ตามสไตล์เด็กใกล้จบครับ เรียนเอกภาษาญี่ปุ่นมา ต้องตัดสินใจเลือกอนาคตของตัวเองแล้ว ว่า เราจะต้องไปทางไหน แต่มี 2 เรื่องที่ต้องคิดครับ
1. พ่อจะบอกทุกครั้ง ตั้งแต่ ม ปลาย ว่า อยากให้ไปทำราชการ ก็เหตุผลที่คลาสสิก ว่า มั่นคง และก็มีเวลา ชิลๆได้ แต่ผมไม่ใช่แบบนั้น เพราะผมเองก็วางแผนจะทำงานใน เอกชน และมีเส้นทางการวางแผนอนาคต ว่า จะทำประกันสุขภาพ และ ลงทุน ออมเงินกับสถาบันการเงิน เเละก็ทำงานเสริม ต้องศึกษายาวๆ หรืออาจจะไปต่างประเทศ เเต่หลังๆ เขาก็พูดในทำนอง เผื่อไว้ ว่าจะสนใจ เเต่มันก็เป็นเส้นทางของผม ผมเองก็เคยพบเจอกับความอืดอาด พิธี ขั้นตอน ของราชการมาใน มัธยม และมหาลัย รวมถึงการติดต่อราชการ และผมเองก็ชอบความท้าทาย อยากพัฒนา อยากหลุดจากกรอบ เซฟโซน ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่ได้ชอบงานราชการเท่าไหร่นัก ถ้าถามว่า ผมเลือกที่จะไม่ทำได้ไหม ได้ แต่เท่าที่มองมา พ่อเขาคาดหวัง ภูมิใจในตัวผมสูง เเละปู่ผมเป็นข้าราชการ แต่พ่อผม ไม่ได้ทำ เกือบจะได้ไปทำงานราชการแต่ก็ มีปัญหาบางประการ จึงมาที่ผม ............... คำว่าไม่ทำน่ะคือ 99.99 % ไม่ ถ้าไม่ใช่สายงานครูสอนภาษา แต่ผมเห็นตัวอย่างจากครูสอนฝรั่งเศสเเล้ว ที่เขาต้องมาสอนอังกฤษ หรือโยกย้ายไปในสายงานอื่น เพราะรร ม ปลายผม ปิดศิลป์ ฝรั่งเศสไปแล้ว ก็เลยคิดว่า หากภาษาอื่นมาแทนที่ญี่ปุ่นแล้ว คงจะเป็นเช่นนี้แน่
2. ผมได้ทำงานใกล้ชิดกับ ผู้ที่เรียนจบวิศวะ ก็เลยอ่านประวัติของเขา ซึ่งเเต่ละคนเขาก็มีการเปลี่ยนสายแล้วปังมาก เช่น เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น เช่น สตาร์ทอัพ ที่เห็นมา ผมมีความชอบด้านภาษา และการเรียนการสอน การศึกษา และการนำเข้าของชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลยมีเส้นทางว่า
- เรียนเกาหลี เพิ่ม ฟื้นฟูภาษาอังกฤษเพิ่มเติม
- เรียนสตาร์ทอัพ และ การนำำเข้าสินค้า และการบริหารธุรกิจ
แล้วลองทำงานในบริษัท ที่นำเข้า หนังสือ เครื่องเขียน ของใช้เล็กๆน้อยๆ ของญี่ปุ่น เกาหลี หรือทำงานเป็น คนสั่งของ เพราะบางอย่าง มันน่าสนใจเเต่ไม่มีขขายในไทย เช่น ปากกาสำหรับตรวจงานนักเรียน หรือ ตัวปั๊มน่ารัก เครื่องเขียน และก็ นำเข้าหนังสือเรียนภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น เพื่อที่จะได้ไม่โดนโกง เพราะผมเองเคยมีประสบการณ์กลัวโกง ถึงขนาดใช้เวลาตัดสินใจ 1 ปีเเค่ขนาดซื้อหนังสือภาษาเกาหลีเลยทีเดียว
หรือเปิดโมเดล โรงเรียนกวดวิชา ครบวงจร
ทั้ง 2 สิ่งมีอะไรที่พอจะแนะนำผมได้บ้างไหมครับ
ปัญหาเด็กใกล้จะจบการศึกษา ไม่อยากรับราชการ+ เปลี่ยนสายงาน
1. พ่อจะบอกทุกครั้ง ตั้งแต่ ม ปลาย ว่า อยากให้ไปทำราชการ ก็เหตุผลที่คลาสสิก ว่า มั่นคง และก็มีเวลา ชิลๆได้ แต่ผมไม่ใช่แบบนั้น เพราะผมเองก็วางแผนจะทำงานใน เอกชน และมีเส้นทางการวางแผนอนาคต ว่า จะทำประกันสุขภาพ และ ลงทุน ออมเงินกับสถาบันการเงิน เเละก็ทำงานเสริม ต้องศึกษายาวๆ หรืออาจจะไปต่างประเทศ เเต่หลังๆ เขาก็พูดในทำนอง เผื่อไว้ ว่าจะสนใจ เเต่มันก็เป็นเส้นทางของผม ผมเองก็เคยพบเจอกับความอืดอาด พิธี ขั้นตอน ของราชการมาใน มัธยม และมหาลัย รวมถึงการติดต่อราชการ และผมเองก็ชอบความท้าทาย อยากพัฒนา อยากหลุดจากกรอบ เซฟโซน ก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่า ไม่ได้ชอบงานราชการเท่าไหร่นัก ถ้าถามว่า ผมเลือกที่จะไม่ทำได้ไหม ได้ แต่เท่าที่มองมา พ่อเขาคาดหวัง ภูมิใจในตัวผมสูง เเละปู่ผมเป็นข้าราชการ แต่พ่อผม ไม่ได้ทำ เกือบจะได้ไปทำงานราชการแต่ก็ มีปัญหาบางประการ จึงมาที่ผม ............... คำว่าไม่ทำน่ะคือ 99.99 % ไม่ ถ้าไม่ใช่สายงานครูสอนภาษา แต่ผมเห็นตัวอย่างจากครูสอนฝรั่งเศสเเล้ว ที่เขาต้องมาสอนอังกฤษ หรือโยกย้ายไปในสายงานอื่น เพราะรร ม ปลายผม ปิดศิลป์ ฝรั่งเศสไปแล้ว ก็เลยคิดว่า หากภาษาอื่นมาแทนที่ญี่ปุ่นแล้ว คงจะเป็นเช่นนี้แน่
2. ผมได้ทำงานใกล้ชิดกับ ผู้ที่เรียนจบวิศวะ ก็เลยอ่านประวัติของเขา ซึ่งเเต่ละคนเขาก็มีการเปลี่ยนสายแล้วปังมาก เช่น เปลี่ยนไปทำอย่างอื่น เช่น สตาร์ทอัพ ที่เห็นมา ผมมีความชอบด้านภาษา และการเรียนการสอน การศึกษา และการนำเข้าของชิ้นเล็กชิ้นน้อย เลยมีเส้นทางว่า
- เรียนเกาหลี เพิ่ม ฟื้นฟูภาษาอังกฤษเพิ่มเติม
- เรียนสตาร์ทอัพ และ การนำำเข้าสินค้า และการบริหารธุรกิจ
แล้วลองทำงานในบริษัท ที่นำเข้า หนังสือ เครื่องเขียน ของใช้เล็กๆน้อยๆ ของญี่ปุ่น เกาหลี หรือทำงานเป็น คนสั่งของ เพราะบางอย่าง มันน่าสนใจเเต่ไม่มีขขายในไทย เช่น ปากกาสำหรับตรวจงานนักเรียน หรือ ตัวปั๊มน่ารัก เครื่องเขียน และก็ นำเข้าหนังสือเรียนภาษาเกาหลี ญี่ปุ่น เพื่อที่จะได้ไม่โดนโกง เพราะผมเองเคยมีประสบการณ์กลัวโกง ถึงขนาดใช้เวลาตัดสินใจ 1 ปีเเค่ขนาดซื้อหนังสือภาษาเกาหลีเลยทีเดียว
หรือเปิดโมเดล โรงเรียนกวดวิชา ครบวงจร
ทั้ง 2 สิ่งมีอะไรที่พอจะแนะนำผมได้บ้างไหมครับ