เรื่องเดียวกัน แต่ขอแยกคำถามเป็น 3 แนวทาง

เรื่องที่ 1
ปกติการเช่าบ้านหรืออาคารจะต้องวางเงินมัดจำ 2 เดือน

หากมีการผิดสัญญาเกิดขึ้น เช่นมีการแก้ไขบ้าน (ที่สามารถแก้ไขกลับเมื่อครบสัญญา) โดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าของ เจ้าของบ้านสามารถไล่ออก โดยยังไม่ครบสัญญา และยึดเงินมัดจำได้หรือไม่ โดยที่

1. ผู้เช่าบ้านต้องจ่ายค่าซ่อมบ้านกลับ + โดนยึดเงินประกันมัดจำทั้งหมด

2. เจ้าของบ้านนำเงินมัดจำมาแก้ไขซ่อมบ้านกลับ หากไม่พอ เรียกร้องเพิ่มเอากับผู้เช่า หากยังมีเงินเหลือต้องคืนเงินนั้นแก่ผู้เช่า

กรณีที่เจ้าของบ้านยึดหลักการตามข้อ 1 ผู้เช่ายึดหลักการตามข้อ 2 ต่างคนต่างไม่ยอมจะมีการฟ้องร้องกันได้หรือไม่ เป็นคดีแพ่งใช่ไหม คดีแบบนี้ มีอายุความกี่ปี

หากฟ้องร้องจริงต้องมีการไต่สวนก่อนไหม หรือแจ้งเอาผิดกับผู้ให้เช่า หรือผู้เช่าได้เลย

หากผู้เช่าโดนฟ้อง จะไปตามได้จากที่ไหน ในเมื่อไล่เขาออกไปแล้ว และไม่ได้อยู่ที่อยู่ตามบัตรประชาชนด้วย จะตามเขาอย่างไร

เรื่องที่ 2
อีกเรื่องหนึ่งคือค่าซ่อมบ้านกลับคืนในสภาพเดิม เช่นความเสียหายเกิดเฉพาะจุด เช่นมีรอยด่าง 1จุด แต่ เจ้าของบ้านให้ทาสีหมดทั้งผนัง หรือทั้งห้องนั้น เพราะกลัวว่าสีจะไม่เข้ากัน จึงทำให้ค่าซ่อมแพงเกินจริง หรือราคาค่าซ่อม ไม่ได้มีมาตรฐาน ช่างบางคนอาจคิดถูกบางคนคิดแพง หรือช่างคิดถูกแต่เจ้าของบ้านมาเรียกร้องเอากับผู้เช่าแพง ซึ่งไม่รู้ว่าแท้จริงเป็นเท่าไหร่ จะแก้ไขอย่างไร

เรื่องที่ 3
บ้านที่ส่งมอบ ณ ขณะเช่า สภาพปกติ แต่เมื่ออยู่ไป1เดือน มีไฟลัดวงจร 1 วงจร แจ้งเจ้าของแต่เจ้าของไม่ดำเนินการใดๆ ทำให้วงจรนั้นซึ่งพ่วงต่อแสงสว่าง ปลั๊กไฟบางส่วน และปั้มน้ำไม่ทำงาน คือแปลว่าใช้น้ำชั้นสองไม่ได้ น้ำชั้นล่างใหลอ่อน และต้องอยู่มืดๆในบางจุด เช่นนี้สามารถเคลมเจ้าของ เพราะไม่สามารถให้บริการได้เต็มที่ตามค่าเช่าที่ได้รับ ได้หรือไม่

สุดท้ายคือต้องการบ่น บ้านที่มีคนอยู่อาศัย จะต้องมีสภาพด่าง ดวง ที่เกิดจากการอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะสะอาดใสเหมือนเพิ่งทำใหม่ ไม่ว่าผู้เช่ารายใดครบสัญญา ก็จะต้องถูกให้ซ่อมบ้านกลับ (อย่างน้อยๆก็ทาสี) เป็นอย่างนี้ทุกรายหรือไม่

ขอบพระคุณในทุกคำตอบค่ะ