บริษัทหนึ่งใน MAI ขึ้นต้นด้วย Txxx ประกอบธุรกิจให้บริการด้านวิศวกรรม แต่คิดการใหญ่อยากเติบโตเร็ว เร่งลงทุนต่างประเทศเกินตัว สุดท้ายล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง จนเสียหายมากกว่า 600-700 ล้านบาท จากโครงการโรงไฟฟ้าพม่าและการลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งถ้าหากตัดสินทรัพย์ปลอมๆ ที่ด้อยค่าออกไปแล้ว บริษัทอาจจะเสี่ยงล้มละลายในทันที
1. โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน รัฐฉาน - ความเสียหายรวม 500-600 ล้านบาท
การลงทุนในโครงการนี้น่าจะเกินสิบปีแล้ว ไม่มีความคืบหน้า มีแต่ให้ความหวังลมๆแล้งๆ กับนักลงทุนแมงเม่า โครงการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐบาลท้องถิ่น ตั้งแต่กลางปี 2015 โดยมีกำหนดจ่ายไฟภายในปี 2017 (อ้างอิง
TNDT คาดโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่าพร้อมจ่ายไฟได้กลางปีหน้า ) แต่ถึงปัจจุบัน ส่วนที่เป็นอุปกรณ์สำคัญที่โรงไฟฟ้าต้องมีอย่าง กังหันปั่นไฟ หม้อไอน้ำ ระบบลำเลียงเชื้อเพลิง ระบบน้ำ ยังไม่มีแม้ซักชิ้นเดียว! อีกทั้งโดนเคราะห์ซ้ำที่ทั่วโลกประกาศเลิกทำโรงไฟฟ้าถ่านหินอีก ดังนั้น เรื่องจะทำโครงการต่อไม่ได้ไปคิดถึง ตีค่าโครงการนี้เป็น 0 ได้ไม่ยาก อีกอย่างสัญญา PPA ที่หมดอายุไปแล้ว โอกาสริบหรี่ที่จะต่อสัญญาอีก หรือถ้ารัฐบาลพม่าที่ตอนนี้จะล้มมิล้มแหล่ยังหลับตาต่อสัญญาให้ โอกาสที่คนที่จะร่วมลงทุนทำโครงการต่อก็มีดมน เพราะเสถียรภาพในรัฐฉานไม่มี ยิงกันทุกวัน จะแยกประเทศเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้เลย
สัดส่วนทรัพย์สินของโรงไฟฟ้าพม่าในงบดุลรวมของบริษัทสูงมาก ถ้าผู้ตรวจสอบบัญชีเอาจริงเอาจัง หรือไม่มีข้ออ้างเรื่องโควิดและความไม่สงบในพม่าแล้วทำให้ไปตรวจสอบหน้างานไม่ได้แล้ว โครงการนี้ตัดเป็น”ศูนย์” ได้ทันที
2. โครงการลงทุนในอินโดนีเซีย - ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
บริษัทคิดการใหญ่ไปอินโดนีเซียตอนที่กำลังมีเงินและใจใหญ่ 10 ปีที่แล้ว เพราะคิดซื่อๆ ว่าศักยภาพ oil and gas ดี เลยกระโจนเข้าไป ให้เงินกับหุ้นส่วนอินโดนีเซียเป็น 100 ล้านบาท สุดท้ายดูแลไม่ถึงบริหารไม่เป็น เงินที่ใส่ลงไปทั้งหมดจมน้ำ ตอนนี้ธุรกิจไม่เหลือแล้ว
จากข้อมูลเวบไซด์บริษัท ยังอวดอ้างศักยภาพการลงทุนในอินโดนีเซียล่อแมงเม่า พร้อมระบุตำแหน่งสำนักงานใหญ่ที่ตั้ง แต่พอกดไปดูก็โป๊ะแตก อาคารร้างผีหลอกขนาดนี้คือการลงทุน 100 ล้านบาท ที่ยังมีศักยภาพอยู่หรือเปล่า
ข้อมูลวงในของพนักงานในบริษัทเป็นที่รู้ๆ กันว่า “อินโดนีเซีย มันจบแล้วครับนาย” มีแต่ทางผู้บริหารที่ยังสร้างภาพสร้างเวบไซต์ให้ยังดูยิ่งใหญ่
บทสรุป เอาแค่การลงทุนในต่างประเทศ ความเสียหายรวมกว่า 600-700 ล้านบาท เทียบกับงบดุลที่มีทรัพย์สิน 1,000 ล้านนิดๆ แล้ว หาก Auditor และ กลต ตื่นหรือใส่ใจปกป้องนักลงทุนซักหน่อย ส่วนทุนของบริษัทน่าจะเกือบติดลบในทันทีเรียกว่าล้มละลายในข้ามคืนเลยทีเดียว ข่าววงในในบริษัท สภาพคล่องใกล้หมดแล้ว พนักงานตอนนี้ไม่ได้รับเงินเดือนตรง ใช้ระบบผ่อนเงินเดือนกันแล้ว
บริษัทหนึ่งใน MAI หลอกตานักลงทุนกับโอกาสและทรัพย์สินด้อยค่า เสี่ยงล้มละลายในปีนี้แล้ว
1. โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน รัฐฉาน - ความเสียหายรวม 500-600 ล้านบาท
การลงทุนในโครงการนี้น่าจะเกินสิบปีแล้ว ไม่มีความคืบหน้า มีแต่ให้ความหวังลมๆแล้งๆ กับนักลงทุนแมงเม่า โครงการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับรัฐบาลท้องถิ่น ตั้งแต่กลางปี 2015 โดยมีกำหนดจ่ายไฟภายในปี 2017 (อ้างอิง
TNDT คาดโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่าพร้อมจ่ายไฟได้กลางปีหน้า ) แต่ถึงปัจจุบัน ส่วนที่เป็นอุปกรณ์สำคัญที่โรงไฟฟ้าต้องมีอย่าง กังหันปั่นไฟ หม้อไอน้ำ ระบบลำเลียงเชื้อเพลิง ระบบน้ำ ยังไม่มีแม้ซักชิ้นเดียว! อีกทั้งโดนเคราะห์ซ้ำที่ทั่วโลกประกาศเลิกทำโรงไฟฟ้าถ่านหินอีก ดังนั้น เรื่องจะทำโครงการต่อไม่ได้ไปคิดถึง ตีค่าโครงการนี้เป็น 0 ได้ไม่ยาก อีกอย่างสัญญา PPA ที่หมดอายุไปแล้ว โอกาสริบหรี่ที่จะต่อสัญญาอีก หรือถ้ารัฐบาลพม่าที่ตอนนี้จะล้มมิล้มแหล่ยังหลับตาต่อสัญญาให้ โอกาสที่คนที่จะร่วมลงทุนทำโครงการต่อก็มีดมน เพราะเสถียรภาพในรัฐฉานไม่มี ยิงกันทุกวัน จะแยกประเทศเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้เลย
สัดส่วนทรัพย์สินของโรงไฟฟ้าพม่าในงบดุลรวมของบริษัทสูงมาก ถ้าผู้ตรวจสอบบัญชีเอาจริงเอาจัง หรือไม่มีข้ออ้างเรื่องโควิดและความไม่สงบในพม่าแล้วทำให้ไปตรวจสอบหน้างานไม่ได้แล้ว โครงการนี้ตัดเป็น”ศูนย์” ได้ทันที
2. โครงการลงทุนในอินโดนีเซีย - ค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
บริษัทคิดการใหญ่ไปอินโดนีเซียตอนที่กำลังมีเงินและใจใหญ่ 10 ปีที่แล้ว เพราะคิดซื่อๆ ว่าศักยภาพ oil and gas ดี เลยกระโจนเข้าไป ให้เงินกับหุ้นส่วนอินโดนีเซียเป็น 100 ล้านบาท สุดท้ายดูแลไม่ถึงบริหารไม่เป็น เงินที่ใส่ลงไปทั้งหมดจมน้ำ ตอนนี้ธุรกิจไม่เหลือแล้ว
จากข้อมูลเวบไซด์บริษัท ยังอวดอ้างศักยภาพการลงทุนในอินโดนีเซียล่อแมงเม่า พร้อมระบุตำแหน่งสำนักงานใหญ่ที่ตั้ง แต่พอกดไปดูก็โป๊ะแตก อาคารร้างผีหลอกขนาดนี้คือการลงทุน 100 ล้านบาท ที่ยังมีศักยภาพอยู่หรือเปล่า
ข้อมูลวงในของพนักงานในบริษัทเป็นที่รู้ๆ กันว่า “อินโดนีเซีย มันจบแล้วครับนาย” มีแต่ทางผู้บริหารที่ยังสร้างภาพสร้างเวบไซต์ให้ยังดูยิ่งใหญ่
บทสรุป เอาแค่การลงทุนในต่างประเทศ ความเสียหายรวมกว่า 600-700 ล้านบาท เทียบกับงบดุลที่มีทรัพย์สิน 1,000 ล้านนิดๆ แล้ว หาก Auditor และ กลต ตื่นหรือใส่ใจปกป้องนักลงทุนซักหน่อย ส่วนทุนของบริษัทน่าจะเกือบติดลบในทันทีเรียกว่าล้มละลายในข้ามคืนเลยทีเดียว ข่าววงในในบริษัท สภาพคล่องใกล้หมดแล้ว พนักงานตอนนี้ไม่ได้รับเงินเดือนตรง ใช้ระบบผ่อนเงินเดือนกันแล้ว