ยังพุ่งเกินหมื่น! ติดเชื้อใหม่11,140ราย หายป่วย9,933ราย เสียชีวิต116
https://www.dailynews.co.th/news/353892/
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 116 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 11,140 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,660,574 ราย
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 8 ต.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 11,140 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,068 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 72 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 1,660,574 ราย หายป่วยกลับบ้าน 9,933 ราย หายป่วยสะสม 1,534,364 ราย กำลังรักษา 110,113 ราย
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 116 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 17,534 ราย
โคราชอ่วม น้ำอ่างลำเชียงไกร ไหลเข้าท่วม อ.ประทาย ต้องเร่งอพยพหนีน้ำ
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2214327
โคราชอ่วม มวลน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ไหลหลากถึง อ.ประทายแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมวัด พระ ชาวบ้าน เร่งอพยพหนีน้ำท่วม ซึ่งคาดปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ที่ จ.นครราชสีมา พบว่าสันดินขอบอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อำเภอโนนไทย รั่วเนื่องจากถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพัง โดยมวลน้ำมหาศาลได้ไหลล้นจากสันอ่างฯ หลากเข้าท่วมพื้นที่ท้ายอ่างฯ ตั้งแต่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านในหลายอำเภอได้รับความเดือดร้อนหนัก น้ำท่วมบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
และเป็นเวลา 13 วันแล้ว ที่มวลน้ำจากลำเชียงไกรได้ไหลหลากผ่านอำเภอต่างๆ ซึ่งล่าสุด ไหลเข้าท่วมวัดคงคาอุดมเขต บ้านตูม หมู่ที่ 11 ตำบลตลาดไทร อำเภอประทาย ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำลำสะแทด โดยมวลน้ำได้ไหลไปสมทบกัน แล้วเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมภายในวัด ระดับน้ำสูงประมาณ 30- 50 เซนติเมตร ทำให้พระภิกษุสงฆ์ ต้องเร่งขนข้าวของอพยพออกจากวัดหนีน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประชาชนที่อยู่ติดกับลำสะแทด ที่ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวที่อยู่ติดกับลำสะแทด ก็ถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน ทำให้ไม่สามารถเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยวได้
สำหรับพื้นที่อำเภอประทาย เป็นพื้นที่รองรับน้ำจากลำเชียงไกรที่ไหลลงลำสะแทด จึงทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอประทาย จึงเร่งเตือนประชาชนที่อยู่ติดกับลำสะแทด เตรียมอพยพข้าวของหนีขึ้นที่สูงโดยด่วน คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง.
นนทบุรีมวลน้ำหนุนสูง ทะลักท่อ ท่วมจุดกลับรถใต้สะพานพระราม5-ลานวัดศาลาลี
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6664942
นนทบุรีมวลน้ำหนุนสูง ทะลักท่อระบายน้ำ ท่วมจุดกลับรถใต้สะพานพระราม5-ลานวัดศาลาลี เจ้าอาวาสใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระบาย หวั่นศาสนสถานเสียหาย
วันที่ 8 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 7 ต.ค.64 ลงพื้นสำรวจพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าที่บริเวณใต้สะพานพระราม 5 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักผ่านทางท่อระบายน้ำจนทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบริเวณจุดกลับรถในช่องทางคู่ขนาน 2 ช่องจราจร ระดับน้ำสูงท่วมฟุบาททางเดินเท้าประมาณ 15 เซนติเมตร รถที่สัญจรต้องชะลอความเร็ว
โดยพบว่าตามจุดช่องระบายน้ำมีการแผ่นพลาสติก และกระสอบทรายมาว่างทับเพื่อกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มระดับทลักเข้าท่วม แต่ไม่สามารถต้านอยู่ทำให้พื้นที่บริเวณจุดกลับรถดังกล่าวถูกน้ำทะลักจากท่อเข้าท่วมพื้นที่
ด้าน พื้นที่ซอยบางไผ่ 18 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ใกล้เคียงประตูระบายน้ำคลองบางไผ่ใหญ่ มีการเร่งระบายน้ำจากคลองเนื่องจากมวลน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 ซม.
ที่ วัดศาลาลี ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันมีน้ำไหลเข้าท่วมลานหน้าวัดเต็มพื้นที่ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 ซม.
พระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลาลี เฝ้าระวังระดับน้ำที่ซึมผ่านแนวกระสอบทรายที่กั้นรอบพื้นที่ศาลไอ้ไข่ กุฏิที่พระสงฆ์จำวัด และลานทำบุญ จำนวนกว่า 2,000 กระสอบ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กจำนวน 10 เครื่อง เร่งระบายน้ำที่ไหลซึมเข้าสู่ภายในวัด หวั่นว่าน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจะสร้างความเสียหายกับศาสนสถานต่างๆ ภายในวัด
JJNY : ติดเชื้อ11,140 เสียชีวิต116│โคราชอ่วม น้ำลำเชียงไกรท่วม อ.ประทาย│นนทบุรีมวลน้ำหนุนสูง│ไทยพาณิชย์ ชี้ไทยฟื้นตัวช้า
https://www.dailynews.co.th/news/353892/
ยอด 'โควิด-19' วันนี้ พบเสียชีวิตเพิ่มอีก 116 ราย ขณะที่พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มอีก 11,140 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 1,660,574 ราย
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประจำวัน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 ล่าสุด วันที่ 8 ต.ค. 64 พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อีก 11,140 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,068 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 72 ราย ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสมตั้งแต่ 1 เมษายน 2564 มีจำนวน 1,660,574 ราย หายป่วยกลับบ้าน 9,933 ราย หายป่วยสะสม 1,534,364 ราย กำลังรักษา 110,113 ราย
โดยวันนี้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 116 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 มียอดสะสมสูงถึง 17,534 ราย
โคราชอ่วม น้ำอ่างลำเชียงไกร ไหลเข้าท่วม อ.ประทาย ต้องเร่งอพยพหนีน้ำ
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2214327
โคราชอ่วม มวลน้ำอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง ไหลหลากถึง อ.ประทายแล้ว หลังทะลักเข้าท่วมวัด พระ ชาวบ้าน เร่งอพยพหนีน้ำท่วม ซึ่งคาดปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.64 ที่ จ.นครราชสีมา พบว่าสันดินขอบอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่าง อำเภอโนนไทย รั่วเนื่องจากถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนพัง โดยมวลน้ำมหาศาลได้ไหลล้นจากสันอ่างฯ หลากเข้าท่วมพื้นที่ท้ายอ่างฯ ตั้งแต่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านในหลายอำเภอได้รับความเดือดร้อนหนัก น้ำท่วมบ้านเรือน ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย
และเป็นเวลา 13 วันแล้ว ที่มวลน้ำจากลำเชียงไกรได้ไหลหลากผ่านอำเภอต่างๆ ซึ่งล่าสุด ไหลเข้าท่วมวัดคงคาอุดมเขต บ้านตูม หมู่ที่ 11 ตำบลตลาดไทร อำเภอประทาย ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำลำสะแทด โดยมวลน้ำได้ไหลไปสมทบกัน แล้วเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมภายในวัด ระดับน้ำสูงประมาณ 30- 50 เซนติเมตร ทำให้พระภิกษุสงฆ์ ต้องเร่งขนข้าวของอพยพออกจากวัดหนีน้ำท่วม เนื่องจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับประชาชนที่อยู่ติดกับลำสะแทด ที่ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวที่อยู่ติดกับลำสะแทด ก็ถูกน้ำท่วมสูงเช่นกัน ทำให้ไม่สามารถเปิดบริการแก่นักท่องเที่ยวได้
สำหรับพื้นที่อำเภอประทาย เป็นพื้นที่รองรับน้ำจากลำเชียงไกรที่ไหลลงลำสะแทด จึงทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอประทาย จึงเร่งเตือนประชาชนที่อยู่ติดกับลำสะแทด เตรียมอพยพข้าวของหนีขึ้นที่สูงโดยด่วน คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกต่อเนื่อง.
นนทบุรีมวลน้ำหนุนสูง ทะลักท่อ ท่วมจุดกลับรถใต้สะพานพระราม5-ลานวัดศาลาลี
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6664942
นนทบุรีมวลน้ำหนุนสูง ทะลักท่อระบายน้ำ ท่วมจุดกลับรถใต้สะพานพระราม5-ลานวัดศาลาลี เจ้าอาวาสใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระบาย หวั่นศาสนสถานเสียหาย
วันที่ 8 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 7 ต.ค.64 ลงพื้นสำรวจพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าที่บริเวณใต้สะพานพระราม 5 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาทะลักผ่านทางท่อระบายน้ำจนทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบริเวณจุดกลับรถในช่องทางคู่ขนาน 2 ช่องจราจร ระดับน้ำสูงท่วมฟุบาททางเดินเท้าประมาณ 15 เซนติเมตร รถที่สัญจรต้องชะลอความเร็ว
โดยพบว่าตามจุดช่องระบายน้ำมีการแผ่นพลาสติก และกระสอบทรายมาว่างทับเพื่อกันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มระดับทลักเข้าท่วม แต่ไม่สามารถต้านอยู่ทำให้พื้นที่บริเวณจุดกลับรถดังกล่าวถูกน้ำทะลักจากท่อเข้าท่วมพื้นที่
ด้าน พื้นที่ซอยบางไผ่ 18 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ใกล้เคียงประตูระบายน้ำคลองบางไผ่ใหญ่ มีการเร่งระบายน้ำจากคลองเนื่องจากมวลน้ำได้เพิ่มระดับสูงขึ้นจากน้ำในแม่น้ำเอ่อล้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ลุ่มต่ำระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 ซม.
ที่ วัดศาลาลี ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกันมีน้ำไหลเข้าท่วมลานหน้าวัดเต็มพื้นที่ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำสูงประมาณ 10-20 ซม. พระครูสมุห์นพดล ปิยธมฺโม เจ้าอาวาสวัดศาลาลี เฝ้าระวังระดับน้ำที่ซึมผ่านแนวกระสอบทรายที่กั้นรอบพื้นที่ศาลไอ้ไข่ กุฏิที่พระสงฆ์จำวัด และลานทำบุญ จำนวนกว่า 2,000 กระสอบ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กจำนวน 10 เครื่อง เร่งระบายน้ำที่ไหลซึมเข้าสู่ภายในวัด หวั่นว่าน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจะสร้างความเสียหายกับศาสนสถานต่างๆ ภายในวัด