ณ มีหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชายคนหนึ่งเขาอยู่กับแม่ หากินด้วยการเกษตร เลี้ยงไก่ อยู่มาวันหนึ่งชายคนนั้นได้ไปทำงานในเมือง แล้วเช่าห้องอยู่
แล้วเขาทำงานรับจ้าง แล้วตอนเลิกงานทุกวัน เขาชอบไปเที่ยวกลางคืน เข้าซ่อง แล้วจนอยู่มาวันหนึ่ง ตัวเกิดตุ่มขึ้นมา(ติดHiv) เขานึกว่าโรคฝี เขาก็เลยซื้อยามากินจนหาย แล้วก็ไม่หลาบ เขาก็ไปเที่ยวกลางคืนเหมือนเดิม จนตัวเขาเกิดตุ่มอีกแถมมีน้ำเหลือง(เอดส์) แต่ตอนนี้เขาไปหาหมอ แล้วรอผลตรวจ ระหว่างที่รอผลตรวจนั้นเขาใช้วิธีใช้ใส่เสื้อแขนยาวเมื่อตอนออกไปข้างนอกและทำงาน เพื่อปกปิดรอยตุ่มและน้ำเหลือง แล้วผลตรวจก็มาถึงบ้าน ผลตรวจบอกว่าเขาเป็น Hivระยะสุดท้าย(เอดส์)แล้วเป็นแบบเปียก เมื่อเขาอ่านจบเขาก็เสียใจมาก แล้วเขาก็หนีออกจากเมืองกลับภูมิลำเนาของเขา เมื่อเขากลับมาถึง แม่เขาก็ถามว่า เป็นหยังคือกลับมา (ทำไมถึงกลับมา)
เขาบอกว่า หยุดงาน แล้วเขาก็เข้าไปในบ้าน แล้วแม่ของเขาก็เห็นลูกชายถอดเสื้อแล้วมีตุ้มน้ำเหลือง แล้วแม่ของเขาก็ถามว่า เป็นหยังหล่า(เป็นอะไรลูก) ลูกชายตอบ ตอบแล้วสิฮับได้บ่(ตอบแล้วจะรับได้ไหม) แม่บอกว่า ได้
ลูกชายตอบว่า เป็นเอดส์ แม่เขาก็เสียใจมาก แม่เขาบอกว่า เดี๋ยวต่อจากสิหาเข้าให้กินเด้อ (ต่อไปนี้จะหาข้าวให้กินนะ) แล้วเขาก็มีชื่อว่าบักเอดส์ แล้วชื่อนี้รู้กับทุกหมู่บ้าน แล้วเขาก็ใช้ชีวิตกับแม่เขา ซึ่งแม่เขาหาข้าวปลามาให้กินเรื่อยมา จนอยู่มาวันหนึ่ง แม่เขาเสียชีวิต เป็นเสียใจของญาติบักเอดส์เป็นอย่างมาก แต่สำหรับบักเอดส์นั้นเสียใจมากที่สุดเพราะเขาไม่มีที่อาศัยอีกแล้ว เมื่องานศพแม่เขาจบลง บักเอดส์ก็ได้ไปผุกคออยู่หลังบ้าน ซึ่งก็ไม่มีใครไปเห็นแล้วไม่มีใครรู้ จนอยู่มาวันหนึ่ง มีสองผัวเมียสงสัยกับบักเอดส์เป็นอย่างมาก จนไก่ที่บักเอดส์เลี้ยงไวัหิวจนจิกกันเอง จนชายคนนั้น จนต้องไปเปิดเล้าไก่ จนไก่วิ่งกรูออกมา เมื่อถึงเวลาไก่ก็เข้าเล้าเองโดยสัญชาตญาน จนวันหนึ่งชายสองผัวเมียก็มาที่บ้านบักเอดส์ เพื่อถามบักเอดส์ ตอนที่ชายนั้นนั่งอยู่ก็มีเงาดำๆ แล้วชายคนนั้นถามว่า ยังบ่ได้กินเข้าติ(ยังไม่ได้กินข้าวเหรอ เงาดำก็ตอบว่า เออ ชายบอกอีกว่า เดี๋ยวเมื่ออื่นสิเอากับเข้ามาให้เด้อ (พรุ่งนี้จะเอาข้าวมาให้) จนชาวบ้านคนมาเห็นชายคนนั้น คงคิดว่าคุยคนเดียว แล้วชาวบ้านก็เดินจากไป ชายคนนั้นกลับบ้านไปหาเมียแล้วบอกว่า บักเอดส์ทรงคือสิบ่ได้กินเข้า(นายเอดส์เหมือนจะไม่ได้กินข้าว) แล้ววันรุ่งขึ้นเมียก็เอาแกงอ่อมมาให้ วางไว้หน้าบ้าน แล้วบอกว่าเอาเข้ามาให้แล้วเด้อ แล้วก็มีเสียงออกมาจากบ้านว่า เออ แล้วชายคนนั้นก็สงสัยว่าทำไมถึงหาบักเอดส์ไม่เจอ จนชายคนนั้นเดินไปหลังบ้านเดินก้มมองพื้นจนเดินมาถึงตรงที่บักเอดส์ผูกคอ แล้วพูดว่ามันคือเหม็นวะ (ทำไมมันเหม็น) แล้วเดินกลับบ้าน แล้วคิดว่า เราดูไม่ทั่วนี่หว่า แล้ววันต่อมา ตอนแลง(เย็น) ก็ไปบ้านบักเอดส์อีกครั้ง แต่ตอนนี้เอาไฟฉายมาแล้วเดินเงยหน้าด้วย พอชายคนนั้นมองดูแต่ไกล ก็เห็นมีอะไรห้อยอยู่ พอดํไกล้ๆ ก็ทำให้ชายคนนั้นถึงกับพูดว่า ผี ผี แล้ววิ่งหนีกลับบบ้านเลยทีเดียว พอถึงบ้าน เมียก็รู้สึกว่า ผัวซงสิฟ้าวฝั่ง(เหมือนรีบ) พอชายคนนั้นถึงบ้าน ก็เอาผ้าห่มกอดแล้วพูดคำเดียวไปเรื่อยๆว่า ผี ผี
จนเมียของเขาต้องไปเรียกผู้ใหญ่บ้านมา แล้วผู้ใหญ่บ้านถามว่า เป็นหยัง
ชายคนนั้นตอบว่าผี ผี ผู้ใหญ่บ้านถามว่า อยู่ใส่(อยู่ไหน) ชายคนนั้นตอบว่า พู่นๆ เมียก็บอกผู้ใหญ่บ้านว่า ตั้งแต่เพิ่งมาจากบ้านบักเอดส์ แล้วก็เป็นแบบนี้เลย ผู้ใหญ่บ้านก็เลยพาพรรคพวกไปที่บ้านบักเอดส์ แล้วพบศพของบักเอดส์ที่ผูกคอตาย แล้วผู้ใหญ่บ้านพูดว่า ผีตัวะนี้ (ผีนี้) ผู้ใหญ่บ้านก็เลยตีกลองรัวๆ เพื่อรวมชาวบ้าน แล้วชาวบ้านก็นำศพบักเอดส์ไปฝัง ฝังเพราะตายโหง แล้วฝังที่ป่าช้า
เรื่องนี้เล่าโดยครูในโรงเรียนสนามบิน
เรียบเรียงและรวบรวมโดย ผมเอง
ผีบักเอดส์ ตอนที่1
แล้วเขาทำงานรับจ้าง แล้วตอนเลิกงานทุกวัน เขาชอบไปเที่ยวกลางคืน เข้าซ่อง แล้วจนอยู่มาวันหนึ่ง ตัวเกิดตุ่มขึ้นมา(ติดHiv) เขานึกว่าโรคฝี เขาก็เลยซื้อยามากินจนหาย แล้วก็ไม่หลาบ เขาก็ไปเที่ยวกลางคืนเหมือนเดิม จนตัวเขาเกิดตุ่มอีกแถมมีน้ำเหลือง(เอดส์) แต่ตอนนี้เขาไปหาหมอ แล้วรอผลตรวจ ระหว่างที่รอผลตรวจนั้นเขาใช้วิธีใช้ใส่เสื้อแขนยาวเมื่อตอนออกไปข้างนอกและทำงาน เพื่อปกปิดรอยตุ่มและน้ำเหลือง แล้วผลตรวจก็มาถึงบ้าน ผลตรวจบอกว่าเขาเป็น Hivระยะสุดท้าย(เอดส์)แล้วเป็นแบบเปียก เมื่อเขาอ่านจบเขาก็เสียใจมาก แล้วเขาก็หนีออกจากเมืองกลับภูมิลำเนาของเขา เมื่อเขากลับมาถึง แม่เขาก็ถามว่า เป็นหยังคือกลับมา (ทำไมถึงกลับมา)
เขาบอกว่า หยุดงาน แล้วเขาก็เข้าไปในบ้าน แล้วแม่ของเขาก็เห็นลูกชายถอดเสื้อแล้วมีตุ้มน้ำเหลือง แล้วแม่ของเขาก็ถามว่า เป็นหยังหล่า(เป็นอะไรลูก) ลูกชายตอบ ตอบแล้วสิฮับได้บ่(ตอบแล้วจะรับได้ไหม) แม่บอกว่า ได้
ลูกชายตอบว่า เป็นเอดส์ แม่เขาก็เสียใจมาก แม่เขาบอกว่า เดี๋ยวต่อจากสิหาเข้าให้กินเด้อ (ต่อไปนี้จะหาข้าวให้กินนะ) แล้วเขาก็มีชื่อว่าบักเอดส์ แล้วชื่อนี้รู้กับทุกหมู่บ้าน แล้วเขาก็ใช้ชีวิตกับแม่เขา ซึ่งแม่เขาหาข้าวปลามาให้กินเรื่อยมา จนอยู่มาวันหนึ่ง แม่เขาเสียชีวิต เป็นเสียใจของญาติบักเอดส์เป็นอย่างมาก แต่สำหรับบักเอดส์นั้นเสียใจมากที่สุดเพราะเขาไม่มีที่อาศัยอีกแล้ว เมื่องานศพแม่เขาจบลง บักเอดส์ก็ได้ไปผุกคออยู่หลังบ้าน ซึ่งก็ไม่มีใครไปเห็นแล้วไม่มีใครรู้ จนอยู่มาวันหนึ่ง มีสองผัวเมียสงสัยกับบักเอดส์เป็นอย่างมาก จนไก่ที่บักเอดส์เลี้ยงไวัหิวจนจิกกันเอง จนชายคนนั้น จนต้องไปเปิดเล้าไก่ จนไก่วิ่งกรูออกมา เมื่อถึงเวลาไก่ก็เข้าเล้าเองโดยสัญชาตญาน จนวันหนึ่งชายสองผัวเมียก็มาที่บ้านบักเอดส์ เพื่อถามบักเอดส์ ตอนที่ชายนั้นนั่งอยู่ก็มีเงาดำๆ แล้วชายคนนั้นถามว่า ยังบ่ได้กินเข้าติ(ยังไม่ได้กินข้าวเหรอ เงาดำก็ตอบว่า เออ ชายบอกอีกว่า เดี๋ยวเมื่ออื่นสิเอากับเข้ามาให้เด้อ (พรุ่งนี้จะเอาข้าวมาให้) จนชาวบ้านคนมาเห็นชายคนนั้น คงคิดว่าคุยคนเดียว แล้วชาวบ้านก็เดินจากไป ชายคนนั้นกลับบ้านไปหาเมียแล้วบอกว่า บักเอดส์ทรงคือสิบ่ได้กินเข้า(นายเอดส์เหมือนจะไม่ได้กินข้าว) แล้ววันรุ่งขึ้นเมียก็เอาแกงอ่อมมาให้ วางไว้หน้าบ้าน แล้วบอกว่าเอาเข้ามาให้แล้วเด้อ แล้วก็มีเสียงออกมาจากบ้านว่า เออ แล้วชายคนนั้นก็สงสัยว่าทำไมถึงหาบักเอดส์ไม่เจอ จนชายคนนั้นเดินไปหลังบ้านเดินก้มมองพื้นจนเดินมาถึงตรงที่บักเอดส์ผูกคอ แล้วพูดว่ามันคือเหม็นวะ (ทำไมมันเหม็น) แล้วเดินกลับบ้าน แล้วคิดว่า เราดูไม่ทั่วนี่หว่า แล้ววันต่อมา ตอนแลง(เย็น) ก็ไปบ้านบักเอดส์อีกครั้ง แต่ตอนนี้เอาไฟฉายมาแล้วเดินเงยหน้าด้วย พอชายคนนั้นมองดูแต่ไกล ก็เห็นมีอะไรห้อยอยู่ พอดํไกล้ๆ ก็ทำให้ชายคนนั้นถึงกับพูดว่า ผี ผี แล้ววิ่งหนีกลับบบ้านเลยทีเดียว พอถึงบ้าน เมียก็รู้สึกว่า ผัวซงสิฟ้าวฝั่ง(เหมือนรีบ) พอชายคนนั้นถึงบ้าน ก็เอาผ้าห่มกอดแล้วพูดคำเดียวไปเรื่อยๆว่า ผี ผี
จนเมียของเขาต้องไปเรียกผู้ใหญ่บ้านมา แล้วผู้ใหญ่บ้านถามว่า เป็นหยัง
ชายคนนั้นตอบว่าผี ผี ผู้ใหญ่บ้านถามว่า อยู่ใส่(อยู่ไหน) ชายคนนั้นตอบว่า พู่นๆ เมียก็บอกผู้ใหญ่บ้านว่า ตั้งแต่เพิ่งมาจากบ้านบักเอดส์ แล้วก็เป็นแบบนี้เลย ผู้ใหญ่บ้านก็เลยพาพรรคพวกไปที่บ้านบักเอดส์ แล้วพบศพของบักเอดส์ที่ผูกคอตาย แล้วผู้ใหญ่บ้านพูดว่า ผีตัวะนี้ (ผีนี้) ผู้ใหญ่บ้านก็เลยตีกลองรัวๆ เพื่อรวมชาวบ้าน แล้วชาวบ้านก็นำศพบักเอดส์ไปฝัง ฝังเพราะตายโหง แล้วฝังที่ป่าช้า
เรื่องนี้เล่าโดยครูในโรงเรียนสนามบิน
เรียบเรียงและรวบรวมโดย ผมเอง