โควิดวันนี้เซ่นชีวิต 80 ราย ติดเชื้อเพิ่ม 8,148 ราย หายป่วย 8,238 ราย
https://www.dailynews.co.th/news/444701/
 
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 80 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 8,148 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,922,709 ราย
 
 
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 5 พ.ย. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 8,148 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 7,543 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 605 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 1,922,709 ราย หายป่วยกลับบ้าน 8,238 ราย หายป่วยสะสม 1,807,304 ราย กำลังรักษา 97,480 ราย
 
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 80 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 19,542 ราย
 

---

 
ร้องลูกตายคาท้อง หลังฉีดวัคซีนก่อนคลอด
https://www.pptvhd36.com/news/อาชญากรรม/159876

ครอบครัวหญิงสาวคนหนึ่งในจังหวัดอำนาจเจริญ ร้องให้หน่วยงานตรวจสอบ เมื่อทารกหัวใจหยุดเต้นในท้อง หลังหมอให้ไปฉีดซิโนแวคก่อนคลอด แต่สุดท้ายบอกว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจาก รกพันคอ
 
เฟซบุ๊กเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 โพสต์เรื่องราวของคุณแม่รายหนึ่งที่สูญเสียลูกสาวไปในวันที่กำลังจะใกล้คลอด หลังจากที่หมอได้ฉีดวัคซีนซิโนแวคให้ก่อนที่จะทำคลอด แต่ลูกที่อยู่ในครรภ์หัวใจกลับหยุดเต้น อีกทั้งหลังจากที่คลอดออกมาแล้วหมอยังให้สาเหตุการตายว่า รกพันคอ ทางญาติจึงสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
  
ทีมข่าวตรวจสอบเรื่องราว ทราบว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ จังหวัดอำนาจเจริญ  และจากคำกล่าวอ้างของโพสต์ ระบุว่า ผู้เป็นแม่มีอาการปวดท้องเหมือนจะคลอดน้อง จึงไปโรงพยาบาล
 
เมื่อไปถึง หมอถามว่า ฉีดวัคซีนหรือยัง? ผู้เป็นแม่บอกว่ายัง แต่จะขอคลอดน้องก่อนได้หรือไม่ แต่หมอไม่ยอม จึงต้องไปฉีดวัคซีน
 
ต่อมา มีการวัดคลื่นหัวใจ และแจ้งว่าเด็กในท้องหัวใจไม่เต้นแล้ว เมื่อผู้เป็นแม่พยายามหาสาเหตุ หมอบอกว่า ไม่ทราบสาเหตุต้องเอาเด็กออกชันสูตรศพก่อน และหลังจากนั้นก็รอส่งตัวไปโรงพยาบาล ระหว่างนั้น หมอ ให้ยาเร่งคลอด จนคลอดออกมาตามธรรมชาติ แต่เด็กก็เสียชีวิตแล้ว และหมอก็ให้สาเหตุการตายของเด็กว่า สายรกพันคอ
 
หลังโลกออนไลน์ แชร์เรื่องราวออกไป วันนี้  ครอบครัว ของหญิงสาว กำลังอยู่ระหว่างการพูดคุยกับ ทางโรงพยาบาล เนื่องจากทางครอบครัว สงสัยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะเกี่ยวข้องกับ วัคซีนที่ฉีดไปก่อนหน้า หรือ เป็นเพราะรกพันคอ ตามที่โรงพยาบาลระบุ ซึ่งทางโรงพยาบาลไม่ให้ผู้สื่อข่าว เก็บภาพบรรยากาศการพูดคุย
 
โดยทางครอบครัว ของหญิงสาว ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า โรงพยาบาลจะมีการตรวสอบสาเหตุการตายของเด็กอย่างละเอียดครั้ง พร้อมกับจะมีการส่งเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนเข้าไปที่ตัวจังหวัด เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
  
ขณะที่พญ.ณัฐฐิณี  ศรีสันติโรจน์  แพทย์ชำนาญการพิเศษ สาขาเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ โรงพยาบาลราชวิถี ระบุว่า กรณีคุณแม่คนดังกล่าว จะต้องมีการวิเคราะห์หาสาเหตุการเสียชีวิต โดยมี 3 ปัจจัยมาประกอบกัน คือ อายุของแม่  โรคประจำตัว ประวัติการฝากครรภ์  และ มีข้อมูลทางวิชาการพบอัตราที่ทารกจะเสียชีวิตก่อนคลอดจากทุกสาเหตุ 6.8 คน ต่อการคลอด 1,000 คน
 
กรณีที่แพทย์เจ้าของไข้วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตของทารกว่า สายรกพันคอ ในมุมการแพทย์ก็ถือว่า มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้บ่อย แต่โอกาสที่จะถูกพันจนแน่นแล้วเสียชีวิตถือว่า มีน้อยมาก

ส่วนที่คุณแม่ และญาติเชื่อว่า สาเหตุที่ทำให้ทารกเสียชีวิต เกิดจากฉีดวัคซีนโควิดชนิดเชื้อตาย พญ.ณัฐฐิณี  อธิบายว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้ เพราะยังต้องตรวจสอบให้ละเอียด แต่ที่ผ่านมาราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย และกรมควบคุมโรคก็แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์รับวัคซีนได้หากอายุครรภ์ 12 เดือนขึ้นไป รับวัคซีนได้ทุกชนิด ซึ่งวัคซีนเชื้อตายที่คุณแม่คนดังกล่าวได้รับ เป็นเทคโนโลยีการผลิตแบบเดียวกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แต่ก็ต้องยอมรับว่า มีการเก็บข้อมูลการใช้วัคซีนในคุณแม่ตั้งครรภ์น้อยกว่าวัคซีนชนิดอื่น

พญ.ณัฐฐิณี แนะนำวิธีการป้องกันทารกเสียชีวิตระหว่างตั้งว่า หากคุณแม่รู้ว่าตั้งครรภ์ ต้องเข้ารับการฝากท้องทันที เมื่ออายุครรภ์ครบ 5 เดือน ก็จะต้องมีการอัลตร้าซาวด์ เพื่อดูตำแหน่งของรก และปริมาณน้ำคร่ำ และเมื่อเข้าเดือนที่ 9 ต้องหมั่นนับครั้งเวลาที่ลูกดิ้น หากพบผิดสังเกตให้รีบมาพบแพทย์

---

 
สำรวจตลาดกรุง ผักราคาพุ่ง5-6เท่า ชาวบ้านโอด แพงแต่ก็ต้องทน 
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_6714809

สำรวจตลาดกรุง ผักราคาพุ่ง5-6เท่า ชาวบ้านโอด แพงแต่ก็ต้องทน
 
วันที่ 4 พ.ย. 2564 ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสำรวจราคาผัก ในท้องตลาดในกทม. ยังพบว่าราคาผักยังแพงอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผักยอดฮิต ตั้งโอ๋ ขึ้นฉ่าย ราคากิโลกรัมละ 300-400 บาท ที่ราคาขึ้นมาถึง 5-6 เท่า ที่ยังไม่ทีท่าจะลดลงแต่อย่างใด รวมทั้งถั่วฝักยาว ผักกาดหอม ผักชีไทย ใบโหระพา ยังมีราคาแพงกว่าราคาในช่วงราคาปกติ 3 -4 เท่า
 
ส่วนที่ตลาดประชานิเวศน์ จาการสอบถามประชาชนผู้บริโภค พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผักราคาแพงขึ้นมากจริงๆ แต่ก็ต้องทน ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อมีความจำเป็นต้องกินต้องใช้ก็ต้องรับสภาพไป แต่จะปรับปริมาณการซื้อการใช้ให้น้อยลง
 
ด้านพ่อค้าแม่ค้าได้ให้ข้อมูลว่าในช่วงนี้ของทุกปีผักจะมีราคาแพงขึ้นอยู่แล้ว ตามสภาพอากาศที่เพาะปลูกยากทำให้ผลผลิตไม่เพียงพอ แต่ปีแพงกว่าทุกปี เนื่องจากน้ำท่วมผลผลิตเสียหาย การขนส่งลำบาก ราคาน้ำมันก็ขึ้น ทำให้เดือดร้อนกันเป็นทอดๆ เมื่อยังมีคนกินก็ยังต้องขายต่อไป ถึงจะกำไรน้อยหน่อยก็ต้องยอม