วน
.
ต้องขอบอกก่อนเลยว่าทริปนี้วางแผนเรื่องภาพและโทนพอสมควร โทนจากภาพ XT30 จะออกแนว Dark green เลยต้องถ่ายติดไปทางถ่ายอันเดอร์ไว้ 1-2 สตอป แต่ในส่วนภาพฟิล์ม Kodak Colorplus 200 มันมีเอกลักณ์ของสีอยู่แล้วที่จะติดไปทางสีเหลือง
.
คือ การจะเลือกเอาฟิล์มมาถ่าย หรือ อยากได้โทนสีแบบไหน ให้ดูที่กล่องของสีฟิล์มม้วนนั้น ภาพจากฟิล์มเราไม่ได้แต่งเลย ล้างสแกนมาดิบๆแบบนี้เลยทุกภาพ
.
บวกกับว่าจังหวะดีที่เราเองอยากไปดูบอลด้วย บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ออกไปเยือน เชียงใหม่ ยูไนเต็ด สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ที่พักในตัวเมืองเชียงใหม่ เราเลือกพักที่ กอดเชียงใหม่ ด้วยราคาโปรโมชั่น พร้อมกับตัวที่พักมีอาหารจานเดียวง่ายๆสำหับคนที่เดินทางคนเดียว
.
วิวห้องยังสามารถมองเห็นดอยสุเทพ พร้อมกับทะเลหมอกในช่วงเช้าได้ด้วย การเดินทางในตัวเมืองระหว่างวันเราเลือกใช้ มอไซค์ เช่าวันละสามร้อย เพราะมีแพลนในตัวเมืองหลายจุดที่อยากไปเดินเล่น แต่ก็ใช่ว่าจะไปเดินสนุกได้ เพราะข่าวโรคโควิคในตัวเมืองยังมีตัวเลขที่สูง เราเลยเลือกที่จะตัดแพลนออกไปหลายจุด ให้เหลือแค่จุดหลักๆเดินทางใกล้ๆกัน
.
เริ่มจากวันแรกวัดอุโมงค์ เป็นวัดเก่าแก่ เชียงใหม่ ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ รืออยู่ในซอยหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เข้าวัดไหว้พระก่อนที่จะเริ่มต้นทริป
.
ช่วงเย็นไปดูบอล สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี สนามก็เหมือนแฟนบอลจะน้อยมาก แฟนบอลเจ้าบ้านบางตาเลย ส่วนทีมเยือนเรา บีจี ปทุม น่าจะได้สัก 50 คนได้ มิตรภาพแรกที่เชียงใหม่ก็ได้บังเกิดขึ้น เมื่อเราเองก็นั่งอยู่คนเดียว หลังเราขึ้นไป 3 ชั้นของอัฒจันทร์ ก็มีน้องคนนึงมาดูบอลคนเดียวเหมือนกัน เราเองก็หันไปทักมาจากไหนคับ
น้องบอกจากเชียงใหม่คับ เดิมทีก็เชียร์มานานแล้วที่ ปทุมฯ แต่ด้วยมาทำงานที่เชียงใหม่ก็เลยได้มาดูในฐานนะทีมเยือน จากนั้นเราก็ได้มานั่งดูเกมด้วยกัน พูดคุยกันต่างๆนาๆ น้องนนธวัช จบเกม บีจี ปทุมยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ เชียงใหม่ ยูไนเต็ด 3-1
.
หลังจากนั้นตามหาหมาล่าร้านอร่อยๆกินพอ เพราะด้วยสถานบรรเทิงในตัวเมืองยังไม่เปิดให้บริการ จะมีก็แค่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่มี เหล้า เบียร์ให้ดื่มไปพร้อมอาหาร
.
วันต่อมาฝนตกแต่เช้าเลย ออกแนวเซงๆนิดหน่อย เพราะแพลนวันนี้จะไปคาเฟ่ 3-4 ร้านตามแพลน ฝนตกทุกอย่างเริ่มไม่เป็นใจ เลยต้องตัดร้านออกไป 2 ร้าน เหลือแค่ 2 ร้าน Transit Number 8 คือร้านที่ตัดออก ขี่รถจากที่พักไปร้านแรก WELLA DA CAFE CHIANGMAI“เวลา ดา คาเฟ่ ”
ร้านนี้ชอบตรงแนวบันไดที่เป็นโครงวงกลม คือจุดเดียวเด่นๆเลยที่อยากได้รูปจากจุดนี้ ส่วนอาหารเครื่องดื่มราคาก็ตามปกติ 80-120 อาหารเริ่ม 180 ขึ้นไปแต่ละเมนู โชคดีมากที่ไปร้านพึ่งเปิดคนไม่มีเลย เลยถ่ายรูปง่ายเลย ไม่ติดคน ได้รูปที่พอใจมาก
.
จากนั้นก็ได้พูดคุยกับน้องที่ร้าน ว่าถนนเส้นหน้าร้านสามารถที่จุดไหนที่เที่ยวได้ น้องแนะนำไปจากตรงนี้ 4-5 กิโลจะมีตลาด ฉำฉา สันกำแพง เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 9.00-14.00 น.
.
เดินทางต่อ ฉำฉา สันกำแพง Market Chiang Mai ตลาดของทำมือ เสื้อผ้าฝ้าย ลายสวย งาน Handmade อาหารอร่อย เข้าไปตัวตลาดจะเป็นตลาดกึ่งๆหมูบ้านแนวถนน มีต้นใหม่ร่มให้เดินไม่ร้อน ได้ชาฮาลิน 2 ปุก กับของทำมือ 2 ชิ้น ลืมถ่ายรูป
.
เดินต่อเข้าไปก็จะเจอกับร้านอาหาร มีนา อาหารเพื่อสุขภาพ ไม่ได้กินเพราะโต๊ะเต็ม และเท่าที่ได้ยิน คือ ส่วนมากต้องโทรมาจองก่อน ก็เลยเดินไปเข้าห้องน้ำแล้วกัน ถือซะว่าได้มาเยือนแล้ว
.
ร้านต่อมา นวลคาเฟ่ Nuan cafe & bistro ใกล้ๆที่พักเลย คาเฟ่บรรยากาศสบายที่ให้กลิ่นอายเเบบบ้านโมเดิร์นเมื่อ 50 ปีที่เเล้ว เราไม่ได้ถ่ายรูปจุดนี้ ก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ถ่าย ร้านก็ดูเก๋ดี งงกับตัวเอง
วันถัดมาถึงเวลาที่จะขึ้นเขาไปเมืองคองกันแล้ว เมืองคอง     หมู่บ้านเล็ก ที่ซ่อนตัวท่ามกลางธรรมชาติของ อ.เชียงดาว เริ่มออกจากที่พักในตัวเมือง 05.30 น. ที่ไปไวเพราะอยาก Slow life ด้วยการขี่มอไซค์ แล้วผ่านจุดไหนที่สามารถแวะพัก แวะถ่ายรูปได้จะแวะให้ได้ทุกจุด



จากที่พัก กอดเชียงใหม่ ไป เมืองคอง ระยะทาง 115 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชม.กว่า โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ไปจนถึงศาลแขวงเชียงดาว จากนั้นตัดเข้าทางหลวงหมายเลข 3024 เส้นทางจะเริ่มขึ้นเขาจะเป็นช่วงสลับกับโค้ง และผ่าน 2 อำเภอ ด้วยกันคือ อ.แม่ริน อ.แม่แตง ตลอดข้างทางของถนนเส้นนี้จะเต็มไปด้วยป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงามมากๆ
.
จุดแรกที่แวะก่อนเลย คือ   ถนนสาย 3024 ต้นไม้ใหญ่ เชียงดาว แล้วแนวถนนที่เป็นเส้นตรงสลับโค้งเล็กน้อย ถือเป็นจุดแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยวที่จะแวะถ่ายรูป
.
จุดที่สอง คือ   วัดถ้ำเชียงดาว ที่เป็นตำนานอยู่คู่เชียงดาวมาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะเดินเข้าไปในถ้ำจะเจอกับบ่อน้ำสีเขียวมรกต ตามคำบอกเล่า ซึ่งจุดนี้ผมไม่ได้เข้าไป เพราะยังเช้าและมึด แอบกลัว แต่ก็ได้แวะไปเข้าห้องน้ำ แถวๆบริเวณหน้าวัดอยู่
จุดที่สาม คือ   บ้านระเบียงดาว จุดนี้ตอนแรกว่าจะไม่แวะ เพราะตัวที่พักยังไม่เปิดบริการ แต่ก็ด้วยปวดท้องหนักนี่แหละ เลยทำให้ต้องแวะเข้าไปขอเข้าห้องน้ำ แต่จุดนี้แหละคือจุดสำคัญของมิตรภาพคนใหม่ของทริปนี้อีกเช่นกัน หลังจากที่ทำกิจธุระเสร้จ ก็เลยถามว่าที่นี่มีกาแฟขายไหมคับ
บ้านระเบียงดาว โฮมสเตย์ ก็ยังเปิดในส่วนของน้ำดื่ม กาแฟ ลูกชิ้นนึง เราก็เลยถือโอกาสนั่งดิปกาแฟ ที่จ่าย 50 แต่วิวหลักล้าน เพื่อแลกกับการนั่งชมทะเลหมอกของดอยหลวงเชียงดาว หลังจากที่นั่งไปสักพัก ก็มีน้องผู้ชายคนนึงก็ได้เดินเข้ามา น้องเก่ง เพื่อจะจิบชาที่นี่เช่นกัน ระหว่างนั้นเองน้องเห็นเราตั้งขาตั้งกล้องที่จะถ่ายรูปตัวเอง
.
น้องเก่งก็เอ่ยมาว่า ให้ผมถ่ายให้พี่ไหมคับ แต่กลับกันเราเองได้เอ่ยกลับไปว่าให้พี่ถ่ายให้ก่อนไหม จากนั้นก็ได้ถ่ายรูปให้น้องเก่ง และเราก็สลับกันถ่ายไปมาให้กัน จากนั้นก็ได้นั่งคุยกันสักพัก น้องเก่งบอกว่า ผมก็มาเที่ยวคนเดียวเหมือนกันคับ มานอนที่เชียงดาว แล้วพอดีวันนี้ว่าง เลยกะว่าจะไปขี่มอไซค์เล่นในเมืองคอง น้องยังบอกอีกว่า
.
จริงๆผมขี่เลยจุด บ้านระเบียงดาว ไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะผมก็คิดว่าเขายังไม่เปิด ผมเองก็โทรมาจองว่าจะมากางเต็นท์ที่นี่เหมือนกัน ใจก็คิดว่าคงเข้าไปไม่ได้ แต่ด้วยขี่ผ่านไป แล้วไปเจอคนข้างทาง สอบถามว่า บ้านระเบียงดาว เข้าไปได้ไหม คำตอบที่ได้ คือ เข้าไปดื่มชา กาแฟ พักรถดูทะเลหมอกได้ แค่มาพัก หรือ มากางเต็นท์ไม่ได้แค่นั่น
.
จากนั้นน้องเก่งก็ได้วนรถกลับเข้ามาที่ บ้านระเบียงดาว ก็เป็นไปตามที่เอ่ยไปข้างต้น นั่นแหละคับ มิตรภาพ มันมักจะมาในแบบที่เราไม่ได้เตรียมตัว ของ Timing ที่มันเหมาะสมของมันแค่นั้น นั่งพูดคุยกันสักพัก เราก็ตกลงจะขี่ไปเมืองคองพร้อมกัน จากนั้นเราสองคนก็ได้ออกจาก บ้านระเบียงดาว มุ่งหน้าไปเมืองคอง
.
ความรู้สึกผมหลังจากที่ได้มีเพื่อนร่วมทางเข้ามาอีกหนึ่งคน หนึ่งคัน ผมรู้สึกอุ่นใจในการขี่มอไซค์มากขึ้น เพราะตลอดทางก็ขี่มาคนเดียว แล้วยังเป็นเส้นทางที่เราไม่เคยมาก่อน และด้วยน้องเก่งเองก็มาทริปนี้ ติด Gopro 10 กับ Gopro max มาด้วยน้องเก่งก็ได้ถ่ายคลิปจังหวะที่ผมขี่มอไซค์เป็นช่วงๆ สลับกับเก็บภาพวิวข้างทางที่เต็มไปด้วยป่า ทิวทัศน์สวย
.
จนเรามาถึง เขตบ้านเมืองคอง และก็มีจุดภูเขาติดกับทุ่งนา  น้องเก่งได้บอกพี่เรามาถ่ายรูปตรงจุดนี้ดีกว่า น่าจะสวย และผมเองก็มองว่าจุดนี้สวยเช่นกัน เราจอดมอไซค์เป็นพร็อพถ่ายรูป ถ่ายกันสักพักก็ขี่ต่อเข้าไปเมืองคอง เพราะจุดที่จอด ยังไม่ถึงดี ยังห่างระยยทางอีก 8-10 กม.
.
จุดที่ห้า คือ  สะพานมิตรภาพแม่น้ำคอง ถือเป็นจุดแลนด์มาร์ค ของการเช็คอินเมืองคองเลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าใครที่เป็นนักท่องเที่ยวมักจะมาแวะถ่ายภาพกันจุดนี้ เราให้มอไซค์เป็นพร็อพถ่ายรูปอีกเช่นเคย น้องเก่งเองก็บอกพี่คับผมอยากได้ท่าโพสแบบนี้ เราก็โอเคเลย คือ ท่าโพสนี้เราไม่ได้คิดไว้ในหัวมาก่อนด้วยซ้ำ คือ การขึ้นไปยืนบนเบาะรถ
.
หลังจากที่ถ่ายภาพกับ แลนด์มาร์ค สะพานมิตรภาพแม่น้ำคอง ก็ได้ตกลงกันจะขี่ไปหาที่พักก่อน ซึ่งมือถือผมเองก็ไม่มีสัญญาณ น้องเก่งที่ใช้ AIS ก็ได้อาศัยนำทาง เพื่อพาผมไป อ้ายด่องโฮมสเตย์ จากจุดสะพานขี่เข้าไปประมานอีก 5 นาที ถนนสองข้างทางจะเป็นทุ่งนาที่กำลังออกรวงเม็ดโต
.
เราขี่กันมาถึงที่พัก  "อ้ายด่องโฮมสเตย์ " อ้ายด่องโฮมสเตย์ เป็น โฮมสเตย์กระท่อมไม้ไผ่ ที่ติดกับทุ่งนา วิวจากตัวที่พักจะเห็นแนวภูเขารอบ สลับกับหมอกตามแนวเขา - ค่าที่พัก 600 บาท/คน รวมอาหารเช้า-เย็น หรือจะพักอย่างเดียวก็ 350 แล้วมื้อเย็นก็สั่งเป็นหมูกะทะมากินก็ได้ ส่วนผมเลือก ราคา 600 เพราะตัวคนเดียว กินง่ายๆ
ชื่อสินค้า:   นอนกอดเชียงใหม่ ต่อด้วย อ้ายด่อง เมืองคองโฮมสเตย์
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่