**********  ดูกรอานนท์ เธอจงช่วยปูผ้าสังฆาฏิ ซ้อนกันเป็นสี่ชั้นให้เรา เราเหน็ดเหนื่อยนัก จักนั่ง **********

.

**********
https://84000.org/tipitaka/book/v.php?B=10&A=1888&Z=3915
 
มหาปรินิพพานสูตร
 
    ...
...
 
 
...
 
 
             [๑๑๗] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในโภคนครตามความพอ
พระทัยแล้ว ตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า 
 
ดูกรอานนท์ มาไปกันเถิด เราจัก
ไปยังเมืองปาวา 
    
 
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จถึงเมืองปาวาแล้ว ได้ยินว่า
พระผู้มีพระภาคประทับ ณ อัมพวันของนายจุนทกัมมารบุตร ในเมืองปาวานั้น ฯ
 
 
            
...
 
 
 
             ลำดับนั้น เมื่อพระผู้มีพระภาคเสวยภัตตาหารของนายจุนทกัมมารบุตรแล้ว
ก็เกิดอาพาธอย่างร้ายแรง  มีเวทนากล้าเกิดแต่การประชวรลงพระโลหิต ใกล้จะนิพพาน ได้ยินว่า พระผู้มีพระภาคทรงมีพระสติสัมปชัญญะ ทรงอดกลั้นเวทนา
เหล่านั้นไว้ มิได้ทรงพรั่นพรึง 
 
ตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า มาไปกันเถิด

อานนท์ เราจักไปยังเมืองกุสินารา
 
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
 
 
 
...
 
 
             [๑๑๙] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเสด็จแวะจากหนทาง แล้วเสด็จเข้าไป
ยังโคนไม้ต้นหนึ่ง รับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า
 
 ดูกรอานนท์ เธอจงช่วยปูผ้าสังฆาฏิ
ซ้อนกันเป็นสี่ชั้นให้เรา เราเหน็ดเหนื่อยนัก จักนั่ง

 
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัส
ของพระผู้มีพระภาคแล้ว ปูผ้าสังฆาฏิซ้อนกันเป็นสี่ชั้น พระผู้มีพระภาคประทับนั่ง
บนอาสนะที่พระอานนท์ปูถวายแล้ว 
 
ครั้นพระผู้มีพระภาคประทับนั่งแล้ว จึงรับสั่ง
กะท่านพระอานนท์ว่า 
 
ดูกรอานนท์ เธอจงช่วยนำน้ำมาให้เรา เราระหาย จักดื่มน้ำ  
    
...
 
                   [๑๒๒] ...
...
 
 
ดูกรอานนท์ ในปัจฉิมยามแห่งราตรีวันนี้แล 
ความปรินิพพานของตถาคตจักมีในระหว่างไม้สาละทั้งคู่ 
ในสาลวันอันเป็นที่แวะพัก
ของมัลลกษัตริย์ทั้งหลาย ในเมืองกุสินารา มาไปกันเถิด อานนท์ เราจักไปยังแม่น้ำกกุธานที 
 
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ

             
 
...
 
             [๑๒๕]   พระพุทธเจ้าผู้ศาสดา ผู้พระตถาคต หาผู้เปรียบมิได้ในโลก
                          ทรงเหน็ดเหนื่อย เสด็จถึงแม่น้ำกกุธานที มีน้ำใส จืด สะอาด
                          เสด็จลงแล้วทรงสรงและเสวยน้ำแล้ว อันหมู่ภิกษุแวดล้อม
                          เสด็จไปในท่ามกลาง พระผู้มีพระภาคผู้ศาสดาทรงแสวงหาคุณ
                          อันยิ่งใหญ่ ทรงเป็นไปในธรรมนี้เสด็จถึงอัมพวันแล้ว รับสั่ง
                          กะภิกษุนามว่าจุนทกะว่า เธอจงช่วยปูผ้าสังฆาฏิซ้อนกันเป็น
                          สี่ชั้นให้เรา เราจะนอน พระจุนทกะนั้น อันพระผู้มีพระภาคผู้
                          อบรม พระองค์ทรงเตือนแล้ว รีบปูผ้าสังฆาฏิพับเป็นสี่ชั้น
                          ถวาย พระศาสดาทรงบรรทมแล้ว หายเหน็ดเหนื่อย ฝ่าย
                          พระจุนทกะนั่งเฝ้าอยู่เฉพาะพระพักตร์ในที่นั้น ฯ

     ...
...

 
             [๑๒๘] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า 
 
ดูกรอานนท์
มาไปกันเถิด เราจักไปยังฝั่งโน้นแห่งแม่น้ำหิรัญวดีเมืองกุสินารา และสาลวัน
อันเป็นที่แวะพักแห่งพวกเจ้ามัลละ 
 
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว 
 
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จไปยัง
ฝั่งโน้นแห่งแม่น้ำหิรัญวดี เมืองกุสินารา และสาลวันอันเป็นที่แวะพักแห่งพวก
เจ้ามัลละ ครั้นแล้วรับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่า 
 
ดูกรอานนท์ เธอจงช่วยตั้งเตียง
ให้เรา หันศีรษะไปทางทิศอุดรระหว่างไม้สาละทั้งคู่
เราเหน็ดเหนื่อยแล้ว จักนอน

 
ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ตั้งเตียงหันพระเศียร
ไปทางทิศอุดรระหว่างไม้สาละทั้งคู่ 
 
พระผู้มีพระภาคทรงสำเร็จสีหไสยาโดยพระปรัส
เบื้องขวา ทรงซ้อนพระบาทเหลื่อมพระบาท มีพระสติสัมปชัญญะ 


             [๑๒๙] สมัยนั้น ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกสะพรั่งนอกฤดูกาล ดอกไม้
เหล่านั้นร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา 
 
แม้ดอก
มณฑารพอันเป็นของทิพย์ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา 
 
แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของ
ทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยัง
พระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชา 
 
ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อ
บูชาพระตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต ฯ
 

             ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า 
 
ดูกรอานนท์
ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของ
ตถาคตเพื่อบูชา 
 
แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอก
มณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา 
 
แม้จุณแห่ง
จันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา 
 
ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ใน
อากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต

ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม
ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ 
 
ผู้ใดแล จะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก
หรืออุบาสิกาก็ตาม 

เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ  ปฏิบัติตาม
ธรรมอยู่ 
ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักกระ เคารพ นับถือ บูชาตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอด
เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า 

เราจักเป็นผู้ปฏิบัติ
ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้
  ฯ      
 
 
     ...
...
 
 
 
...
 
**********
 
 
 
 
_/\_ _/\_ _/\_
 
 
 
 
 
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่