JJNY : 4in1 โอดไร้การเตือน ท่วมรอบซังฮี้│ท่องเที่ยวยัง‘หงอย‘│เอกชนกังวลต่างด้าวลอบเข้าไทย│นัดถก15พ.ย. เคาะปมยื่นอภิปราย

ชาวบ้านโอด ไร้การแจ้งเตือน น้ำทะเลหนุน ท่วมทะลักอ่วมรอบสะพานซังฮี้ เสียหายหนัก
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6720816


ชาวบ้านโอด ไร้การแจ้งเตือน น้ำทะเลหนุน ท่วมทะลักอ่วมรอบสะพานซังฮี้ บางรายเพิ่งเปิดร้านหลังปิดยาวโควิด เพิ่งลงของใหม่เสียหายหนัก
   
เมื่อเวลา 14.50 น.วันที่ 8 พ.ย.2564 ข่าวสดออนไลน์ลงพื้นที่สำรวจโดยรอบสะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้) หลังเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุนสูง ส่งผลให้แม่น้ำเจ้าพระยาล้น เข้าท่วมถนนและบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่กทม.และปริมณฑล
 
จากการสำรวจยังพบว่ามีผู้ประกอบการร้านอาหารในพื้นที่หลายราย ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนราชวิถีมุ่งหน้าพุทธมณฑล มีปริมาณรถค่อนข้างมาก สามารถสัญจรได้ 2 ช่องทาง ส่วนช่องซ้ายสุดมีน้ำท่วมขังสูง ขณะที่ถนนฝั่งมุ่งหน้าสะพานซังฮี้ สามารถใช้ได้ช่องทางเดียว
 
จากการสอบถาม นายทัศนา นกยูงทอง อายุ 39 ปี เจ้าของร้านนวดออนนี ถนนเจ้าพระยาสยาม เปิดเผยว่า น้ำท่วมล้นคันกั้นขึ้นมาจากใต้สะพานซังฮี้ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีการแจ้งเตือนจากภาครัฐเลย อีกทั้งน้ำยังท่วมเร็วจนขนของไม่ทัน ข้าวของเสียหายหลักหมื่นบาท และร้านยวดก็ได้รับผลกระทบมาก เพราะเพิ่งกลับมาเปิดกิจการได้และเพิ่งลงของใหม่หลังโควิดระบาดไม่นาน เมื่อเทียบกับน้ำท่วมตอนปี 2554 ค่อนข้างหนักกว่า ซึ่งน้ำสูงถึงอก
 
ส่วน นายสุรเชษฐ์ วิรุฬธนวงศ์ อายุ 79 ปี เจ้าของร้านวิรุฬอลูมินั่ม เผยว่า ก่อนหน้านี้ไม่มีแจ้งเตือนน้ำหนุนเลย ต้องติดตามข่าวเอาเอง ส่วนเจ้าหน้าที่  เห็นเข้ามาดูแล้วก็ไป
 


ท่องเที่ยวยัง ‘หงอย‘ หลังเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
https://www.nationtv.tv/news/378851166

การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงการยกเลิกเคอร์ฟิวและอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ ขณะที่บรรยากาศในถนนข้าวสารยังไม่คึกคักมากนัก
 
ถนนข้าวสารหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ ที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติต่างปักหมุดเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางเมื่อเดินทางมาท่องเที่ยว มีทั้งสถานบันเทิง ร้านค้า ร้านอาหาร และโฮสเทลราคาประหยัด เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวแบ็คแพ็คเกอร์ชาวต่างชาติรวมไปถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย จะเห็นบรรยากาศที่คึกคักตลอดทั้งวันทั้งคืน ต่างจากปัจจุบันนี้ที่แม้จะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาแล้วแต่ยังค่อนข้างเงียบเหงา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติประปราย
 
ด้านแม่ค้า คนขับรถตุ๊กตุ๊ก และแท็กซี่ บริเวณถนนข้าวสารบอกกับทีมข่าวว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่คึกคัก บรรยากาศโดยรวมยังเงียบเหงา ส่วนใหญ่ลูกค้ายังเป็นคนไทย ซึ่งก็หวังว่าหลังจากนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น และอยากให้รัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติว่าประเทศไทยปลอดภัย เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเพิ่มขึ้น
 
ขณะที่แลนมาร์กสำคัญอย่างวัดพระแก้ว วัดโพธิ์ และบริเวณไกล้เคียงยังคงเงียบเหงา นักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่เข้ามาเที่ยวชม ขณะที่ร้านค้าต่างๆ บริเวณนี้เปิดให้บริการเป็นบางส่วน
 
ข้อมูลจาก KKP Research เกียรตินาคินภัทร ระบุว่า แม้ไทยจะเป็นประเทศลำดับต้น ๆ ในภูมิภาคที่เริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว แต่ข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศที่ยังมีอยู่ ทั้งมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกเพื่อการท่องเที่ยวของประเทศต้นทาง จำนวนเส้นทางบินที่ลดลงจากธุรกิจการบินที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักในช่วงโควิด
 
รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของไทย ที่ยังไม่มีท่าทีว่ารัฐบาลจีนจะเปิดให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวได้เร็วๆ นี้ ส่งผลต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในระยะแรก ก่อนที่การท่องเที่ยวจะทยอยกลับมาคึกคักมากขึ้นช่วงครึ่งหลังของปี 2565 โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งปีประมาณ 5.8 ล้านคน ต่ำกว่า 40 ล้านคนในปี 2562


 
เอกชนกังวลต่างด้าวลอบเข้าไทยเสี่ยงโควิดพุ่ง
https://www.innnews.co.th/news/economy/news_228631/
 
เอกชน ห่วง ลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวเสี่ยงโควิด-19 ระบาดเพิ่ม เร่งรัฐลดขั้นตอนนำเข้าแรงงานให้เร็ว ชี้ ขาดอีก 5แสนคน หากช้ากระทบการผลิต
 
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ภาคเอกชนมีความกังวลในเรื่องของการลักลอบเข้าประเทศของแรงงานต่างด้าวอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งต้องยอมรับว่าการลักลอบดังกล่าวเกิดจากการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ที่ยังคงมีความต้องการแรงงานสูงไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง อาหาร แต่ไม่สามารถนำเข้าแรงงานได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะมีการลงนามระหว่างรัฐต่อรัฐ เพื่อให้มีการนำเข้าแรงงานอย่างถูกกฎหมายแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าระเบียบขั้นตอนปฏิบัติของทางราชการยังมีความละเอียดอ่อน ทำให้ขาดความรวดเร็ว ไม่ทันกับความต้องการของผู้ประกอบการที่สูงขึ้น จึงเป็นเหตุให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย

ซึ่งทางภาคเอกชนไม่อยากเห็นความผิดพลาดเกิดขึ้น จนมีการระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มของแรงงานอีก เพราะจะยิ่งส่งผลกระทบทำให้การขาดแคลนแรงงานมีมากขึ้น โดยการนำเข้าแรงงานที่ถูกกฎหมายจึงเป็นตัวเลือกที่ดีแต่ต้องทำได้อย่างรวดเร็วและภาคเอกชนพร้อมที่จะสนับสนุนในเรื่องของค่าใช้จ่ายการตรวจโรค กักตัว เพื่อทำให้มีแรงงานเพียงพอในประเทศ โดยการขาดแคลนแรงงานเวลานี้ในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัวกิจกรรมทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตสินค้าได้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่