หลายวันที่ผ่านมาคุณกุลฯ ที่เขานอกโฮมสเตย์ ซึ่งเราเคยเข้าไปทานอาหารซีฟู้ตมื้อเที่ยงเมื่อหลายเดือนก่อนส่งข่าวมาว่าช่วงนี้หมึกเข้า ... ใช่ครับ “หมึกเข้า” คือมีหมึกกล้วยเข้ามาว่ายน้ำหากินอยู่ในอ่าวบางเบ้าบริเวณที่ร้านผมอยู่ และสามารถตักหมึก หรือตกหมึกกล้วยเหล่านั้นมาทานได้อย่างไม่ยากนัก คลื่นลมสงบ น้ำนิ่ง ...สามารถเข้าไปนั่งที่ปลายสะพาน ล่อหมึกด้วยไฟสีเขียว เตรียมสวิง (หรือเบ็ด) และจับไว้ให้มั่น เมื่อมีหมึกเข้ามาในระยะที่ตักได้ก็จัดการตัดขึ้นมาทำอาหารทานได้เลย

(กระทู้เก่า https://ppantip.com/topic/40373134)

.

เราออกจากบ้านย่านหาดทรายขาวซึ่งห่างจากเขานอกโฮมสเตย์ย่านบางเบ้าประมาณ 16 กิโลเมตรราว 6 โมงเย็นครึ่ง ช่วงนี้มืดเร็วครับเพราะจะเข้าฤดูหนาวแล้ว บางวันลมแรง แต่วันนี้ลมสงบ คุณประทีป (สามีของคุณกุล) บอกว่าถ้าดึกหน่อยอาจมีลมได้ ลักษณะคล้ายลมว่าว ช่วงหัวค่ำจึงเป็นห้วงเวลาที่เหมาะสม วันที่เราเข้าไปคือพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (28 ตุลาคม) คุณกุล น้องกัปตัน และ อันดา รออยู่ที่ห้องโถงของโฮมสเตย์ที่ทำด้วยไม้ทั้งหมดสัมผัสแล้วอบอุ่น เราทักทายกันพอได้ความพร้อมเดินออกจากบ้านตามสะพานไม้ที่ทอดยาวลงไปในทะเล ถึงบ้านปลายสะพาน 

.

.

บ้านปลายสะพานเป็นที่พักอีกหลังของเขานอกโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ในทะเลบริเวณเกือบสุดทางเดินของรีสอร์ท คุณกุลบอกว่าแขกสามารถจองเข้ามาพักที่บ้านหลังนี้ได้ จุคนได้ประมาณ 10 คน เป็นห้องโถงกว้างๆ มีที่นอนและห้องน้ำให้ครบถ้วน แถมได้บรรยากาศบ้านกลางทะเลอย่างแท้จริง

คุณย่ากับคุณปู่ของน้องกัปตันกำลังนั่งก้มหน้ามองลงไปในทะเลบริเวณที่ส่งไฟสีเขียวไว้ บริเวณสะพานติดไฟส่องสว่างพอให้มองเห็นทางเดิน คุณประทีปกับเพื่อนกำลังทำไฟในเรือที่ใช้บริการแขกของรีสอร์ทอย่างขะมักเขม้น เราทักทายคุณปู่คุณย่าและคุณประทีป แล้วนั่งลงตามคำชักชวนของคุณย่า คุณย่าชี้ให้ดูในน้ำที่กำลังส่องไฟสีเขียวไว้ มีปลาเล็กว่ายวนไปวนมาอยู่เกือบเหนือน้ำ และชี้ให้เราดูหมึกตัวไม่ใหญ่นัก (หมึกกล้วย) ที่ว่ายน้ำอยู่ด้านล่าง คุณย่าบอกว่ามีปลาเล็กมากวน หมึกเลยไม่ค่อยเข้ามา พวกเรานั่งลงคุยกันอยู่สักพักจนคุณปู่กับคุณย่าบอกว่าพอมองเห็นหมึกหลายตัวเข้ามาแล้ว จึงเริ่มกระบวกการตักหมึก

.

.

ดับไฟแสงสว่างที่ส่องทางเดินพร้อมๆ กับดับไฟสีเขียว และเปิดไฟสีแดงขึ้นมาแทน  ปลาตัวเล็กที่ว่ายเร็วๆ อยู่เหนือน้ำต่างว่ายกระจายออกเป็นวงกว้าง แทนที่กันก็มีหมึกฝูงไม่ใหญ่นักว่ายเข้ามาเล่นไฟสีแดงเหนือน้ำแทน ทันใดนั้นเอง คุณปู่ที่ถือสวิงเตรียมไว้แล้วในมือก็จ้วงตักอย่างรวดเร็ว มีหมึกติดสวิงมา 2-3 ตัว ซึ่งก็ถือว่าเราประสบความสำเร็จ แต่ด้วยฝูงหมึกไม่ใหญ่ จึงได้หมึกติดสวิงขึ้นมาไม่มาก คุณย่าบ่นว่าเพราะวันนี้มีปลาเล็กมากวน หมึกจึงไม่เข้า

.

.

ไฟทางเดินสีขาวถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง ไฟสีแดงดับลง ไฟสีเขียวถูกเปิดขึ้นมาใหม่ พวกเราทำแบบนี้วนไปวนมาหลายรอบใน 1 คืน พวกเราตักหมึกแต่เพื่อนคุณประทีปที่ชื่อคุณเบ็นใช้การตกด้วยเบ็ด (เหมือนกับภาษาคนตกหมึกจะเรียกว่าโสก) คุณเบ็นถือเบ็ด 1 คันพร้อมเครื่องดื่มสีอัมพันอีก 3 ขวด และนั่งลงอย่างผ่อนคลาย

.

เราไม่ได้นั่งตักหมึกกับคุณย่านานนักเพราะหลังจากที่เราเข้ามาถึงและตักหมึกไม่กี่รอบ ผิวน้ำก็ค่อยๆ ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ดูแล้วคล้ายขยะไขมันที่ถูกทิ้งมาจากห้องครัวของโรงแรมใดโรงแรมหนึ่ง ... แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ คุณย่า คุณปู่ และคุณประทีป (3 ท่านนี้มีชีวิตอยู่กับทะเลตั้งแต่จำความได้ และเป็นชาวประมงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ) บอกตรงกันว่า คราบขาวๆ บนผิวน้ำคือขี้ปลาโลมา 

.

.

ทีแรกเราก็สงสัยว่าคำว่าขี้ปลาโลมา คืออุจจาระที่ออกมาจากก้นของโลมา หรือมันคือคำเรียกขยะบางประเภทในท้องทะเลกันแน่ เราถามย้ำจนมั่นใจว่าในทะเลแถบนี้ระยะนี้น่าจะมีปลาโลมาเข้ามาหากิน ทำให้มีขี้ปลาโลมาลอยตามกระแสน้ำเข้ามา โดยที่มาพร้อมขี้ปลาโลมาคือแพลงตอนเรืองแสง

ใช่ครับ แพลงตอนพวกนี้จะเรืองแสงสีฟ้าได้เมื่อกระทบกับแสงไฟหรือแสงธรรมชาติ ถึงแม้เราจะอยู่บนเกาะช้างมานานกว่า 10 ปี แต่เราไม่เคยเห็นปรากฎการณ์นี้มาก่อน เราตื่นเต้นไม่แพ้กับชาวต่างชาติที่คุณย่าเล่าว่าพวกเขาตื่นเต้นและชอบปรากฎการณ์นี้มากไม่แพ้พวกเรา แถมคุณย่ายังไปหยิบไม่ไผ่อันยาวมาแกว่งไปมาในน้ำให้เราได้เห็นการเรืองแสงของพวกมัน คลื่นที่เกิดจากการแหวกไปข้างหน้าของเรือประมงขนาดเล็กที่กำลังวิ่งผ่านเราไปก็ทำให้เกิดปรากฎการณ์แพลงตอนเรืองแสงนี้เช่นกัน

.

.

คุณกุลกลับมาหลังจากเดินไปบ้านเพื่อไปเตรียมอุปกรณ์ปิ้งหมึก ให้เราได้ทานหมึกสดๆ ที่เพิ่งตักขึ้นมาจากน้ำ ตัวหมึกใสๆ แต่อาจเป็นธรรมชาติของพวกเขาที่เมื่อขึ้นมาจากน้ำ แทบจะทันที หมึกเหล่านั้นก็ทำท่าแน่นิ่งไป เคลื่อนไหวเพียงเม็ดสีบนตัวเท่านั้น เรานั่งล้อมวงพูดคุยกันสัพเพเหระ คุณกุลต้มหมึกให้กัปตันและอันดาทาน ส่วนเราเน้นปิ้ง คุณย่านั่งอยู่ใกล้ๆ หลังจากที่เข้าไปทำพริกเกลือมาเสิร์ฟ (น้ำจิ้มซีฟู้ต) 

.

ดูเหมือนกัปตันจะกังวลเกี่ยวกับฝุ่นเหนือน้ำสีขุ่นที่เห็นเมื่อสักครู่ เฝ้าถามคุณย่าว่าหมึกที่เราจะทานจะสกปรกมั้ย คุณย่าอธิบายว่าฝุ่นเหล่านั้นแท้ที่จริงคือแพลงตอน ไม่ใช่ขยะสกปรกแต่อย่างใด ... เราถามกัปตันว่ารู้จักแพลงตอนมั้ย กัปตันพยักหน้าพร้อมตอบว่ารู้จัก

.

.

คุณกุลขอตัวพาอันดาไปอาบน้ำ เพราะเดี๋ยวดึกลมแรงจะหนาว กัปตันนั่งกับพวกเราอยู่สักพักก็เฝ้าถามถึงว่าคุณแม่จะออกมาอีกมั้ยจนคุณย่าต้องพากัปตันตามเข้าบ้านไป ... ที่ปลายสะพานหลังจากที่มีขี้ปลาโลมาลอยมาแพใหญ่ทำให้มองไม่เห็นหมึกที่ว่ายอยู่ใต้น้ำและเราต้องพักการตักหมึกลง ทำให้เหลือแต่คุณเบ็นซึ่งสักพักก็มีคุณประทีปมาสมทบ นั่งตกหมึกอยู่อย่างจดจ่อ พอขี้ปลาโลมาค่อยจางไป คุณเบ็นจึงเรียกพวกเราไปตักหมึกอีก 2-3 รอบ และหลังจากนั้นเราก็สาระวนกับหมึกปิ้งบนเตาข้างหน้าเสียมากกว่า คุณเบ็นเพียรตกหมึกมาเสิร์ฟเราอยู่เนืองๆ

.

หมึกตัวใสที่ตักได้ตั้งแต่หัวค่ำค่อยๆ เปลี่ยนจากตัวใสค่อยๆ ทยอยกลายเป็นสีขาวแบบหมึกที่เราเห็นคุ้นตาตามตลาดสด เรือประมงทยอยวิ่งกลับเข้ามาจอดที่สะพานเทียบเรือประมงบางเบ้าที่อยู่ห่างจากเราระยะที่พอตะโกนคุยกันได้ยิน เสียงเพลงที่ดังมาจากฝั่งหาดคลองกรอยตั้งแต่หัวค่ำ ตอนนี้ค่อยเงียบเสียงลง 

.

คุณย่าบอกว่า หมึกเหล่านี้นอกจากจะนำมาปิ้งและต้มแบบที่เรากำลังทำอยู่ เรายังสามารถทำเมนูง่ายๆ ของชาวประมงตามประสาชาวประมงพื้นบ้าน เขาเรียกหมึกต้มน้ำดำ คุณย่าบอกว่าก็แค่เอาหมึกที่เราได้ใส่ในน้ำที่ต้มให้เดือด ทุบหอมแดงใส่ลงไป 2-3 หัว เติมเกลือเล็กน้อย น้ำตาลสัก 1 ช้อนโต๊ะ เท่านี้ก็จะได้เมนูแสนอร่อยที่ทำจากหมึกสดๆแล้ว

.

ราว 4 ทุ่มครึ่ง รวมทั้งท้องของเราก็ไม่สามารถรับอาหารลงไปได้อีกต่อไป เราช่วยคุณกุลเก็บของเข้าบ้านพร้อมบอกลาคุณประทีปและคุณเบ็นที่กำลังนั่งตกหมึกอย่างผ่อนคลายเคล้าเครื่องดื่มสีอำพัน 3 ขวดนั้น เราขอซื้อหมึกคุณกุลกลับมาอีก 4 กิโล ซึ่งแช่แข็งไว้ในตู้แช่เรียบร้อยแล้ว คุณย่าแบ่งไว้ถุงละ 1 กิโลพร้อมแบ่งขาย เราได้ยินเสียงกรนเบาๆ ของคุณปู่ เสียงเงียบกริบของห้องนอนกัปตันและอันดา และเสียงที่เราไม่อาจได้ยินได้ของความมืดรอบข้าง

.

วันนี้ (31 ตุลาคม 2564) เราโทรหาคุณกุลอีกครั้ง คุณกุลบอกว่าวันที่เราเข้าไปนับเป็นโชคดี เพราะหลังจากวันนั้นก็แทบจะตักหมึกไม่ได้อีกเลย ฝูงหมึกได้เคลื่อนย้ายลงสู่ท้องทะเลลึกแล้ว และจะจับขึ้นมาเป็นอาหารได้ก็เฉพาะเรือประมงไดหมึกเท่านั้น คุณกุลฝากมาว่าตอนนี้เขานอกโฮมสเตย์เปิดรับนักท่องเที่ยวตามปกติ และยินดีต้อนรับทุกท่านครับ ทักไปที่เฟสของโฮมสเตย์ได้เลย -》 https://web.facebook.com/khaonokhomestaykohchang

--------------------

คุณหมูยอ

28 ตุลาคม 2564

บันทึกไว้เมื่อ 31 ตุลาคม 2564

-------------------