สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราอายุ 29 และสิ่งที่ต้องเจอคือ 'โรคซึมเศร้า' เราไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเรา เพราะโดยส่วนตัว เราเป็นคนร่าเริง สดใสมากๆ ย้อนหลังกลับไป 2 เดือน เราเริ่มมีอาการ คือ นอนไม่หลับ คิดมากไปทุกเรื่อง ทุกอย่างคือคิดลบหมด เราเลยลองหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต และลองทำแบบทดสอบ ซึ่งผลออกมาคือเรามีแนวโน้มที่จะเป็นสูงมาก ! และเมื่อปลายเดือนกันยาที่ผ่านมา เราเลยตัดสินใจไปหาหมอ โดยแจ้งอาการว่านอนไม่หลับ คิดมาก บางคืนก็นอนร้องไห้ หมอเลยให้ยาคลายเครียด และยาซึมเศร้ามาทาน 15 วัน แต่พอทานไป เราอาการไม่ได้ขึ้น เลยตัดสินใจไปหาหมออีกครั้ง โดยครั้งนี้หมอแนะนำให้เราไปพบจิตเวช ซึ่ง รพ. ที่เรามีสิทธิประกันสังคมไม่มีแผนกนี้ เราเลยไปรักษาอีก รพ. ที่มีแผนกนี้โดยตรง โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง เราเลยไป รพ. รัฐใกล้บ้าน เพราะคิดว่าหมอต้องนัดบ่อยแน่ๆ
Save my memories 🌻 October 20, 2021
หลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าและเริ่มกินยามาได้ประมาณ 3 อาทิตย์ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น เลยเปลี่ยน รพ. ในการรักษา และเริ่มตรวจใหม่ทั้งหมด โดยที่ทาง รพ. เดิมที่เรารักษาทำการส่งตัวมา เพราะจะต้องรักษากับจิตเวชโดยตรง
เราเลยเลือกรักษา รพ. ใกล้บ้าน และเดินทางสะดวก 🙂 ก็คือ รพ. สมุทรปราการ เพราะมีแผนกจิตเวช
แต่การที่เราย้าย รพ. ก็ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซักประวัติต่างๆ ตามขั้นตอนของ รพ.
ในเคสของเรา คือ รู้ตัวว่าเป็นซึมเศร้า แต่หมอจาก รพ. เดิมไม่สามารถวินิจฉัยได้ ว่าเราเป็นระยะไหน หรือมีอาการอื่นแทรกซ้อนมาไหม จึงมีความจำเป็นต้องส่งตัวมารักษาที่ รพ. สมุทรปราการ ❤️
วันนี้เราไปหาหมอ โดยมีแม่ไปด้วย และทางพยาบาลกับหมอก็มีการพูดคุย ซักประวัติ และทำการประเมิน
โดยคุณหมอระบุว่าเราเป็น ‘ซึมเศร้าขั้นรุนแรง’ 👨⚕️
และจะต้องกินยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือน ซึ่งโรคนี้จะต้องรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป รีบไม่ได้ 😂
และหมอก็ให้ทางเราคุยกับนักจิตบำบัด โดยในการคุยครั้งนี้ หมอก็คุยกับแม่เราด้วย เพื่อให้ทางครอบครัวได้รับทราบว่าสิ่งที่เราเป็นมันคืออะไร และต้องดูแลรักษายังไง คำที่ไม่ควรพูดมีอะไรบ้าง
วันนี้เราสบายใจมากๆ ที่ครอบครัวเราเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ❤️❤️ 👨👩👧👧
เพราะยาที่ดีที่สุด และช่วยให้หายไวที่สุด ก็คือ ‘ครอบครัว’
เราอยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังเป็นแบบเรา และรีบรักษาให้ไวที่สุด 😇 เป็นได้ ก็หายได้ !!!
โรคซึมเศร้า
Save my memories 🌻 October 20, 2021
หลังจากรู้ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้าและเริ่มกินยามาได้ประมาณ 3 อาทิตย์ แต่อาการยังไม่ดีขึ้น เลยเปลี่ยน รพ. ในการรักษา และเริ่มตรวจใหม่ทั้งหมด โดยที่ทาง รพ. เดิมที่เรารักษาทำการส่งตัวมา เพราะจะต้องรักษากับจิตเวชโดยตรง
เราเลยเลือกรักษา รพ. ใกล้บ้าน และเดินทางสะดวก 🙂 ก็คือ รพ. สมุทรปราการ เพราะมีแผนกจิตเวช
แต่การที่เราย้าย รพ. ก็ต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการซักประวัติต่างๆ ตามขั้นตอนของ รพ.
ในเคสของเรา คือ รู้ตัวว่าเป็นซึมเศร้า แต่หมอจาก รพ. เดิมไม่สามารถวินิจฉัยได้ ว่าเราเป็นระยะไหน หรือมีอาการอื่นแทรกซ้อนมาไหม จึงมีความจำเป็นต้องส่งตัวมารักษาที่ รพ. สมุทรปราการ ❤️
วันนี้เราไปหาหมอ โดยมีแม่ไปด้วย และทางพยาบาลกับหมอก็มีการพูดคุย ซักประวัติ และทำการประเมิน
โดยคุณหมอระบุว่าเราเป็น ‘ซึมเศร้าขั้นรุนแรง’ 👨⚕️
และจะต้องกินยาต่อเนื่องอย่างน้อย 6-12 เดือน ซึ่งโรคนี้จะต้องรักษาแบบค่อยเป็นค่อยไป รีบไม่ได้ 😂
และหมอก็ให้ทางเราคุยกับนักจิตบำบัด โดยในการคุยครั้งนี้ หมอก็คุยกับแม่เราด้วย เพื่อให้ทางครอบครัวได้รับทราบว่าสิ่งที่เราเป็นมันคืออะไร และต้องดูแลรักษายังไง คำที่ไม่ควรพูดมีอะไรบ้าง
วันนี้เราสบายใจมากๆ ที่ครอบครัวเราเข้าใจในสิ่งที่เราเป็น ❤️❤️ 👨👩👧👧
เพราะยาที่ดีที่สุด และช่วยให้หายไวที่สุด ก็คือ ‘ครอบครัว’
เราอยากให้กำลังใจทุกคนที่กำลังเป็นแบบเรา และรีบรักษาให้ไวที่สุด 😇 เป็นได้ ก็หายได้ !!!