ตามแผนที่ทาง NHC ของจีนวางเอาไว้คือ เมื่อฉีดวัคซีนให้ประชากรได้ถึงอย่างน้อย 83-85% ของประชากรทั้งหมด ก็น่าจะเริ่มมาตรการผ่อนคลายการเดินทางเข้าสู่ประเทศหน่ะครับ โดยอาจจะเริ่มจากการเปิดพรมแดน เสินเจิ้น-ฮ่องกงก่อนเลย (ส่วน จูไห่-มาเก๊า ทราบมาว่าเปิดให้เดินทางเข้าออกโดยไม่มี SQ กับแผ่นดินใหญ่มาตั้งแต่เดือนกรกฏาคมแล้ว แต่พอเจอกรณีที่นานกิงและลามไปถึงมาเก๊ากับจูไห่เลยปิดไปชั่วคราว ไม่แน่ใจว่ากลับมาเปิดหรือยัง)

ซึ่งคาดว่าประชากรจีนคงได้รับวัคซีนถึง 85% ภายในเดือนสองเดือนนี้แลครับ (ช่วงนี้อัตราการฉีดต่อวันของจีนลดลงมามาก คงเพราะเหลือคนที่ฉีดได้หรือยอมฉีดน้อยมากแล้ว)

หลังจากนี้จะเข้าสู่เฟสถัดไป ในการให้ Booster dose แก่คนกลุ่มเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นคนสูงอายุ คนที่ทำงานด่านหน้าสัมผัสโรค คนที่ทำงานตามสนามบิน ท่าเรือ สถานีขนส่ง คนที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงคนที่ทำงานด้านที่เกี่ยวกับการเดินทางต่างๆนาๆ โดยหลายๆเมืองเริ่มไปแล้ว และน่าจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายภายในต้นปี 2022 ให้ทันการเปิดต้อนรับโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ในเดือนกุมภาพันธ์หน่ะครับ

เมื่อจบเฟส Booster dose แล้ว คิดว่าจีนคงเริ่มผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศหรือออกจากประเทศมากขึ้น โดยค่อยๆลดระยะเวลา SQ และอาจจะยกเว้นให้กับคนที่ฉีดวัคซีนครบเป็นต้น ในช่วงไตรมาศที่ 2 ของปี 2022

ซึ่งตอนนั้นคงประจวบกับที่วัคซีนแบบสูดดมของ Cansino ผลิตออกมาขายได้พอดี และสามารถผลิตในปริมาณมากๆได้ กระจายให้ประชากรกลุ่มเสี่ยงได้ง่าย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการได้ดีมากขึ้น

พร้อมๆกับการมาของวัคซีนของ Clover biopharma, Sinopharm version II, Walwax mRNA ซึ่งจะถูกนำไปใช้เป็น Booster dose ฉีดให้ประชากรส่วนใหญ่ได้ในปี 2022 ครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น จีนคงประเมินสถานการณ์ด้วยว่า COVID-19 ในโลกตอนนั้นจะเป็นอย่างไร หลังจบเวฟเดลต้าแล้ว จะมีเวฟของตัวอื่นๆตามมาอีกหรือไม่ ซึ่งหวังว่าจะไม่มี เพราะสหรัฐเป็นขาลงแล้ว ยุโรปตะวันตกดูดีขึ้น อเมริกาใต้เป็นขาลงนิ่งๆ เอเชียใต้กับอาเซียนก็ดีขึ้นเยอะ เหลือยุโรปตะวันออกกับอิหร่านนี่แลที่ยังหนัก