เมื่อต้องผ่าตัดไทรอยด์เป็นพิษ 2 ข้าง ตอนตั้งครรภ์ 16 สัปดาห์

ขอเล่าประสบการณ์ของแม่ก้อยเองนะคะ  เพราะก่อนแม่ผ่า แม่หารีวิว หาข้อมูลเยอะมาก แต่ไม่พบว่าใครเคยผ่าตอนท้องเลย 5555 

แม่ก้อยอายุ 33 ปี  ตรวจพบว่าเป็นไทรอยด์เป็นพิษตอนเดือนกุมภาพันธ์ 2564  สาเหตุที่พบ เพราะว่ามีน้าที่เป็นพยาบาลทักว่าเป็นคอพอกหรือเปล่า กลืนน้ำลายแล้วคอโตเป็นลักษณะผีเสื้อ ถ้าไม่สังเกตก็ไม่เห็น แต่ด้วยความร้อนใจแม่เลยรีบไปหาโรงพยาบาลประจำจังหวัด เพื่อตรวจร่างกายว่าเป็นคอพอกจริงหรือเปล่า ? ก็สรุปว่า "เป็นไทรอยด์เป็นพิษ" ค่าฮอร์โมนไทรอยด์ค่อนข้างสูงมาก คุณหมอก็จัดยาให้ทาน แม่ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นทานกี่เม็ด ยังไง แต่ว่าตอนนั้นแม่ยังไม่ได้ท้องนะคะ  แม่ก็ทานยาตามหมอสั่งมาเรื่อย จนเดือนพฤษภาคม 2564 อาการค่อนข้างรุนแรงขึ้น เพราะตัวแม่เอง ไม่ได้ไปหาตามนัดเมื่อเดือนเมษายน 555555  แต่ก็ทานยาปกตินะคะ จนเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม 2564 แม่มีอาการหายใจหอบเหนื่อย เวียนหัว แล้วคอก็โตขึ้นเรื่อยๆ คุฯหมอก็เลยให้แอทมิดตามระเบียบ ก็เช็นนู่น นี่ นั่น ก็ปรากฎว่าค่าไทรอยด์สูงขึ้นกว่าครั้งก่อน คุณหมอก็มีการปรับยาให้แม่กินใหม่  เพิ่มยากันใจสั่นให้แม่ เพราะหัวใจเต้นเร็ว ประมาณ 120-130 ครั้งต่อ นาที หลังจากออกจากโรงพยาบาล คุณหมอก็นัดถี่ขึ้น คือ 2 อาทิตย์ครั้ง ก็เหมือนเดิมค่ะ ค่าไทรอยด์ไม่ลดลง ทรงตัว หรือไม่ก็ขึ้นจากเดิม ก็อีกละคะ ปรับยาใหม่คือ กินครั้งละ 4 เม็ด 4 เวลา กินยากันใจสั่น วันละ 3 ครั้งๆละ 1 เม็ด ก็กินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งปลายเดือนสิงหาคม 2564 แม่ตรวจพบว่าตั้งท้องได้ 9 สัปดาห์ ก็ช็อกแหละค่ะ หมอก็บ่นไปเลยสิคะ 55555  ทีนี้แม่ก็เครียดเลยค่ะกลัวกระทบน้องเยอะ เพราะเดือนกรกฏาคมแม่เพิ่งไปฉีด Az เข็มแรกมา ไหนจะกินยาไทรอยด์ครั้งละมากๆอีก อ่านผลกระทบของไทรอยด์ที่มีต่อเด็กอีก ตอนนั้นก็คือจิตตกไปหมด  เพราะแม่คุมกำเนิดด้วยการทานยาคุม แต่คุณหมอมาแจ้งตอนท้องแล้วว่า จริงๆโรคนี้ต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีการฝังหรือฉีดยาคุม เพราะฮอร์โมนไทรอยด์มันไม่นิ่งหรอปกติอยู่แล้ว ซึ่งเอาจริงๆตอนที่แม่แอดมิทเดือนพฤษภาคม แม่ไม่ได้ท้อง แต่คุณหมอไม่ได้แนะนำ แม่ก็เลยคุมด้วยวิธีของแม่ตามปกติ พอแม่ตรวจว่าท้อง ว่าก็รีบไปหาหมอเช้านั้นเลยค่ะ เพื่อไปขอคำแนะนำ คุณหมอก็ตรวจดูว่าท้องจริงไหมอะไรไหม พอสรุปว่าท้อง เขาก็ปรับสูตรยาให้เหมาะสำหรับคนท้องมาทานอีกค่ะ ก็นัด 2 อาทิตย์ครั้งเหมือนเดิม เพื่อเช็คค่าไทรอยด์ในเลือด แต่ฟ้าดินไม่เข้าข้างค่ะ  !!!  ทุกครั้งที่หมอนัดก็คือแม่ไม่สามารถคุมฮอร์โมนไทรอยด์ได้เลยสักครั้ง มีแต่แย่ลงๆ คุณหมอเองก็เครียดเพราะให้ยาแรงไม่ได้ แล้วผลกระทบที่แม่กินยามากขึ้นก็จะมีกับตัวน้องอีก ถ้าไม่กินก็กระทบกับตัวแม่เองด้วย จนวันที่ 1 ตุลาคม 2564 แม่ก็ไปหาหมอตามนัด  ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ค่าเลือดสูงขึ้น  คุณหมอเลยแนะนำให้แม่ผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกค่ะ ตอนนั้นแม่ตั้งท้องได้ 14 สัปดาห์ ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าช่วงอายุครรภ์ที่ควรผ่าตัดที่สุด คือช่วงไตรมาสที่ 2 คือรอให้อายุครรภ์ได้ 16 สัปดาห์ วันนั้นคุณหมอต่อมไร้ท่อ ก็ให้แม่ไปคุยกับคุณหมอ หู คอ จมูก ว่า อายุครรภ์แม่ ลักษณะอาการของแม่ สามารถผ่าตัดได้ไหม คุณหมอคอก็แจ้งว่าผ่าได้ ก็นัดแม่ผ่าไว้วันที่ 20 ตุลาคม  2564  คุณหมอคอก็แจ้งความเสี่ยงเรื่องการผ่า ไม่ว่าจะเป็นต่อมไทรอยด์แตกแล้วต้องเจาะคอ พูดได้หรอไม่ได้คุณหมอก็ตอบไม่ได้ หรือเสียงอาจจะแหบตลอดชีวิต หรือร่างกายอาจจะมีแคลเซียมต่ำ และอาจจะต้องทานยาเพิ่มฮอร์โมนไทรอยด์ตลอดชีวิตก็ได้ ก็กลัวแหละเนอะ ได้ยินแบบนั้น แต่ก็ต้องผ่าค่ะ ถ้าไม่ผ่าแม่อาจจะมีโอกาสเป็นโรคหัวใจได้ เพราะคุณหมอให้หยุดยากันใจสั่นแล้ว หรือถ้ากินยากันใจสั่นเยอะ น้องก็อาจจะเป็นโรคหัวใจด้วย หรือน้องอาจจะเป็นไทรอยด์เป็นพิษ คอโต ออกมาตอนคลอดเลยก็ได้  เหมือนโลกดับ หูอื้อ น้ำตาคลอ แต่ต้องตั้งสติต่อไป ก็ตอนแรกแม่จะผ่าแบบส่องกล้อง แต่คุณหมอคอแนะนำให้ผ่าแบบเปิดดีกว่า เพราะก้อนที่คอแม่ค่อนข้างใหญ่ อาจจะมีการผิดพลาดได้ง่ายถ้าผ่าแบบส่องกล้อง ถ้าผิดพลาดก็ต้องผ่าแบบเปิดคออยู่ดี แม่ก็ไม่อยากเจ็บหลายครั้ง ก็เลยเลือกผ่าแบบเปิดคอ ให้จบๆไป เสร็จจากคุณหมอคอ  ก็ส่งต่อไปคุยกับคุณหมอวิสัญญี ว่าสามารถผ่าตัดได้ไหม ดมยาสลบได้หรือเปล่า โชคดีที่แม่เคยทำดั้งมาแล้วไม่แพ้ยาสลบ  5555 คุณหมอวิสัญญีก็เลยผ่าให้ได้ เพราะช่วงอายุครรภ์ได้ด้วย ประกอบกับหลายๆอย่างโอเค ก็ผ่านค่ะ จากนั้นก็ส่งต่อไปคุยกับคุณหมอสูติ เพื่อคุยว่าก่อนผ่า 5 วัน  คุณหมอต่อมไร้ท่อจะต้องมีการให้ยาเพื่อลดฮอร์โมนไทรอยด์ก่อนผ่า แม่สามารถรับยาตัวนี้ได้ไหม มีผลกระทบอะไรหรือเปล่า คุณหมอสูติก็ให้ผ่านค่ะ สรุปว่า 4 ผ่านค่ะ เตรียมตัวเข้าห้องผ่าวันที่ 20 ตุลาคม 2564 ค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอต่อมไร้ท่อก็นัดให้แม่เริ่มมานอนให้ยาวันที่ 15 ตุลาคม 2564  ก่อนเริ่มผ่า ก็มีการทำ ATK ก่อนเข้าแอทมิดตามปกติ ก็นอนเล่น นอนรอเวลา นอนทำใจ นอนให้ยาไป 5 วันเต็ม วันที่ 19 ตุลาคม 2564 ก็มีตรวจเลือดเพื่อหาโควิดก่อนวันผ่าจริง ก็มีหมอวิสัญญี หมอคอ หมอต่อมไร้ท่อ เข้ามาคุย มาแจ้งการเตรียมตัวก่อนเข้าห้องผ่า แม่ได้คิวผ่าเช้า 9 โมง ก็ต้องงดข้าว งดน้ำหลังเที่ยงคืน ก่อนนั้นก็กินให้อิ่มหนำไปเลย เพราะกลัวว่าจะเจ็บคอจนกินอะไรไม่ได้ สงสารลูกในท้องด้วย 555  เช้าวันที่ 20 ตุลาคม แม่ก็เตรียมตัวอาบน้ำ สระผม มัดผมให้เรียบร้อย ชุดชั้นในไม่ต้องใส่ไปนะคะ 8.30 น. ก็มีเวรเปลมารับไปห้องผ่าตัด ถึงห้องผ่าตัดเขาก็วัดความดัน ก็เข้าห้องผ่าตัดตอน 9.13 น. ทีมแพทย์ก็จะมาคุยให้เราคลายความกังวล ชวนคุยนู้น นี่ นั่น  แล้วเขาก็เอาสายอะไรไม่รู้มาเสียบตามตัว ตามร่างกาย เอาผ้าห่อตัวเราไว้ คงกันไม่ให้กระดิกตัวได้ เอาผ้ามาเก็บผล ปิดด้วยเทปให้แน่น ประมาณนี้ค่ะ ก่อนดมยาสลบ คุณหมอวิสัญญีก็จะแจ้งว่า หมอจะให้ยาแล้วนะคะ แม่นับ  1 2 3  แล้วก็หลับไปเลย 55555 ตื่นขึ้นมาอีกทีหนึ่งก็อยู่ห้องพักฟื้น มีคุณหมอมาเขย่าตัวเบาๆ ปลุกให้ตื่นนะคะ แม่ตื่นมาตอน 14.50 น.  ก็คือตกใจมาก เห้ย !! เราเข้าไปนานขนาดนั้นเลยเหรอ เหมือนหลับไปแค่ 10 นาทีเอง 555555  ของแม่ใช้เวลาผ่าตัดค่อนข้างนานหน่อยเพราะว่าแม่เอาต่อมไทรอยด์ออก 2 ข้างเลยค่ะ ก็อยู่ห้องพักฟื้นประมาณ 1 ชม. เขาก็ให้กลับห้องพัก ก็มีการเจาะเลือด วัดความดัน น่าจะ 4 ชม.ครั้ง  ของแม่มีภาวะแคลเซียมต่ำและเสียงแหบใน 2 วันแรกที่ผ่าเสร็จ คุณหมอก็มาตรวจเยี่ยม และแจ้งว่าที่แคลเซียมต่ำ เพราะว่าต่อมพาราไทรอยด์ที่อยู่ติดกับต่อมไทรอยด์อาจได้รับผลกระทบนิดหน่อย ก็ให้ยาแคลเซียมกินค่ะ ส่วนเสียงแม่ก็แหบอยู่ 2 วัน ก็หายเป็นปกติ เพราะระหว่างการผ่าตัดมีการกระทบกับเส้นเสียงอยู่บ้าง แต่คุณหมอเก่งค่ะ  อาการโดยรวมของแม่ถือว่าฟื้นตัวเร็วมาก   ถ้าพูดถึงแผลผ่าตัดมาก็เจ็บแหละค่ะ เพราะของแม่ คุณหมอให้ยาแก้ปวดหรือยาแก้อักเสบไม่ได้ เพราะติดน้อง เลยกินได้แต่ยาพารา พอรู้สึกปวดแม่ก็กินพาราค่ะ อาการหลังผ่าก็จะมีเวียนหัวตลอดเวลา มือชานิดหน่อย ปวดหัวหนักมากก แต่กินยาพาราก็ทุเลาค่ะ ส่วนแผลที่คอตอนนั้นยังไม่เห็น เพราะเขาผ้าพันปิดทับเอาไว้หมด เห็นแต่ขวดที่ต่อจากคอเพื่อระบายเลือดออกมา ไปไหนก็ต้องหิ้วไปด้วย 55555  รู้สึกเหมือนมีเชือกมารัดอยู่ที่คอตลอดเวลา  จะกินข้าวกินน้ำ 2 วันแรกนี่ลำบากมาก กลืนลำบาก  แม่ก็กินแต่ข้าวต้มปลา โจ๊ก ประมาณนี้ มีสำลักบ้างเล็กน้อย เพราะมันกลืนได้ทีละน้อยๆ ยิ่งหาท่านอนที่ถนัดนี่ลำบากมากที่สุด นอนท่าไหนก็ไม่ได้สักที แต่แม่สามารถเดินเข้าห้องน้ำเองได้ตั้งแต่วันผ่านะคะ เพราะถ้าลุกเดินได้ ก็พอเกร็งคอได้ค่ะ  แต่แค่เวลาจะนอนต้องหาคนช่วยประคองหน่อย จะเปลี่ยนท่านอนก็ต้องให้คนมาช่วยยกคอ ยกหลัง เพราะตอนนั้นยังเกร็งคอไม่ได้ พอวันที่ 3 แม่เริ่มเกร็งคอเอง กินข้าวเอง เริ่มกินอาหารแข็งได้ แต่ต้องค่อยๆเคี้ยวให้ละเอียดหน่อย  ลุก นั่งเองสบายเลย ส่วนน้องก็ปกติดีค่ะ หลังจากผ่าได้ 1 อาทิตย์ คุณหมอสูติก็นัดติดตามหลังผ่า ซาวน์ดูน้องแล้ว คุณหมอก็แจ้งว่าอยู่ในเกณ์ปกติค่ะ  ส่วนรอยแผลของแม่ก็ค่อนข้างยาวประมาณ 10 ซม ได้ค่ะ เพราะผ่า 2 ข้างพร้อมกันเลย แต่แผลเย็บของแม่ค่อนข้างสวยค่ะ เส้นไม่ใหญ่ไม่หนา คุณหมอเก่งมากค่ะ  หลังจากผ่าตัดไทรอยด์เป็นพิษออกแล้ว แม่ก็กลายเป็นไทรอยด์ต่ำค่ะ ทานยาตลอดชีวิตต่อไป  5555 ก็มีนัดหาหมอตลอด สุดท้ายแม่ก็อยากจะฝากแม่ๆที่มีปัญหาเดียวกันนะคะ ว่าไม่ต้องกลัว เดี๋ยวนี้คุณหมอเก่ง เทคโนโลยีก็ทันสมัย อะไรๆก็ง่ายขึ้น  ส่วนตัวแม่เองเป็นคนที่ขี้กลัวมากๆ กลัวการเจ็บปวด ขนาดมีดบาดนิ้ว เลือดออกแม่ยังเป็นลม ร้องไห้เลย ฉะนั้นแม่คิดว่า แม่ๆท่านอื่นน่าจะทนความเจ็บปวดได้สบายๆแน่ๆค่ะ 55555  ที่สำคัญเลยคืออย่าเครียด อย่าวิตกกังวลนะคะ  จริงๆแม่อยากจะแนบรูป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่