ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างตัวพรีเมียมที่ทุกคนปักธงว่าอยากจะใส่กัปตันใน Gameweek 9 อย่างลูกากู ซึ่งทูเคิลออกมาพูดเปรยๆ ว่าพี่ตู้ต้องการพักบ้าง หลังกรำศึกเล่นติดๆ กันมาทั้งสโมสร และทีมชาติ แต่ตอนที่ผมกำลังนั่งเขียนบทความอยู่นี้ พี่ตู้แกก็ลงตัวจริงในเกม UCL กับมัลโม่ และก่อนที่จะกังวลว่าแกจะได้พักในเกมกับนอริชแทนมั้ย พี่ตู้แกชิงเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกซะเลย!

จากรายละเอียดที่ว่าไป และกำลังจะเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ (ผ่าน 1 ใน 4 ของซีซัน) เกมทุกคู่เลยกลายเป็นแมทช์เดือดสำหรับกุนซือแฟนตาซีกันหมด แม้สำหรับคนดูบอลทั่วไป สายตาในวีคนี้จะจับจ้องไปที่เกม “แดงเดือด” ในวันอาทิตย์มากเป็นพิเศษก็ตาม

คะแนน Gameweek 8 : 63 คะแนน
คะแนนรวม : 490 คะแนน

อันดับโลก : 758,826 (ขึ้นมาจาก 974,056)

อันดับชาวไทย : 5,905 (ขึ้นมาจาก 7,419)

อันดับ The.Macho League : 853 (ขึ้นมาจาก 1,028)

หลังการใช้ Wildcard แน่นอนว่าคาดหวังอันดับที่ดีขึ้น ซึ่งก็ทำได้ดีในระดับนึง โดยผลส่วนใหญ่มาจากการเลือกกัปตันซาล่าห์ แม้จะหวั่นอาถรรพ์กัปตันคู่แรก แต่ผลเสียของการไม่เลือกโม แล้วหากทำคะแนนขึ้นมา มันยิ่งใหญ่กว่ามาก ซึ่งสุดท้ายก็เป็นการเลือกที่ถูกต้อง

การเสี่ยงเลือกโฟเด้นถือว่าโอเคในระดับนึงเช่นกัน เพราะนอกจากจะรอดการโรเตชันของเป๊บไปได้ ยังได้คะแนนจากแอสซิสต์ ในเกมที่ซิตี้ไม่ได้ต้อนตือเบิร์นลีย์อย่างที่หลายคนคาด ส่วนแดนหน้าผิดหวังไป ลูกากู, อันโตนิโอ และฮวัง ฮี ชาน ไม่ทำคะแนนกันเลย

แดนหลังคงจะเหมือนใครหลายคน คือดิอาซลงมารับ 1 คะแนนให้ผิดหวัง และทำให้ไม่ได้สำรองตำแหน่งแรกอย่างลิฟราเม็นโต้ ที่เก็บคลีนชีตได้ นอกนั้นถือว่าทำได้ตามเป้า ถึงจะไม่หวือหวาก็ตาม

ผู้รักษาประตู : โรเบิร์ต ซานเชซ (6 คะแนน)

กองหลัง : เชน ดัฟฟี่ (5 คะแนน), เจา คันเซโล่ (6 คะแนน)

กองกลาง : บูคาโย่ ซาก้า (1 คะแนน / เจ็บไปตอนพักครึ่ง), โม ซาล่าห์ (13 คะแนน)

กองหน้า : โรเมลู ลูกากู (2 คะแนน)

Differential : เคเลชี อิเฮียนาโช่ (5 คะแนน)

แน่นอนว่าผู้รักษาประตูที่น่าเลือกที่สุดคือเมนดี้ เพราะนอกจากฟอร์มจะเหนียวหนึบ ยังมีโปรแกรมนุ่มนิ่มเจอกับนอริช แต่เพื่อให้มันท้าทายหน่อย และอาจจะเพิ่มตัวเลือกให้หลายคนไปในตัว เลยขอเลือกมาที่โชเซ่ ซา ถึงแม้วูล์ฟจะต้องเป็นทีมเยือนก็ตาม

จุดน่าสังเกตอย่างนึงคือ “หมาป่า” ซีซันนี้เล่นเกมเยือนดีกว่าเกมเหย้า แถมสถิติในการพบกัน ลีดส์ยังยิงวูล์ฟไม่ได้ใน 3 นัดหลังสุดอีกต่างหาก นอกจากนั้นลีดส์เองมีปัญหาตัวเจ็บเยอะ ตัวแปรสำคัญคงเป็นราฟินญ่า ซึ่งจะฟิตพร้อมลงเล่น หากไม่สามารถเล่นได้เข้าจังหวะ โอกาสคลีนชีตของวูล์ฟก็มี

ความจริงกองหลังที่แน่นอนที่สุดน่าจะมองไปที่รูดิเกอร์ ที่เรียกความฟิตกลับมาลงเล่นในเกม UCL ได้แล้ว แต่จากการที่เจมส์ได้พักมายาว และอัซปิลิกัวเอต้าเล่นมาติดๆ ทั้งทีมชาติ และเกมสโมสร จึงคิดว่านัดเจอนอริช เป็นโอกาสดีของเจมส์ที่จะได้ลงมาบู๊หน่อย

หลายคนอาจจะมองภาพรวมว่าคะแนน attacking return น่าจะมาจากฝั่งซ้ายมากกว่า แต่จากการที่ชิลเวลล์ที่เริ่มยึดตัวจริงได้ เล่นมาติดๆ ก็เลยคาดเดายากเหมือนกันว่าทูเคิลจะใช้ใคร ดังนั้นเลยขอมองไปที่ฝั่งขวา ซึ่งถ้าเจมส์ได้ลงเล่น attacking return ก็เด่นเช่นกัน

เสียสถิติไม่แพ้ในบ้านไปเรียบร้อยสำหรับเอฟเวอร์ตัน ในนัดก่อนที่พ่ายเวสต์แฮม แต่กับการเล่นในบ้านนัดนี้เจอกับวัตฟอร์ด คาดว่าพวกเขายังมีโอกาสดีที่จะกลับมาเก็บ 3 แต้มได้ และโอกาสคลีนชีตเองก็สูงพอสมควร หากวัตฟอร์ดยังปรับเกมให้ดีขึ้นไม่ได้

ประสบการณ์ของรานิเอรี่เองล้นเหลือ เรื่องนี้ไม่มีใครเถียง แต่ทุกสิ่งไม่อาจเสกได้แค่เพียงชั่วสัปดาห์ ซึ่งรานิเอรี่เองก็เคยสัมผัสมาแล้ว กับการคุมฟูแล่มครั้งก่อน การแนะนำโคลแมน เป็นการวัดใจอีกปัญหาสำคัญ นั่นคือเกมรับฝั่งซ้ายของ “แตนอาละวาด” ถ้ายังจัดการไม่ได้ นอกจากคลีนชีต โคลแมนอาจมีลุ้น attacking return ด้วย

เนื่องจากเลื่อนบทความออกไป 1 วัน ทำให้ได้เห็นว่าฮาแวร์ตซ์เป็นสำรองอีกแล้วในเกม UCL แถมระหว่างเกม ทั้งลูกากูและแวร์เนอร์ ยังถูกเปลี่ยนตัวออกเพราะมีอาการบาดเจ็บ จนต้องใช้งานฮาแวร์ตซ์ ซึ่งเขาก็แสดงให้เห็นผลงาน ด้วยการทำประตูทันที โอกาสการเป็นตัวจริงในเกมสุดสัปดาห์ จึงน่าจะสูงลิบ

ความจริงถ้าอยู่กันครบ โอกาสที่ฮาแวร์ตซ์สำรองอีกก็พอมี แต่ในเมื่อมีอาการเจ็บ และทูเคิลคงไม่อยากเสี่ยงมากหากแวร์เนอร์ หรือลูกากูไม่สมบูรณ์ ดังนั้นฮาแวร์ตซ์จึงน่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะเล่นเกมรุก และแน่นอนว่าการเจอกับนอริช มีลุ้นเพดานสูงด้วย

การเลือกนักเตะซิตี้ แน่นอนว่ามีความเสี่ยงต่อการโรเตชันของเป๊บพอสมควร อย่างไรก็ดี เป๊บก็เลือกถอดนักเตะหลายรายออกไปพักเร็วในเกม UCL ที่พวกเขาบุกไปถล่มคลับ บรูช ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ KDB ที่กลับมาฟิตสมบูรณ์ และมีส่วนสำคัญต่อเกมของทีมมาก

จากทั้งสถิติ และประสิทธิภาพ แน่นอนว่า “เรือใบสีฟ้า” จะมีประตูในเกมเยือนไบรท์ตันแน่ แม้เจ้าถิ่นจะฟอร์มใช้ได้ ซึ่งตัว KDB เอง มีคุณภาพเพียงพอที่จะทำทั้งประตู และแอสซิสต์ให้ทีม หากใครวัดใจเลือกเขาในเกมก่อนหน้ากับเบิร์นลีย์มาแล้ว นัดเยือนไบรท์ตันขอให้ไว้ใจต่ออีกนัด

กองหน้าตัวหลักของเบรนท์ฟอร์ด อาจจะยังยิงได้ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะการเล่นของเขามีหลายจังหวะเป็นตัวชง หรือตัวล่อหลอกตัวประกบ แต่ตัวเขาเองก็ใช่ว่าจะจบสกอร์ไม่เฉียบคม ขอแค่จังหวะที่ลงล็อคแค่นั้น แถมยังเป็นตัวสังหารจุดโทษด้วย

เลสเตอร์ฟอร์มดีขึ้นมาแล้วก็จริง แต่เกมรับยังคงเสียประตตูทุกนัด มีคลีนชีตแค่นัดเปิดซีซันเท่านั้น แถมเสียนัดละ 2 ประตูถึง 5 จาก 8 นัด หากไม่แนะนำลูกากูที่ยังต้องตามข่าวเรื่องอาการบาดเจ็บกันต่อ ก็ชอบโทนีย์ ว่าอาจจะมีทีเด็ดทำสกอร์ได้

ตัวรุกร่างเล็กทำผลงานได้ดีทีเดียวในเกมนัดล่าสุด ที่พาทีมคว้าชัยนัดแรกได้เสียที โดยการถูกดันไปเล่นตำแหน่งกองหน้าตัวต่ำ ทำให้เขามีอิสระในการเล่นมากขึ้น และใช้ความคล่องตัวเล่นงานระหว่างไลน์ได้ดีทีเดียว

ด้วยฟอร์มที่ดีของเขา และกองหน้าตัวเป้าอย่างโบรย่า คาดว่าทั้งคู่จะได้เล่นด้วยกันอีกในเกมที่เจอกับเบิร์นลีย์ซึ่งผลงานยังไม่กระเตื้อง ซึ่งถ้าเร้ดมอนด์จัดการปัญหาสำคัญ คือฟอร์มที่ไม่ต่อเนื่องได้ และมีสกอร์มาฝากหน่อย รับรองว่า “นักบุญ” จะได้โมเมนตั้มที่ดีในการไต่อันดับแน่นอน