น้องแมวปอดอักเสบ เหมือนคนเป็นโควิดแล้วลงปอด

สวัสดีค่ะ วันนี้อยากมีเรื่องราวเกี่ยวกับน้องแมวสัตว์เลี้ยงแสนรักของเรามาแบ่งปันค่ะ (อาจจะยาวหน่อยนะคะ)
     เริ่มต้นจากการที่เราอยากเลี้ยงแมวซักตัวก็เลยหาซื้อตามโพสต่างๆ
เจอน้องก็รู้สึกว่าน่ารัก สอบถามไปยังผู้ขายเค้าสามารถนำน้องมาส่งได้
เราก็เลยตัดสินใจรับน้องมา ตอนที่เอามาน้องมีอายุ 2 เดือนค่ะ แต่น้องตัวเล็กมากกกก
น้องมาได้ประมาณ 3-4 วันเราจำเป็นต้องกลับบ้านต่างจังหวัดเลยเอาน้องกลับด้วย
สอบถามไปยังผู้ขายเค้าบอกว่าน้องเดินทางได้ปกติ ทีนี้ถึงบ้านที่ต่างจังหวัด
น้องมีอาการซึมๆทานได้น้อย คนขายบอกว่าน้องน่าจะภูมิตก ก็เริ่มกังวล
พอกลับมาที่สมุทรปราการ (คือที่ที่เราอยู่ประจำ) ก็พาน้องไปหาหมอ คุณหมอบอกน้องภูมิตกจริงค่ะ
ให้ยาเพิ่มภูมิมาทานและยาอีกหลายๆตัว น้องก็มีอาการดีขึ้นบ้างแย่ลงบ้างปะปนกันไป

      จนถึงช่วงที่ต้องรับวัคซีนเข็มที่สอง คุณหมอบอกขอเลื่อนออกไปก่อนเพราะน้องป่วยกลัวร่างกายเค้ารับไม่ไหว
ในระหว่างนั้นคุณหมอก็บอกว่าน้องเป็นหวัดแมวนะคะ เพราะน้องป่วยกระเสาะกระแสะมาตลอด
เราก็รับทราบพร้อมกับพยายามบำรุงน้องทุกวิถีทาง อยากให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

     จนน้องเริ่มรับวัคซีนได้เราก็นำไปคลินิกปกติค่ะ แต่ในระหว่างนั้นถ้าอากาศชื้นหรือฝนตก
น้องจะเริ่มมีน้ำมูก ตาแดงๆ ตาแฉะๆ คุณหมอก็บอกว่าน้องจะเป็นแบบนี้ตลอดค่ะ

     จนกระทั่งช่วงเดือนกันยาที่ผ่านมาอาการของน้องเริ่มหนักขึ้น ช่วงแรกเริ่มจาม ขี้มูกเริ่มเขียวข้น
ยอมรับว่าด้วยความที่ไม่รู้ก็คิดว่าน้องคงป่วยแบบเดิม เดี๋ยวอากาศดีก็คงหายแบบที่เคยเป็น
จนผ่านมาอีก 2-3 วันน้องเริ่มไม่ค่อยทาน นอนเยอะ แต่ก็ยังเล่นบ้าง เราก็ทักไปหาคุณหมอ
คุณหมอก็บอกเอามาวัดไข้ดูค่ะ ไปถึงวัดไข้ ถ้าเทียบกับอุณหภูมิของคนก็ประมาณ 40 องศา
ซึ่งถือว่าน้องไข้สูงมากก คุณหมอฉีดยาลดไข้พร้อมให้ยาฆ่าเชื้อมาทาน และให้กลับบ้าน
เพราะทางคลินิกไม่มีรับแอดมิทค้างคืนค่ะ

     กลับมาถึงน้องเริ่มทานได้ เริ่มดีขึ้น เราก็ดีใจ แต่พอครบชั่วโมงที่ยามันหมดฤทธิ์น้องก็กลับมามีไข้แบบเดิมค่ะ
ไปคลินิกคุณหมอก็ทำแบบเดิมเลยค่ะ จนวันที่ 3 กับอาการไข้สูงของน้องคุณหมอเริ่มให้น้ำเกลือทั้งใต้ผิวหนังและเส้นเลือด
พร้อมกับก่อนหน้านี้มีพ่นยาด้วยติดต่อกัน 3 วันเพราะเหมือนน้องหายใจแรงหายใจไม่สะดวก

     จนกระทั่งมีคืนนึงน้องหายใจแรงมาก ท้องขยับเยอะมาก เราอัดคลิปไว้ส่งให้คุณหมอคลินิกที่รักษาอยู่ด้วย
หมอบอกว่ากลัวน้องเป็นปอดอักเสบ เราเริ่มใจคอไม่ดี เลยคิดว่าควรเปลี่ยนที่รักษา
เช้าวันรุ่งขึ้นเลยโทรหาคุณหมอที่คลินิกใหม่เล่าอาการน้องให้คุณหมอฟัง คุณหมอบอกว่า
ถ้าจะมาผมขอใบส่งตัวว่าเค้าให้ยาอะไรกับน้องบ้าง เราเลยติดต่อทางคลินิกเก่าคุณหมอก็พิมพ์ชื่อยาส่งมาให้
ตอนเย็นเราพาน้องไปที่ใหม่ค่ะ คุณหมอเห็นชื่อยาพร้อมกับเห็นน้องแล้วคุณหมอทำหน้าเครียดมากกกกกก
พร้อมกับรับตัวน้องเพื่อแอดมิทเพราะเราอยู่สมุทรปราการคุณหมออยู่รามอินทรา (ถ้าคนที่เคยอ่านกระทู้แนวๆนี้คงทราบว่าคุณหมอคือใครนะคะ)
จริงๆเราเจอชื่อคลินิกคุณหมอท่านนี้นานแล้วในพันทิปนี่แหละค่ะแต่ไม่คิดว่าอาการน้องจะรุนแรงเลยไม่ได้พามาตั้งแต่แรก

    เราส่งน้องไปอยู่กับคุณหมอในวันที่ 3 ตุลา ในวันนั้นน้องไข้สูงมาก ตัวร้อนจี๋ 
หมอบอกเลยว่า "น้องปอดอักเสบ" (แต่ที่เก่าระบุไม่ได้ว่าน้องเป็นอะไร เหมือนรักษาตามอาการค่ะ)
ง่ายๆก็คือ เปรียบเหมือนคนที่ติดโควิดแล้วเชื้อลงปอด ตอนนี้ก็ประมาณเกือบ 3 สัปดาห์แล้วน้องอยู่กับคุณหมอ
ในวันนั้นก่อนออกมาคุณหมอพูดกับเราว่า "หมอพูดได้มั้ยยย...ถ้าน้องจะรอดน้องมีโอกาสแค่ 30% เท่านั้น
เพราะไม่รู้ว่าเชื้อมันเข้าไปลึกแค่ไหนแล้ว ไม่รู้ว่าจะได้ยามาทันมั้ย" (วันที่เราส่งน้องไปเป็นวันอาทิตย์ค่ะ
หมอต้องรอสั่งยาให้ในวันรุ่งขึ้น) เท่านั้นแหละค่ะ น้ำตาไหลเลยยย บอกตรงๆว่ากลัว กลัวเค้าเป็นอะไร
เพราะหมอหน้าเครียดแล้วบอกว่าเคสนี้หนักมาก ถ้าเอามาตั้งแต่ขี้มูกเขียวยังไงก็รอด แต่นี่หมอไม่รับปาก

⬆️ ภาพน้องวันแรกที่ไปอยู่กับคุณหมอคนใหม่ค่ะ โทรมมาก (ขาโดนไถจากที่เก่าเพื่อให้น้ำเกลือเข้าเส้นเลือด)

    เราได้แค่พูดกับน้องว่าอยู่กับหมอนะลูก สู้สู้ หนูเก่งอยู่แล้ว พร้อมลาคุณหมอและถือตะกร้าเปล่าขึ้นรถกลับบ้าน
ก่อนออกมาเราหันกลับไปมองหน้าน้อง หน้าเค้าแบบสงสัยว่าทำไมนู๋ไม่ได้กลับบ้านด้วย
สงสารมากกกก แต่ขอให้เค้าหาย ขอให้คุณหมอช่วยเค้าได้ทัน

     เราคอยโทรถามอาการของเค้าเรื่อยๆ ไปเยี่ยมเค้าแทบทุกวัน ในระหว่างรอยารักษาปอดที่คุณหมอสั่งให้
อาการก็ทรงๆไข้ลดบ้าง ขึ้นบ้างตามอาการ จนได้ยาวันพุธที่ 6 ตุลา คุณหมอเริ่มให้ยารักษาปอดกับเค้า
ร่างกายเค้ามีการตอบสนองดี ขับเชื้อ ขับหนองออกทางจมูกมาเป็นขี้มูกเขียวๆ เยอะมาก
คุณหมอบอกดีแล้วที่ออกมาเชื้อจะได้หมด ส่วนการทานอาหารต้องป้อนเอาค่ะ เพราะเค้าทานเองไม่ได้

     ทุกครั้งที่ไปเยี่ยมน้องเราจะไปเช็ดขี้ตา เช็ดขี้มูกให้เค้า จมูกของเค้าจากซีดๆแบบซีดดมากกก
ตอนนี้เริ่มกลับมาเป็นสีชมพูแล้วค่ะ เราเริ่มมีความหวังขึ้นมาบ้าง คุณหมอก็จะบอกว่าเคสนี้ถ้าหายนะ
ถือว่าปาฏิหาริย์มากๆ เพราะหนักจริงๆ คุณหมอจะให้ยาน้องเป็นแบบยาทานนะคะ น้องไม่โดนเข็มเลยค่ะ
ดีใจเค้าจะไม่เจ็บ ไม่ทรมาน

    หลังจากรับยาทุกๆวันตอนนี้น้องเริ่มหายใจดีขึ้นค่ะ จากที่ท้องขยับเยอะมากๆๆๆ ตอนนี้น้อยลง
เดินเล่นได้เยอะขึ้นมาก คุณหมอบอกว่าป้อนอาหารง่ายขึ้นค่ะ แล้วตัวเค้าเองมีอาการอยากทานอาหารเอง
แต่ยังไม่สามารถทานได้ (บอกเลยว่าดีขนาดนี้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ)

⬆️ เริ่มนอนตะแคงได้บ้าง ก่อนหน้านี้นอนท่านี้ไม่ได้เลยค่ะ เพราะเหนื่อย


⬆️ เดินเล่น นอนเล่นหน้าคลินิก ได้แล้ว ก่อนหน้านี้เดิน 2-3 ก้าวก็ล้มตัวนอน เดินมากไม่ได้ค่ะ
จมูกนู๋เริ่มมีสีชมพูบ้างแล้วนะคะ ^^

    ประมาณช่วงวันที่ 14 ตุลา เราโทสอบถามอาการน้องคุณหมอ คุณหมอบอกว่าตอนนี้ลิ้นน้องเป็นแผล
เป็นเพราะมาจากเชื้อด้านในปอดมันขับออกมา จะทำให้น้องมีน้ำลายไหล น้ำลายยืดอยู่บ้าง
แต่ก็จะค่อยๆดีขึ้น ซึ่งตอนนี้แผลนั้นเริ่มหายแล้วค่ะ ตอนนี้คุณหมอบอกว่าน้องเริ่มอยากจะเลียตัวเองแล้ว
พอได้ยินคำนี้ดีใจมากกกกก ภาวนาให้เค้าดีขึ้นทุกวัน ทุกวัน แต่มันก็มีในบางวันนะคะที่เค้าไม่ค่อยโอเค
แบบว่ามีอ้วกบ้าง ซึ่งคุณหมอบอกว่าถ้าอ้วกไม่ดีเลย ที่น้องอยู่ในความดูแลของคุณหมอน้องมีอ้วก 2 ครั้งค่ะ
แต่ไม่รุนแรง

    คุณหมอบอกว่าถ้าน้องไปรักษาที่อื่นตอนนี้ค่ารักษาคงหลักแสนไปแล้วค่ะ เพราะหนักจริงๆ
ไหนจะค่าแก้ยาจากคลินิกเก่า ค่าแอดมิท สารพัดค่ะ เค้าตอนนี้เราคุยกะคุณหมอเรื่องค่ารักษาแล้วก็สบายใจ
ให้อยู่จนกว่าจะหาย คุณหมอบอกว่าเป็นมานานเท่าไหร่ก็ต้องอยู่รักษาตัวเป็นสองเท่า ดูท่าแล้วน่าจะสองเดือนค่ะ
ทุกครั้งก่อนกลับเราหันกลับไปมองเค้า เค้าจะมองตามเสมอ เหมือนอยากรู้ว่าทำไมนู๋ไม่ได้ไปด้วย 🙂

     เรื่องนี้อาจจะยาวหน่อย ซึ่งจริงๆรายละเอียดมีเยอะมากกว่านี้ค่ะ เพียงแค่เพราะน้องเริ่มจากภูมิตก
กลายมาเป็นหวัดแมว สุดท้ายยยหนักสุดที่ปอดอักเสบ ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่ามันจะแย่ขนาดนี้
ไม่โทษคลินิกเก่านะคะ เพราะเค้าก็รักษาตามความสามารถของเค้าค่ะ
คุณหมอที่ใหม่บอกว่าหมอที่เดิมเค้าก็วินิจฉัยโรคถูกนะ แต่เค้ารักษาไม่ถูกวิธีและให้ยาไม่ถูกเท่านั้นเอง
โชคดีมากที่น้องไม่โดนยาที่เป็นพวกสเตียรอยด์เข้าไปค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าถ้าโดนยาจำพวกนั้น
ไม่รอดแน่ค่ะ

    ก็ถือว่าเป็นอุทาหรณ์สำหรับสำหรับตัวเองนะคะ ที่คิดแค่เพียงว่าน้องคงเป็นหวัดเดี๋ยวก็คงหาย
หากใครเลี้ยงน้องแล้วน้องเริ่มป่วยอย่านิ่งนอนใจนะคะ รีบพาเค้าหาคุณหมอแล้วรักษาให้ตรงโรคจะดีที่สุดที่ค่ะ
หากใครอยากสอบอะไรเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้นะคะ พร้อมและยินดีแชร์ให้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่