จะทำอย่างไรดี เมื่อหลานสาวฟ้องแม่ว่า ถูกแฟนเราล่วงเกิน

เรื่องมีอยู่ว่า หลานสาววัยมัธยมฯ ปลาย ซึ่งรักใคร่และสนิทสนมกับแฟนเราดี ด้วยเพราะแฟนเรารักหลานๆ เราทุกคนในครอบครัว เรามีหลานชาย 4 คน หลานสาววัยมหาลัย 1 คน และหลานสาวมัธยมปลายที่เป็นโจทย์ 1 คน ความสัมพันธ์อาเขยและหลานเป็นไปอย่างอบอุ่นตั้งแต่เด็กๆ เกิด และโต เพราะแฟนเราคบกับเราตั้งแต่สมัยเรียน ทุกคนในครอบครัวรักแฟนเรา และเชื่อถือ ไว้ใจมาโดยตลอด 

แฟนเรากับเราเลี้ยงหลานสาวคนแรกตั้งแต่เกิดจนถึงวันนี้วัยมหาลัยแล้ว ด้วยความรัก และอบอุ่นมาโดยตลอด ครอบครัวเราจึงให้ความไว้วางใจแฟนเรามาโดยตลอด บรรยากาศครอบครัวเราอบอุ่นมาก และเราก็มีความสุขที่ได้มีคู่ชีวิตที่ดี ... 

จนเมื่อมีหลานสาวคนที่สองในครอบครัว เรายอมรับว่าเราไม่เคยรักเค้าเลย เพราะเค้าเป็นเด็กที่ปากร้าย เอาแต่ใจ เถียงกับเราบ่อยๆ และมีพฤติกรรมพูดให้น้องๆ ของเค้าไม่รักเรามาตลอด แต่เราด้วยความชอบแหย่ชอบยั่วหลานก็ไม่ได้ใส่ใจ  คิดแค่ว่าเป็นอาการของพี่อิจฉาน้องที่เรารักน้องชายเค้ามากกว่า ..ผ่านเวลามาจนเค้าโตได้วัยมัธยมฯ เธอก็สนิทกับอาเขย และพ่อแม่ของเขาก็ไว้ใจแฟนเรามาก หลายๆ ครั้งหลานคนนี้มานอนที่บ้านเรา เค้าจะรีเควสว่าจะนอนกะอาเขยตลอด และด้วยความที่เราไม่ค่อยกินเส้นกับหลานคนนี้นัก เราเลยปล่อยให้เค้านอนกับแฟนเราสองต่อสอง...ครั้งแรก ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น

จนผ่านมาสักสองสามสัปดาห์ เรากับแฟนมีโปรแกรมจะไปเที่ยวกางเต้นท์ สไตล์แค้มปิ้งกับเพื่อนๆ หลานสาวคนนี้ได้ขอไปด้วย โดยเค้าขอให้แฟนเราพาหลานสาวแฟนเราไปด้วย เพราะวัยไล่เลี่ยกัน เค้าอยากมีเพื่อนเราเข้าใจ ก็อนุญาตให้ไป หลานเรากับหลานแฟนเราสนิทกันมาก ด้วยความที่เค้าเป็นสาวทั้งคู่ขอนอนด้วยกัน เราก็จัดเต้นท์ให้หลานเรานอนกับหลานแฟน ... แต่แฟนเราบอกเราว่าเค้าจะนอนกับเด็กๆ เราท้วงว่าอย่าเลยไม่เหมาะ แฟนเราบอกว่าปล่อยให้นอนตามลำพังไม่ได้ เพราะเค้าห่วงเวลากลางคืนใครมาทำอะไรหลานเค้า เพราะหลานสาวแฟนเราครอบครัวเค้าไม่เคยมาพักค้างคืน ตจว.ที่ไหนเลย

เราก็เลยตามใจแบบเสียไม่ได้ ทุกคนอ่านมาถึงตอนนี้คงจะคิดว่าแล้วทำไมเราไม่ไปนอนกับหลาน เราตอบตรงๆ ว่าเราไม่ได้ปลื้มหลานสาวเราคนนี้แต่แรกอยู่แล้ว ออกจะไม่ชอบด้วยซ้ำ ดังนั้นไกลกับเราได้ยิ่งดี 

แล้วการมาเที่ยวด้วยกันครั้งนี้เรายิ่งไม่สนุกเพราะเหมือนการที่เราเป็นคนรับใช้หลาน หุงหาอาหารให้กิน หลานกินแล้วก็วางให้เราตามเก็บทุกมื้อ จานชามไม่ช่วยล้าง เรายิ่งเหนื่อยยิ่งเบื่อเค้าเข้าไปใหญ่ และต่อว่าเค้าไปหลายหนให้ช่วยกันเก็บ แต่ก็ยังดื้อไม่เคยช่วย เราเห็นว่าเค้าโตแล้วไม่ใช่เด็กเล็ก จึงอยากให้ช่วยกัน

ค่ำคืนนั้น ในเต้นท์ของหลานสาวแฟน และหลานสาวเราจึงมีสามคน คือ หลานสาวแฟนนอนฝั่งซ้าย หลานสาวเรานอนฝั่งขวา แฟนเรานอนตรงกลาง

... คืนแรกทุกคนสนุกสนานมาก แยกย้ายกันเข้านอน // คืนสองผ่านความสนุกมาทั้งวัน จึงพากันเข้านอนไว..

วันรุ่งขึ้นเดินทางกลับตามปกติ พี่ชายแฟนเค้ามารับหลานสาวแฟนกลับบ้านเค้าจากบ้านของเรา ส่วนหลานสาวเราก็รอพี่ชายเรามารับกลับบ้าน .. พอมาถึงบ้านเราปุ๊บพี่ชายแฟนเรามารับลูกสาวเค้าพอดี เราก็ส่งหลานสาวแฟนขึ้นรถ ร่ำลากันปกติ ส่วนหลานสาวเราเราไม่สนใจเค้า เราปล่อยเค้านั่งที่ห้องรับแขก แล้วเราขึ้นไปบนห้องนอนเพราะเพลียๆ เราล้มตัวลงนอนสักครู่ แฟนเรามาในห้องบอกว่าไม่ลงไปอยู่ข้างล่างกับหลานเหรอ เราก็บอกว่าไม่ เพราะเราไม่ชอบเด็กคนนี้ สักพักแฟนเราก็ไปอาบน้ำห้องน้ำประจำเค้าคือหน้าห้องนอนเราเอง เราได้สติคิดว่ายังไงก็หลานนะ ลงไปอยู่กับหลานสักพัก เดี๋ยวพ่อเค้า(พี่ชายเรา) ก็มารับกลับบ้านแล้ว เราเลยลงมา ไม่เห็นหลานอยู่ที่โซฟาห้องรับแขกเลยตะโกนไปที่ห้องน้ำและถามว่าทำอะไร แกล้งแซวว่าขี้แตกเหรอ สักพักหลานเราเปิดประตูออกมายิ้มๆ แต่ไม่ยอมพูดอะไร ในมือเหมือนกำลังแชทคุยกับเพื่อน หูก็ใส่สมอทอร์คตามปกตินิสัยเค้า สักพักพี่ชายเราก็มารับ เราก็ส่งหลานขึ้นรถ แล้วใช้ชีวิตตามปกติ

ผ่านมา 6 เดือน แม่เราโทรมาเล่าให้ฟังว่า พี่สะใภ้เราร้องห่มร้องไห้โทรมาบอกว่า หลานสาวเราเล่าให้ฟังว่าเค้าถูกแฟนเราล่วงเกินเค้า โดยจับนมเค้า และจับจุ๋มจิ๋มเค้าในเต้นท์คืนที่สองที่ไปเที่ยวกัน ... พอกลับมาถึงบ้านเราเค้าบอกว่าแฟนเรามานอนหนุนตักเค้า เค้าขยะแขยงมากเลยรีบลุกหนีไปอยู่ในห้องน้ำ

เรื่องนี้สะเทือนใจเรามาก อีกคนก็คืนคนที่เรารักและไว้ใจมาก อีกคนคือลูกหลานของเรา ถึงเราจะไม่ได้รักหลานคนนี้ แต่เค้าคือเด็ก ถ้าเค้าถูกกระทำแบบนั้นจริงๆ เราเสียใจและสงสารหลานมาก

ระยะเวลาก่อนที่พี่สะใภ้เราจะมาเล่าเรื่องนี้ให้แม่เราฟัง เราผิดสังเกตุว่าปกติแฟนเรากับครอบครัวพี่ชายเราสนิท และให้ความช่วยเหลือกันมาโดยตลอด ทำไมไม่ติดต่อพูดคุยกันเหมือนเดิม เราถามแฟนเราว่ามีอะไรกัน เค้าก็บอกว่าไม่รู้ ทักไลน์หาพี่สะใภ้เราเค้าอ่านแต่ก็ไม่ตอบ เราเลยสงสัยว่าทะเลาะกันเรื่องเงินมั้ย เพราะพี่สะใภ้ชอบมายืมเงินแฟนเรา แต่แฟนเราบอกไม่เคยทะเลาะ เวลาให้ยืม ก็คิดว่าให้เค้าด้วยซ้ำไป เพราะน้อยครั้งจะได้คืน แต่เพราะรักนิสัยใจคอ เห็นเป็นพี่น้องกันก็ช่วยเหลือกันมาตลอด

ทันทีที่แม่เราเล่าให้ฟัง เราถามแฟนทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น เค้าได้ทำแบบนั้นในเต้นท์ที่มีหลานสาวทั้งสองจริงมั้ย แฟนเราปฏิเสธว่าไม่ได้ทำแบบที่หลานสาวเรากล่าวหา แต่แฟนเราเล่าว่าคืนนั้นก่อนเข้านอนจำได้มั้ยที่เด็กสองคนนั้นเล่นหลอกผีกันในเต้นท์ ... พอกลางดึกหลานสาวเราตกใจละเมอ แฟนเราก็เลยตบหลังหลาน และหอมแก้มเบาๆ เค้าบอกด้วยความรัก เค้าตั้งใจปลอบไม่ให้ตกใจกลัว แล้วเค้าก็จับมือหลาน จนหลานหลับไป

พอเราพูดคุยกันแล้ว เราเลยพาแฟนเราไปหาแม่เรา และเรียกพี่สะใภ้มาเคลียร์ให้เข้าใจ ในวันนั้นมีเรา มีแฟนเรา หลานสาววัยมัธยมฯที่เป็นโจทย์ แม่เรา(ย่าของหลาน) และหลานสาวคนโตวัยมหาลัย... เราปรี่เข้าไปหาหลานสาวคนโตที่เค้าเรียกเราว่าแม่ ว่า.. นู๋รู้เรื่องนี้มานานแล้วทำไมไม่เล่าให้แม่ฟัง เค้าบอกว่า นู๋สงสารแม่ เราถามต่อว่าแฟนเราเคยทำกับเค้าแบบที่น้องเล่ามั้ย หลานสาวเราคนโตบอก ไม่เคย แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรอีก

พอทุกคนพร้อมหน้า...

ทันใดที่หลานสาววัยมัธยมฯ (โจทย์) ของเราเห็นแฟนเรา เค้าบอกว่าให้อาเขยออกไปก่อนได้มั้ยเค้าจะเล่าให้เราฟังเอง เราจึงให้แฟนเราออกไป หลานเราเล่าว่า คืนที่สองที่นอนเต้นท์ แฟนเราจับนมเค้า และจับจุ๋มจิ๋มเค้า เราตกใจมากและเข้าใจความรู้สึกเด็กถูกกระทำ ..เราถามเขาว่าผ่านมาหกเดือนแล้วทำไมเพิ่งมาบอก เค้าบอกว่าเค้าสงสารเรา...พอคุยกับหลานต่อหน้าแม่เราและพี่สะใภ้จบ เราเลยเรียกแฟนเราเข้ามา และให้หลานเล่าอีกครั้งต่อหน้าเค้า แฟนเราปฏิเสธและเล่าเหตุการณ์ให้แม่กับพี่สะใภ้เราอย่างที่เล่าให้เราฟัง

พอจบสิ่งที่แฟนเราเล่า หลานสาวเราพูดว่า ทำก็ยอมรับมาเถอะ ทำตัวน่าเชื่อถืออยู่ได้ .. แฟนเรานิ่งไม่พูดอะไรเลย จนแม่เราพูดกับเค้าว่าทำก็ขอโทษแม่เด็ก(พี่สะใภ้เรา)ซะ เรื่องนี้พี่สะใภ้เรายังไม่เล่าให้พี่ช่ายฟังนะเนี่ย แม่เราพูดทำนองขู่แฟนเราว่าถ้าพี่ชายเรารู้ เป็นเรื่องแน่...

แต่ในวันนั้นเราพูดกับทุกคนว่า ความจริงย่อมเป็นความจริง อย่าปิดบังพี่ชายเรา แต่ทุกคนทำเป็นกลัวไม่อยากให้พี่ชายเรารู้

ก่อนจบเรื่องในวันนั้นแบบหาความจริงไม่ได้ เราได้บอกกับแฟนเราต่อหน้าทุกคนว่ามีอะไรจะพูดมั้ย แฟนเราพูดกับหลานเราขึ้นมาประโยคนึงว่า อาถามหน่อย วันนั้นอาล้วงเข้าไปจับนมนู๋ในเสื้อ ล้วงเข้าไปจับจุ๋มจิ๋มในกางเกงเหรอ... หลานเราส่ายหัว... จากนั้นแฟนเราก็ไม่พูดอะไรอีก 

เราหันกลับไปถามหลานเราว่า แฟนเราหอมแก้มนู๋จริงมั้ย.. หลานเราพูดว่า จำไม่ได้

เรางง และสับสนกับเหตุกาณ์นี้ ได้แต่ร้องห่มร้องไห้เพราะความเสียใจตลอดคืนที่กลับบ้านมากลับแฟนเรา ว่าทำไมชีวิตต้องเจอเรื่องบัดซบแบบนี้

จนในวันรุ่งขึ้นเราทนไม่ได้ต้องการระบายให้เพื่อนสักคนรับรู้ความเครียดครั้งนี้ เพราะมันเป็นการทำลายความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอย่างชัดเจน

เราจึงปรึกษาเพื่อนรุ่นพี่ที่ไปกางเต้นท์ด้วยวันนั้น พี่ๆ เค้าบอกกับเราว่าหลานเธอไม่ใช่เด็กธรรมดา เด็กคนนี้กล้าเกินงาม และโกหกเก่ง เราตกใจว่าเค้าเห็นอะไรในหลานเรา ....และเราก็ไม่คิดว่าหลานที่เป็นสายเลือดของพี่ชายเราแท้ๆ เค้าจะคิดอะไรได้ถึงเพียงนี้ และเค้าจะทำเพื่ออะไรไปทำไม...

ด้วยความที่เราเสียใจมากขึ้นๆ เครียดมาก แฟนเราจึงตัดสินใจเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปเล่าให้พี่ชาย(พ่อของหลานสาววันมัธยมฯ) ของเราฟัง

ว่าลูกสาวของเขาบอกว่าแฟนเราทำกับเค้าแบบนี้ แฟนเราคุยกับพ่อของเด็กแบบลูกผู้ชายว่า ...เค้าไม่ได้ล่วงเกินเด็กแบบนั้น มีเพียงสิ่งเดียวที่เค้าทำคือเค้าได้หอมหลานไปด้วยความรัก โดยลืมไปว่าหลานเค้าเป็นสาวแล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผ่านมาหนึ่งปี แต่หนึ่งปีที่ผ่านมานั้น ไม่มีลมหายใจใดที่เราจะลืมได้ หนึ่งคนรัก สองหลานร่วมสายเลือด ... เราคิดทุกวันทั้งยามตื่นยามจะหลับ เรื่องร้ายไม่เคยจางจากความทรงจำของเราเลย...

เราเครียดร้องไห้ด้วยความเสียใจในวันนึงหนักมาก มากจนทำให้สมองเราลืมเรื่องราวนี้ไปชั่วขณะ เราร้องไห้จนลืมไปว่าเราร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้นพยายามคิดให้ความทรงจำกลับมาก็คิดไม่ออก จนแฟนเราให้กินยาแก้เครียดก่อนนอนคืนนั้น เราจึงหลับไปได้ และตื่นมาความจำเราก็กลับมาชัดเจนอีก

แฟนเราบอกให้ลืมเถอะ อย่าไปจำเลย... แต่เราทำไม่ได้ จนปัจจุบันเราเริ่มเป็นคนเก็บตัว และไม่มั่นใจอีกเลย

เพื่อนๆ อ่านมาถึงตอนนี้คิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ เราควรพบจิตแพทย์มั้ยคะ แล้วจะดำเนินชีวิตไปอย่างไรดี..
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าไม่ใช่เรื่องแต่ง ก็เป็นคุณจขกท.นี่แหละ  ที่มีปัญหามากสุด ตรรกะระเนระนาดมาก

คุณไปเล่าให้จิตแพทย์ฟังเถอะ เราอ่านแล้วรู้สึกเกินเยียวยา
ความคิดเห็นที่ 34
อ่านแล้ว จขกท แย่มากนะ
เป็นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างแย่เลย

คุณไม่เอ็นดูเด็กน่ะ ไม่ผิดหรอกค่ะ ก็แสดงออกไปเลยว่าไม่ตามใจ ไม่เออออด้วย
มาขอนอนกับแฟนคุณ คุณก็ไม่ต้องอนุญาต เพราะมันไม่เหมาะสมและเพราะคุณไม่ชอบให้เขามานอนด้วย
นี่บอกว่าไม่ชอบหลาน ไม่รักหลาน แต่ดันให้เขามานอนกับแฟนตัวเองสองต่อสอง
คือคุณคิดยังไงของคุณ
ที่บ้านคุณก็เหมือนกัน เพี้ยนกันไปหมดแล้ว

แถมพอหลานขอไปนอนกางเต็นท์ด้วย
คุณไม่ชอบหลานก็ไม่ควรให้เขาไป หาทางเลี่ยงอย่างอื่นก็ได้
ให้เขาไปเพื่ออะไรคะ
ในฐานะญาติผู้ใหญ่ของเขา ให้เขาไปด้วย แต่ไม่ดูแลเขา ไม่เป็นห่วงเขา เพราะอ้างว่าไม่ชอบเขา

ไม่ชอบเขาแล้วให้เขามาด้วยทำไม
พาเขามาจากพ่อแม่ ต้องดูแลเขาทั้งเรื่องกินอยู่หลับนอนให้ปลอดภั
แต่นี่คุณจะให้เด็กสองคนนอนกันเอง โดยไม่ห่วงเลย
แถมพอแฟนบอกว่าปล่อยให้นอนสองคนไม่ได้
แทนที่คุณจะเสนอตัวไป ดันให้แฟนไป เพราะคุณไม่ชอบหลาน
พอหมดกิจกรรม คนอื่นกลับบ้านกันหมด
คุณยังปล่อยหลานนั่งรอคนเดียว คือต้องใจดำแค่ไหนถึงทำแบบนี้ได้

อ่านมาแล้วเราเคืองคุณนะ
เอาลูกเขามาแต่ไม่คิดถึงสวัสดิภาพ จะนอนแล้วเกิดอันตรายขึ้นก็ช่างมัน ฉันไม่สนใจ
ปล่อยเด็กนั่งรอคนเดียว ไม่สนใจว่าจะโดนล่อลวงหรือโดนหลอกไปไหนๆ
คุณเป็นผู้ใหญ่ที่แย่มากคนนึงเลยค่ะ

เราก็มีเด็กที่เราไม่ชอบค่ะ แต่ไม่ชอบคือเราไม่สนใจเลย
ไม่รับฝาก ไม่รับอะไรทั้งนั้น
ถ้าเมื่อไรที่เรารับเด็กมาจากพ่อแม่เขา ยังไงเราก็ต้องดูแลเด็กให้ดีค่ะ ต่อให้เราจะไม่ชอบเด็กก็เถอะ
เอาลูกเขามาก็ต้องดูแลให้อยู่ในสายตาตลอดจนกว่าจะเอาไปคืนพ่อแม่เขา
ถ้าคิดว่าทำไม่ได้ วันหลังอย่าไปรับเอาลูกใครมาอีกนะคะ

ส่วนเรื่องแฟนคุณ เราค่อนข้างเชื่อว่าเขาไม่บริสุทธิ์ใจ
แต่ได้จับจริงไหม อันนี้เราก็คงตอบไม่ได้นะคะ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรเลย
เด็กมัธยมไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้ว ไปหอมเด็กมันใช่เหรอคะ
เขายอมรับว่าเขาทำบางสิ่งไป เหมือนกับจะบอกว่าทำไปแต่ไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่เด็กเล่านะ

คุณก็ชั่งน้ำหนักเอาเองเถิดค่ะ
แต่อย่างแรกควรไปหาจิตแพทย์ตามที่หลายๆ ท่านแนะนำค่ะ
ความคิดเห็นที่ 5
คุณถามว่า "เพื่อนๆ อ่านมาถึงตอนนี้คิดว่าอย่างไรกันบ้างคะ" และนี่คือความคิดเห็นของเรา ซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกแย่กว่าเดิม เราจึงใส่ spoil ไว้ ถ้าจิตใจคุณยังไม่พร้อมอ่านก็ไม่ต้องเปิดอ่านก็ได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จะลองไปพบจิตแพทย์ก็ได้ค่ะถ้าอยากไป เรื่องมันผ่านไปแล้วค่ะ กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าตอนนี้หลานคุณโอเค แฟนคุณโอเค คุณก็น่าจะโอเคได้แล้วนะคะ
ความคิดเห็นที่ 14
อ่านถึงตรงนี้แล้วบับ...."พอกลางดึกหลานสาวเราตกใจละเมอ แฟนเราก็เลยตบหลังหลาน และหอมแก้มเบาๆ เค้าบอกด้วยความรัก เค้าตั้งใจปลอบไม่ให้ตกใจกลัว แล้วเค้าก็จับมือหลาน จนหลานหลับไป"


นี่ไม่ใช่เรื่องปกติแล้วเห้ย
ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องนี้คงหาข้อสรุปไม่ได้หรอกค่ะ มันไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้เลย (มีอีกทางนึงคือถามหลานแฟนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ก็คงไม่ได้อะไรหรอก)

ในเมื่อหาข้อสรุปไม่ได้ก็ต้องปล่อยผ่านและเดินหน้าต่อค่ะ
หลังจากนี้ไปไม่ต้องให้หลานและแฟนคุณอยู่ใกล้กันอีก เป็นไปได้คือไม่ต้องเจอกันเลยก็ดี จะได้มีมัวหมองใจกัน
ถ้าคุณยังเครียดอยู่แนะนำให้พบจิตแพทย์ค่ะ แก้ปัญหาสุขภาพจิตตัวเองก่อนเลย เรื่องอื่นๆปล่อยมันไปได้แล้ว

คห.อื่นๆในสปอยล์ อาจจะยิ่งซ้ำเติมใจจขกท.นะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่