ฉลองวันเกิดครบ 35 ปีด้วยการไปสักมาแหละ กระทู้นี้จะมาขอเล่าสตอรี่ของรอยสักนี้ให้ฟังครับ 🤪
จขกท. อยากสักมานานแล้ว แต่ไม่อยากได้งานที่ดูโหดเกินไป จนมารู้จักงานแนวนี้ เรียกแนว Conceptual Collaboration มั้งนะ ที่มีการผสมหลาย ๆ แนวเข้าไว้ด้วยกัน เช่น realistic+geometry+line ให้อยู่ในเรื่องเดียวกันได้แบบลงตัว จนเกิดมาเป็นงานชิ้นนี้ และนี่คือเรื่องราวของมันครับ
🦖 Childhood's Monster
พี่ T-Rex แทบจะเป็นพระเอกของงานนี้เลย ผมเลือกไดโนเสาร์มาเล่าเรื่องความชื่นชอบและความทรงจำวัยเด็กที่ผมมักโม้ใครต่อใครว่า ตอนเด็กผมสามารถจำชื่อไดไนเสาร์ได้แทบทุกสายพันธุ์และจำแนกออกไปในแต่ละยุคด้วย นอกเหนือจากนั้นคือวันที่หนังอย่าง Jurassic Park เข้าฉาย ฟีลที่พ่อแม่ขับรถพาไปดูหนังเรื่องนี้ เป็นความสุขที่ลืมไม่ลงจริง ๆ ดังนั้นหากจะหา symbolic อะไรที่เป็นเหมือนตัวแทนของความสุขในวัยเด็ก ก็ขอยกให้เป็นสัตว์โลกล้านปีไปเลยดีกว่า ซึ่งไดโนเสาร์ตัวนี้มีบรีฟสไตล์กับจ๊าบ (ช่างสัก professional tattoo artist ที่เป็นรุ่นน้องสถาปัตย์ เดี๋ยวจะชี้เป้าให้เข้าไปดูผลงานตอนท้ายครับ)ไปว่า ชอบแนวกึ่งเนื้อหนังกึ่งกระดูกครับ
📼 Happiness Rental
วันที่พ่อซื้อเครื่องเล่นวิดีโอ VHS เข้าบ้านครั้งแรก คืออะไรที่เปิดโลกมาก ทุกครั้งที่ตลับวิดีโอถูกยัดลงช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเข้าไป เราแทบจะหลุดหายไปอีกโลกนึงเลย จากที่แม่เริ่มซื้อหนังดูเองเยอะเข้า จนม้วนมันเริ่มเยอะ ประกอบกับที่บ้านทำเป็นร้านขายของจุกจิกในหมู่บ้านอยู่แล้ว (เท่ากับมีลูกค้าแน่ ๆ) เลยเกิดไอเดีย แตกไลน์เปิดเป็นร้านเช่าวิดีโอภายในหมู่บ้านซะเลย จากแค่หมู่บ้าน ก็ลามไปจนถึงทั้งซอย ที่ถ้าอยากดูหนัง ก็จะแวะเวียนมาที่บ้าน เช่าความสุขกลับไปในราคา 30 บ.เท่านั้น ส่วนเราทุกสัปดาห์ จะทำหน้าที่ไปเลือกหนังและหอบม้วนวิดีโอขึ้นรถเมล์กับแม่แทบทุกครั้งตั้งแต่ยุคม้วน VHS ถึงแผ่น CD ก่อนจะเลิกกิจการกันไปตามยุคสมัยของมัน จริง ๆ บรีฟส่วนนี้ผมบอกจ๊าบไปว่าเอามาแตะ ๆ แค่ไอค่อนก็พอ แต่น้องจัดมาให้แบบ technical drawing (exploded view) ซะเลย ซึ่งชอบมาก ๆ ครับ
🕕 Time of Vajiravudh's Boy
เติบโตในรั้ววชิราวุธวิทยาลัย คือความภูมิใจของชีวิต ที่ ๆ จะขัดเกลาให้เด็กชายคนหนึ่งเป็นผู้ชายที่ "อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ เข้มแข็งแต่ไม่แข็งกระด้าง" ด้วยความเป็นโรงเรียนประจำ กิจวัตรประจำวันจะถูกกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด (แต่ไม่เคร่งเครียด) ตีบอกการเปลี่ยนผ่านจากระฆังบน "หอนาฬิกาวชิราวุธวิทยาลัย" เลยเหมาะมากที่จะเป็น symbolic ของการได้ใช้ชีวิตมัธยมที่นี่ครับ บรีฟคือส่งภาพให้เลย 555 เพราะน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ต้องเหมือนต้นแบบ ถึงกับต้องไป TCDC เพื่อสแกนพิมพ์เขียวจากหนังสือ "100 ปี ศิลปะ สถาปัตยกรรม วชิราวุธวิทยาลัย" เป็นภาพสแกนพิมพ์เขียวโดย "คณะละครไทยเขษม" ที่มีการจัดแสดงละครพระราชนิพนธ์ หารายได้สร้างหอนาฬิกานี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชกุศล ในปี พ.ศ.2473 ครับ
📐 Perspective
ผมชัดเจนมาตลอดตั้งแต่ขึ้น ม.4 ว่าจะเรียนสถาปัตย์ ทุกวันนี้ไม่เคยรู้สึกสักวินาทีว่าเลือกทางผิดเลย ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสถาปนิกหรือนักออกแบบ ตามบรรทัดฐานที่คนภายนอกชอบมองว่า จบจากคณะนี้ ก็ต้องไปทำงานแบบนี้สิ! แต่สิ่งที่ได้จากคณะมาก็คือเครื่องมือความคิดที่ใช้ในการมองโลก มองคน มองปัญหา และมองทางแก้ ที่แตกต่างกันออกไป และนำมาใช้ได้กับทุกบริบทในชีวิตครับ ก็เลยเลือกสิ่งที่น่าจะเบสิคที่สุดของความเป็นเด็กถาปัตย์ ก็คือการวาดเส้นยิงตีบ (perspective) บทเรียนที่ทำให้เรารู้ว่าภายใต้การรับรู้แบบ 3 มิติ สิ่งของทุกอย่าง มีที่มาที่ไปเสมอครับ สำหรับลายนี้ผมจะมีส่วนร่วมในการปรับแบบไปกับช่าง โดยการขึ้นกล่องจากเส้นตีบที่น้องเค้าวางไว้ครับ
🦶 Ultra's Foot
ถ้าผู้คนออกวิ่ง ผมก็มีงานทำ 😆 ลายนี้ก็จะมีความเกี่ยวกับการวิ่ง, รองเท้าวิ่ง ที่เปลี่ยนจากกิจกรรมทำเล่น ๆ กลายเป็นงานประจำ ... เปลี่ยนจากฟันรัน กลายเป็นอัลตร้าเทรลมาราธอน!!! พอแบบไฟนอลออกมา คือชอบมาก เพราะให้อารมณ์เหมือนเท้าติดปีกของเทพ Hermes เทพแห่งการเดินทาง สื่อสาร และการพาณิชย์ครับ
และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของรอยสักที่บรรทุกความทรงจำ 35 ปีของผมไว้ครับ ณ ตอนที่เขียนสักมาครบ 1 เดือน ผ่านขั้นตอนการลอกและ heal อย่างสมบูรณ์ละครับ
สำหรับผลงานนี้ ผมสักกับน้องจ๊าบ professional tattoo artist ในนาม Dunk Deep Ink ซึ่งติดตามผลงานได้ที่ IG: dunkdeepink ครับ ลักษณะการทำงาน ผมสร้างบรีฟขึ้นมา พร้อมกับหา reference รูปแบบและสไตล์ที่อยากได้ พร้อมกับแจ้งขนาดที่ต้องการ เมื่อตกลงราคาและนัดวันกันได้แล้ว ก็จะต้องให้เวลาในการที่ช่างสักจะกลับไปทำสเกตซ์ดราฟแรก และมีการปรับแก้แบบ 1-2 ครั้งจนลงตัว วันจริงใช้เวลาสักทั้งหมด 8 ชม. ครับ (1 ชม.แปะร่างแบบและเตรียมอุปกรณ์ อีก 7 ชม.คือสักกันยาว ๆ มีช่วงพักเบรค 2-3 ครั้ง)
รอยสักแรก บันทึกความทรงจำ 35 ปีของชีวิต
ฉลองวันเกิดครบ 35 ปีด้วยการไปสักมาแหละ กระทู้นี้จะมาขอเล่าสตอรี่ของรอยสักนี้ให้ฟังครับ 🤪
จขกท. อยากสักมานานแล้ว แต่ไม่อยากได้งานที่ดูโหดเกินไป จนมารู้จักงานแนวนี้ เรียกแนว Conceptual Collaboration มั้งนะ ที่มีการผสมหลาย ๆ แนวเข้าไว้ด้วยกัน เช่น realistic+geometry+line ให้อยู่ในเรื่องเดียวกันได้แบบลงตัว จนเกิดมาเป็นงานชิ้นนี้ และนี่คือเรื่องราวของมันครับ
🦖 Childhood's Monster
พี่ T-Rex แทบจะเป็นพระเอกของงานนี้เลย ผมเลือกไดโนเสาร์มาเล่าเรื่องความชื่นชอบและความทรงจำวัยเด็กที่ผมมักโม้ใครต่อใครว่า ตอนเด็กผมสามารถจำชื่อไดไนเสาร์ได้แทบทุกสายพันธุ์และจำแนกออกไปในแต่ละยุคด้วย นอกเหนือจากนั้นคือวันที่หนังอย่าง Jurassic Park เข้าฉาย ฟีลที่พ่อแม่ขับรถพาไปดูหนังเรื่องนี้ เป็นความสุขที่ลืมไม่ลงจริง ๆ ดังนั้นหากจะหา symbolic อะไรที่เป็นเหมือนตัวแทนของความสุขในวัยเด็ก ก็ขอยกให้เป็นสัตว์โลกล้านปีไปเลยดีกว่า ซึ่งไดโนเสาร์ตัวนี้มีบรีฟสไตล์กับจ๊าบ (ช่างสัก professional tattoo artist ที่เป็นรุ่นน้องสถาปัตย์ เดี๋ยวจะชี้เป้าให้เข้าไปดูผลงานตอนท้ายครับ)ไปว่า ชอบแนวกึ่งเนื้อหนังกึ่งกระดูกครับ
📼 Happiness Rental
วันที่พ่อซื้อเครื่องเล่นวิดีโอ VHS เข้าบ้านครั้งแรก คืออะไรที่เปิดโลกมาก ทุกครั้งที่ตลับวิดีโอถูกยัดลงช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าเข้าไป เราแทบจะหลุดหายไปอีกโลกนึงเลย จากที่แม่เริ่มซื้อหนังดูเองเยอะเข้า จนม้วนมันเริ่มเยอะ ประกอบกับที่บ้านทำเป็นร้านขายของจุกจิกในหมู่บ้านอยู่แล้ว (เท่ากับมีลูกค้าแน่ ๆ) เลยเกิดไอเดีย แตกไลน์เปิดเป็นร้านเช่าวิดีโอภายในหมู่บ้านซะเลย จากแค่หมู่บ้าน ก็ลามไปจนถึงทั้งซอย ที่ถ้าอยากดูหนัง ก็จะแวะเวียนมาที่บ้าน เช่าความสุขกลับไปในราคา 30 บ.เท่านั้น ส่วนเราทุกสัปดาห์ จะทำหน้าที่ไปเลือกหนังและหอบม้วนวิดีโอขึ้นรถเมล์กับแม่แทบทุกครั้งตั้งแต่ยุคม้วน VHS ถึงแผ่น CD ก่อนจะเลิกกิจการกันไปตามยุคสมัยของมัน จริง ๆ บรีฟส่วนนี้ผมบอกจ๊าบไปว่าเอามาแตะ ๆ แค่ไอค่อนก็พอ แต่น้องจัดมาให้แบบ technical drawing (exploded view) ซะเลย ซึ่งชอบมาก ๆ ครับ
🕕 Time of Vajiravudh's Boy
เติบโตในรั้ววชิราวุธวิทยาลัย คือความภูมิใจของชีวิต ที่ ๆ จะขัดเกลาให้เด็กชายคนหนึ่งเป็นผู้ชายที่ "อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ เข้มแข็งแต่ไม่แข็งกระด้าง" ด้วยความเป็นโรงเรียนประจำ กิจวัตรประจำวันจะถูกกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด (แต่ไม่เคร่งเครียด) ตีบอกการเปลี่ยนผ่านจากระฆังบน "หอนาฬิกาวชิราวุธวิทยาลัย" เลยเหมาะมากที่จะเป็น symbolic ของการได้ใช้ชีวิตมัธยมที่นี่ครับ บรีฟคือส่งภาพให้เลย 555 เพราะน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ต้องเหมือนต้นแบบ ถึงกับต้องไป TCDC เพื่อสแกนพิมพ์เขียวจากหนังสือ "100 ปี ศิลปะ สถาปัตยกรรม วชิราวุธวิทยาลัย" เป็นภาพสแกนพิมพ์เขียวโดย "คณะละครไทยเขษม" ที่มีการจัดแสดงละครพระราชนิพนธ์ หารายได้สร้างหอนาฬิกานี้ขึ้นเพื่อเป็นพระราชกุศล ในปี พ.ศ.2473 ครับ
📐 Perspective
ผมชัดเจนมาตลอดตั้งแต่ขึ้น ม.4 ว่าจะเรียนสถาปัตย์ ทุกวันนี้ไม่เคยรู้สึกสักวินาทีว่าเลือกทางผิดเลย ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสถาปนิกหรือนักออกแบบ ตามบรรทัดฐานที่คนภายนอกชอบมองว่า จบจากคณะนี้ ก็ต้องไปทำงานแบบนี้สิ! แต่สิ่งที่ได้จากคณะมาก็คือเครื่องมือความคิดที่ใช้ในการมองโลก มองคน มองปัญหา และมองทางแก้ ที่แตกต่างกันออกไป และนำมาใช้ได้กับทุกบริบทในชีวิตครับ ก็เลยเลือกสิ่งที่น่าจะเบสิคที่สุดของความเป็นเด็กถาปัตย์ ก็คือการวาดเส้นยิงตีบ (perspective) บทเรียนที่ทำให้เรารู้ว่าภายใต้การรับรู้แบบ 3 มิติ สิ่งของทุกอย่าง มีที่มาที่ไปเสมอครับ สำหรับลายนี้ผมจะมีส่วนร่วมในการปรับแบบไปกับช่าง โดยการขึ้นกล่องจากเส้นตีบที่น้องเค้าวางไว้ครับ
🦶 Ultra's Foot
ถ้าผู้คนออกวิ่ง ผมก็มีงานทำ 😆 ลายนี้ก็จะมีความเกี่ยวกับการวิ่ง, รองเท้าวิ่ง ที่เปลี่ยนจากกิจกรรมทำเล่น ๆ กลายเป็นงานประจำ ... เปลี่ยนจากฟันรัน กลายเป็นอัลตร้าเทรลมาราธอน!!! พอแบบไฟนอลออกมา คือชอบมาก เพราะให้อารมณ์เหมือนเท้าติดปีกของเทพ Hermes เทพแห่งการเดินทาง สื่อสาร และการพาณิชย์ครับ
และนี่คือเรื่องราวทั้งหมดของรอยสักที่บรรทุกความทรงจำ 35 ปีของผมไว้ครับ ณ ตอนที่เขียนสักมาครบ 1 เดือน ผ่านขั้นตอนการลอกและ heal อย่างสมบูรณ์ละครับ
สำหรับผลงานนี้ ผมสักกับน้องจ๊าบ professional tattoo artist ในนาม Dunk Deep Ink ซึ่งติดตามผลงานได้ที่ IG: dunkdeepink ครับ ลักษณะการทำงาน ผมสร้างบรีฟขึ้นมา พร้อมกับหา reference รูปแบบและสไตล์ที่อยากได้ พร้อมกับแจ้งขนาดที่ต้องการ เมื่อตกลงราคาและนัดวันกันได้แล้ว ก็จะต้องให้เวลาในการที่ช่างสักจะกลับไปทำสเกตซ์ดราฟแรก และมีการปรับแก้แบบ 1-2 ครั้งจนลงตัว วันจริงใช้เวลาสักทั้งหมด 8 ชม. ครับ (1 ชม.แปะร่างแบบและเตรียมอุปกรณ์ อีก 7 ชม.คือสักกันยาว ๆ มีช่วงพักเบรค 2-3 ครั้ง)