เพิ่งเลิกกับแฟน
คบกันมาประมาณ 3 ปีกว่า ซึ่งเราเป็นคนบอกเลิกเองค่ะ
ในช่วงที่คบกัน เราเป็นคนที่ยอมทุกอย่าง ยอมทุกเรื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่า เราไม่อยากให้ความรักมีปัญหา เราเป็นคนสบายๆ อะไรก็ได้
ข้อเสียของเราคือ เราเป็นคนขี้ลืม เราเป็นคนที่ไม่เป็นระเบียบ เป็นคนซุ่มซ่าม
เรื่องที่ทำให้เค้าโมโหเราทุกครั้งก็คือขอ้เสียขอเรานี่ล่ะ
ปกติแล้วเค้าจะเป็นคนตลก อารมณ์ดี ทำให้ยิ้มได้ตลอด
เค้าเป็นคนที่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ชอบอยู่บ้าน อยู่แต่หน้าคอมตลอด มีคอมอยู่รอบตัว 4-5 เครื่อง ไม่ชอบออกไปไหนเลยแม้แต่7-11
โดยปกติเราจะอยู่บ้านเราเอง จะมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่จะไปนอนที่บ้านเค้า
แรกๆยังมีบ้างที่ออกไปเดินห้าง ระยะหลังคือ จะไปก็แค่ไปซื้อของเข้าบ้าน
ต่างจังหวัดเคยไปกับที่บ้านเค้า ไม่เคยมีโมเม้นไปไหน 2 คน
การพาไปรู้จักเพื่อน เค้าจะพาไปรู้จักเพื่อนกลุ่มเดียว ซึ่งสนิทที่สุด
ส่วนเราอยากพาเค้าไปหาเพื่อนเรา หรือไปหาที่บ้านเรา เค้าไม่ไป
เรื่องที่เป็นประเด็นที่ทำให้เค้าโมโหใส่เราก็เกิดขึ้น
เท่าที่เราจำได้ เรื่องแรก เราทำน้ำหกใส่พื้น ที่มีกองหนังสือของเค้ากองอยู่
เค้าก็ต่อว่าเรา และสบถ คำหยาบคายหลายคำมาก ตัวเงินตัวทองก็มา
เราตกใจมาก ไม่คิดว่าเค้าจะพูดแรงขนาดนี้ แต่เราผิด เราก็ขอโทษเค้า และพยายามง้อ
ก็นานกว่ากลับสู่สภาวะปกติ
เรื่องที่สอง เราไปเรียนขับรถพร้อมเค้า และวันที่เราซื้อรถก็พาเค้าไปด้วย เราขับแล้วเค้านั่ง เราเกิดข้อผิดพลาด
ด้วยความใหม่มาก ที่แยกๆนึง เราไม่ได้ขับตามเส้นขาว แต่ขับตามเส้นสถนน(ที่ไม่ใช่เส้นแบ่งเลน)
เค้าก็ต่อว่าเราว่าขับแบบนี้ได้ยังไง ทำไมโง่อย่างนี้ เราพยายามบอกว่าเราเข้าใจผิด และเราผิดที่เราไม่ได้ไปตามเส้นขาว
เราบอกว่าพูดกับเราดีๆก็ได้ เค้าบอกว่าพูดดีๆแล้วจะจำไหม สภาพเราคือร้องไห้ แล้วเค้าก็บอกให้เราจอดรถ
แต่เราไม่ได้จอด และพยายามขอโทษเค้า จนเราขับรถถึงที่หมาย ต้องรอให้เค้าอารมณ์เย็นจนกว่าเค้าจะคุยกับเรา
เรื่องขับรถจะมีประเด็นเกือบตลอด เพราะเราเองขับรถไม่ถูกใจเค้า เราพยายามบอกว่าให้เค้ามาขับก็ได้
ขับรถให้เค้าเกร็งมาก เกร็งกว่าขับให้พ่อแม่ซะอีก
เรื่องที่สาม เค้าไม่สบาย วันนั้นเป็นวันทำงาน เราอยู่บ้านเรา ไลน์มาหาเราตอนเช้า จะให้พาเค้าไป รพ.
เค้าบอกไม่ว่างไม่เป็นไรนะ เราบอกว่าเดี๋ยวสายๆเราจะเข้าไป แล้วตอนบ่ายกลับไปออฟฟิศเพราะเราต้องพาเจ้านายไปธนาคาร
(งานเราคือเป็นเลขา และที่จำเป็นต้องไป เพราะเจ้านายบินมาจาก ตจว. เพื่อมาทำธุระที่ธนาคาร ที่เราเป็นคนประสานงานไว้)
เค้าบอกว่าอย่างนั้นจะไปเอง เราพยายามบอกว่าให้เค้ารอก่อน เค้าก็บอกว่าไม่ต้องๆ
เราถามอาการ ถามว่าไปหาหมอมาหรือยัง เค้าก็บอกว่าให้เราห่วงงานไปเถอะ แล้วบอกเราว่าไม่ต้องมาหาเค้า
เราก็ไปบ้านพยายามไปขอโทษ สุดท้ายเค้าก็บอกเลิกเรา เราก็ร้องไห้ กำลังจะกลับ แม่เค้าก็เข้ามากอดแล้วห้ามเราไว้
แล้วบอกให้ค่อยๆคุยกัน ก็หลายวันกว่าเค้าจะอารมร์ดีขึ้นมา
เรื่องที่สี่ หลังจากมีเหตุการณ์ต่างๆมาเป็นระยะๆ จริงๆมันก็มีเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เค้าโมโหก็หลายอย่างล่ะ
แต่มันอาจจะไม่เท่ากับเรื่องที่เล่าในวันนี้ เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น วันเสาร์อาทิตย์เราไปบ้านเค้าปกติ แล้วเราซื้อเค้กมากินบนห้องเค้า
กินเสร็จ เราก็หาถุงพลาสติกเอามาเป็นถุงขยะ เค้าบอกหลายทีว่ากินเสร็จให้เอาลงไปไว้ข้างล่าง
เรายอมรับ เราก็ลืมหลายครั้ง แต่เราก็ไม่ลืมมันมานานมาก จนกระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
เราลืมเอาถุงขยะที่มีกล่องเค้กลงมาทิ้ง และเค้ารู้อีกทีวันอังคาร เค้าก็ไลน์มาวันอังคาร ว่าลืมทิ้งเค้กหรอ
เราก็ขอโทษเค้า แล้วเค้าก็พิมพ์มาเป็นชุด ซึ่งมีคำที่รุนแรงอีกแล้ว เช่นคำว่า ห่..า , วะ แล้วเค้าก็เงียบไป
เราจึงพยายามส่งไปขอโทษเค้า แต่เค้าก็คงยังโกรธล่ะ
วันพฤหัส เราจึงออกจากที่ทำงานเรา ขับรถไปหาเค้าที่บ้าน ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ในการขับรถไป
ไปถึงเราก็ขอโทษเค้า แล้วบอกว่าอยากเคลียร์ อยากปรับความเข้าใจ เราบอกเค้าว่าเรารู้ว่าเราผิด แต่ไม่อยากให้ใช้คำหยาบคาย
หรือคำพูดแรงๆกับเรา เพราะขนาดกับคนอื่นๆที่เค้าปฏิบัติกับคนอื่นๆ เราไม่เคยเห็นเค้าต้องโมโห มากเท่า กับที่เค้าโมโหเราเลย
สุดท้ายเค้าก็บอกกับเราว่า ก็เพราะเรานั่นล่ะ เค้าบอกกี่ทีแล้ว
จริงๆเราตั้งใจจะไปคุยกับเค้าเรื่องอื่นๆถึงปัญหาที่ผ่านมาด้วย หรือสิ่งที่เราอยากให้เค้าช่วยปรับ เช่น ไปไหนมาไหนกับเราบ้าง
แต่เรายังไม่ทันได้พูดอะไร สิ่งที่เค้าพูดมา เราไม่จำเป็นที่จะพูดแล้ว เพราะเค้าคงไม่รับฟังอะไรจากเราหรอก
เพราะทุกอย่างที่เค้าโมโห เราล้วนแต่เป็นคนผิด
เราจึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าทุกอย่างที่อยู่บ้านเค้ากลับ เค้าเอาถุงพลาสติกใบใหญ่มาให้เราใส่ของด้วย
เก็บเสร็จ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะถือลงมาส่ง เค้าก็ถือลงมาส่งที่รถ แล้วก็บอกเราว่ากลับบ้านดีๆนะ แถมโบกรถให้ด้วย
ไอ้เราก็ได้แต่ร้องไห้แล้วขับรถออกไป พอรถติดไฟแดง เลยส่งไลน์หาเค้าว่า เราเลิกกัน
เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ความรักของเรา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราเคยมีแฟนมา เราก็จะเป็นคนนิสัยแบบนี้ล่ะ
ยอมตลอด ยอมเป็นคนไม่สบายใจ แล้วทำตามสิ่งที่แฟนคิดว่าแฟนอยากทำ โดยไม่เรียกร้องในสิ่งที่เราอยากได้
แต่ต่อจากนี้ไป เราคงจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คงไม่ยอมใครในทุกๆเรื่องที่จะทำให้เรารู้สึกอึดอัด
ช่วงก่อนที่เราจะเลิกกับแฟน ก่อนที่จะเกิดเรื่องเราจะลืมเอาขนมลงไปทิ้ง
มีผู้หญิงทักเฟสบุคมาหาเรา แล้วถามเราว่าเราเป็นแฟนกับคนๆนี้หรอ ยังคบกันอยู่หรอ เราจึงตอบไปว่า ค่ะ
เราก็ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ผู้หญิงคนนั้นตอบว่า ไม่มีอะไร เห็นลงรูปคู่กัน
ซึ่ง รูปที่เราเคยลงในเฟสบุคที่ลงรูปคู่คือ มค.2020 มันปีกว่าๆมาแล้ว และรูปที่ลงคือเพื่อนเราที่เห็นเท่านั้น
ส่วนเฟสแฟนเราไม่เคยลงรูปคู่เรา
และหลังจากที่เราเลิกกับแฟนเรา 2 วัน ผู้หญิงคนนี้ก็ทักมาถามว่า เลิกกับคนๆนี้แล้วหรอคะ เราก็ตอบว่า ใช่ค่ะ
และเราบอกไปว่า ที่เลิกกันก็ไม่ได้เกี่ยวกับที่ผู้หญิงคนนี้ทักมา
แต่เราแค่งงว่า ผู้หญิงคนนี้รู้ได้ยังไง ว่าเราเลิกกับแฟนเราแล้ว ทั้งๆที่เฟสบุคเรา ไม่มีการโพสดราม่าอะไรทั้งนั้น
โพสรูปไปเที่ยวปกติกับเพื่อน เพื่อนน้อยคนด้วยที่รู้ว่าเราเลิกกับแฟนแล้ว
ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้มากค่ะ นี่เป็นกระทู้แรก ที่เราลองมาเขียนดูค่ะ อย่างน้อยการได้ระบายมันก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ
แชร์ประสบการณ์ความรัก ที่เลิกกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง คำพูดที่มันทำร้ายจิตใจมันก็ทำให้เราตัดได้ง่ายขึ้น
คบกันมาประมาณ 3 ปีกว่า ซึ่งเราเป็นคนบอกเลิกเองค่ะ
ในช่วงที่คบกัน เราเป็นคนที่ยอมทุกอย่าง ยอมทุกเรื่อง ด้วยเหตุผลที่ว่า เราไม่อยากให้ความรักมีปัญหา เราเป็นคนสบายๆ อะไรก็ได้
ข้อเสียของเราคือ เราเป็นคนขี้ลืม เราเป็นคนที่ไม่เป็นระเบียบ เป็นคนซุ่มซ่าม
เรื่องที่ทำให้เค้าโมโหเราทุกครั้งก็คือขอ้เสียขอเรานี่ล่ะ
ปกติแล้วเค้าจะเป็นคนตลก อารมณ์ดี ทำให้ยิ้มได้ตลอด
เค้าเป็นคนที่ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ชอบอยู่บ้าน อยู่แต่หน้าคอมตลอด มีคอมอยู่รอบตัว 4-5 เครื่อง ไม่ชอบออกไปไหนเลยแม้แต่7-11
โดยปกติเราจะอยู่บ้านเราเอง จะมีวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่จะไปนอนที่บ้านเค้า
แรกๆยังมีบ้างที่ออกไปเดินห้าง ระยะหลังคือ จะไปก็แค่ไปซื้อของเข้าบ้าน
ต่างจังหวัดเคยไปกับที่บ้านเค้า ไม่เคยมีโมเม้นไปไหน 2 คน
การพาไปรู้จักเพื่อน เค้าจะพาไปรู้จักเพื่อนกลุ่มเดียว ซึ่งสนิทที่สุด
ส่วนเราอยากพาเค้าไปหาเพื่อนเรา หรือไปหาที่บ้านเรา เค้าไม่ไป
เรื่องที่เป็นประเด็นที่ทำให้เค้าโมโหใส่เราก็เกิดขึ้น
เท่าที่เราจำได้ เรื่องแรก เราทำน้ำหกใส่พื้น ที่มีกองหนังสือของเค้ากองอยู่
เค้าก็ต่อว่าเรา และสบถ คำหยาบคายหลายคำมาก ตัวเงินตัวทองก็มา
เราตกใจมาก ไม่คิดว่าเค้าจะพูดแรงขนาดนี้ แต่เราผิด เราก็ขอโทษเค้า และพยายามง้อ
ก็นานกว่ากลับสู่สภาวะปกติ
เรื่องที่สอง เราไปเรียนขับรถพร้อมเค้า และวันที่เราซื้อรถก็พาเค้าไปด้วย เราขับแล้วเค้านั่ง เราเกิดข้อผิดพลาด
ด้วยความใหม่มาก ที่แยกๆนึง เราไม่ได้ขับตามเส้นขาว แต่ขับตามเส้นสถนน(ที่ไม่ใช่เส้นแบ่งเลน)
เค้าก็ต่อว่าเราว่าขับแบบนี้ได้ยังไง ทำไมโง่อย่างนี้ เราพยายามบอกว่าเราเข้าใจผิด และเราผิดที่เราไม่ได้ไปตามเส้นขาว
เราบอกว่าพูดกับเราดีๆก็ได้ เค้าบอกว่าพูดดีๆแล้วจะจำไหม สภาพเราคือร้องไห้ แล้วเค้าก็บอกให้เราจอดรถ
แต่เราไม่ได้จอด และพยายามขอโทษเค้า จนเราขับรถถึงที่หมาย ต้องรอให้เค้าอารมณ์เย็นจนกว่าเค้าจะคุยกับเรา
เรื่องขับรถจะมีประเด็นเกือบตลอด เพราะเราเองขับรถไม่ถูกใจเค้า เราพยายามบอกว่าให้เค้ามาขับก็ได้
ขับรถให้เค้าเกร็งมาก เกร็งกว่าขับให้พ่อแม่ซะอีก
เรื่องที่สาม เค้าไม่สบาย วันนั้นเป็นวันทำงาน เราอยู่บ้านเรา ไลน์มาหาเราตอนเช้า จะให้พาเค้าไป รพ.
เค้าบอกไม่ว่างไม่เป็นไรนะ เราบอกว่าเดี๋ยวสายๆเราจะเข้าไป แล้วตอนบ่ายกลับไปออฟฟิศเพราะเราต้องพาเจ้านายไปธนาคาร
(งานเราคือเป็นเลขา และที่จำเป็นต้องไป เพราะเจ้านายบินมาจาก ตจว. เพื่อมาทำธุระที่ธนาคาร ที่เราเป็นคนประสานงานไว้)
เค้าบอกว่าอย่างนั้นจะไปเอง เราพยายามบอกว่าให้เค้ารอก่อน เค้าก็บอกว่าไม่ต้องๆ
เราถามอาการ ถามว่าไปหาหมอมาหรือยัง เค้าก็บอกว่าให้เราห่วงงานไปเถอะ แล้วบอกเราว่าไม่ต้องมาหาเค้า
เราก็ไปบ้านพยายามไปขอโทษ สุดท้ายเค้าก็บอกเลิกเรา เราก็ร้องไห้ กำลังจะกลับ แม่เค้าก็เข้ามากอดแล้วห้ามเราไว้
แล้วบอกให้ค่อยๆคุยกัน ก็หลายวันกว่าเค้าจะอารมร์ดีขึ้นมา
เรื่องที่สี่ หลังจากมีเหตุการณ์ต่างๆมาเป็นระยะๆ จริงๆมันก็มีเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่เค้าโมโหก็หลายอย่างล่ะ
แต่มันอาจจะไม่เท่ากับเรื่องที่เล่าในวันนี้ เรื่องนี้เพิ่งเกิดขึ้น วันเสาร์อาทิตย์เราไปบ้านเค้าปกติ แล้วเราซื้อเค้กมากินบนห้องเค้า
กินเสร็จ เราก็หาถุงพลาสติกเอามาเป็นถุงขยะ เค้าบอกหลายทีว่ากินเสร็จให้เอาลงไปไว้ข้างล่าง
เรายอมรับ เราก็ลืมหลายครั้ง แต่เราก็ไม่ลืมมันมานานมาก จนกระทั่งอาทิตย์ที่ผ่านมา
เราลืมเอาถุงขยะที่มีกล่องเค้กลงมาทิ้ง และเค้ารู้อีกทีวันอังคาร เค้าก็ไลน์มาวันอังคาร ว่าลืมทิ้งเค้กหรอ
เราก็ขอโทษเค้า แล้วเค้าก็พิมพ์มาเป็นชุด ซึ่งมีคำที่รุนแรงอีกแล้ว เช่นคำว่า ห่..า , วะ แล้วเค้าก็เงียบไป
เราจึงพยายามส่งไปขอโทษเค้า แต่เค้าก็คงยังโกรธล่ะ
วันพฤหัส เราจึงออกจากที่ทำงานเรา ขับรถไปหาเค้าที่บ้าน ใช้เวลา 3 ชั่วโมง ในการขับรถไป
ไปถึงเราก็ขอโทษเค้า แล้วบอกว่าอยากเคลียร์ อยากปรับความเข้าใจ เราบอกเค้าว่าเรารู้ว่าเราผิด แต่ไม่อยากให้ใช้คำหยาบคาย
หรือคำพูดแรงๆกับเรา เพราะขนาดกับคนอื่นๆที่เค้าปฏิบัติกับคนอื่นๆ เราไม่เคยเห็นเค้าต้องโมโห มากเท่า กับที่เค้าโมโหเราเลย
สุดท้ายเค้าก็บอกกับเราว่า ก็เพราะเรานั่นล่ะ เค้าบอกกี่ทีแล้ว
จริงๆเราตั้งใจจะไปคุยกับเค้าเรื่องอื่นๆถึงปัญหาที่ผ่านมาด้วย หรือสิ่งที่เราอยากให้เค้าช่วยปรับ เช่น ไปไหนมาไหนกับเราบ้าง
แต่เรายังไม่ทันได้พูดอะไร สิ่งที่เค้าพูดมา เราไม่จำเป็นที่จะพูดแล้ว เพราะเค้าคงไม่รับฟังอะไรจากเราหรอก
เพราะทุกอย่างที่เค้าโมโห เราล้วนแต่เป็นคนผิด
เราจึงตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าทุกอย่างที่อยู่บ้านเค้ากลับ เค้าเอาถุงพลาสติกใบใหญ่มาให้เราใส่ของด้วย
เก็บเสร็จ ก็บอกว่าเดี๋ยวจะถือลงมาส่ง เค้าก็ถือลงมาส่งที่รถ แล้วก็บอกเราว่ากลับบ้านดีๆนะ แถมโบกรถให้ด้วย
ไอ้เราก็ได้แต่ร้องไห้แล้วขับรถออกไป พอรถติดไฟแดง เลยส่งไลน์หาเค้าว่า เราเลิกกัน
เราแค่อยากแชร์ประสบการณ์ความรักของเรา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เราเคยมีแฟนมา เราก็จะเป็นคนนิสัยแบบนี้ล่ะ
ยอมตลอด ยอมเป็นคนไม่สบายใจ แล้วทำตามสิ่งที่แฟนคิดว่าแฟนอยากทำ โดยไม่เรียกร้องในสิ่งที่เราอยากได้
แต่ต่อจากนี้ไป เราคงจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คงไม่ยอมใครในทุกๆเรื่องที่จะทำให้เรารู้สึกอึดอัด
ช่วงก่อนที่เราจะเลิกกับแฟน ก่อนที่จะเกิดเรื่องเราจะลืมเอาขนมลงไปทิ้ง
มีผู้หญิงทักเฟสบุคมาหาเรา แล้วถามเราว่าเราเป็นแฟนกับคนๆนี้หรอ ยังคบกันอยู่หรอ เราจึงตอบไปว่า ค่ะ
เราก็ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ผู้หญิงคนนั้นตอบว่า ไม่มีอะไร เห็นลงรูปคู่กัน
ซึ่ง รูปที่เราเคยลงในเฟสบุคที่ลงรูปคู่คือ มค.2020 มันปีกว่าๆมาแล้ว และรูปที่ลงคือเพื่อนเราที่เห็นเท่านั้น
ส่วนเฟสแฟนเราไม่เคยลงรูปคู่เรา
และหลังจากที่เราเลิกกับแฟนเรา 2 วัน ผู้หญิงคนนี้ก็ทักมาถามว่า เลิกกับคนๆนี้แล้วหรอคะ เราก็ตอบว่า ใช่ค่ะ
และเราบอกไปว่า ที่เลิกกันก็ไม่ได้เกี่ยวกับที่ผู้หญิงคนนี้ทักมา
แต่เราแค่งงว่า ผู้หญิงคนนี้รู้ได้ยังไง ว่าเราเลิกกับแฟนเราแล้ว ทั้งๆที่เฟสบุคเรา ไม่มีการโพสดราม่าอะไรทั้งนั้น
โพสรูปไปเที่ยวปกติกับเพื่อน เพื่อนน้อยคนด้วยที่รู้ว่าเราเลิกกับแฟนแล้ว
ขอบคุณพื้นที่ตรงนี้มากค่ะ นี่เป็นกระทู้แรก ที่เราลองมาเขียนดูค่ะ อย่างน้อยการได้ระบายมันก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ