ตอนนี้เราอายุ 26 ปี เรียนจบมาในยุคที่เศรษฐกิจค่อนข้างตกต่ำ แถมมาเจอสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิดแพร่ระบาด และต้องมาเจอกับรัฐบาลที่มีการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ มันค่อนข้างยากที่จะสร้างตัวตามเป้าหมายที่เคยได้ตั้งใจไว้ก่อนที่จะเข้ามาสู่วัยทำงาน
ตอนนี้เราทำงานเกี่ยวกับ Agency ด้านการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ สื่อด้านภาพลักษณ์องค์กร BI / CI ทำการตลาด ทำอีเว้นท์ etc. ในตำแหน่ง sales ได้เงินเดือน 19K บวกกับ Commissions จะตกอยู่ต่อเดือนเฉลี่ยที่ 20K - 23K แปลกใจไหมว่าทำไมเป็น sales แต่มีค่าคอมเพิ่มมาค่อนข้างน้อย เพราะงานที่เราทำค่อนข้างจับฉ่าย โดนดึงตัวไปช่วยทำงานในส่วนอื่นที่ไม่ใช่งานหลัก และไม่ได้ค่าคอม จนบางเดือนแทบจะไม่ได้ทำงานหลักเลย แถมงานหลักเองก็ใช่ว่าจะทำได้ดี เพราะด้วยราคา และเงื่อนไขอะไรต่างๆ ค่อนข้างที่จะนำเสนอขายให้ลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจแย่แบบนี้ให้ตัดสินใจซื้อหรือปิดการขายได้ แต่จริงๆแล้วกลับกลายเป็นว่ารู้สึกชอบและสนุกกับงานที่โดนดึงตัวไปทำซะมากกว่า พอทำไปทำมากับชอบมากกว่างานหลักเสียอีก รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ได้พัฒนาศักยภาพ และได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้หรือได้ทำ แต่การได้พัฒนาตัวเองมันไม่ใช่แค่นั้น มันควรจะควบคู่กับการเติบโตในเรื่องของผลตอบแทนที่เราจะนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วย ซึ่งงานนี้เป็นงานระบบออฟฟิศทั่วไป ทำงานเวลาทำการปกติ มีวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีเวลาในการใช้ชีวิต มีเครดิตในการทำธุรกรรมต่างๆด้วยรูปแบบของบริษัท แต่รายได้มันค่อนข้างคงที่และเติบโตช้า ซึ่งถามว่ารายได้พอใช้ไหม ก็พอใช้ในระดับนึงเลย แต่ไม่ได้ทำให้สามารถเก็บเงินจำนวนมากได้ในแต่ละเดือน
ซึ่งตอนนี้จึงมีความลังเลที่จะเปลี่ยนงานไปสาย Sales คลินิคศัลยกรรม เนื่องจากแฟนและเพื่อนเราทำอยู่ ซึ่งรายได้ดีมาก มาจากค่า Commissions ซึ่งได้มากกว่าเงินเดือน 2-3 เท่า ต่อให้เราทำยอดขายไม่ดี เป็นท็อปบ้วยๆของสาขา ก็ยังได้รายได้มากกว่างานออฟฟิศ เพราะเค้าค่อนข้างมีฐานลูกค้าจากการทำการตลาดรูปแบบต่างๆของคลินิคเอง แต่สิ่งที่เราจะต้องเจอคือความกดดันในการทำยอดขาย ถึงแม้ว่าเราจะพอใจแล้ว แต่ผู้ประกอบการเองก็มีความคาดหวังที่มากยิ่งขึ้นในทุกๆเดือน รวมทั้งเวลาในการใช้ชีวิตที่เราจะมีน้อยลง เพราะจะไม่ได้หยุดเหมือนงานออฟฟิศแบบเดิม เสาร์-อาทิตย์ และไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยเดือนนึงจะมีลิมิตให้สามารถเลือกหยุดได้แค่ 6 วันต่อเดือน เวลาทำงาน เข้า-ออก ก็พอๆกับงานออฟฟิศ แต่สายคลินิคจะเหมือนทำงานเกือบตลอดเวลา เพราะต้องคอยตอบแชทลูกค้าที่ทักเข้ามาสอบถามข้อมูล แม้แต่วันหยุดก็ต้องคอยจับโทรศัพท์อยู่ตลอด และที่สำคัญการจ่ายเงินของคลินิคจะค่อนข้างเลี่ยงภาษี โดยจะไม่ได้จ่ายในรูปแบบระบบ Payroll แบบงานออฟฟิศ ซึ่งอาจจะมีผลในด้านการทำธุรกรรมกู้ซื้อบ้านและรถในอนาคต (แต่เรามีบัตรเครดิตแล้วซึ่งทำตอนทำงานออฟฟิศ) และงานสายนี้ไม่ใช่งานที่มั่นคงที่จะทำเป็นงานระยะยาวได้ แต่เป็นงานที่ทำแบบฉาบฉวยด้วยวัยและไฟของเราที่มันยังแรงอยู่ตอนนี้
จึงเกิดเป็นความลังเลว่าตอนนี้เราอยู่ในช่วงกำลังสร้างตัวเราควรเลือกงานที่จะสามารถกอบโกยรายได้ในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุด แต่จะต้องแลกมาด้วยเวลาของชีวิตที่จะต้องสูญเสียไป และไม่มีเครดิตเท่าไหร่ในด้านการทำธุรกรรม มีแค่รายได้ที่จะมากกว่า 2-3 เท่าของงานออฟฟิศ แต่จะช่วยให้เราสามารถทำให้ Goal หรือเป้าหมายของเราให้สำเร็จได้เร็วขึ้นแต่ไร้ซึ่งความมั่นคงในระยะยาว หรือเราควรจะให้ความสำคัญในเรื่องของเวลาในการใช้ชีวิต ความมั่นคงในระยะยาว และความพอดีในด้านของผลตอบแทน โดยการเลือกทำงานออฟฟิศต่อไป???!
อยากสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนงาน เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น
ตอนนี้เราทำงานเกี่ยวกับ Agency ด้านการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ สื่อด้านภาพลักษณ์องค์กร BI / CI ทำการตลาด ทำอีเว้นท์ etc. ในตำแหน่ง sales ได้เงินเดือน 19K บวกกับ Commissions จะตกอยู่ต่อเดือนเฉลี่ยที่ 20K - 23K แปลกใจไหมว่าทำไมเป็น sales แต่มีค่าคอมเพิ่มมาค่อนข้างน้อย เพราะงานที่เราทำค่อนข้างจับฉ่าย โดนดึงตัวไปช่วยทำงานในส่วนอื่นที่ไม่ใช่งานหลัก และไม่ได้ค่าคอม จนบางเดือนแทบจะไม่ได้ทำงานหลักเลย แถมงานหลักเองก็ใช่ว่าจะทำได้ดี เพราะด้วยราคา และเงื่อนไขอะไรต่างๆ ค่อนข้างที่จะนำเสนอขายให้ลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจแย่แบบนี้ให้ตัดสินใจซื้อหรือปิดการขายได้ แต่จริงๆแล้วกลับกลายเป็นว่ารู้สึกชอบและสนุกกับงานที่โดนดึงตัวไปทำซะมากกว่า พอทำไปทำมากับชอบมากกว่างานหลักเสียอีก รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ได้พัฒนาศักยภาพ และได้ลองทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยคิดว่าจะทำได้หรือได้ทำ แต่การได้พัฒนาตัวเองมันไม่ใช่แค่นั้น มันควรจะควบคู่กับการเติบโตในเรื่องของผลตอบแทนที่เราจะนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วย ซึ่งงานนี้เป็นงานระบบออฟฟิศทั่วไป ทำงานเวลาทำการปกติ มีวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีเวลาในการใช้ชีวิต มีเครดิตในการทำธุรกรรมต่างๆด้วยรูปแบบของบริษัท แต่รายได้มันค่อนข้างคงที่และเติบโตช้า ซึ่งถามว่ารายได้พอใช้ไหม ก็พอใช้ในระดับนึงเลย แต่ไม่ได้ทำให้สามารถเก็บเงินจำนวนมากได้ในแต่ละเดือน
ซึ่งตอนนี้จึงมีความลังเลที่จะเปลี่ยนงานไปสาย Sales คลินิคศัลยกรรม เนื่องจากแฟนและเพื่อนเราทำอยู่ ซึ่งรายได้ดีมาก มาจากค่า Commissions ซึ่งได้มากกว่าเงินเดือน 2-3 เท่า ต่อให้เราทำยอดขายไม่ดี เป็นท็อปบ้วยๆของสาขา ก็ยังได้รายได้มากกว่างานออฟฟิศ เพราะเค้าค่อนข้างมีฐานลูกค้าจากการทำการตลาดรูปแบบต่างๆของคลินิคเอง แต่สิ่งที่เราจะต้องเจอคือความกดดันในการทำยอดขาย ถึงแม้ว่าเราจะพอใจแล้ว แต่ผู้ประกอบการเองก็มีความคาดหวังที่มากยิ่งขึ้นในทุกๆเดือน รวมทั้งเวลาในการใช้ชีวิตที่เราจะมีน้อยลง เพราะจะไม่ได้หยุดเหมือนงานออฟฟิศแบบเดิม เสาร์-อาทิตย์ และไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยเดือนนึงจะมีลิมิตให้สามารถเลือกหยุดได้แค่ 6 วันต่อเดือน เวลาทำงาน เข้า-ออก ก็พอๆกับงานออฟฟิศ แต่สายคลินิคจะเหมือนทำงานเกือบตลอดเวลา เพราะต้องคอยตอบแชทลูกค้าที่ทักเข้ามาสอบถามข้อมูล แม้แต่วันหยุดก็ต้องคอยจับโทรศัพท์อยู่ตลอด และที่สำคัญการจ่ายเงินของคลินิคจะค่อนข้างเลี่ยงภาษี โดยจะไม่ได้จ่ายในรูปแบบระบบ Payroll แบบงานออฟฟิศ ซึ่งอาจจะมีผลในด้านการทำธุรกรรมกู้ซื้อบ้านและรถในอนาคต (แต่เรามีบัตรเครดิตแล้วซึ่งทำตอนทำงานออฟฟิศ) และงานสายนี้ไม่ใช่งานที่มั่นคงที่จะทำเป็นงานระยะยาวได้ แต่เป็นงานที่ทำแบบฉาบฉวยด้วยวัยและไฟของเราที่มันยังแรงอยู่ตอนนี้
จึงเกิดเป็นความลังเลว่าตอนนี้เราอยู่ในช่วงกำลังสร้างตัวเราควรเลือกงานที่จะสามารถกอบโกยรายได้ในช่วงนี้ให้ได้มากที่สุด แต่จะต้องแลกมาด้วยเวลาของชีวิตที่จะต้องสูญเสียไป และไม่มีเครดิตเท่าไหร่ในด้านการทำธุรกรรม มีแค่รายได้ที่จะมากกว่า 2-3 เท่าของงานออฟฟิศ แต่จะช่วยให้เราสามารถทำให้ Goal หรือเป้าหมายของเราให้สำเร็จได้เร็วขึ้นแต่ไร้ซึ่งความมั่นคงในระยะยาว หรือเราควรจะให้ความสำคัญในเรื่องของเวลาในการใช้ชีวิต ความมั่นคงในระยะยาว และความพอดีในด้านของผลตอบแทน โดยการเลือกทำงานออฟฟิศต่อไป???!