สวัสดีทุกคน 
วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวการไปเที่ยวบราซิลของเราในช่วง COVID-19 Pandemic ขอบอกว่าทริปนี้เป็ทริปที่สวดมนต์มากที่สุดในชีวิต (แซว)
 
พอกรอกเสร็จผ่านไปสองสามวันหลังหมดเวลา ปรากฏว่าเราได้รับอีเมล์แจ้งว่า เราได้รับสิทธิในการเข้าร่วมโครงการนี้ ตอนนี้ก็คิดเห้ย มันจะไปได้จริงๆเหรอ เพราะการให้ตั๋วฟรีไปเที่ยว มันก็ไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น ตอนนั้นก็เลยลองกดไปจองดู โดยมีพ๊อยว่าจะต้องไปที่ไกลที่สุด แพงที่สุด(?) และไปยากที่สุดจากภูเก็ต ซึ่งพอกดดูในเส้นทางการบินของQatar Airways เราคิดเองว่า South America น่าจะเป็นคำตอบของเรา โดย Qatar Airways มีบิน 2 เส้นทางไป South America คือไปอาเจนติน่า กับบราซิล จริงๆเราอยากไปอาเจนติน่ามาก เพราะคิดว่าน่าจะไปไกลสุด และถ้าไปเองตั๋วจะต้องแพงมากๆ ปรากฎว่าสถานการณ์โควิด19 ทางสายการบินยกเลิกเส้นทางนี้ เหลือแค่บราซิล เราก็เลยต้องเปลี่ยนไป เซาเปาโล แทน เพราะเป็นแค่เส้นทางเดียวใน South America ที่สายการบินกาตาร์แอร์เวย์ บินไปในช่วงโควิด-19 นี้  และหลังจากนั้นไม่นานบราซิลก็ได้กลายมาเป็นประเทศต้นๆของโลกที่มีการติดโควิดหนักมาก (ซึ่งก็ลุ้นมากว่าจะได้ไปป่าว)
 
หลังจากได้เส้นทางที่จะไปแล้วก็กดจองตั๋วซึ่งค่าใช้จ่ายที่เราจ่ายไปค่าภาษีสนามบิน และค่าอะไรเล็กๆน้อยๆจิปาถะ รวมทั้งสิ้น 1,790 บาทถ้วน ตอนนั้นคือตกใจมาก ว่าเห้ย มันทำได้จริงๆ แต่ก็แอบคิดว่า และจะไปได้จริงเหรอ พอวันเดินทางมาถึงมันคงไม่ง่ายขนาดนี้มั้ย (สงสัยตลอด) จริงๆ เรามีกำหนดเดินทางก่อนหน้านั้นหลายเดือน แต่สถานการณ์โควิดที่การเดินทางเข้าประเทศหลายๆประเทศค่อนข้างลำบาก ทำให้ตั๋วมีการยกเลิกเส้นทางบิน และเปลี่ยนแปลงบ่อยมาก ทางเราก็กดรับทราบการเปลี่ยนแปลงจากสายการบินบ่อยจนเราคิดว่า โอเคละ ถ้าจะเปลี่ยนบ่อยขนาดนี้ นี่โดนหลอกป่าว (เห็นมั้ยว่ามันไม่ง่าย) นี่ก็แอบตั้งคำถามว่าโครงการนี้มันให้ครูไปได้จริงๆเหรอ เพราะช่วงเวลาที่ให้ครูไปคือถ้าไม่สถานการณ์โควิดนี่คือแทบจะไปไม่ได้ แทบจะไม่มีโอกาสเลย เพราะมันเป็นช่วงที่ครูต้องทำงาน และการที่ครูจะลาไปเที่ยวนานๆ มันแทบจะเป็นอุดมคติมาก ไม่มีโรงเรียนไหนเค้าให้ไปหรอก แต่ก็ไม่ได้เสียใจอะไรมาก กับเงิน 1,790 บาทที่จ่ายไป

จนท้ายที่สุดตัดสินใจโทรไปที่สำนักงานที่กรุงเทพ (ในสมัยก่อนที่ยังไม่วุ่นวายก็ยังโทรไปที่สำนักงาน และมีคนรับสายนะครับ) จนเจ้าหน้าที่ก็ถามว่า อันนี้เป็น ตั๋ว Thank You Teachers สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง แต่ต้อง Complete การเดินทางภายใน 30 กันยายน 2564 เราก็เปลี่ยนให้นานไปอีก 5 เดือน(จากที่จองในตอนแรก) เพราะแอบหวังว่าสถานการณ์โควิดมันจะดีขึ้น แต่สุดท้ายสถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น และมีการเลื่อนเปิดเทอมเอย อะไรเอย ก็คิดว่าโอเค คงไม่ได้ไป และน่าจะไปไม่ได้ละ เพราะมันยังอยู่ในช่วงการทำการเรียนการสอน การที่จะลาไปก็คงไม่สะดวกมากๆ และไม่มีทางที่ทางโรงเรียนจะให้เราลายาวขนาดนั้น แต่แล้วก็เหมือนโชคเข้าข้างสายการบินส่งอีเมล์มาแจ้งว่า เราเข้าใจถึงสถานการณ์โควิดทั่วโลก ทำให้คุณครูไม่สามารถเดินทางได้ ทางสายการบินเลยต่อเวลาให้เดินทางได้เพิ่มอีก แต่ต้อง complete การเดินทางภายใน 31 มีนาคม 2565 เราก็เลยตัดสินใจเลื่อนอีกรอบไปเป็นเดือนตุลาคม 2564 เพราะคิดว่า มันน่าจะมีแนวโน้วที่สามารถเดินทางได้ (ลุ้นครั้งที่ 1 ว่าสถานการณ์ของทั่วโลก ของประเทศไทย และของโรงเรียนเองจะเป็นอย่างไร) และมีเวลาเพียงพอสำหรับการกลับมากักตัวอีก 14 วัน (อันนี้เป็นการลุ้นครั้งที่ 2 เพราะว่าการปิดเทอมเล็กของทางโรงเรียน โดยเฉพาะครูจะปิดไม่เกิน 15 วัน และในบางครั้งอาจจะไม่ได้ปิด(ไม่มีปิดเทอม) หรืออาจจะต้องมี(ปิดเทอมแต่ยังต้อง)ไปทำงานที่โรงเรียน เพราะครูไม่มีลาพักร้อน และการปิดเทอมไม่ได้ปิดให้ครูพัก แต่ปิดเพื่อให้นักเรียนพักผ่อน) มีงานอะไรก็ต้องไปทำอ่าเนอะ

ซึ่งตอนนั้นก็คิดว่า โอเคละ ต้องรอลุ้นให้คุกกี้ทำนายกันว่าจะได้ไปหรือไม่ ซึ่งมันเป็นการลุ้นอาทิตย์ต่ออาทิตย์เลย เนื่องจากสถานการณ์ของทางประเทศไทย ทั่วโลก และสถานการณ์ของทางโรงเรียน ในขณะที่รอลุ้นเราก็เตรียมตัวเองไปเรื่อยๆ ทั้งเอกสารต่างๆ (ซึ่งอันนี้ก็เป็นการลุ้นอีกเช่นกัน ครั้งที่ 3 ว่าจะได้ป่าว เพราะตอนกรอกข้อมูลไปเมื่อ 1 ปีที่แล้วจำไม่ได้เลยว่ากรอกรายละเอียดอะไรลงไปบ้าง ซึ่งมันมีกฎว่า ข้อมูลที่จะต้องนำมาแสดง จะต้องตรงกับที่เรากรอกข้อมูลไป) การไม่นำตัวเองไปกลุ่มเสี่ยง เพราะทางบราซิลต้องมีผล RT-PCR ที่เป็น Negative ไปแสดงก่อนออกเดินทาง ไม่เกิน 72 ชั่วโมง (ตรงนี้ก็ลุ้นอีกครั้งที่ 4 เหมือนกัน) ลู่ทางการกลับมากักตัว การเดินทาง และการเตรียมตัว เคลียร์ภาระงานจากทางโรงเรียนให้เสร็จสิ้นก่อนการเดินทาง ซึ่งในตอนนั้นก่อนเดินทาง 2 วัน มีประกาศจากทางประเทศไทยออกมาว่าลดเวลาการกักตัว เหลือ 7 วัน (เรานี่คือ กรี๊ดเลย เพราะว่าเท่ากับว่าเราจะมีเวลาในการกักตัว และการเตรียมการสอนสำหรับการเปิดเทอมใหม่ที่จะถึง จบการลุ้นครั้งที่ 2) ท้ายที่สุดก่อนเดินทาง 24 ชั่วโมง เราก็ได้เตรียมเอกสารรับรองเป็นภาษาอังกฤษ เสร็จ 11 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง 555+ ถือว่าการลุ้นครั้งที่ 1 จบไป 

เดี๋ยวมาต่อตอนวันที่บิน