#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ พุ่งติดเทรนด์ทวิต หลังร้านค้าเจอหมายเรียกคืนเงิน ยอดสูงสุด 17 ล้าน
https://www.matichon.co.th/social/news_2983767
#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ พุ่งติดเทรนด์ทวิต หลังร้านค้าเจอหมายเรียกคืนเงิน ยอดสูงสุด 17 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์เกิดกระแส
#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์โดยในช่วงเวลาหนึ่งพุ่งขึ้นไปถึงอันดับ 1 โดยเรื่องราวเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการหลายรายที่เข้าร่วมโครงการเยียวยาของรัฐ ได้รับหมายเรียกจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อเรียกเงินคืนเนื่องจากไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ โดยหลายรายถูกเรียกเงินคืนหลักล้านบาท โดยให้เวลา 30 วันในการส่งมอบเงินคืน
รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับหมายเรียกเงินคืนจะเป็นกลุ่มร้านที่รับแลกเงินสด และร้านค้าออนไลน์ ยอดสูงสุดที่มีการเรียกเงินคืนสูงถึง 17 ล้านบาท โดยให้เวลาอุทธรณ์ 15 วัน หลังได้รับเอกสารเรียกเงินคืน
รายงานข่าวระบุว่า เสียงเรียกร้องที่เกิดขึ้นใน
#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ นั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐเรียกคืนเงินโดยรวมต้นทุนของร้านเข้าไปด้วย ซึ่งผู้ได้รับหมายเรียกมองว่าไม่ยุติธรรมควรเรียกคืนเฉพาะส่วนที่รัฐอุดหนุนมาเท่านั้น ขณะที่หมายเรียกเงินคืนนั้นไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าทำผิดเงื่อนไขอย่างไรจะได้อุทธรณ์ให้ถูกจุดเป็นต้น ขณะที่บางส่วนระบุว่าเป็นการกระทำของภาครัฐที่ซ้ำเติมประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเงินคืนกรณีที่มีการสแกนข้ามจังหวัดซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาดอย่างหนักต้องมีการประกาศล็อกดาวน์ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าหันมาขายของออนไลน์มากขึ้น ขณะที่การแลกเป็นเงินสดนั้น เนื่องจากประชาชนไม่ได้มีแค่ค่าอาหารที่ต้องใช้จ่ายอย่างเดียว แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยที่ไม่สามารถสแกนจ่ายด้วยโครงการของรัฐได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีหลายความเห็นที่มองว่า การทำผิดกฎก็คือ การทำผิดกฎ ไม่ควรทำผิดกฎตั้งแต่แรก และหากระบบโครงการของรัฐไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนได้จริงก็ควรจะไปเรียกร้องให้แก้ไขระบบตั้งแต่แรก ไม่ใช่เข้าสู่ระบบแล้วทำผิดกฎที่รัฐวางไว้
หัวหินสั่งปิด ‘ตลาดฉัตร์ไชย’ ชั่วคราว 3 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง 30 ราย!
https://www.dailynews.co.th/news/361335/
เทศบาลเมืองหัวหินสั่งปิด "ตลาดฉัตร์ไชย" ชั่วคราวเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 11-13 ต.ค. หลังพบพ่อค้าแม่ค้าติดเชื้อโควิด-19 กว่า 30 คน
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นาย
นพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยภายหลังพบผู้ประกอบการค้าภายในตลาดฉัตร์ไชย เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ติดเชื้อโควิด-19 นับสิบราย ว่าได้นำเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกด้วยชุดทดสอบ ATK (Antigen Test Kit) ให้กับผู้ประกอบการค้าในตลาดฉัตร์ไชย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาด และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งร่วมกับ สาธารณสุข อ.หัวหิน ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองจากโรคโควิด-19
นาย
นพพร เปิดเผยต่อว่า โดยเน้นย้ำการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การใช้มาตรฐานเมืองอนามัยสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด HDC ของเทศบาลเมืองหัวหิน การทำความสะอาดทั้งสิ่งของ เครื่องใช้ รวมถึงที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการอยู่เสมอ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า จมูก ตา ปาก และการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อโรค
ด้านนาย
จีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า หลังจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์ตลาดฉัตร์ไชย สะสมล่าสุด 30 คน เทศบาลเมืองหัวหินได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการกว่า 300 ราย ภายในตลาดฉัตร์ไชยทราบว่า เทศบาลจะปิดตลาดชั่วคราวเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 11-13 ต.ค. นี้ เพื่อล้างทำความสะอาดตลาดพร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ หากหลังจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อสะสมจะพิจารณาปิดต่อเนื่อง จนกว่าจะควบคุมการระบาดได้ก่อนถึงวันเปิดเมืองตามโครงการหัวหินรีชาร์ทในวันที่ 1 พ.ย.นี้ สำหรับสาเหตุที่เทศบาลไม่สั่งปิดทันที เนื่องจากผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับผลกระทบจากสินค้าประเภทอาหารสด อาหารทะเลที่สั่งเข้ามาจำหน่ายจะได้รับความเสียหาย.
ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำส่งสัญญาณเตือน 7 จังหวัด จะเกิดอะไรขึ้นหลังพายุ 3 ลูกกฅ
https://www.tnnthailand.com/news/social/93310/
รศ.ดร.เสรี ประเมินสถานการณ์หลังพายุ 3 ลูก ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นส่งสัญญาณเตือน 7 จังหวัดภาคกลาง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์'
วันนี้ ( 10 ต.ค. 64)
รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์" ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ และ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
สวัสดีครับ พายุ 3 ลูกกำลังมา อะไรจะเกิดขึ้น ? ผมกับทีมงานลงพื้นที่น้ำท่วมภาคกลางมาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ระยะนี้แนวโน้มปริมาณน้ำเหนืออาจจะจะลดลง ผมค้นพบพฤติกรรมน้ำหลากที่น่าสนใจ กล่าวคือ ปริมาณน้ำเหนือในปีนี้แม้ว่าจะน้อยกว่าปี 2554 (เนื่องจากปริมาณฝนสะสมในภาคเหนือน้อยกว่าประมาณ 20%) แต่ระดับน้ำในหลายพื้นที่ยกระดับสูงขึ้นใกล้เคียงกัน หรือมากกว่า อยู่ในระดับอันตรายโดยดัชนีความเข้มน้ำท่วม (Flood intensity) เป็นไปตาม “ทฤษฎีน้ำล้นแก้ว”
ซึ่งเกิดจากการยกระดับถนน และมีการก่อสร้างคันกั้นน้ำ การถมดินสิ่งก่อสร้างต่างๆ การบีบแม่น้ำ ลำคลองหลายสาย การแย่งที่น้ำอยู่ แต่ละเลยการประเมินความเสี่ยง และความรุนแรงของพฤติกรรมน้ำหลากในลุ่มน้ำ เมื่อระดับน้ำถูกยกให้สูงขึ้น จึงมีแรงดันสูงขึ้น ส่งผลให้คันกั้นน้ำแตกเกิดปรากฏการณ์ “Domino effect” (อ.ไชโย อ.ปากโมก ต.โผงเผง จ.อ่างทอง อ.บางบาล ระดับน้ำสูงบริเวณเกาะเมือง พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น) เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับชุมชน และระหว่างชุมชนด้วยกันเอง
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นจากพายุ 3 ลูกนี้ (Lionrock, Kompasu, Low pressure/Depression) ผมได้ประเมินภาพรวมในลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่าจะมีปริมาณฝนสะสมเพิ่มขึ้นประมาณ150-200 มม (ตั้งแต่วันที่ 11-18 ตุลาคม) ซึ่งจะส่งผลให้มีระดับน้ำสูงขึ้น 0.50 m ความเสี่ยงจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ที่มีน้ำเต็มเขื่อน) อาจต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น ดังนั้นชุมชนที่อยู่ริมน้ำ หรือที่ท่วมอยู่แล้วจึงต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
โดยเฉพาะพื้นที่ใน จ.อ่างทอง จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี (ดูเฉดสีส้ม) แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อคันกั้นน้ำพื้นที่ กทม.(แต่ควรระวังน้ำท่วมรอการระบาย) พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบสูงสุด ที่ปริมาณฝนสะสมอาจจะเพิ่มมากกว่า 200 มม เป็นพื้นที่ภาคตะวันออกฉียงเหนือ (ตอนบน ตอนกลาง และตอนล่างประมาณวันที่ 13-18 ต.ค.) ภาคตะวันออก (ตลอดทั้งสัปดาห์ 10-18 ต.ค.) ภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ตลอดทั้งสัปดาห์ 10-18 ต.ค.) อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก และขนาดกลางหลายอ่างฯ ที่มีความจุใกล้เต็ม คันกั้นน้ำที่มีความเปราะบางหลายจุด จึงควรต้องเฝ้าระวัง สูงสุด !!! สัปดาห์หน้าทั้งสัปดาห์มีฝนตกหนักหลายพื้นที่น่ะครับ วางแผนการเดินทางด้วยครับ ผมไม่มีเวลาประเมินรายพื้นที่ แต่ถ้าพื้นที่ใดซึ่งมีความเสี่ยงสูงจะพยายามเรียนให้ทราบทันทีครับ อนึ่งยังไม่หมดฤดูพายุ โปรดติดตามตอนต่อไป
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=436305564542121&id=106874460818568
JJNY : #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ│หัวหินสั่งปิดตลาดฉัตร์ไชย3วัน│ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำเตือน7จว.│กก.ลงพื้นที่ศูนย์กักตัวอ.มะขาม
https://www.matichon.co.th/social/news_2983767
#เรียกเงินคืนโครงการรัฐ พุ่งติดเทรนด์ทวิต หลังร้านค้าเจอหมายเรียกคืนเงิน ยอดสูงสุด 17 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์เกิดกระแส #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์โดยในช่วงเวลาหนึ่งพุ่งขึ้นไปถึงอันดับ 1 โดยเรื่องราวเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการหลายรายที่เข้าร่วมโครงการเยียวยาของรัฐ ได้รับหมายเรียกจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อเรียกเงินคืนเนื่องจากไม่ปฏิบัติตาม หรือฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขของโครงการ โดยหลายรายถูกเรียกเงินคืนหลักล้านบาท โดยให้เวลา 30 วันในการส่งมอบเงินคืน
รายงานข่าวระบุว่า กลุ่มผู้ที่ได้รับหมายเรียกเงินคืนจะเป็นกลุ่มร้านที่รับแลกเงินสด และร้านค้าออนไลน์ ยอดสูงสุดที่มีการเรียกเงินคืนสูงถึง 17 ล้านบาท โดยให้เวลาอุทธรณ์ 15 วัน หลังได้รับเอกสารเรียกเงินคืน
รายงานข่าวระบุว่า เสียงเรียกร้องที่เกิดขึ้นใน #เรียกเงินคืนโครงการรัฐ นั้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะรัฐเรียกคืนเงินโดยรวมต้นทุนของร้านเข้าไปด้วย ซึ่งผู้ได้รับหมายเรียกมองว่าไม่ยุติธรรมควรเรียกคืนเฉพาะส่วนที่รัฐอุดหนุนมาเท่านั้น ขณะที่หมายเรียกเงินคืนนั้นไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าทำผิดเงื่อนไขอย่างไรจะได้อุทธรณ์ให้ถูกจุดเป็นต้น ขณะที่บางส่วนระบุว่าเป็นการกระทำของภาครัฐที่ซ้ำเติมประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเงินคืนกรณีที่มีการสแกนข้ามจังหวัดซึ่งเกิดขึ้นในช่วงที่โควิด-19 ระบาดอย่างหนักต้องมีการประกาศล็อกดาวน์ ส่วนพ่อค้าแม่ค้าหันมาขายของออนไลน์มากขึ้น ขณะที่การแลกเป็นเงินสดนั้น เนื่องจากประชาชนไม่ได้มีแค่ค่าอาหารที่ต้องใช้จ่ายอย่างเดียว แต่ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยที่ไม่สามารถสแกนจ่ายด้วยโครงการของรัฐได้ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีหลายความเห็นที่มองว่า การทำผิดกฎก็คือ การทำผิดกฎ ไม่ควรทำผิดกฎตั้งแต่แรก และหากระบบโครงการของรัฐไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนได้จริงก็ควรจะไปเรียกร้องให้แก้ไขระบบตั้งแต่แรก ไม่ใช่เข้าสู่ระบบแล้วทำผิดกฎที่รัฐวางไว้
หัวหินสั่งปิด ‘ตลาดฉัตร์ไชย’ ชั่วคราว 3 วัน หลังพบผู้ติดเชื้อโควิดพุ่ง 30 ราย!
https://www.dailynews.co.th/news/361335/
เทศบาลเมืองหัวหินสั่งปิด "ตลาดฉัตร์ไชย" ชั่วคราวเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 11-13 ต.ค. หลังพบพ่อค้าแม่ค้าติดเชื้อโควิด-19 กว่า 30 คน
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยภายหลังพบผู้ประกอบการค้าภายในตลาดฉัตร์ไชย เขตเทศบาลเมืองหัวหิน ติดเชื้อโควิด-19 นับสิบราย ว่าได้นำเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ตรวจเชิงรุกด้วยชุดทดสอบ ATK (Antigen Test Kit) ให้กับผู้ประกอบการค้าในตลาดฉัตร์ไชย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการค้าและผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยภายในตลาด และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมทั้งร่วมกับ สาธารณสุข อ.หัวหิน ให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลตนเองจากโรคโควิด-19
นายนพพร เปิดเผยต่อว่า โดยเน้นย้ำการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ การใช้มาตรฐานเมืองอนามัยสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด HDC ของเทศบาลเมืองหัวหิน การทำความสะอาดทั้งสิ่งของ เครื่องใช้ รวมถึงที่อยู่อาศัยหรือสถานประกอบการอยู่เสมอ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า จมูก ตา ปาก และการเว้นระยะห่าง เพื่อป้องกันการแพร่และรับเชื้อโรค
ด้านนายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า หลังจากมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 คลัสเตอร์ตลาดฉัตร์ไชย สะสมล่าสุด 30 คน เทศบาลเมืองหัวหินได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการกว่า 300 ราย ภายในตลาดฉัตร์ไชยทราบว่า เทศบาลจะปิดตลาดชั่วคราวเป็นเวลา 3 วันตั้งแต่วันที่ 11-13 ต.ค. นี้ เพื่อล้างทำความสะอาดตลาดพร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ หากหลังจากนี้ยังมีผู้ติดเชื้อสะสมจะพิจารณาปิดต่อเนื่อง จนกว่าจะควบคุมการระบาดได้ก่อนถึงวันเปิดเมืองตามโครงการหัวหินรีชาร์ทในวันที่ 1 พ.ย.นี้ สำหรับสาเหตุที่เทศบาลไม่สั่งปิดทันที เนื่องจากผู้ประกอบการร้านค้าจะได้รับผลกระทบจากสินค้าประเภทอาหารสด อาหารทะเลที่สั่งเข้ามาจำหน่ายจะได้รับความเสียหาย.
ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำส่งสัญญาณเตือน 7 จังหวัด จะเกิดอะไรขึ้นหลังพายุ 3 ลูกกฅ
https://www.tnnthailand.com/news/social/93310/
รศ.ดร.เสรี ประเมินสถานการณ์หลังพายุ 3 ลูก ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นส่งสัญญาณเตือน 7 จังหวัดภาคกลาง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์'
วันนี้ ( 10 ต.ค. 64)รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์" ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำ และ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
สวัสดีครับ พายุ 3 ลูกกำลังมา อะไรจะเกิดขึ้น ? ผมกับทีมงานลงพื้นที่น้ำท่วมภาคกลางมาตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ระยะนี้แนวโน้มปริมาณน้ำเหนืออาจจะจะลดลง ผมค้นพบพฤติกรรมน้ำหลากที่น่าสนใจ กล่าวคือ ปริมาณน้ำเหนือในปีนี้แม้ว่าจะน้อยกว่าปี 2554 (เนื่องจากปริมาณฝนสะสมในภาคเหนือน้อยกว่าประมาณ 20%) แต่ระดับน้ำในหลายพื้นที่ยกระดับสูงขึ้นใกล้เคียงกัน หรือมากกว่า อยู่ในระดับอันตรายโดยดัชนีความเข้มน้ำท่วม (Flood intensity) เป็นไปตาม “ทฤษฎีน้ำล้นแก้ว”
ซึ่งเกิดจากการยกระดับถนน และมีการก่อสร้างคันกั้นน้ำ การถมดินสิ่งก่อสร้างต่างๆ การบีบแม่น้ำ ลำคลองหลายสาย การแย่งที่น้ำอยู่ แต่ละเลยการประเมินความเสี่ยง และความรุนแรงของพฤติกรรมน้ำหลากในลุ่มน้ำ เมื่อระดับน้ำถูกยกให้สูงขึ้น จึงมีแรงดันสูงขึ้น ส่งผลให้คันกั้นน้ำแตกเกิดปรากฏการณ์ “Domino effect” (อ.ไชโย อ.ปากโมก ต.โผงเผง จ.อ่างทอง อ.บางบาล ระดับน้ำสูงบริเวณเกาะเมือง พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น) เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐกับชุมชน และระหว่างชุมชนด้วยกันเอง
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นจากพายุ 3 ลูกนี้ (Lionrock, Kompasu, Low pressure/Depression) ผมได้ประเมินภาพรวมในลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่าจะมีปริมาณฝนสะสมเพิ่มขึ้นประมาณ150-200 มม (ตั้งแต่วันที่ 11-18 ตุลาคม) ซึ่งจะส่งผลให้มีระดับน้ำสูงขึ้น 0.50 m ความเสี่ยงจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (ที่มีน้ำเต็มเขื่อน) อาจต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้น ดังนั้นชุมชนที่อยู่ริมน้ำ หรือที่ท่วมอยู่แล้วจึงต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
โดยเฉพาะพื้นที่ใน จ.อ่างทอง จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี (ดูเฉดสีส้ม) แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อคันกั้นน้ำพื้นที่ กทม.(แต่ควรระวังน้ำท่วมรอการระบาย) พื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบสูงสุด ที่ปริมาณฝนสะสมอาจจะเพิ่มมากกว่า 200 มม เป็นพื้นที่ภาคตะวันออกฉียงเหนือ (ตอนบน ตอนกลาง และตอนล่างประมาณวันที่ 13-18 ต.ค.) ภาคตะวันออก (ตลอดทั้งสัปดาห์ 10-18 ต.ค.) ภาคใต้ฝั่งตะวันตก (ตลอดทั้งสัปดาห์ 10-18 ต.ค.) อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก และขนาดกลางหลายอ่างฯ ที่มีความจุใกล้เต็ม คันกั้นน้ำที่มีความเปราะบางหลายจุด จึงควรต้องเฝ้าระวัง สูงสุด !!! สัปดาห์หน้าทั้งสัปดาห์มีฝนตกหนักหลายพื้นที่น่ะครับ วางแผนการเดินทางด้วยครับ ผมไม่มีเวลาประเมินรายพื้นที่ แต่ถ้าพื้นที่ใดซึ่งมีความเสี่ยงสูงจะพยายามเรียนให้ทราบทันทีครับ อนึ่งยังไม่หมดฤดูพายุ โปรดติดตามตอนต่อไป
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=436305564542121&id=106874460818568