ไม้สาละผลิดอกร่วงโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา, ตถาคตจะชื่อว่าบริษัทสักการะด้วยเครื่องสักการะเท่านี้หามิได้


             มหาปรินิพพานสูตร (บางส่วน)
             ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกท่านพระอานนท์มารับสั่งว่า
             ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็จดอกบานสพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่น
โปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์
ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระ
ของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ
จุณแห่งจันทน์เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา
ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่าก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อบูชาตถาคต แม้สังคีตอัน
เป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต

            ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชา
นอบน้อมด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้


            ผู้ใดแล จะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสกหรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติ
ธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ  ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ
เคารพ นับถือ บูชาตถาคตด้วยการบูชาอย่างยอด


            เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า
เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ ฯ

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐  บรรทัดที่ ๑๘๘๘ - ๓๙๑๕.  หน้าที่  ๗๘ - ๑๕๙.
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=10&A=1888&Z=3915&bgc=ivory&pagebreak=0
             ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=67&bgc=ivory
             คำว่า บูชา 2
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=บูชา


              เวรัญชกัณฑ์ (บางส่วน)
             ดูกรสารีบุตร พระผู้มีพระภาคพระนามกกุสันธะ พระนามโกนาคมนะและ
พระนามกัสสปะ มิได้ทรงท้อพระหฤทัยเพื่อจะทรงแสดงธรรมโดยพิสดารแก่สาวกทั้งหลาย
             อนึ่ง สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน  อิติวุตตกะ ชาดก อัพภูตธรรม
เวทัลละ
ของพระผู้มีพระภาคทั้งสามพระองค์นั้นมีมาก
             สิกขาบทก็ทรงบัญญัติ ปาติโมกข์ก็ทรงแสดงแก่สาวก
             เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธาน
แห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน
ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน จึงดำรงพระศาสนานั้นไว้ได้ตลอดระยะกาล
ยืนนาน


             ดูกรสารีบุตร ดอกไม้ต่างพรรณที่เขากองไว้บนพื้นกระดาน ร้อยดีแล้วด้วยด้าย
ลมย่อมกระจายไม่ได้ ขจัดไม่ได้ กำจัดไม่ได้ซึ่งดอกไม้เหล่านั้น

             ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะเขาร้อยดีแล้วด้วยด้าย ฉันใด
             เพราะอันตรธานแห่งพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าเหล่านั้น เพราะอันตรธาน
แห่งสาวกผู้ตรัสรู้ตามพระพุทธเจ้าเหล่านั้น
             สาวกชั้นหลังที่ต่างชื่อกัน ต่างโคตรกัน ต่างชาติกัน ออกบวชจากตระกูลต่างกัน
จึงดำรงพระศาสนานั้นไว้ได้ตลอดระยะกาลยืนนาน ฉันนั้น เหมือนกัน.
             ดูกรสารีบุตร อันนี้แลเป็นเหตุ อันนี้แลเป็นปัจจัย ให้พระศาสนาของ
พระผู้มีพระภาคพระนามกกุสันธะ พระนามโกนาคมนะ และพระนามกัสสปะ ดำรงอยู่นาน.    
http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=1&A=0&Z=1454#7top
http://84000.org/tipitaka/dic/d_seek.php?text=นวังคสัตถุสาสน์

  
             สัทธรรมปฏิรูปกสูตร (บางส่วน)
             ดูกรกัสสป ธาตุดินยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้
ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ก็ยังพระสัทธรรมให้เลือนหายไปไม่ได้
             ที่แท้โมฆบุรุษในโลกนี้ต่างหาก เกิดขึ้นมาก็ทำให้
พระสัทธรรมเลือนหายไป
             เปรียบเหมือนเรือจะอัปปาง ก็เพราะต้นหนเท่านั้น
             พระสัทธรรมยังไม่เลือนหายไปด้วยประการฉะนี้ ฯ
             ดูกรกัสสป เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้ ย่อมเป็นไปพร้อม
เพื่อความฟั่นเฟือน เพื่อความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม
             เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเป็นไฉน คือ
             ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ในธรรมวินัยนี้ ไม่เคารพยำเกรงใน
พระศาสดา ๑ ในพระธรรม ๑ ในพระสงฆ์ ๑ ในสิกขา ๑ ในสมาธิ ๑

             เหตุฝ่ายต่ำ ๕ ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นไปพร้อมเพื่อความฟั่นเฟือน
เพื่อความเลือนหายแห่งพระสัทธรรม ฯ
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=16&A=5846&Z=5888&bgc=cornsilk



การตระหนักถึงความสำคัญของพระธรรมวินัยและศึกษาพระธรรมวินัยด้วยความเคารพ

บูชาพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยการปฏิบัติบูชา

ย่อมเป็นเหตุให้พระศาสนาดำรงอยู่ได้นาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่