สวัสดีค่ะ เราเพิ่งเคยตั้งกระทู้พันทิพเป็นครั้งแรก เพราะเพื่อนแนะนำมาว่าพี่ๆน้องๆในนี้อาจจะมีความคิดเห็นที่น่าสนใจ ยังไงหากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ
เราอาศัยอยู่หมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองค่ะ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดประมาณ 500 ตร.ม (มีพื้นที่สนามรอบๆ) เรื่องของเรื่องก็คือ ตั้งแต่เมื่อประมาณเดือน มิ.ย-ก.ค ที่ผ่านมา ข้างบ้านขายบ้านพร้อมที่ดินให้กับผู้อยู่อาศัยรายใหม่ และเขาเริ่มต้นซ่อมแซมแบบทุบรื้อทั้งหลังค่ะ แล้วมันเป็นช่วงโควิดซึ่งเราออกจากบ้านไปไหนไม่ได้ (ที่บ้านอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยเลยค่อนข้างกังวลเรื่อง COVID ค่ะ) เสียงเครื่องทุบและเครื่องเจาะดังจนเราใช้ชีวิตปกติไม่ได้เลย ใส่ที่อุดหูก็แล้ว หลบไปอยู่ในห้องชั้นบนด้านในสุดปิดประตูสนิทก็แล้ว สุดท้ายก็ยังเสียงดังมากแบบปวดกะโหลก หลายครั้งคุณแม่ต้องถึงขนาดทานยาแก้ปวด
ส่วนตัวในตอนนั้นเราต้องเรียนออนไลน์ (ป.โท) ส่วนคุณพ่อก็ WFH เรียกว่าเสียงทุบให้คนในบ้านเสียการเสียงานหมดเลย คุณพ่อก็ประชุมไม่ได้ ส่วนเราเรียนก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิในการทำอะไรเลย (ขนาดจะโทรศัพท์คุยงานกลุ่มกับเพื่อนคือต้องขับรถออกไปจอดที่อื่นเพื่อนั่งคุยในรถ) ก็เลยติดต่อนิติฯเพื่อขอเบอร์โทรไปคุยกับเจ้าของบ้านเพื่อขอตารางและแผนการก่อสร้าง เผื่อจะได้จัดตารางเวลาให้ตัวเองยังสามารถทำงานกับคนอื่นได้อยู่บ้าง
เจ้าของบ้านที่โทรคุยเป็นผู้หญิง วัยน่าจะประมาณ 50-60 (เดาเอาจากเสียง) เขาน่ารักค่ะ พูดจาดี แล้วก็ขอโทษเรา บอกว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างนานเลย เพราะมาตรการ COVID ของหมู่บ้านอนุญาตให้ช่างก่อสร้างเข้ามาทำงานได้พร้อมกันไม่เกิน 2 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนตัวเราเข้าใจมากๆ เสียงดังมันก็เป็นเรื่องปกติของการก่อสร้าง ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเราคงเอาคอมไปนั้งทำงานในคาเฟ่ แม่ก็คงไปนั่งเล่นนอนเล่นบ้านญาติๆได้ในช่วงกลางวัน แต่ตอนนี้คือเลือกอะไรไม่ได้เลย สุดท้ายทางเจ้าของบ้านก็ไปคุยกับผู้รับเหมาและแจ้งระยะเวลากับเรา (แถมแวะเอาขนมมาฝากให้หน้าบ้านด้วย) ตอนนั้นคิดว่าน่าจะโอเคแล้ว
ปรากฎว่าพอเอาเข้าจริง ช่างก็ไม่ได้ทำตามที่แจ้งมาเลยค่ะ ตัวเจ้าของบ้านเองก็ไม่ได้เข้ามา (น่าจะอาทิตย์ละครั้ง) สุดท้ายก็เสียงดังตลอดเวลาลากยาวมาถึงตอนนี้ (หายไปช่วงนึง และก็กลับมาทุบต่อ) เราก็พยายามทน ไม่อยากอะไรกับเขามาก เพราะเขาก็ดูพยายามเซฟให้เราที่สุดแล้ว กั้นผ้าใบสูงถึงชั้น 2 เพื่อกันฝุ่น และเอาขนมมาฝากขอโทษที่รบกวนอยู่หลายครั้ง เราเข้าใจเขามากๆ -- แต่ก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ ต้องกลายเป็นคนไม่มีกิจกรรมอะไรเลยในตอนกลางวัน จะดูหนัง ดูซีรี่ย์ อ่านหนังสือ คุยเล่นกับเพื่อนกับครอบครัว ไม่ได้สักอย่างเลย ถ้ามีธุระด่วนที่จะคุยกับใครก็ต้องนับชั่วโมงรอคนงานพักทานข้าวกลางวันแล้วรีบคุยให้จบ
ทุกวันนี้เราเรียนจบแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ส่วนหนึ่งก็เพราะเหตุผลนี้เลยค่ะ ด้วยเสียงดังขนาดนี้เรา WFH ไม่ได้แน่ๆ และถึงรัฐจะคลายล็อกดาวน์บางส่วน แต่ที่บ้านเราก็ยังไม่สะดวกใจให้ออกไปข้างนอกนานๆ -- ถ้าออกไปซื้อของพอได้บ้าง แต่ถ้าออกไปนั่งทำงาน พบปะคนอื่นหรือนั่งกินอะไรอย่างงี้ คุณแม่จะกังวลมากๆ (เราฉีดวัคซีน SV ไปเกือบครึ่งปีแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้บูสเข็ม 3 ด้วย) พอมาคิดดูก็รู้สึกว่าเรื่องพวกนี้เริ่มทำให้เราสุขภาพจิตไม่ปกติหน่อยๆแล้ว กลายเป็นคนหงุดหงิดง่ายขึ้น ทำอะไรต้องรีบๆเร่งๆ สมาธิแย่ลง และวิตกกังวลกับตัวเองในอนาคต (เราทิ้งโอกาสทำงานที่คนรอบตัวเสนอให้ไปหลายอย่างเลย เพราะจะเริ่มงานตอนนี้ก็คงขาดประสิทธิภาพ ไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับผลกระทบกับข้อจำกัดเรื่องเสียงและเวลา WFH กับเราด้วย)
ส่วนหนึ่งที่อาจส่งผลกับสภาพจิตใจคือเรานอนพักผ่อนน้อยลง พอไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนกลางวัน สิ่งที่สนใจอยากทำทั้งหมดเลยต้องทำช่วงกลางคืนหลังเสียงเงียบ เลยส่งผลให้เรากลายเป็นคนนอนดึก แต่ตื่นสายไม่ได้ เพราะ 8-9 โมงก็ถูกปลุกด้วยเสียงทุบเสียงเจาะแล้ว (ได้ฮีลตัวเองแค่วันอาทิตย์วันเดียว)
พอมาถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดี จะคุยมันก็จนด้วยเหตุผลและปัจจัยธรรมชาติ จะขอเขาให้ช่วยทุบเสียงเบาๆหน่อยก็คงไม่ได้ หรือแบบ "พี่คะช่วยหยุดทุบจนกว่าโควิดจะหาย" อันนี้ก็คงเอาแต่ใจไปมาก (ถึงรู้ดีว่าเลื่อนไปทุบในเวลาปกติด้วยช่างเต็มจำนวนจะใช้เวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็ตาม) เขาเองก็ nice กับเรา ไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจต่อกัน เพราะก็คงเป็นเพื่อนบ้านกันไปอีกนาน
เราทำอะไรได้บ้างไหมคะ หรือมีทางไหนที่ทำให้ดีขึ้นได้โดยไม่มีใครต้องเสียผลประโยชน์ ตอนนี้นึกไม่ออกเลย ถ้าในมีวิธีดีๆรบกวนหน่อยนะคะ
(ที่พิมพ์อยู่นี่คือใช้จังหวะคนงานพักกลางวันพอดีค่ะ เดี๋ยวคงต้องกลับไปปวดหัวต่อแล้ว TT ฮืออ)
ข้างบ้านทุบรื้อทั้งหลังในช่วงโควิดที่ต้องอยู่บ้าน 24 ชม. (จนใกล้จะสุขภาพจิตไม่ปกติแล้ว) ควรคุยกับเขายังไงดีคะ?
เราอาศัยอยู่หมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองค่ะ เป็นบ้านเดี่ยวขนาดประมาณ 500 ตร.ม (มีพื้นที่สนามรอบๆ) เรื่องของเรื่องก็คือ ตั้งแต่เมื่อประมาณเดือน มิ.ย-ก.ค ที่ผ่านมา ข้างบ้านขายบ้านพร้อมที่ดินให้กับผู้อยู่อาศัยรายใหม่ และเขาเริ่มต้นซ่อมแซมแบบทุบรื้อทั้งหลังค่ะ แล้วมันเป็นช่วงโควิดซึ่งเราออกจากบ้านไปไหนไม่ได้ (ที่บ้านอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ด้วยเลยค่อนข้างกังวลเรื่อง COVID ค่ะ) เสียงเครื่องทุบและเครื่องเจาะดังจนเราใช้ชีวิตปกติไม่ได้เลย ใส่ที่อุดหูก็แล้ว หลบไปอยู่ในห้องชั้นบนด้านในสุดปิดประตูสนิทก็แล้ว สุดท้ายก็ยังเสียงดังมากแบบปวดกะโหลก หลายครั้งคุณแม่ต้องถึงขนาดทานยาแก้ปวด
ส่วนตัวในตอนนั้นเราต้องเรียนออนไลน์ (ป.โท) ส่วนคุณพ่อก็ WFH เรียกว่าเสียงทุบให้คนในบ้านเสียการเสียงานหมดเลย คุณพ่อก็ประชุมไม่ได้ ส่วนเราเรียนก็ไม่รู้เรื่อง ไม่มีสมาธิในการทำอะไรเลย (ขนาดจะโทรศัพท์คุยงานกลุ่มกับเพื่อนคือต้องขับรถออกไปจอดที่อื่นเพื่อนั่งคุยในรถ) ก็เลยติดต่อนิติฯเพื่อขอเบอร์โทรไปคุยกับเจ้าของบ้านเพื่อขอตารางและแผนการก่อสร้าง เผื่อจะได้จัดตารางเวลาให้ตัวเองยังสามารถทำงานกับคนอื่นได้อยู่บ้าง
เจ้าของบ้านที่โทรคุยเป็นผู้หญิง วัยน่าจะประมาณ 50-60 (เดาเอาจากเสียง) เขาน่ารักค่ะ พูดจาดี แล้วก็ขอโทษเรา บอกว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างนานเลย เพราะมาตรการ COVID ของหมู่บ้านอนุญาตให้ช่างก่อสร้างเข้ามาทำงานได้พร้อมกันไม่เกิน 2 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนตัวเราเข้าใจมากๆ เสียงดังมันก็เป็นเรื่องปกติของการก่อสร้าง ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติเราคงเอาคอมไปนั้งทำงานในคาเฟ่ แม่ก็คงไปนั่งเล่นนอนเล่นบ้านญาติๆได้ในช่วงกลางวัน แต่ตอนนี้คือเลือกอะไรไม่ได้เลย สุดท้ายทางเจ้าของบ้านก็ไปคุยกับผู้รับเหมาและแจ้งระยะเวลากับเรา (แถมแวะเอาขนมมาฝากให้หน้าบ้านด้วย) ตอนนั้นคิดว่าน่าจะโอเคแล้ว
ปรากฎว่าพอเอาเข้าจริง ช่างก็ไม่ได้ทำตามที่แจ้งมาเลยค่ะ ตัวเจ้าของบ้านเองก็ไม่ได้เข้ามา (น่าจะอาทิตย์ละครั้ง) สุดท้ายก็เสียงดังตลอดเวลาลากยาวมาถึงตอนนี้ (หายไปช่วงนึง และก็กลับมาทุบต่อ) เราก็พยายามทน ไม่อยากอะไรกับเขามาก เพราะเขาก็ดูพยายามเซฟให้เราที่สุดแล้ว กั้นผ้าใบสูงถึงชั้น 2 เพื่อกันฝุ่น และเอาขนมมาฝากขอโทษที่รบกวนอยู่หลายครั้ง เราเข้าใจเขามากๆ -- แต่ก็ไม่ไหวจริงๆค่ะ ต้องกลายเป็นคนไม่มีกิจกรรมอะไรเลยในตอนกลางวัน จะดูหนัง ดูซีรี่ย์ อ่านหนังสือ คุยเล่นกับเพื่อนกับครอบครัว ไม่ได้สักอย่างเลย ถ้ามีธุระด่วนที่จะคุยกับใครก็ต้องนับชั่วโมงรอคนงานพักทานข้าวกลางวันแล้วรีบคุยให้จบ
ทุกวันนี้เราเรียนจบแล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ส่วนหนึ่งก็เพราะเหตุผลนี้เลยค่ะ ด้วยเสียงดังขนาดนี้เรา WFH ไม่ได้แน่ๆ และถึงรัฐจะคลายล็อกดาวน์บางส่วน แต่ที่บ้านเราก็ยังไม่สะดวกใจให้ออกไปข้างนอกนานๆ -- ถ้าออกไปซื้อของพอได้บ้าง แต่ถ้าออกไปนั่งทำงาน พบปะคนอื่นหรือนั่งกินอะไรอย่างงี้ คุณแม่จะกังวลมากๆ (เราฉีดวัคซีน SV ไปเกือบครึ่งปีแล้ว ตอนนี้ยังไม่ได้บูสเข็ม 3 ด้วย) พอมาคิดดูก็รู้สึกว่าเรื่องพวกนี้เริ่มทำให้เราสุขภาพจิตไม่ปกติหน่อยๆแล้ว กลายเป็นคนหงุดหงิดง่ายขึ้น ทำอะไรต้องรีบๆเร่งๆ สมาธิแย่ลง และวิตกกังวลกับตัวเองในอนาคต (เราทิ้งโอกาสทำงานที่คนรอบตัวเสนอให้ไปหลายอย่างเลย เพราะจะเริ่มงานตอนนี้ก็คงขาดประสิทธิภาพ ไม่อยากให้คนอื่นต้องมารับผลกระทบกับข้อจำกัดเรื่องเสียงและเวลา WFH กับเราด้วย)
ส่วนหนึ่งที่อาจส่งผลกับสภาพจิตใจคือเรานอนพักผ่อนน้อยลง พอไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนกลางวัน สิ่งที่สนใจอยากทำทั้งหมดเลยต้องทำช่วงกลางคืนหลังเสียงเงียบ เลยส่งผลให้เรากลายเป็นคนนอนดึก แต่ตื่นสายไม่ได้ เพราะ 8-9 โมงก็ถูกปลุกด้วยเสียงทุบเสียงเจาะแล้ว (ได้ฮีลตัวเองแค่วันอาทิตย์วันเดียว)
พอมาถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้จะจัดการยังไงดี จะคุยมันก็จนด้วยเหตุผลและปัจจัยธรรมชาติ จะขอเขาให้ช่วยทุบเสียงเบาๆหน่อยก็คงไม่ได้ หรือแบบ "พี่คะช่วยหยุดทุบจนกว่าโควิดจะหาย" อันนี้ก็คงเอาแต่ใจไปมาก (ถึงรู้ดีว่าเลื่อนไปทุบในเวลาปกติด้วยช่างเต็มจำนวนจะใช้เวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็ตาม) เขาเองก็ nice กับเรา ไม่อยากพูดอะไรที่ทำให้รู้สึกอึดอัดใจต่อกัน เพราะก็คงเป็นเพื่อนบ้านกันไปอีกนาน
เราทำอะไรได้บ้างไหมคะ หรือมีทางไหนที่ทำให้ดีขึ้นได้โดยไม่มีใครต้องเสียผลประโยชน์ ตอนนี้นึกไม่ออกเลย ถ้าในมีวิธีดีๆรบกวนหน่อยนะคะ
(ที่พิมพ์อยู่นี่คือใช้จังหวะคนงานพักกลางวันพอดีค่ะ เดี๋ยวคงต้องกลับไปปวดหัวต่อแล้ว TT ฮืออ)