“หลับฝันดีค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะสำหรับวันนี้ สนุกมากค่ะ” ฉันชื่นชมและขอบคุณเขา เพราะเขาจะได้มีกำลังใจพาเที่ยวพรุ่งนี้อีก
สะพานทอดยาวขึ้นเรื่อยๆ ต้องเป็นความพยายาม สะพานถึงจะทอดยาวต่อไป อิอิ..
กว่าฉันจะลุกขึ้นมาได้ ก็สายกว่าเมื่อวาน เพราะเมื่อคืนจิบไวน์ไปหลายแก้ว ลงมาข้างล่าง เจอคริสต์ยิ้มหวานให้ วันนี้ดูเขาสดชื่นแจ่มใสมาก เหมือนกำลังมีเซอร์ไพรส์อะไรสักอย่าง แต่ดูอาการเหมือนเขากำลังเก็บความลับไว้
แต่ฉันทำเป็นไม่รู้ แกล้งไปอย่างนั้นเผื่อมีอะไรให้ตื่นเต้นบ้าง แบบนี้ต้องมีท่าทีกันหน่อย อย่าปล่อยไก่เร็วไป ใจเย็นๆนะชมดาว
“ สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะคริสต์” ฉันชิงพูดก่อนที่เขาจะพูด
“ครับสุขสันต์วันคริสต์มาส มีความสุขมากๆนะครับ เดี๋ยวผมจะพาเที่ยวครับวันนี้ รับรองคุณชมดาวต้องติดใจแน่นอน”
คริสต์พูดไปยิ้มไป ดูเขาน่ารักมาก ชักชอบเขามากขึ้นซะแล้ว ยังไม่รู้เลยว่ามีครอบครัวแล้วหรือยัง ไม่มีโอกาสถามเขาสักที แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวเขาจะตอบว่ามีแล้ว แง....แง...ลุ้นกันต่อไป รออะไรได้ก็รอไปก่อนนะ ใจเย็นๆนะชมดาว
“พร้อมหรือยังครับ” เขาถามมา ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข มองดูคริสต์มีความสุข ฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“ พร้อมแล้วค่ะ ไปได้เลยค่ะ” ฉันพร้อมเที่ยวอีกวันหนึ่ง เป็นการเที่ยวที่ไม่ทำให้ฉันเหนื่อยมาก ถ้าไปคนเดียวคงไปเที่ยวได้ไม่มากเท่านี้
คริสต์ขับรถยนต์ที่เช่ามาพาฉันออกไปจากตัวเมือง สักพักฉันจึงถามคริสต์
“วันนี้พาเที่ยวที่ไหนค่ะคริสต์ ไกด์หนุ่มสุดหล่อ” ฉันเริ่มพูดจาเป็นกันเองกับเขาได้เพราะรู้จักกันหลายวันแล้ว คริสต์ยิ้มและพูดว่า
“ผมจะพาคุณชมดาวไปเที่ยวที่แห่งหนึ่ง ที่ผมชอบมากที่สุดครับ และคุณชมดาวต้องชอบเหมือนผม บ้านผมเองครับ” คริสต์ยิ้มพร้อมหัวเราะ
“ หา...จริงหรือค่ะ ทางบ้านคุณไม่ว่าอะไรเหรอที่พาคนแปลกหน้าไปบ้านในวันคริสต์มาส” ฉันเริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย
“ที่บ้านผมมีคุณแม่ คุณพ่อและน้องสาวครับ” คริสต์ตอบอย่างมั่นใจ และภูมิใจที่จะพาฉันไปเที่ยวบ้านของเขา
“ จริงหรือค่ะ คุณยังอาศัยอยู่กับครอบครัวพ่อแม่หรือค่ะ” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ
“ครับ เพราะผมและน้องสาวยังไม่มีครอบครัวกันเลยครับ” คริสต์ตอบแบบแอบคิดอะไรอยู่
อุ๊ย.. สะพานเริ่มทอดยาวออกไปเรื่อยๆ ฉันเริ่มมีโอกาสมากขึ้นละครานี้
“ ว้าว..ว้าว เกรงใจทางครอบครัวคุณนะค่ะ เพราะฉันกลัวพ่อแม่คุณอยากจะอยู่ส่วนตัวกันในวันสำคัญค่ะ”
ฉันรีบพูดดักคอไว้ก่อน แต่ก็แอบคิดในใจว่า ถ้าเขาโสดจริงก็น่าสนใจนะ เพราะคริสต์เขาดูดี น่ารัก และตอนนี้ก็น่ากอดจัง อิอิ..มโนเอง
“ คุณพ่อคุณแม่ผม ท่านทราบแล้วว่าคุณชมดาวจะไปเที่ยวหาวันนี้ครับ ผมคุยกับท่านแล้วครับ น้องสาวผมก็อยากเห็นคุณครับ” คริสต์พูดเหมือน เขากำลังพาหญิงที่เขาสนใจไปให้พ่อแม่ดูตัว
“ ว้าย...คริสต์รู้ได้อย่างไรว่าฉันยังโสด”
คำถามเกิดขึ้นเต็มหัวฉันเลยตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นนี่เป็นไปได้อย่างไร ฉันก็ไม่แสดงท่าทีอะไรให้เขาเห็นเลยว่าฉันสนใจเขา
พยายามเก็บอาการตลอด คิดได้แต่อยู่ในใจแค่นั้น จะถามเขาดีไหมเนี่ยว่าเขาคิดอย่างไรกับฉันกันแน่ ยังๆๆอย่าดีกว่า
เป็นหญิงต้องเก็บอาการอย่าพยายามเปิดเผยความในใจ ต้องรอให้เขาพูดขึ้นมาก่อน
สะพานยาวมากแล้วตอนนี้ ใกล้ถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว จะถึงไหมหนอ...
ฉันนั่งเงียบตลอดทาง คริสต์ก็ชวนคุยตลอด ฉันฟังเขาอย่างเดียว และตอบรับออกไปบ้าง เพราะคำพูดของเขาทำให้ฉันคิดมาก เริ่มสับสนในใจ แต่ก็แอบดีใจ ที่คริสต์เปิดโอกาสให้ฉันได้รู้จักคนในครอบครัวของเขา
“ ใกล้ถึงบ้านผมแล้วครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณชมดาวไปสถานที่ท่องเที่ยวก่อน พอเที่ยวเสร็จค่อยเข้าบ้านกันนะครับ”
คริสต์พาไปเทอมอลสปริง สถานที่สปา มีบ่อน้ำพุร้อน 5 บ่อใหญ่ที่สุดในเมืองนี้
หลังจากแช่น้ำพุร้อนแล้วรู้สึกสบายตัวมาก สดชื่นฟื้นคืนจากความเหนื่อยล้าเลยทีเดียว จากนั้นคริสต์พาไปรอบๆเมืองคาร์โลวี วารี เป็นเมืองเล็กๆแต่สวยงาม สงบเงียบ น่าอาศัยอยู่มาก พอได้เวลาเย็นๆเขาพาไปบ้านของเขา
ฉันเริ่มรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากที่ตื่นเต้นมาแล้วหลายครั้ง พอมาถึงบ้านคริสต์ พ่อแม่และน้องสาวออกมาต้อนรับขับสู้อย่างดี
ความเป็นมิตรของครอบครัวคริสต์ ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้มาร่วมกินอาหารมื้อค่ำ และฉลองวันคริสต์มาสที่บ้านของจิตรกรวาดรูปเหมือนที่สะพานชาร์ลส์ ที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน
เหมือนความฝัน ฉันพยายามถามตัวเองตลอดว่านี่เป็นความจริงหรือไม่ แต่ก็จะได้คำตอบเหมือนเดิมว่านี่คือเป็นความจริง ไม่ได้ฝันนะ
หลังจากกินอาหารมื้อค่ำเสร็จ ทางครอบครัวของคริสต์มอบของขวัญให้ฉันกล่องเล็กๆหนึ่งกล่อง และแม่ของคริสต์แอบกระซิบบอกฉันว่า
“ คริสต์เขาชอบคุณมาก เขาโทรมาบอกแม่ตั้งแต่วันที่เขาได้เจอคุณแล้ว เขาบอกคุณเป็นนางในฝันที่เขาเคยฝันเอาไว้ว่าจะได้เจอบนสะพานชาร์ลส์ หวังว่าคุณคงชอบเขาด้วยนะค่ะ คริสต์เขาเป็นเด็กดีมาตลอดค่ะ”
“ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากนะค่ะ ฉันกลับละคะ” ฉันบอกลาพ่อแม่และน้องสาวคริสต์ อ้อมกอดของพ่อแม่คริสต์ ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก ไม่คิดว่าครอบครัวของคริสต์จะดีกับฉันมากขนาดนี้ ปลื้มมากๆ
สะพานใกล้ถึงฝั่งแล้ว ทอดยาวอีกนิดก็น่าจะแตะถึงพื้นอีกฝั่งละ
เรากลับกรุงปรากมาด้วยกัน ตลอดระยะทางที่กลับ คริสต์ร้องเพลงอย่างมีความสุขและเล่าเรื่องตอนเขาเป็นเด็ก เรื่องครอบครัวและเรื่องต่างๆมากมาย เหมือนเขาเปิดฉากเล่าเรื่องราวของหนุ่มให้แฟนสาวฟัง นี่เขาชอบฉันได้อย่างไรนะ ไม่น่าเชื่อ ฉันเป็นนางในฝันของเขาเลยเหรอ บอกตรงๆฉันยังอยู่กับความสงสัยและความฉงนมาตลอดเส้นทางจากเมืองคาร์โลวี วารีกลับจนถึงกรุงปราก
ระหว่างทางหิมะเริ่มตกโปรยปราย เป็นหิมะแรกของปีนี้ คริสต์บอก
จากที่รู้มาหนุ่มสาวถ้าอยู่ด้วยกันในวันหิมะแรกตก จะเป็นเนื้อคู่กัน ว้าว..
ขอให้จริงอย่างที่โบราณว่าเถอะ แอบลุ้นในใจเบาๆ
“ เป็นอย่างไรครับคุณชอบครอบครัวผมไหม” คริสต์ถามฉัน ทำเอาฉันสะดุ้ง ตื่นจากความสงสัยและความฉงน
“ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ หลับฝันดีนะค่ะ” ฉันรีบกล่าวลา และจะรีบเดินหนีเพราะอยากอยู่กับตัวเอง คิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมา แต่คริสต์คว้ามือฉันไว้
“ ผมชอบคุณนะคุณชมดาว คุณชอบผมหรือเปล่าครับ ผมเป็นชายในสเปคคุณบ้างไหม” เขาถามฉันต่อหน้าฉัน
ทำให้ฉันอ่ำอึ้งอยู่ เพราะฉันยังไม่ได้จัดลำดับความคิดของฉันก่อนหน้าหลังเลย เจอเร็วปานสายฟ้าแล่บแบบนี้ คงต้องขอคิดดูก่อน
“ ขอบคุณมากค่ะคุณคริสต์ ฉันต้องขอคิดพิจารณาก่อนนะค่ะ หลับฝันดีค่ะ” ฉันรีบเดินขึ้นห้องทันที คริสต์มองตามจนฉันเข้าห้องไป ฉันนอนคิดทบทวนทั้งคืน สับสน ว้าวุ่นใจ ความคิดผุดขึ้นมาตีกัน ไม่รู้อะไรมาก่อน มาหลัง และฉันก็เผลอหลับไป
เมื่อวานฉันไม่ได้นัดกับคริสต์ เพราะวันนี้ฉันต้องกลับไทยแล้ว เครื่องจะออกตอนบ่าย เขาคงไม่มาแล้วมั้ง เพราะเมื่อวานฉันก็บอกเขาว่าขอเวลาพิจารณาก่อน เขาคงถอยทัพไปแล้วหรือเปล่า หรืออาจผิดหวังตัดใจจากลาไปแล้ว หรือไม่ก็ฟูมฟายทั้งคืน
เสียงโทรศัพท์จากห้องดัง เขาหรือเปล่านะเพราะคงไม่มีใครแน่นอนนอกจากเขา เขายังไม่ถอยทัพเหรอ แต่ถ้ามาคิดดูแล้ว
เขาก็เป็นคนดีเหมือนกัน หน้าตาดี นิสัยดี การงานดี และครอบครัวดี ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่เวลามันเร็วไปนิดหนึ่งที่จะตอบรับเขาไป
“ หวัดดีครับ ผมเองครับคุณชมดาว ผมรออยู่ข้างล่างครับ วันนี้ช่วงเช้าผมจะพาคุณไปกินอาหารพื้นเมืองที่อร่อยครับ ก่อนคุณกลับไทยครับ “
“ เดี๋ยวลงไปนะค่ะ รอแป๊บค่ะ” ฉันตอบเขาไป จริงๆใจก็อยากเจอเขาอีกครั้งก่อนกลับไทย วันนี้แหละต้องคุยกันให้รู้เรื่องว่าเขาจะเอาอย่างไร
“มาแล้วค่ะคุณคริสต์” ฉันเก็บอาการไว้ก่อน ค่อยๆดูสถานการณ์และรูปการณ์จะเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิด และสิ่งที่คิดอาจไม่ใช่อย่างที่เห็น
“เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” คริสต์ถามไถ่ แต่ดูสีหน้าคริสต์เขายังคงมีความสุขเหมือนเดิม ไม่ได้กังวลอะไรเลย จากคำตอบของฉันเมื่อวาน ดูเขากลับมีความสุขมากขึ้น
“เรียบร้อยแล้วค่ะ พร้อมทุกอย่างค่ะ” ฉันตอบไปเพราะไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีถ้าฉันทำตัวห่างเหินไป ไหนๆก็ได้รู้จักกันเป็นอาทิตย์ละ
“ คุณคริสต์ค่ะ คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันโสด เพราะฉันไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับครอบครัวฉันให้คุณฟังเลย” ฉันยิงคำถามไปทันทีที่มีโอกาสเพราะฉันก็จะกลับไทยแล้ว ถ้าใช่หรือไม่ใช่ก็จะได้ติดตามผลงานต่อหรือบอกลาไปเลย
“ ก็ผมเห็นในนามบัตรของคุณไงครับ” คริสต์ทำท่าน่ารัก
“ ในนามบัตรเป็นนางสาวแต่อาจแต่งงานแล้วก็ได้นี่ค่ะ” ฉันก็ตอบกลับไป
“ ผมสังเกตคุณตอนที่ผมวาดรูปให้คุณซิครับ เวลาครึ่งชั่วโมงที่ผมวาดรูปคุณ เป็นเวลาที่ผมสัมผัสได้จากหัวใจของผมครับ และผมก็รับรู้ได้จากการพูดคุยและไปเที่ยวด้วยกันครับ” เขาตอบอย่างมั่นใจมาก ว่าเขาดูฉันไม่ผิด เขาช่างมั่นใจซะจริงๆนะพ่อหนุ่มจิตรกร
“ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันก็สนใจคุณ ในเมื่อฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย” ฉันใจดีสู้เสือพูดต่อไปเพื่อให้ได้คำตอบ
“ ก็ตอนที่ผมวาดรูปคุณไงครับ แววตาคุณตอนแรกเศร้าหมอง เย็นชา แต่พอผมวาดไปได้สักพักแววตาของคุณเริ่มสดใส ดูมีความหวัง เวลาคุณจ้องมองผม ผมรู้เลยว่าคุณก็สนใจผมครับ ผมได้ความรู้เรื่องเหล่านี้มาจากการเรียนวาดรูปของผมครับ” พูดจบคริสต์ก็เดินเข้ามากอดฉันและพูดกระซิบข้างหูฉันว่า
“ ผมรักคุณครับคุณชมดาว ผู้หญิงในฝันของผม” คำพูดของเขาทำให้ฉันใจเต้นแรงเพราะกลัวเขาจะจับผิดได้ว่าฉันก็ชอบเขาเหมือนกัน ซึ่งจริงๆฉันก็แอบปิ๊งเขาตั้งแต่แรกพบ
“คุณรู้ไหมครับว่าตอนที่ผมวาดรูปคุณ ใจผมเต้นแทบจะหลุดออกมานอกหน้าอกครับ แต่ผมพยายามเก็บความรู้สึกผมเอาไว้ ผมชอบคุณตั้งแต่คุณให้ผมทายว่าคุณมาจากประเทศอะไรครับ
“ แม่เจ้า..เขาดูฉันออกตั้งแต่แรกแล้ว ฮ่าๆๆๆ พยายามเก็บอาการแล้วน้า”
…. และแล้วสะพานที่ทอดออกไป ก็สามารถถึงอีกฝั่งอย่างสมบูรณ์แบบ.....
.....ฉันได้เดินข้ามสะพานที่ทอดออกไป ข้ามไปหาคริสต์อีกฝั่งดั่งที่ตั้งใจไว้.....
“ขอบคุณคริสต์มากนะค่ะ ที่คุณรักฉัน ฉันก็รักคุณค่ะ” ฉันกอดเขา
ผ่านไป 6 เดือน วันนี้ซินะที่คริสต์จะมาถึงเมืองไทย
.....ฉันมองรูปวาดที่คริสต์วาดให้ฉันทุกวัน และวันนี้ฉันนั่งมองรูปนั้นตั้งแต่เช้า และมองทะลุเข้าไปข้างใน นึกถึงวันเวลาที่ฉันไปเที่ยวที่กรุงปราก รูปนี้ทำให้ฉันได้เจอคริสต์ ชายหนุ่มจิตรกรที่วาดรูปบนสะพานชาร์ลส์ ซึ่งบอกว่าฉันเป็นนางในฝันของเขา......
สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยกับเวลาของประเทศไทย
“ หวัดดีค่ะคริสต์ ขอต้อนรับสู่ประเทศไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณมาเที่ยวประเทศไทยอย่างที่คุณตั้งใจไว้ ระยะเวลา 2 อาทิตย์ฉันจะพาคุณเที่ยวทุกที่ที่คุณต้องการค่ะ ฉันจะเป็นไกด์ที่ดี ให้เหมือนกับคุณเป็นไกด์พาฉันเที่ยวที่กรุงปรากค่ะ คุณพร้อมหรือยังค่ะ”
..... ฉันกล่าวต้อนรับคริสต์แฟนหนุ่มจากกรุงปรากด้วยความรักและคิดถึง...
บังเอิญพบรัก...ที่กรุงปราก ตอน 3
สะพานทอดยาวขึ้นเรื่อยๆ ต้องเป็นความพยายาม สะพานถึงจะทอดยาวต่อไป อิอิ..
กว่าฉันจะลุกขึ้นมาได้ ก็สายกว่าเมื่อวาน เพราะเมื่อคืนจิบไวน์ไปหลายแก้ว ลงมาข้างล่าง เจอคริสต์ยิ้มหวานให้ วันนี้ดูเขาสดชื่นแจ่มใสมาก เหมือนกำลังมีเซอร์ไพรส์อะไรสักอย่าง แต่ดูอาการเหมือนเขากำลังเก็บความลับไว้
แต่ฉันทำเป็นไม่รู้ แกล้งไปอย่างนั้นเผื่อมีอะไรให้ตื่นเต้นบ้าง แบบนี้ต้องมีท่าทีกันหน่อย อย่าปล่อยไก่เร็วไป ใจเย็นๆนะชมดาว
“ สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะคริสต์” ฉันชิงพูดก่อนที่เขาจะพูด
“ครับสุขสันต์วันคริสต์มาส มีความสุขมากๆนะครับ เดี๋ยวผมจะพาเที่ยวครับวันนี้ รับรองคุณชมดาวต้องติดใจแน่นอน”
คริสต์พูดไปยิ้มไป ดูเขาน่ารักมาก ชักชอบเขามากขึ้นซะแล้ว ยังไม่รู้เลยว่ามีครอบครัวแล้วหรือยัง ไม่มีโอกาสถามเขาสักที แต่ก็ไม่กล้าถามเพราะกลัวเขาจะตอบว่ามีแล้ว แง....แง...ลุ้นกันต่อไป รออะไรได้ก็รอไปก่อนนะ ใจเย็นๆนะชมดาว
“พร้อมหรือยังครับ” เขาถามมา ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุข มองดูคริสต์มีความสุข ฉันก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“ พร้อมแล้วค่ะ ไปได้เลยค่ะ” ฉันพร้อมเที่ยวอีกวันหนึ่ง เป็นการเที่ยวที่ไม่ทำให้ฉันเหนื่อยมาก ถ้าไปคนเดียวคงไปเที่ยวได้ไม่มากเท่านี้
คริสต์ขับรถยนต์ที่เช่ามาพาฉันออกไปจากตัวเมือง สักพักฉันจึงถามคริสต์
“วันนี้พาเที่ยวที่ไหนค่ะคริสต์ ไกด์หนุ่มสุดหล่อ” ฉันเริ่มพูดจาเป็นกันเองกับเขาได้เพราะรู้จักกันหลายวันแล้ว คริสต์ยิ้มและพูดว่า
“ผมจะพาคุณชมดาวไปเที่ยวที่แห่งหนึ่ง ที่ผมชอบมากที่สุดครับ และคุณชมดาวต้องชอบเหมือนผม บ้านผมเองครับ” คริสต์ยิ้มพร้อมหัวเราะ
“ หา...จริงหรือค่ะ ทางบ้านคุณไม่ว่าอะไรเหรอที่พาคนแปลกหน้าไปบ้านในวันคริสต์มาส” ฉันเริ่มตื่นเต้นเล็กน้อย
“ที่บ้านผมมีคุณแม่ คุณพ่อและน้องสาวครับ” คริสต์ตอบอย่างมั่นใจ และภูมิใจที่จะพาฉันไปเที่ยวบ้านของเขา
“ จริงหรือค่ะ คุณยังอาศัยอยู่กับครอบครัวพ่อแม่หรือค่ะ” ฉันถามเพื่อความแน่ใจ
“ครับ เพราะผมและน้องสาวยังไม่มีครอบครัวกันเลยครับ” คริสต์ตอบแบบแอบคิดอะไรอยู่
อุ๊ย.. สะพานเริ่มทอดยาวออกไปเรื่อยๆ ฉันเริ่มมีโอกาสมากขึ้นละครานี้
“ ว้าว..ว้าว เกรงใจทางครอบครัวคุณนะค่ะ เพราะฉันกลัวพ่อแม่คุณอยากจะอยู่ส่วนตัวกันในวันสำคัญค่ะ”
ฉันรีบพูดดักคอไว้ก่อน แต่ก็แอบคิดในใจว่า ถ้าเขาโสดจริงก็น่าสนใจนะ เพราะคริสต์เขาดูดี น่ารัก และตอนนี้ก็น่ากอดจัง อิอิ..มโนเอง
“ คุณพ่อคุณแม่ผม ท่านทราบแล้วว่าคุณชมดาวจะไปเที่ยวหาวันนี้ครับ ผมคุยกับท่านแล้วครับ น้องสาวผมก็อยากเห็นคุณครับ” คริสต์พูดเหมือน เขากำลังพาหญิงที่เขาสนใจไปให้พ่อแม่ดูตัว
“ ว้าย...คริสต์รู้ได้อย่างไรว่าฉันยังโสด”
คำถามเกิดขึ้นเต็มหัวฉันเลยตอนนี้ เกิดอะไรขึ้นนี่เป็นไปได้อย่างไร ฉันก็ไม่แสดงท่าทีอะไรให้เขาเห็นเลยว่าฉันสนใจเขา
พยายามเก็บอาการตลอด คิดได้แต่อยู่ในใจแค่นั้น จะถามเขาดีไหมเนี่ยว่าเขาคิดอย่างไรกับฉันกันแน่ ยังๆๆอย่าดีกว่า
เป็นหญิงต้องเก็บอาการอย่าพยายามเปิดเผยความในใจ ต้องรอให้เขาพูดขึ้นมาก่อน
สะพานยาวมากแล้วตอนนี้ ใกล้ถึงอีกฝั่งหนึ่งแล้ว จะถึงไหมหนอ...
ฉันนั่งเงียบตลอดทาง คริสต์ก็ชวนคุยตลอด ฉันฟังเขาอย่างเดียว และตอบรับออกไปบ้าง เพราะคำพูดของเขาทำให้ฉันคิดมาก เริ่มสับสนในใจ แต่ก็แอบดีใจ ที่คริสต์เปิดโอกาสให้ฉันได้รู้จักคนในครอบครัวของเขา
“ ใกล้ถึงบ้านผมแล้วครับ เดี๋ยวผมจะพาคุณชมดาวไปสถานที่ท่องเที่ยวก่อน พอเที่ยวเสร็จค่อยเข้าบ้านกันนะครับ”
คริสต์พาไปเทอมอลสปริง สถานที่สปา มีบ่อน้ำพุร้อน 5 บ่อใหญ่ที่สุดในเมืองนี้
หลังจากแช่น้ำพุร้อนแล้วรู้สึกสบายตัวมาก สดชื่นฟื้นคืนจากความเหนื่อยล้าเลยทีเดียว จากนั้นคริสต์พาไปรอบๆเมืองคาร์โลวี วารี เป็นเมืองเล็กๆแต่สวยงาม สงบเงียบ น่าอาศัยอยู่มาก พอได้เวลาเย็นๆเขาพาไปบ้านของเขา
ฉันเริ่มรู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากที่ตื่นเต้นมาแล้วหลายครั้ง พอมาถึงบ้านคริสต์ พ่อแม่และน้องสาวออกมาต้อนรับขับสู้อย่างดี
ความเป็นมิตรของครอบครัวคริสต์ ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีโอกาสได้มาร่วมกินอาหารมื้อค่ำ และฉลองวันคริสต์มาสที่บ้านของจิตรกรวาดรูปเหมือนที่สะพานชาร์ลส์ ที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วัน
เหมือนความฝัน ฉันพยายามถามตัวเองตลอดว่านี่เป็นความจริงหรือไม่ แต่ก็จะได้คำตอบเหมือนเดิมว่านี่คือเป็นความจริง ไม่ได้ฝันนะ
หลังจากกินอาหารมื้อค่ำเสร็จ ทางครอบครัวของคริสต์มอบของขวัญให้ฉันกล่องเล็กๆหนึ่งกล่อง และแม่ของคริสต์แอบกระซิบบอกฉันว่า
“ คริสต์เขาชอบคุณมาก เขาโทรมาบอกแม่ตั้งแต่วันที่เขาได้เจอคุณแล้ว เขาบอกคุณเป็นนางในฝันที่เขาเคยฝันเอาไว้ว่าจะได้เจอบนสะพานชาร์ลส์ หวังว่าคุณคงชอบเขาด้วยนะค่ะ คริสต์เขาเป็นเด็กดีมาตลอดค่ะ”
“ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากนะค่ะ ฉันกลับละคะ” ฉันบอกลาพ่อแม่และน้องสาวคริสต์ อ้อมกอดของพ่อแม่คริสต์ ทำให้ฉันรู้สึกซาบซึ้งมาก ไม่คิดว่าครอบครัวของคริสต์จะดีกับฉันมากขนาดนี้ ปลื้มมากๆ
สะพานใกล้ถึงฝั่งแล้ว ทอดยาวอีกนิดก็น่าจะแตะถึงพื้นอีกฝั่งละ
เรากลับกรุงปรากมาด้วยกัน ตลอดระยะทางที่กลับ คริสต์ร้องเพลงอย่างมีความสุขและเล่าเรื่องตอนเขาเป็นเด็ก เรื่องครอบครัวและเรื่องต่างๆมากมาย เหมือนเขาเปิดฉากเล่าเรื่องราวของหนุ่มให้แฟนสาวฟัง นี่เขาชอบฉันได้อย่างไรนะ ไม่น่าเชื่อ ฉันเป็นนางในฝันของเขาเลยเหรอ บอกตรงๆฉันยังอยู่กับความสงสัยและความฉงนมาตลอดเส้นทางจากเมืองคาร์โลวี วารีกลับจนถึงกรุงปราก
ระหว่างทางหิมะเริ่มตกโปรยปราย เป็นหิมะแรกของปีนี้ คริสต์บอก
จากที่รู้มาหนุ่มสาวถ้าอยู่ด้วยกันในวันหิมะแรกตก จะเป็นเนื้อคู่กัน ว้าว..
ขอให้จริงอย่างที่โบราณว่าเถอะ แอบลุ้นในใจเบาๆ
“ เป็นอย่างไรครับคุณชอบครอบครัวผมไหม” คริสต์ถามฉัน ทำเอาฉันสะดุ้ง ตื่นจากความสงสัยและความฉงน
“ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ หลับฝันดีนะค่ะ” ฉันรีบกล่าวลา และจะรีบเดินหนีเพราะอยากอยู่กับตัวเอง คิดทบทวนสิ่งที่ผ่านมา แต่คริสต์คว้ามือฉันไว้
“ ผมชอบคุณนะคุณชมดาว คุณชอบผมหรือเปล่าครับ ผมเป็นชายในสเปคคุณบ้างไหม” เขาถามฉันต่อหน้าฉัน
ทำให้ฉันอ่ำอึ้งอยู่ เพราะฉันยังไม่ได้จัดลำดับความคิดของฉันก่อนหน้าหลังเลย เจอเร็วปานสายฟ้าแล่บแบบนี้ คงต้องขอคิดดูก่อน
“ ขอบคุณมากค่ะคุณคริสต์ ฉันต้องขอคิดพิจารณาก่อนนะค่ะ หลับฝันดีค่ะ” ฉันรีบเดินขึ้นห้องทันที คริสต์มองตามจนฉันเข้าห้องไป ฉันนอนคิดทบทวนทั้งคืน สับสน ว้าวุ่นใจ ความคิดผุดขึ้นมาตีกัน ไม่รู้อะไรมาก่อน มาหลัง และฉันก็เผลอหลับไป
เมื่อวานฉันไม่ได้นัดกับคริสต์ เพราะวันนี้ฉันต้องกลับไทยแล้ว เครื่องจะออกตอนบ่าย เขาคงไม่มาแล้วมั้ง เพราะเมื่อวานฉันก็บอกเขาว่าขอเวลาพิจารณาก่อน เขาคงถอยทัพไปแล้วหรือเปล่า หรืออาจผิดหวังตัดใจจากลาไปแล้ว หรือไม่ก็ฟูมฟายทั้งคืน
เสียงโทรศัพท์จากห้องดัง เขาหรือเปล่านะเพราะคงไม่มีใครแน่นอนนอกจากเขา เขายังไม่ถอยทัพเหรอ แต่ถ้ามาคิดดูแล้ว
เขาก็เป็นคนดีเหมือนกัน หน้าตาดี นิสัยดี การงานดี และครอบครัวดี ก็น่าสนใจอยู่นะ แต่เวลามันเร็วไปนิดหนึ่งที่จะตอบรับเขาไป
“ หวัดดีครับ ผมเองครับคุณชมดาว ผมรออยู่ข้างล่างครับ วันนี้ช่วงเช้าผมจะพาคุณไปกินอาหารพื้นเมืองที่อร่อยครับ ก่อนคุณกลับไทยครับ “
“ เดี๋ยวลงไปนะค่ะ รอแป๊บค่ะ” ฉันตอบเขาไป จริงๆใจก็อยากเจอเขาอีกครั้งก่อนกลับไทย วันนี้แหละต้องคุยกันให้รู้เรื่องว่าเขาจะเอาอย่างไร
“มาแล้วค่ะคุณคริสต์” ฉันเก็บอาการไว้ก่อน ค่อยๆดูสถานการณ์และรูปการณ์จะเป็นอย่างไร เพราะสิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิด และสิ่งที่คิดอาจไม่ใช่อย่างที่เห็น
“เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับ” คริสต์ถามไถ่ แต่ดูสีหน้าคริสต์เขายังคงมีความสุขเหมือนเดิม ไม่ได้กังวลอะไรเลย จากคำตอบของฉันเมื่อวาน ดูเขากลับมีความสุขมากขึ้น
“เรียบร้อยแล้วค่ะ พร้อมทุกอย่างค่ะ” ฉันตอบไปเพราะไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีถ้าฉันทำตัวห่างเหินไป ไหนๆก็ได้รู้จักกันเป็นอาทิตย์ละ
“ คุณคริสต์ค่ะ คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันโสด เพราะฉันไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับครอบครัวฉันให้คุณฟังเลย” ฉันยิงคำถามไปทันทีที่มีโอกาสเพราะฉันก็จะกลับไทยแล้ว ถ้าใช่หรือไม่ใช่ก็จะได้ติดตามผลงานต่อหรือบอกลาไปเลย
“ ก็ผมเห็นในนามบัตรของคุณไงครับ” คริสต์ทำท่าน่ารัก
“ ในนามบัตรเป็นนางสาวแต่อาจแต่งงานแล้วก็ได้นี่ค่ะ” ฉันก็ตอบกลับไป
“ ผมสังเกตคุณตอนที่ผมวาดรูปให้คุณซิครับ เวลาครึ่งชั่วโมงที่ผมวาดรูปคุณ เป็นเวลาที่ผมสัมผัสได้จากหัวใจของผมครับ และผมก็รับรู้ได้จากการพูดคุยและไปเที่ยวด้วยกันครับ” เขาตอบอย่างมั่นใจมาก ว่าเขาดูฉันไม่ผิด เขาช่างมั่นใจซะจริงๆนะพ่อหนุ่มจิตรกร
“ แล้วคุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันก็สนใจคุณ ในเมื่อฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย” ฉันใจดีสู้เสือพูดต่อไปเพื่อให้ได้คำตอบ
“ ก็ตอนที่ผมวาดรูปคุณไงครับ แววตาคุณตอนแรกเศร้าหมอง เย็นชา แต่พอผมวาดไปได้สักพักแววตาของคุณเริ่มสดใส ดูมีความหวัง เวลาคุณจ้องมองผม ผมรู้เลยว่าคุณก็สนใจผมครับ ผมได้ความรู้เรื่องเหล่านี้มาจากการเรียนวาดรูปของผมครับ” พูดจบคริสต์ก็เดินเข้ามากอดฉันและพูดกระซิบข้างหูฉันว่า
“ ผมรักคุณครับคุณชมดาว ผู้หญิงในฝันของผม” คำพูดของเขาทำให้ฉันใจเต้นแรงเพราะกลัวเขาจะจับผิดได้ว่าฉันก็ชอบเขาเหมือนกัน ซึ่งจริงๆฉันก็แอบปิ๊งเขาตั้งแต่แรกพบ
“คุณรู้ไหมครับว่าตอนที่ผมวาดรูปคุณ ใจผมเต้นแทบจะหลุดออกมานอกหน้าอกครับ แต่ผมพยายามเก็บความรู้สึกผมเอาไว้ ผมชอบคุณตั้งแต่คุณให้ผมทายว่าคุณมาจากประเทศอะไรครับ
“ แม่เจ้า..เขาดูฉันออกตั้งแต่แรกแล้ว ฮ่าๆๆๆ พยายามเก็บอาการแล้วน้า”
…. และแล้วสะพานที่ทอดออกไป ก็สามารถถึงอีกฝั่งอย่างสมบูรณ์แบบ.....
.....ฉันได้เดินข้ามสะพานที่ทอดออกไป ข้ามไปหาคริสต์อีกฝั่งดั่งที่ตั้งใจไว้.....
“ขอบคุณคริสต์มากนะค่ะ ที่คุณรักฉัน ฉันก็รักคุณค่ะ” ฉันกอดเขา
ผ่านไป 6 เดือน วันนี้ซินะที่คริสต์จะมาถึงเมืองไทย
.....ฉันมองรูปวาดที่คริสต์วาดให้ฉันทุกวัน และวันนี้ฉันนั่งมองรูปนั้นตั้งแต่เช้า และมองทะลุเข้าไปข้างใน นึกถึงวันเวลาที่ฉันไปเที่ยวที่กรุงปราก รูปนี้ทำให้ฉันได้เจอคริสต์ ชายหนุ่มจิตรกรที่วาดรูปบนสะพานชาร์ลส์ ซึ่งบอกว่าฉันเป็นนางในฝันของเขา......
สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยกับเวลาของประเทศไทย
“ หวัดดีค่ะคริสต์ ขอต้อนรับสู่ประเทศไทย ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่คุณมาเที่ยวประเทศไทยอย่างที่คุณตั้งใจไว้ ระยะเวลา 2 อาทิตย์ฉันจะพาคุณเที่ยวทุกที่ที่คุณต้องการค่ะ ฉันจะเป็นไกด์ที่ดี ให้เหมือนกับคุณเป็นไกด์พาฉันเที่ยวที่กรุงปรากค่ะ คุณพร้อมหรือยังค่ะ”
..... ฉันกล่าวต้อนรับคริสต์แฟนหนุ่มจากกรุงปรากด้วยความรักและคิดถึง...