นอกเหนือจากการคำนวณพื้นที่ห้องน้ำ ทราบถึงออพชั่นและคุณสมบัติต่างๆ ของวัสดุที่ใช้ทำอ่างอาบน้ำแล้ว สองเรื่องเด่นที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การเลือกอ่างที่สอดรับกับสรีระร่างกาย และอ่างที่สอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งห้องน้ำ ดูอย่างไร แต่งแบบไหน เรามีไอเดียมานำเสนอให้คุณได้ทราบดังนี้ 

รูปทรงที่ใช่ 
ใช่ในที่นี้หมายถึง ภายในอ่างนั้นจะต้องโค้งมนสอดคล้องกับท่านอน-นั่งของตัวผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีที่ทำให้ทราบและเข้าถึงคุณสมบัติอ่างที่เราหมายตาไว้ได้ดีที่สุดก็คือ ทดสอบลงไปในอ่างดูว่าความกว้างและความยาวเหมาะกับสรีระร่างกายของเราหรือไม่ ซับพอร์ตไหล่หรือแผ่นหลังหรือเปล่า หากบางยี่ห้อให้สามารถทดลองใช้ก่อนซื้อได้ ถ้าคุณไม่รีบร้อนและสะดวกต่อข้อเสนอนี้ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียวในการพิสูจน์แช่ตัวแบบจริงจังเป็นเวลานานๆ 

เกร็ดความรู้เล็กๆ เรื่องรูปทรง
- รูปทรงอ่างมาตรฐานทั่วไปมักออกแบบเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือทรงวงรี  โดยส่วนใหญ่จะใช้กับการลงแช่ตัวแบบเดี่ยวหรือลงแช่แบบคู่ 

-  อ่างทรงกลมหรือทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส (ถ้าไม่ใช่อ่างเข้ามุม) มักดีไซน์ให้มีขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการใช้งานพร้อมๆ กันหลายคน จึงทำให้เปลืองเนื้อที่มาก ดังนั้นภายในห้องน้ำจะต้องกว้างขวางถึงจะเหมาะในการติดตั้งอ่างรูปทรงนี้

- อ่างเข้ามุมที่นิยมออกแบบเป็นทรงกลมและทรงสี่เหลี่ยมจตุรัส เหมาะมากๆ สำหรับการแก้ปัญหาพื้นที่ขนาดเล็ก ที่ต้องการอยากมีอ่างแช่ตัวในห้องน้ำ 

สไตล์ที่ชอบ 
ก่อนที่จะนำอ่างอาบน้ำมาวางตั้ง ประการแรกสำคัญเลยคุณต้องคำนึงสไตล์ห้องน้ำที่เราตกแต่งว่าออกแบบมาในทิศทางใด โมเดิร์นหรือคลาสสิก ฯลฯ  เพราะความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวจะช่วยเสริมส่งให้ห้องน้ำดูสวยงามและน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น หากเป็นห้องน้ำในสไตล์มินิมัล ควรเลือกอ่างที่มีเส้นสายบางตา เพื่อมอบความรู้สึกงดงามแบบเรียบง่าย หรือห้องน้ำที่ตกแต่งผนังแบบปูนเปลือย อาจลองนำอ่างผิวทองแดงแบบลอยตัวมาวางตั้ง เพื่อเสริมส่งอารมณ์ให้ดูดิบเท่ได้มากยิ่งขึ้น แต่ถ้าชอบความท้าทาย อยากแต่งห้องน้ำเป็นแบบแนว Ecletic Style ก็ทำได้ เพียงแต่คุณต้องใช้เทคนิควิธีในการหาจุดเชื่อมโยงที่ทำให้สองสไตล์ต่างขั้ว สามารถแมทช์เข้ากันได้ก็เท่านั้นเอง  เช่น หากอยากได้อ่างอาบน้ำทรงโคโลเนียล มาตกแต่งห้องน้ำโทนสีขาวสไตล์โมเดิร์น ก็ควรจะเลือกหาอ่างที่มีเฉดสีเดียวกันมาจัดวาง เป็นต้น 

เคล็ด (ไม่) ลับทำให้พื้นผิวอ่างดูใหม่อยู่เสมอ 
1.หลังการอาบน้ำหรือแช่ตัว ควรใช้น้ำสะอาดชำระล้างทันที เพื่อช่วยไม่ให้เกิดคราบสะสมฝังแน่น 
2.การใช้น้ำผสมผงซักฟอกและโซดา ชุบด้วยผ้าหรือฟองน้ำเพื่อเช็ดทำความสะอาด สามารถทำให้อ่างดูเงางามและเหมือนใหม่อยู่เสมอ 
3.ห้ามใช้ของแข็งขัดถูอ่างเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ 
1.หลังการอาบน้ำหรือแช่ตัว ควรใช้น้ำสะอาดชำระล้างทันที เพื่อช่วยไม่ให้เกิดคราบสะสมฝังแน่น 
2.การใช้น้ำผสมผงซักฟอกและโซดา ชุบด้วยผ้าหรือฟองน้ำเพื่อเช็ดทำความสะอาด สามารถทำให้อ่างดูเงางามและเหมือนใหม่อยู่เสมอ 
3.ห้ามใช้ของแข็งขัดถูอ่างเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้