สรุปข้อสันนิษฐาน ร่างทรง The Medium

เป็นการรวมข้อสันนิษฐานจากหลายๆที่นะครับ เนื่องจากเป็นหนังปลายเปิด เลยอยากสรุปสิ่งที่เดาไว้ครับ

1.สายเลือดของมิ้งฝั่งแม่ เป็นสายเลือดคนทรง จึงเป็นสายเลือดที่ค่อนข้างง่ายที่จะเป็นภาชนะให้วิญญาณสิงสู่ ในขณะที่ฝั่งพ่อตั้งแต่บรรพบุรุษนั้นโดนคำสาปแช่งมาตลอดตั้งแต่เป็นเพชรฆาตรตัดหัว รุ่นลุงเผาโรงงานมีคนตาย แม่ทำร้านขายเนื้อหมา ทำให้วิญญาณอาฆาตและคำสาปแช่งถูกส่งต่อมาลงที่มิ้งซึ่งได้สายเลือดคนทรงมาจากแม่ จึงง่ายที่จะโดนวิญญาณอาฆาตสิงสู่ (ฝั่งผู้ชายในครอบครัวน่าจะโดนคำสาปตายไปกันหมดเช่นกัน แต่ไม่ได้มีสายเลือดคนทรงจึงไม่ได้ตายจากการเข้าสิงแต่จะไปจบชีวิตจากอุบัติเหตุบ้าง ฆ่าตัวตายบ้างจากเกริ่นนำต้นเรื่องแบบเปิดๆ ซึ่งเหลือมิ้งเป็นทายาทคนสุดท้ายและบังเอิญมีสายเลือดคนทรง)

2. ยายตาบอด มาหามิ้งตอนที่ตัวเองตาย จะสื่อว่ามิ้งเหมือนเป็นภาชนะที่ดึงดูดดวงวิญญาณรอบๆ

3. มิ้งเล่าว่าฝันแบบเดิมซ้ำๆคือฝันเห็นเพชรฆาตรและกองเลือด หัวขาดที่พยายามพูด สื่อให้เห็นว่าวิญญาณตัวแรกที่มาสิงมิ้งคือวิญญาณของคนที่ถูกตัดหัวโดยเพชรฆาตรที่เป็นบรรพบุรุษฝั่งพ่อมิ้ง และน่าจะเป็นตัวที่บงการให้มิ้งกลายเป็นภาชนะของวิญญาณเร่ร่อนอีกหลายๆดวง

4. มิ้งน่าจะเคยทำแท้งมาก่อน จากฉากที่คุยกับเพื่อนผ่านโทรศัพท์ว่า ถ้ามีปัญหาอีกกุไม่ช่วยแล้วนะ ซึ่งหนังก็ทำแบบปลายเปิดโดยที่ไม่ได้บอกว่าท้องกับใคร ซึ่งก็มีทั้งความเป็นไปได้ว่าอาจจะท้องกับคนแปลกหน้า หรือไม่ก็ท้องกับแม็ค พี่ชายตัวเองที่ฆ่าตัวตาย

5. หนังพยายามใบ้ว่าในตัวมิ้งไม่ได้มีวิญญาณแค่ตัวเดียวจากการที่ต้นเรื่อง ป้านิ่มพยายามถามตากล้องว่า นอกจากอาการแสดงเป็นเด็ก มีบุคลิกอื่นโผล่มาอีกมั้ย

6. วิญญาณเด็กที่เข้าสิงมิ้งมาจากรองเท้าเด็กที่ดึงดูดมิ้งในโบสถ์ และมิ้งก็เก็บมันกลับมาในห้อง

7. การที่มิ้งเที่ยวเก็บของต่ำมาไว้ในห้องตัวเอง น่าจะเป็นเพราะโดนวิญญาณเร่ร่อนเข้าสิง และเก็บสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณตนนั้นกลับไปด้วยเพื่อที่จะได้อยู่ในร่างมิ้งต่อ ซึ่งจะเห็นหลายชิ้นในฉากที่ป้านิ่มเอาของไปทำพิธีที่ใต้ต้นไม้ที่แม็คผูกคอตาย จะมีทั้งของเด็กที่เป็นตัวแทนของวิญญาณเด็ก ถุงยางที่เป็นตัวแทนของวิญญาณกามราคะ เศษขยะถุงพลาสติกที่เป็นตัวแทนของวิญญาณคนเร่ร่อน(อันนี้เดานะ)

8. ตอนที่หัวหน้างานของมิ้งเปิดกล้องวงจรปิดแล้วเห็นมิ้งมีอะไรกับผู้ชายในที่ทำงาน มิ้งน่าจะโดนเข้าสิงไปแล้วโดยวิญญาณที่มีตัณหาราคะ และผู้ชายที่พามาบางคนน่าจะแอบขโมยของออกไป แต่มีบางคนที่มีรอยสักยันต์ที่หลัง ซึ่งไม่แน่ใจว่าคนๆนั้นเป็นผีหรือคน เพราะในฝันของมิ้งที่เห็นบรรพบุรุษตัดคอคน ก็มีคนที่มีรอยสักยันต์ที่หลังเหมือนกัน ซึ่งก็สามารถตีความได้ว่าอาจจะเป็นผีบงการให้มีอะไรกับตัวเอง

9. ตอนที่มิ้งโดนสิง มิ้งน่าจะจำอะไรช่วงนั้นไม่ได้เลย จากตอนที่มิ้งหลับไปในออฟฟิศแล้วโดนบงการให้มีอะไรกับคนแปลกหน้าหรือผี ตื่นมามีเลือดไหลออกมาจากหว่างขาเยอะมาก หรือแม้แต่ตอนโดนไล่ออกและตะโกนด่าหยาบๆ แต่วันต่อมาก็ยังไปทำงานเหมือนจำอะไรไม่ได้

10. พล็อตที่ผิดผีกับพี่ชายเหมือนสร้างมาเพื่อเอามาหลอกให้คนดูคิดว่าจริงๆผีที่สิงมิ้งคือแม็ค ซึ่งน่าจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ย่าบาหยันไม่เลือกที่จะมาเข้าร่างมิ้ง แต่น่าจะเป็นมิ้งที่ปฏิเสธย่าบาหยันเองมากกว่า จากการที่แม่ตัวเองเคยทำและสอนลูก แต่ก็คิดต่อไปได้อีกว่าต้นเหตุที่ทำให้เกิดการผิดผีมาจากการที่มิ้งโดนสิงรึเปล่า เพราะเราไม่มีทางรู้ว่ามิ้งสามารถโดนสิงมานานแค่ไหนแล้ว

10.1 จริงๆการที่ย่าบาหยันไม่ได้พยายามมาเข้าร่างมิ้งสันนิษฐานได้หลายอย่าง เช่น เพราะมีวิญญาณร้ายอื่นมาแทนที่ก่อนแล้วรึเปล่า

11. ฉากที่เฉลยว่าแม็คไม่ใช่ผีที่บงการมิ้ง แต่เป็นผีที่โรงงานร้าง น่าจะเป็นตอนที่ตอกไข่แล้วไข่ใบนั้นกลายเป็นสีดำน่าจะเป็นตรงสิ่งของที่มาจากโรงงานร้าง ทำให้รู้ตำแหน่งว่ามิ้งน่าจะอยู่ที่โรงงานร้างของตระกูลยะสันเทียะ

12. ในตอนแรกร่างของมิ้งเหมือนเป็นภาชนะที่ดึงดูดวิญญาณรอบๆ แต่การจะเข้าสิงต้องอาศัยเวลาและการเก็บสิ่งของกลับบ้าน แต่หลังจากไปทำพิธีรับขวัญมั่ว ทำให้ร่างมิ้งเข้าสู่สถานะถูกเข้าสิงโดยสมบูรณ์เหมือนรถที่เสียบกุญแจคาไว้ ใครจะขับไปไหนก็ได้ ทั้งวิญญาณหมา วิญญาณอาฆาตจากรุ่นบรรพบุรุษและจากโรงงานร้างก็กลับมาคิดบัญชีผ่านร่างมิ้ง

13. การที่เศียรรูปปั้นของย่าบาหยันขาด สามารถตีความได้หลายอย่าง ได้แก่ ชะตาของครอบครัวป้านิ่มป้าน้อยจะขาดและป้านิ่มไม่สามารถปกป้องใครได้, เป็นการสื่อสารโดยนัยยะของวิญญาณตัวBoss ที่เคยถูกฆ่าตัดคอโดยบรรพบุรุษพ่อมิ้ง และคนที่ตัดเศียรรูปปั้นอาจจะเป็นมิ้งที่โดนสิง, วิญญาณพยายามสั่นคลอนจิตใจป้านิ่ม เพราะรู้ว่าคนที่สามารถต่อกรกับมันได้คือป้านิ่ม

14. ตอนที่หมอผีพูดเรื่อง สติ้กเก้อรถคนนี้สีแดง ที่แปะบนรถสีดำ จะสื่อว่าพิธีกรรมที่จะจัดเป็นการหลอกให้ผีเร่ร่อนที่สิงมิ้งตามไปที่ป้าน้อยที่ถูกคลุมหัวอยู่เพราะหลอกว่าเป็นมิ้ง และให้มิ้งอยู่ในห้องที่ลงยันต์เพื่อพรางไม่ให้ผีเห็นภาชนะร่างจริงและไม่ให้วิญญาณกลับเข้าห้องได้เลยต้องพยายามให้คนเป็นเปิดประตูให้ โดยจะมีวิญญาณคนที่มาหลอกให้พี่สะใภ้คิดว่าลูกตัวเองอยู่ในห้องจนต้องเปิดประตูให้

15. ตอนทำพิธีกรรมพลาด คนที่ถือสายสิญจณ์น่าจะโดนของย้อนกลับ ทำให้วิญญาณที่ตอนแรกจะผนึกย้อนกลับไปสิงคนที่ทำพิธี ซึ่งสังเกตได้ว่าพวกตากล้องจะไม่มีใครโดนสิงเลย

16. ต้นเรื่องกล่าวว่า คนอีสานเชื่อว่า วิญญาณมีทั้งวิญญาณดีและวิญญาณร้าย แต่ตอนท้ายเรื่องเหมือนหนังจะหักมุมตรงที่ย่าบาหยันอาจจะไม่ใช่วิญญาณดีเสมอไป แต่ก็มีด้านชั่วร้ายและบงการเช่นกัน จากการที่ย่าบาหยัน(ในร่างป้าน้อย) ปักธูปกลับหัวในพิธี (การปักธูปกลับหัว ในทางความเชื่อคือการเรียกวิญญาณเร่ร่อน) ทำให้พวกหมอผีในพิธีโดนสิงและฆ่าตัวตายหมดและย่าบาหยันในร่างป้าน้อยก็หัวเราะสะใจ ซึ่งอันนี้เรายังงงอยู่เหมือนกันว่าทำไปทำไม

17. ตอนจบ ย่าบาหยัน(ในร่างป้าน้อย)น่าจะอยากให้คนที่เป็นสายเลือดตัวเองเหลือรอด เพราะต้องการสืบต่อภาชนะ จากตอนท้ายที่พยายามไล่วิญญาณออกจากร่างมิ้ง เพราะถ้าไม่แคร์อะไรก็น่าจะปล่อยมิ้งตายได้

18. หนังเล่นกับทฤษฎีเรื่องความศรัทธาและอิทธิฤทธิ์ หนังปูให้เห็นพื้นเพนิสัยของมิ้ง ว่ามิ้งไม่ได้มีความเชื่อหรือศรัทธาในความเชื่อผีหรือเรื่องย่าบาหยัน การที่ย่าบาหยันจะมาเทียมมิ้งจึงยากมากในคนที่ไม่ศรัทธา ในขณะเดียวกันที่ป้านิ่มเป็นคนที่ศรัทธามากแต่ในตอนท้ายสุดถูกสั่นคลอนความเชื่อโดยวิญญาณร้ายจนทำให้เลิกศรัทธา และทำให้ย่าบาหยันคุ้มครองไม่ได้ และโดนของเองจนไหลตาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่