โควิดไทยวันนี้ ติดเชื้อ 10,035 ราย ดับเพิ่ม 60 ราย
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2984491
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564รวม 10,035 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 9,160 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 756 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 80 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 39 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,692,056 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 10,590 ราย หายป่วยสะสม 1,565,477 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 110,265 ราย เสียชีวิต 60 ราย
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อจาการตรวจด้วยชุดตรวจATK ในวันนี้ลดลงจากหลักหมื่นรายเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาเหลือ 2,263 ราย ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักอยู่ที่ 2,969 คน ส่วนผู้ที่ต้องใช้ท่อหายใจอยู่ที่ 680 คน
แพทย์ชนบท จับตากราฟขาขึ้น "ยอดโควิด" สัปดาห์หน้า อาจพุ่งวันละหลายหมื่นคนฅ
https://ch3plus.com/news/program/261275
แพทย์ชนบท จับตากราฟขาขึ้น "ยอดโควิด" สัปดาห์หน้า อาจพุ่งวันละหลายหมื่นคน
ชมรมแพทย์ชนบท ได้วิเคราะห์ตัวเลขที่เกิดขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในช่วงสัปดาห์ยอดผู้ตอดเชื้อจะค่อยๆ ขยับเพิ่มจนถึงวันละหลายหมื่นคนอีกครั้ง ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันความพร้อมด้วย 4 มาตรการปลอดภัย ก่อนการเปิดเมือง
วันนี้ (10 ต.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 10,817 คน เป็นติดเชื้อในประเทศ 10,754 คน และ ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 63 คน จนถึงขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,710,884 คน มีผู้หายป่วยเพิ่ม 9,981 คน รักษาตัวอยู่ 110,880 คน เป็นอาการหนัก 2,985 คน ใช้เครื่องช่วยหายใจ 689 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 84 คน รวมสะสม 17,691 คน
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการตรวจด้วยชุดตรวจแอนติเจน หรือ ATK เป็นที่น่าจับตา โดย ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า โปรดให้ความสนใจ และตื่นตัว ระมัดระวัง เพราะแม้ผู้ติดเชื้อจากการตรวจแบบ RT-PCR จะอยู่ที่ 10,817 คน แต่การตรวจด้วย ATK พบผู้ติดเชื้อ อีก 10,055 คน รวมแล้วเป็นกว่า 2 หมื่นคน
ในจำนวน ATK ที่เป็นบวก ไม่ได้ตรวจยืนยันด้วย RT-PCR ทุกคน ดังนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้งอย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ป่วยหนักยังร่วม 3 พันคน ซึ่งถือว่ายังไม่ลด สอดคล้องกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีผู้ป่วยสีแดงราว 10%
หากคำนวณ 3,000 คนนี้กลับไป เราน่าจะมีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่าวันละ 30,000 คน ในขณะที่ยอดการตรวจเชิงรุกลดลง หากตรวจมากขึ้นในหลายพื้นที่อัตราการติดเชื้อในชุมชนก็จะสูงมากกว่าร้อยละ 20
ชมรมแพทย์ชนบทได้สรุปว่า โควิดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น พื้นที่สีแดงกำลังขยาย ภาระการควบคุมโรคได้กลายเป็นของวิชาชีพสุขภาพในกระทรวงสาธารณสุขอย่างสมบูรณ์แล้วอีกครั้ง โดยให้ติดตามสถานการณ์การระบาดในช่วงสัปดาห์หน้าว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์จริงหรือไม่
ด้าน นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศยังทรงตัว และ พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากการรวมตัวกันทำกิจกรรม เช่น งานสังสรรค์ หรือ งานศพ รวมถึงยังพบการระบาดในโรงงานสถานประกอบการและแคมป์ก่อสร้าง
ขณะที่บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อประปรายและสามารถควบคุมได้ รัฐบาลจึงมีแนวทางที่จะเปิดกิจการ กิจกรรม และเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ในชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น
โดยเงื่อนไขของการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยจะยึด 4 มาตรการ คือ
1. การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและครอบคลุม
2. การป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด โดยให้คิดไว้เสมอว่าทุกคนอาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝง
3. การใช้ชุดตรวจ ATK คัดกรอง เพื่อให้ผลเร็ว เข้าสู่ระบบรักษารวดเร็ว ลดการแพร่เชื้อ
4. การดำเนินการตามแนวทาง COVID Free Setting
ซึ่งองค์กร สถานประกอบการต่างๆ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งหากดำเนินการได้ครบถ้วนทั้ง 4 มาตรการ ก็มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ และประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่ ตามพื้นที่นำร่องในจังหวัดภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, พังงา และกระบี่ ที่ได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี
นนท์อ่วม! น้ำท่วมขังนานกว่าสัปดาห์ เริ่มเน่า-น้ำทะเลหนุนซ้ำ เร่งป้องกัน
https://www.dailynews.co.th/news/362181/
ชาวสวน ริมคลองบางกอกน้อย เมืองนนทบุรี อ่วมหนัก น้ำท่วมขังนานกว่าสัปดาห์ เริ่มเน่า พืชผลไม้ล้มตายเดือดร้อน แถมโดนน้ำเหนือหลาก-ทะเลหนุนซ้ำ เร่งขนหินทรายทำกระสอบป้องกัน วอนภาครัฐเยียวยา
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสวนผลไม้ หมู่ 3 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ระดับน้ำจากคลองบางกอกน้อย เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สวนผลไม้ ของชาวบ้านมานานกว่าสัปดาห์ พื้ชสวนผลไม้หลายแห่งได้รับความเสียหายจมน้ำยืนต้นเฉาตาย อาทิ ทุเรียน ส้มโอ กล้วย ขนุน และอื่นๆ กระทั่งมีรายงานว่ามวลน้ำกำลังมาประกอบกับวันที่ 10 -11 ต.ค.น้ำทะเลหนุน ทำให้ชาวบ้าน ชาวสวนริมคลองบางกอกน้อย รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน ต้องนำกระสอบทรายนับพันกระสอบมาเรียงเป็นแนวเขื่อนกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมเข้าสวนผลไม้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา
นาง
บังอร กลีบพึ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ ต.บางขนุน เป็นพื้นที่ติดคลองบางกอกน้อย จมน้ำมานานกว่าสัปดาห์จนน้ำเริ่มดำส่งกลิ่นเน่าเหม็น เบื้องต้นได้แจ้งไปที่ภาครัฐ เกษตรอำเภอ ไปแล้ว กระทั่งได้รับการประสานว่ามวลน้ำเริ่มมาถ้าส่วนหน้าเอาไม่อยู่ก็จะปล่อยน้ำหลากลงมาเป็นสเต็ปๆอาจเข้าท่วมสวนผลไม้ที่กำลังออกผลผลิตของชาวบ้านเสียหายเพิ่มเติมได้อีก ทาง อบต. จึงเร่งเอาหินคลุกมาเท กระสอบทรายมาวางป้องกันน้ำท่วม ทำทุกอย่างที่คิดว่าจะป้องกันได้ โดยชาวสวน และชาวบ้านจิตอาสา ต้องมาช่วยกันขนทรายตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้าฝนไม่ตกคิดว่าก็น่าจะพอต้านได้บ้าง แต่ถ้าฝนตกลงมาซ้ำอีกคิดว่าคงเอาไม่อยู่น้ำเข้าท่วมซ้ำแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ภาครัฐเข้ามาสำรวจช่วยเหลือชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังต่อไป
ขณะที่บริเวณซอยข้างโรงเรียนวัดตาล ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงทะลักเข้าบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ไม่สามารถเดินออกไปไหนมาไหนได้ต้องใช้เรือสัญจรไปมา บางจุดพบว่ามีน้ำท่วมสูงถึงหน้าอกได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมานานกว่า 2 วัน ชาวบ้านบางคนไม่มีเรือต้องลุยน้ำออกไปทำงาน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือทำสะพานทางเดินให้บรรเทาความลำบากใช้ชาวบ้านสัญจรเข้าออกได้ต่อไป
JJNY : ติดเชื้อ 10,035 ดับ 60│แพทย์ชนบท จับตากราฟขาขึ้น│นนท์อ่วม! น้ำท่วมขังนานกว่าสัปดาห์ เริ่มเน่า│บุหรี่ขาดตลาด
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_2984491
ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม 2564รวม 10,035 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังฯ 9,160 ราย ผู้ป่วยจากการค้นหาเชิงรุก 756 ราย ผู้ป่วยภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 80 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 39 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,692,056 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 10,590 ราย หายป่วยสะสม 1,565,477 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) ผู้ป่วยกำลังรักษา 110,265 ราย เสียชีวิต 60 ราย
ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อจาการตรวจด้วยชุดตรวจATK ในวันนี้ลดลงจากหลักหมื่นรายเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาเหลือ 2,263 ราย ขณะที่ผู้ป่วยอาการหนักอยู่ที่ 2,969 คน ส่วนผู้ที่ต้องใช้ท่อหายใจอยู่ที่ 680 คน
แพทย์ชนบท จับตากราฟขาขึ้น "ยอดโควิด" สัปดาห์หน้า อาจพุ่งวันละหลายหมื่นคนฅ
https://ch3plus.com/news/program/261275
แพทย์ชนบท จับตากราฟขาขึ้น "ยอดโควิด" สัปดาห์หน้า อาจพุ่งวันละหลายหมื่นคน
ชมรมแพทย์ชนบท ได้วิเคราะห์ตัวเลขที่เกิดขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในช่วงสัปดาห์ยอดผู้ตอดเชื้อจะค่อยๆ ขยับเพิ่มจนถึงวันละหลายหมื่นคนอีกครั้ง ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขยืนยันความพร้อมด้วย 4 มาตรการปลอดภัย ก่อนการเปิดเมือง
วันนี้ (10 ต.ค.) ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ที่ 10,817 คน เป็นติดเชื้อในประเทศ 10,754 คน และ ผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 63 คน จนถึงขณะนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อสะสม 1,710,884 คน มีผู้หายป่วยเพิ่ม 9,981 คน รักษาตัวอยู่ 110,880 คน เป็นอาการหนัก 2,985 คน ใช้เครื่องช่วยหายใจ 689 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 84 คน รวมสะสม 17,691 คน
ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการตรวจด้วยชุดตรวจแอนติเจน หรือ ATK เป็นที่น่าจับตา โดย ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า โปรดให้ความสนใจ และตื่นตัว ระมัดระวัง เพราะแม้ผู้ติดเชื้อจากการตรวจแบบ RT-PCR จะอยู่ที่ 10,817 คน แต่การตรวจด้วย ATK พบผู้ติดเชื้อ อีก 10,055 คน รวมแล้วเป็นกว่า 2 หมื่นคน
ในจำนวน ATK ที่เป็นบวก ไม่ได้ตรวจยืนยันด้วย RT-PCR ทุกคน ดังนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้งอย่างชัดเจน ขณะที่ผู้ป่วยหนักยังร่วม 3 พันคน ซึ่งถือว่ายังไม่ลด สอดคล้องกับจำนวนผู้ติดเชื้อที่มีผู้ป่วยสีแดงราว 10%
หากคำนวณ 3,000 คนนี้กลับไป เราน่าจะมีผู้ติดเชื้อไม่ต่ำกว่าวันละ 30,000 คน ในขณะที่ยอดการตรวจเชิงรุกลดลง หากตรวจมากขึ้นในหลายพื้นที่อัตราการติดเชื้อในชุมชนก็จะสูงมากกว่าร้อยละ 20
ชมรมแพทย์ชนบทได้สรุปว่า โควิดกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น พื้นที่สีแดงกำลังขยาย ภาระการควบคุมโรคได้กลายเป็นของวิชาชีพสุขภาพในกระทรวงสาธารณสุขอย่างสมบูรณ์แล้วอีกครั้ง โดยให้ติดตามสถานการณ์การระบาดในช่วงสัปดาห์หน้าว่าจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นตามที่คาดการณ์จริงหรือไม่
ด้าน นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศยังทรงตัว และ พบการแพร่ระบาดเป็นกลุ่มก้อนจากการรวมตัวกันทำกิจกรรม เช่น งานสังสรรค์ หรือ งานศพ รวมถึงยังพบการระบาดในโรงงานสถานประกอบการและแคมป์ก่อสร้าง
ขณะที่บางพื้นที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น พบผู้ติดเชื้อประปรายและสามารถควบคุมได้ รัฐบาลจึงมีแนวทางที่จะเปิดกิจการ กิจกรรม และเปิดพื้นที่รับนักท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ในชุมชนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศมากขึ้น
โดยเงื่อนไขของการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยจะยึด 4 มาตรการ คือ
1. การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายและครอบคลุม
2. การป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด โดยให้คิดไว้เสมอว่าทุกคนอาจเป็นผู้ติดเชื้อแฝง
3. การใช้ชุดตรวจ ATK คัดกรอง เพื่อให้ผลเร็ว เข้าสู่ระบบรักษารวดเร็ว ลดการแพร่เชื้อ
4. การดำเนินการตามแนวทาง COVID Free Setting
ซึ่งองค์กร สถานประกอบการต่างๆ ต้องปฏิบัติอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ซึ่งหากดำเนินการได้ครบถ้วนทั้ง 4 มาตรการ ก็มั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ และประชาชนจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติแบบวิถีใหม่ ตามพื้นที่นำร่องในจังหวัดภูเก็ต, สุราษฎร์ธานี, พังงา และกระบี่ ที่ได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี
นนท์อ่วม! น้ำท่วมขังนานกว่าสัปดาห์ เริ่มเน่า-น้ำทะเลหนุนซ้ำ เร่งป้องกัน
https://www.dailynews.co.th/news/362181/
ชาวสวน ริมคลองบางกอกน้อย เมืองนนทบุรี อ่วมหนัก น้ำท่วมขังนานกว่าสัปดาห์ เริ่มเน่า พืชผลไม้ล้มตายเดือดร้อน แถมโดนน้ำเหนือหลาก-ทะเลหนุนซ้ำ เร่งขนหินทรายทำกระสอบป้องกัน วอนภาครัฐเยียวยา
เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณสวนผลไม้ หมู่ 3 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ระดับน้ำจากคลองบางกอกน้อย เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สวนผลไม้ ของชาวบ้านมานานกว่าสัปดาห์ พื้ชสวนผลไม้หลายแห่งได้รับความเสียหายจมน้ำยืนต้นเฉาตาย อาทิ ทุเรียน ส้มโอ กล้วย ขนุน และอื่นๆ กระทั่งมีรายงานว่ามวลน้ำกำลังมาประกอบกับวันที่ 10 -11 ต.ค.น้ำทะเลหนุน ทำให้ชาวบ้าน ชาวสวนริมคลองบางกอกน้อย รวมทั้งผู้ใหญ่บ้าน ต้องนำกระสอบทรายนับพันกระสอบมาเรียงเป็นแนวเขื่อนกั้นน้ำป้องกันน้ำท่วมเข้าสวนผลไม้ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา
นางบังอร กลีบพึ่ง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ ต.บางขนุน เป็นพื้นที่ติดคลองบางกอกน้อย จมน้ำมานานกว่าสัปดาห์จนน้ำเริ่มดำส่งกลิ่นเน่าเหม็น เบื้องต้นได้แจ้งไปที่ภาครัฐ เกษตรอำเภอ ไปแล้ว กระทั่งได้รับการประสานว่ามวลน้ำเริ่มมาถ้าส่วนหน้าเอาไม่อยู่ก็จะปล่อยน้ำหลากลงมาเป็นสเต็ปๆอาจเข้าท่วมสวนผลไม้ที่กำลังออกผลผลิตของชาวบ้านเสียหายเพิ่มเติมได้อีก ทาง อบต. จึงเร่งเอาหินคลุกมาเท กระสอบทรายมาวางป้องกันน้ำท่วม ทำทุกอย่างที่คิดว่าจะป้องกันได้ โดยชาวสวน และชาวบ้านจิตอาสา ต้องมาช่วยกันขนทรายตลอดทั้งวัน ซึ่งถ้าฝนไม่ตกคิดว่าก็น่าจะพอต้านได้บ้าง แต่ถ้าฝนตกลงมาซ้ำอีกคิดว่าคงเอาไม่อยู่น้ำเข้าท่วมซ้ำแน่นอน แต่อย่างไรก็ตามอยากให้ภาครัฐเข้ามาสำรวจช่วยเหลือชาวสวนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมขังต่อไป
ขณะที่บริเวณซอยข้างโรงเรียนวัดตาล ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงทะลักเข้าบ้าน เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา ไม่สามารถเดินออกไปไหนมาไหนได้ต้องใช้เรือสัญจรไปมา บางจุดพบว่ามีน้ำท่วมสูงถึงหน้าอกได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมานานกว่า 2 วัน ชาวบ้านบางคนไม่มีเรือต้องลุยน้ำออกไปทำงาน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือทำสะพานทางเดินให้บรรเทาความลำบากใช้ชาวบ้านสัญจรเข้าออกได้ต่อไป