ครอบครัววิตามินเอ ละเอียดยิบ Retinol VS Retinoic acid!!

รู้จักครอบครัววิตามินเอ


อย่างที่ทุกคนฟัง Influencer Beauty blogger
Ad โฆษณาต่าง ๆรวมถึงฟังหมอและเภสัชกร
ก็ได้รับรู้ถึงครอบครัววิตามินเอ
ว่าใช้รักษาสิว และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้
แต่ปัญหาคืออนุพันธ์ตัวไหนที่ทำได้
เพราะฉะนั้นวันนี้มาลงดีเทลของอนุพันธ์วิตามินเอทั้งหมด
เพื่อที่เราจะได้เข้าใจ เรียกได้ถูกและใช้ถูกต้องนะคะ ^^

เริ่มจาก
Retinoid คือสารในกลุ่มเบต้าแคโรทีน (beta carotene) ที่พบตามธรรมชาติ
เป็นคำหลักที่ความหมายครอบคลุม  "วิตามินเอ และอนุพันธุ์ของวิตามินเอ ”
แบ่งเป็น 4 กลุ่มหลักๆ
1. retinoic acid (กรดวิตามินเอ )
2. retinaldehyde
3.retinol (วิตามินเอ)
4. retinyl esters เช่น retinyl propionate และ retinyl palmitate  

โดยความสัมพันธ์ของ 4 กลุ่มนี้คือ
                                                                    Retinyl esters >>> Retinalfehyde >>Retinol >. Retinoic acid
1️⃣   การออกฤทธิ์
retinyl esters, retinol, retinaldehyde จัดเป็นสารตั้งต้นที่จะต้องถูกเปลี่ยนแปลงไปเป็นสารออกฤทธิ์คือ retinoic acid
2️⃣    Efficacy ในการรักษาสิว /ลดเลือนริ้วรอย
Retinyl esters น้อย และ Retinoic acid มากที่สุด
3️⃣   Side effect (ผลข้างเคียงแสบแดงแห้งลอก)
Retinyl esters น้อย และ Retinoic acid มากที่สุด
4️⃣    แบ่งตามกฎหมาย (เครื่องสำอาง และยา)
Retinyl esters (คสอ.) à Retinol (คสอ.)à Retinaldehyde (คสอ.)à Retinoic acid (ยาควบคุมพิเศษ)
 
💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡
 
1️⃣  Retinoic acid (Tretinoin)
จัดว่าเป็น metabolite หรือสารออกฤทธิ์ ของ Retinoid
ที่สามารถซึมลงชั้นหนังแท้ได้ (Dermis)
ด้วยความดีงามในการออกฤทธิ์จึงได้รับการอนุมัติจาก USFDA
ให้ใช้รักษาสิวในระดับรุนแรง และ ใช้ดูแลผิวจาก photoaging
มีผลข้างเคียงชัดเจน คือ แสบ แดง แห้ง ลอก 
และตามกฎหมายไทยรวมถึงหลายๆประเทศก็ถูกจัดเป็น #ยาควบคุมพิเศษ
มีทั้งแบบยากินและยาทา
ต้องถูกสั่งโดยแพทย์และจ่ายยาโดยเภสัชกรเท่านั้น

#Tradename ยาทา (Tretinoin)
ACNETIN-A / Retacnyle / DermaKlares, 

#Tradename ยากิน (IsoTretinoin)
ใช้รักษาสิวระดับรุนแรง ที่ใช้ยาทาและการรักษาต่างๆแล้วไม่ได้ผล
Roaccutane (โรแอคคูเทน) , Acnotin (แอคโนติน) , Sotret (โซเทรท) , Isotane (ไอโซเทน)
 
 
#ข้อดี (พูดเฉพาะยาทา!!)
ด้วยความเป็นยา(โบราณ)จึงมีงานวิจัยเยอะมากๆ
💊ด้านยา
0.1% มีกลไกการรักษาสิวชัดเจน คือ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการสร้าง Sebum จึงลดสิวอุดตัน

🧴ด้านSkincare
มี 0.025 –0.05% เป็น dose dependent เรียกง่ายๆยิ่งแรงยิ่งดี
0.05% ใช้ 4-8 สัปดาห์ จะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 
ช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง
และลด elastin ที่ผิดปกติจาก Photoaging /
ใช้ต่อเนื่อง 16 สัปดาห์ ยับยั้งการขนส่ง melanosome ทำให้เม็ดสีลดลง ความหมองคล้ำลด ผิวก็ดูใสขึ้น

#ข้อเสีย (พูดเฉพาะยาทา!!)
ผลข้างเคียง เยอะ ทำให้สิวเห่อช่วงแรก เพราะผลัดเซลล์ผิวแล้วเอาสิวใต้ผิวออกมาและทำให้หน้าแห้งมาก
 
#ทาเงลือกใหม่ ที่ผลข้างเคียงน้อยกว่า
Adapalene,  tazarotene, trifarotene
Gen3 ผลการรักษาสิวใกล้เคียงเดิม แต่ผลข้างเคียงลดลง (เรื่อง Photoaging ยังไม่มีผลชัดๆ)
เพราะไม่ได้จับ receptor ครบทั้งแอลฟ่า แกมม่า และเบต้าแบบ Tretinoin (Gen1)

Tradename เช่น 
Epiduo = Adapalene+Benzac
Differin = 0.1% Adapalene           
Tazorac, Zorac, Avage = tazarotene

#สรุปการใช้
1.    คหสต. แนะนำให้ใช้รักษาสิว ไม่แนะนำให้ใช้เสริมคอลลาเจนในทางสกินแคร์
อ่านได้ตามลิงก์นี้ >////<
📌โรแอคไม่ได้มีไว้มีรักษาสิวจากการแพ้ครีม📌
https://ppantip.com/topic/40554351

ใช้ Retin-A เป็น Antiaging ดีมั้ยคะ❓
https://ppantip.com/topic/40546239

2. ทากลางคืน เพราะ photosensitive
3. ช่วงแรกให้ทาแบบ short contact ใช้แล้วล้าง แล้วค่อยๆทาทิ้งไว้แบบ2-3วันทาทีนึง
4. ต้องใช้มอยส์เจอร์และใช้กันแดด เพื่อลดผลข้างเคียงแสบแดงแห้งลอกและอาการไวแดด โดยทามอยส์เจอร์ก่อนแล้วค่อยทากรดวิตามินเอ
5. คนแพ้ไม่ควรใช้ คนท้องและคนวางแผนจะท้องไม่ควรใช้ เพราะทำให้ทารกพิการ

💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡
 
2️⃣    Retinal (Retinaldehyde)
เป็น Active ทางเครื่องสำอางที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของกลุ่ม Retinoid
 ที่ อ.ย. อนุญาติให้ใช้ในเครื่องสำอาง
ทาลงผิวแล้วเปลี่ยนเป็น Retinoic acid ได้ ใช้อยู่ที่ 0.05-0.1%
กลไกการออกฤทธิ์คล้ายๆ retinol
.
ข้อเสีย คือ 
เสื่อมไว ไม่เสถียร
แบรนด์สกินแคร์ไม่ค่อยเอาตัวนี้มาใช้

💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡

3️⃣   Retinol (วิตามินเอ)
#ข้อดี
1.    เป็น Active ที่ Skin care นิยมใช้ที่สุด ใช้ได้ตั้งแต่ 0.1-1% โดย 0.1% ใช้กับสารผลัดเซลล์ผิวอื่นๆได้ เช่น AHA/BHA
2.    หาซื้อใช้ได้เองไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
3.    การออกฤทธิ์คล้ายๆ Tretinoin แต่เบากว่า ดังนั้น หวังผลให้ริ้วรอยเล็กๆดูจางลง/ รูขุมขนดูเล็กลง / ผิวดูใสขึ้นได้
.
#ข้อเสีย
1.     ต้องเปลีย่น 2 รอบกว่าจะเป็น Retinoic acid
2.     ใช้เวลานานกว่าจะเห็นผล (Tretinoin ดีกว่า 20เท่า)
3.      FDA ไม่ได้ approve ว่าช่วยเรื่อง Photoaging

💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡
 
 4️⃣   Retinyl ester 3 รอบ  --Retinol –Retinal – Retinoic acid
ราคาถูกมาก ประสิทธิภาพจำกัด แต่ผลข้างเคียงน้อยมาก 
 เพราะต้องเปลี่ยน 3 รอบกว่าจะออกฤทธิ์
ไม่ใช่ตัวที่นิยมเอามาทำ skin care แบบเวชสำอางเท่าไหร่

หมดแล้วกับครอบครัววิตามินเอทั้ง 4 ตัว
สิ่งนึงที่อยากฝากก่อนจบ
บทความนี้รักให้ FACT หรือ ข้อเท็จจริงเพียงอย่างเดียว
เพื่อให้ทุกคนรู้จัก 1 ใน active ingredient ที่กำลังเป็น trend ในปัจจุบันให้มากขึ้น

💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡💛🧡

โดยส่วนตัวรักเอง
รักไม่ได้สรับสนุนให้มีการเอายาหรือตัว Retinoic acid มาใช้เป็น skin care เพื่อลดเลือนริ้วรอย
และแม้กระทั่ง Retinal Retinol  ที่ใช้ใน Skin care เยอะๆด้วยเพราะ
1.    รักมองว่าสกินแคร์มีอีกเยอะที่ให้ผล Antiaging โดยไม่มีผลข้างเคียงแสบแดงแห้งลอก
และตัวรักเองรักษาสิวผิวแห้งจากการใช้ตระกูลวิตามินเอที่ไม่ถูกต้องมาค่อนข้างเยอะ
หลายๆคนเป็นผิวแพ้ง่ายไวแดดไปเลยก็มี กว่าจะหายใช้เวลานานมาก
 
2.    Skin care ก็คือ กฎหมายทางเครื่องสำอาง
เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า Active ที่เค้าใส่กี่ % ความคงตัวดีมั้ย 
บางทีบอกว่าใส่ Retinal แต่ใส่ %ต่ำ Retinol ของอีกเจ้าก็อาจเห็นผลมากกว่า 
หรือบอกว่าใช้ Retinal แต่ถ้าเค้าใส่ Soothing agent ลงไปสูตรก็อาจจะเห็นผลดีกว่า อ่อนโยนกว่า retinol ก็ได้
หรือใส่เยอะบอกเปอร์เซนต์ แต่ความคงตัวไม่ดี เสื่อมไปก่อนก็ใช้ฟรีไปเลย
เรื่องของสูตรเป็นศิลปะ และเป็นความลับทางการค้า 
ผู้บริโภคไม่รู้จนกว่าจะเสี่ยงลองเอง ซึ่งแปลว่าต้องรับผลจากการลองให้ได้ด้วย

ดังนั้น หากใช้เป็น รู้จักผิวตัวเองเป็นอย่างดี รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา
เมื่อไหร่ควรทา เมื่อไหร่ควรหยุดอันนี้รักไม่ห้าม
แต่ถ้าไม่แน่ใจ ลองอะไรก็ไม่ค่อยจะหาย หรือใช้แล้วไม่ตรงใจ
แปลว่าไม่ควรใช้นะคะ

#เพราะรักจึงบอก
#เภสัชกรรัก
 
 คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่