อายุ 50+ จะหาแบบมีอนาคตยากมาก
สัดส่วน 82% อยู่ในสังคม ที่ไม่มีการศึกษา สังคมผู้สูงอายุที่ปรับตัวได้ยาก
การที่จะให้ระดับการศึกษา เอาชนะคนหัวดื้อหัวนักเลง
เพราะเพื่อนในห้องเรียนประถมที่พอจะมีเงินเรียนหนังสือในโรงเรียน ก็มาจากตรอกเยาวราช มาจากผู้มีอิทธิพลต่างจังหวัด
คุยเล่นกันก็เน้นแต่สอนกันเรื่องชกต่อย เรื่องไปขโมยเงินเพื่อน เรื่องปืน เรื่องระเบิด เรื่องตีสนุ๊ก เรื่องหาผู้หญิง เรื่องรถขี่ไปถึงบ้านผู้หญิง
ชีวิตก็คงเหมือนกับ ละคร "น้ำพุ" "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" "อันธพาลครองเมือง" "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ"
มีเพื่อนที่ทำตัวเป็น นักเลง ตบกบาลกระทืบเพื่อนกันเอง แย่งของเพื่อนกันเอง ขโมยเงินพ่อแม่และพี่น้องมากินแบ่งกันเอง ขายยามา
ชีวิตของนักเลง หลงตัวเอง ว่า "ปืนโต"
สร้างอาณาเขตให้คนอื่นมองว่ามีอาณาเขตดูแลปกครอง แต่ในความจริง "ไม่มีอะไรเลย" "ไม่มีเงิน" "ไม่มีกิน" "ไม่มีเมียของตัวเอง" ทั้งหมดของคนอื่น
สวมรอยกับเพื่อน แต่งเรื่องสร้างตัวตนปลอม ใส่ชื่อในซองผ้าป่า/กฐินยังได้ชื่อเป็นประธาน,กรรมการด้วยเงินหลักพัน (โดนต้ม หลอกเอาเงินยังไม่รู้ตัว เพราะปมด้อยของคำว่า "ไม่มี" "ไม่มีอะไรเลย" "ไม่มีแม้แต่การงาน" นั่งขอข้าวบ้านกินไปวันๆ)
สังคมของคนกลุ่มนี้
สร้างลูกหลานในครอบครัวยังไม่ได้
การพิมพ์แบบนี้ ก็เหมือนตีแผ่ปมด้อยของพวกเขาเองออกมา
แต่ถ้าไม่ทำวันนี้ คะแนนเสียงการเมือง ก็ดึงออกมาใช้ในสังคมแบบวิถีการเลือกตั้งที่ลงคะแนนเสียงแบบอิสระ (ไม่ขึ้นตัวบุคคล ไม่ขึ้นพรรคพวก)
การใช้นโยบาย ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน เข้าไม่ถึงพวกเขา พวกเขาเลือกเพราะถิ่นกู ทีมกู คนของกู หน้ามืดตามัวแต่บุคคล
ทำให้ประเทศชาติเดินต่อไม่ได้
เพราะคนของพวกเขา ทีมของพวกเขา ทำงานแบบแช่ปัญหาอย่างติดลบ หนาวแบบภูเขาน้ำแข็งพร้อมหนี้สินประเทศไทย 9 ล้านล้าน
ความน่าจะเป็น ที่คะแนน คนวัย 50+ (ที่ไม่มีอาชีพ ไม่มีฐานความรู้ จะยากประมาณหนึ่ง)
สัดส่วน 82% อยู่ในสังคม ที่ไม่มีการศึกษา สังคมผู้สูงอายุที่ปรับตัวได้ยาก
การที่จะให้ระดับการศึกษา เอาชนะคนหัวดื้อหัวนักเลง
เพราะเพื่อนในห้องเรียนประถมที่พอจะมีเงินเรียนหนังสือในโรงเรียน ก็มาจากตรอกเยาวราช มาจากผู้มีอิทธิพลต่างจังหวัด
คุยเล่นกันก็เน้นแต่สอนกันเรื่องชกต่อย เรื่องไปขโมยเงินเพื่อน เรื่องปืน เรื่องระเบิด เรื่องตีสนุ๊ก เรื่องหาผู้หญิง เรื่องรถขี่ไปถึงบ้านผู้หญิง
ชีวิตก็คงเหมือนกับ ละคร "น้ำพุ" "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว" "อันธพาลครองเมือง" "ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ"
มีเพื่อนที่ทำตัวเป็น นักเลง ตบกบาลกระทืบเพื่อนกันเอง แย่งของเพื่อนกันเอง ขโมยเงินพ่อแม่และพี่น้องมากินแบ่งกันเอง ขายยามา
ชีวิตของนักเลง หลงตัวเอง ว่า "ปืนโต"
สร้างอาณาเขตให้คนอื่นมองว่ามีอาณาเขตดูแลปกครอง แต่ในความจริง "ไม่มีอะไรเลย" "ไม่มีเงิน" "ไม่มีกิน" "ไม่มีเมียของตัวเอง" ทั้งหมดของคนอื่น
สวมรอยกับเพื่อน แต่งเรื่องสร้างตัวตนปลอม ใส่ชื่อในซองผ้าป่า/กฐินยังได้ชื่อเป็นประธาน,กรรมการด้วยเงินหลักพัน (โดนต้ม หลอกเอาเงินยังไม่รู้ตัว เพราะปมด้อยของคำว่า "ไม่มี" "ไม่มีอะไรเลย" "ไม่มีแม้แต่การงาน" นั่งขอข้าวบ้านกินไปวันๆ)
สังคมของคนกลุ่มนี้
สร้างลูกหลานในครอบครัวยังไม่ได้
การพิมพ์แบบนี้ ก็เหมือนตีแผ่ปมด้อยของพวกเขาเองออกมา
แต่ถ้าไม่ทำวันนี้ คะแนนเสียงการเมือง ก็ดึงออกมาใช้ในสังคมแบบวิถีการเลือกตั้งที่ลงคะแนนเสียงแบบอิสระ (ไม่ขึ้นตัวบุคคล ไม่ขึ้นพรรคพวก)
การใช้นโยบาย ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน เข้าไม่ถึงพวกเขา พวกเขาเลือกเพราะถิ่นกู ทีมกู คนของกู หน้ามืดตามัวแต่บุคคล
ทำให้ประเทศชาติเดินต่อไม่ได้
เพราะคนของพวกเขา ทีมของพวกเขา ทำงานแบบแช่ปัญหาอย่างติดลบ หนาวแบบภูเขาน้ำแข็งพร้อมหนี้สินประเทศไทย 9 ล้านล้าน