ดิฉันเป็นแม่ Full time ค่ะ ส่วนสามีเป็นชาวต่างชาติ เป็นลูกชายเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่ง แต่เนื่องด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ตอนนี้กิจการดำเนินไปด้วยความตึงเครียด
ตอนนี้พักอยู่คอนโด 3 คน พ่อ แม่ ลูก เป็นห้องเล็ก ๆ ค่ะ ปัจจุบันลูก 8 เดือนกว่าแล้ว
ส่วนคุณแม่เปิดร้านอาหารที่บ้าน ที่บ้านมีคนอยู่ประมาณ 8-9 คน ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุ
ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า สามีเป็นคนที่ค่อนข้างเคร่งในหลาย ๆ อย่าง เช่น การเลี้ยงลูก การป้องกันเชื้อโรคต่างๆ คือห้องเล็กๆ แต่ตุนแอลกอฮอล์ แมสปิดปากเยอะกว่าของกินอีกค่ะ
ส่วนคุณแม่ เป็นคนจิตใจดี ประหยัดมาก แต่ค่อนข้างหัวโบราณค่ะ เช่น วิธีเลี้ยงลูกจะเลี้ยงแบบสมัยก่อน
ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากันนะคะ เพราะเค้าไม่ค่อยจะคุยกัน ส่วนมากจะคุยกันผ่านดิฉันซึ่งเป็นคนกลาง ตอนนี้อัดอั้นตันใจและลำบากใจมากค่ะ
ตั้งแต่ตลอดลูกถ้าไม่นับว่าพาลูกไปฉีดวัคซีน/ลงไปรับอาหารหรือพัสดุใต้คอนโด ออกจากบ้านก็คือนับครั้งได้เลยค่ะ
ช่วงต้นปีคุณแม่พยายามมาหาที่คอนโด มาเล่นกับหลานบ่อยๆ แต่ตอนนั้นสถานการณ์โควิดยังไม่รุนแรงมาก สามีเลยให้มา แต่มีกฏว่าก่อนขึ้นคอนโดต้องฉีดแอลกอฮอล์ ขึ้นมาห้องต้องล้างมือให้สะอาดก่อนอุ้มหลาน เคร่งขนาดอยากให้ใส่แมสอยู่ตลอดเวลาขณะเล่นกับหลานเลยค่ะ แต่ถึง จขกท พูดกับแม่ว่า สามีต้องการให้ทำแบบนี้เพื่อความปลอดภัยของหลาน แต่แม่ก็ไม่ฟัง ถอดแมสและหอมแก้ม/ฟัดหลานตลอด จนสามีไม่อยากให้มาเยี่ยม
พอสถานการณ์โควิดเริ่มรุนแรงขึ้น จาก 2000+ สามีก็เริ่มไม่ให้คุณแม่มาหาหลาน เพราะเนื่องจากคุณแม่ไม่มีรถส่วนตัว เวลามาหาต้องนั่งรถสองแถวซึ่งสามีคิดว่ามันอันตราย เลยให้งดมาหาไปก่อน จึงได้แต่วีดีโอคอล จนกระทั่งล็อคดาวน์ คุณแม่ก็ไม่ได้มาหาค่ะ แต่ก็จะมีเซ้าซี้ทุกวัน เบื่อบ้าน คนที่บ้านชอบหนีไปเที่ยว ปล่อยแกขายของดูแลคนแก่ 2 คนประจำ จะไปด้วยก็ไม่ได้ ติดคนแก่ 2 คน เอาไปเที่ยวด้วยก็ไม่สนุก ต้องคอยประกบตลอดไม่มีเวลาได้พักผ่อน แกชอบบอกอยากเล่นกับหลาน อยากมาหาหลาน คิดถึง อยากหอมอยากฟัด จน จขกท เหนื่อยที่จะคุยเรื่องมาเยี่ยมหลานแล้วค่ะ พยายามหาข้ออ้างร้อยแปดพันเก้าเพื่อที่จะไม่ให้มาหาแล้ว เพราะกลัวลูกติด และก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองป้องกันมาโดยตลอด พยายามดูแลลูก ไม่เที่ยว ไม่ไปไหนให้มากที่สุด ไม่อยากให้จบที่ติดโควิดเพราะแม่เอามาแพร่เชื้อ เดี๋ยวแม่ก็มาโทษตัวเองอีก แต่ก็พยายามวีดีโอคอลทุกวันเผื่อจะได้หายคิดถึงบ้าง และข้ออ้างสุดท้ายที่ จขกท คิดได้คือ ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เมื่อไหร่ไว้จะให้มาเล่นกับหลานนะ (เพราะแม่ไม่ได้มาเยี่ยมหลานนานเกือบครึ่งปีแล้ว)
ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่าพอเริ่มคลายล็อคดาวน์ คุณแม่ (ฉีดวัคซีนแล้ว 1 เข็ม) จะฉีดเข็มที่ 2 กลางเดือนนี้ แต่แม่ด้วยความที่ว่า เบื่อบ้าน มาหาหลานไม่ได้ แต่โรงหนังเปิดแล้ว นั่งรถไปดูหนังที่โรงหนังประจำ (อาทิตย์ละ3-5วันได้) เอาซะ จขกท ปวดหัวเลยค่ะ
เพราะบ้านแม่มีคนอาศัยอยู่หลายคน แม่เปิดร้านอาหาร กับพี่สาวเริ่มนั่งรถไปทำงาน กับญาติที่ไปเที่ยวแบบไม่พัก แถมช่วงนี้แม่ไปดูหนังบ่อยอีก
พอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับสามี โมโหใหญ่เลยค่ะ สามีบอกทุกวันนี้เขาทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว บอกว่าถ้าเอาโรคมาติดคือจบเลยนะ ได้พากันไปรักษาโควิด บริษัทคงเจ๊งแน่ แค่งานทุกวันนี้ก็เครียดอยู่แล้ว ป้องกันกันแทบตายสุดท้ายมาเจออะไรแบบนี้หรอ ใจนึงคืออยากให้แม่มาเล่นกับหลาน แต่แม่ใช้ชีวิตเสี่ยงมาก พูดด้วยเหตุผลก็แล้วว่าทำไมถึงไม่ให้มา แต่ทุกวันก็พูดแต่อยากมาเล่นกับหลาน เมื่อไหร่จะให้ไปหา แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนลืมว่า จขกท บอกเหตุผลที่ไม่ให้มาซะงั้น จนประสาทจะกินแล้วค่ะ
ไม่รู้ว่า จขกท เล่าอะไรพลาดไปส่วนไหนหรือเปล่า หากสงสัยอะไรเพิ่มเติมจะเล่าเพิ่มให้ค่ะ
อยากปรึกษาชาวพันทิป ช่วยหาทางออกที่ดีทั้ง 2 ฝ่ายให้ จขกท ที
ถ้าหาทางออกไม่ได้ สุดท้ายว่าจะเอากระทู้นี้ไปให้คุณแม่อ่านแล้วค่ะ
ปรึกษาหาทางออกที่ดีระหว่าง คุณแม่ (จขกท) กับสามี
ตอนนี้พักอยู่คอนโด 3 คน พ่อ แม่ ลูก เป็นห้องเล็ก ๆ ค่ะ ปัจจุบันลูก 8 เดือนกว่าแล้ว
ส่วนคุณแม่เปิดร้านอาหารที่บ้าน ที่บ้านมีคนอยู่ประมาณ 8-9 คน ส่วนมากจะเป็นผู้สูงอายุ
ขออนุญาตเข้าเรื่องเลยนะคะ เรื่องมีอยู่ว่า สามีเป็นคนที่ค่อนข้างเคร่งในหลาย ๆ อย่าง เช่น การเลี้ยงลูก การป้องกันเชื้อโรคต่างๆ คือห้องเล็กๆ แต่ตุนแอลกอฮอล์ แมสปิดปากเยอะกว่าของกินอีกค่ะ
ส่วนคุณแม่ เป็นคนจิตใจดี ประหยัดมาก แต่ค่อนข้างหัวโบราณค่ะ เช่น วิธีเลี้ยงลูกจะเลี้ยงแบบสมัยก่อน
ทั้งคู่ไม่เคยทะเลาะหรือมีปัญหากันนะคะ เพราะเค้าไม่ค่อยจะคุยกัน ส่วนมากจะคุยกันผ่านดิฉันซึ่งเป็นคนกลาง ตอนนี้อัดอั้นตันใจและลำบากใจมากค่ะ
ตั้งแต่ตลอดลูกถ้าไม่นับว่าพาลูกไปฉีดวัคซีน/ลงไปรับอาหารหรือพัสดุใต้คอนโด ออกจากบ้านก็คือนับครั้งได้เลยค่ะ
ช่วงต้นปีคุณแม่พยายามมาหาที่คอนโด มาเล่นกับหลานบ่อยๆ แต่ตอนนั้นสถานการณ์โควิดยังไม่รุนแรงมาก สามีเลยให้มา แต่มีกฏว่าก่อนขึ้นคอนโดต้องฉีดแอลกอฮอล์ ขึ้นมาห้องต้องล้างมือให้สะอาดก่อนอุ้มหลาน เคร่งขนาดอยากให้ใส่แมสอยู่ตลอดเวลาขณะเล่นกับหลานเลยค่ะ แต่ถึง จขกท พูดกับแม่ว่า สามีต้องการให้ทำแบบนี้เพื่อความปลอดภัยของหลาน แต่แม่ก็ไม่ฟัง ถอดแมสและหอมแก้ม/ฟัดหลานตลอด จนสามีไม่อยากให้มาเยี่ยม
พอสถานการณ์โควิดเริ่มรุนแรงขึ้น จาก 2000+ สามีก็เริ่มไม่ให้คุณแม่มาหาหลาน เพราะเนื่องจากคุณแม่ไม่มีรถส่วนตัว เวลามาหาต้องนั่งรถสองแถวซึ่งสามีคิดว่ามันอันตราย เลยให้งดมาหาไปก่อน จึงได้แต่วีดีโอคอล จนกระทั่งล็อคดาวน์ คุณแม่ก็ไม่ได้มาหาค่ะ แต่ก็จะมีเซ้าซี้ทุกวัน เบื่อบ้าน คนที่บ้านชอบหนีไปเที่ยว ปล่อยแกขายของดูแลคนแก่ 2 คนประจำ จะไปด้วยก็ไม่ได้ ติดคนแก่ 2 คน เอาไปเที่ยวด้วยก็ไม่สนุก ต้องคอยประกบตลอดไม่มีเวลาได้พักผ่อน แกชอบบอกอยากเล่นกับหลาน อยากมาหาหลาน คิดถึง อยากหอมอยากฟัด จน จขกท เหนื่อยที่จะคุยเรื่องมาเยี่ยมหลานแล้วค่ะ พยายามหาข้ออ้างร้อยแปดพันเก้าเพื่อที่จะไม่ให้มาหาแล้ว เพราะกลัวลูกติด และก็คิดว่าสิ่งที่ตัวเองป้องกันมาโดยตลอด พยายามดูแลลูก ไม่เที่ยว ไม่ไปไหนให้มากที่สุด ไม่อยากให้จบที่ติดโควิดเพราะแม่เอามาแพร่เชื้อ เดี๋ยวแม่ก็มาโทษตัวเองอีก แต่ก็พยายามวีดีโอคอลทุกวันเผื่อจะได้หายคิดถึงบ้าง และข้ออ้างสุดท้ายที่ จขกท คิดได้คือ ฉีดวัคซีนเข็ม 2 เมื่อไหร่ไว้จะให้มาเล่นกับหลานนะ (เพราะแม่ไม่ได้มาเยี่ยมหลานนานเกือบครึ่งปีแล้ว)
ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่ว่าพอเริ่มคลายล็อคดาวน์ คุณแม่ (ฉีดวัคซีนแล้ว 1 เข็ม) จะฉีดเข็มที่ 2 กลางเดือนนี้ แต่แม่ด้วยความที่ว่า เบื่อบ้าน มาหาหลานไม่ได้ แต่โรงหนังเปิดแล้ว นั่งรถไปดูหนังที่โรงหนังประจำ (อาทิตย์ละ3-5วันได้) เอาซะ จขกท ปวดหัวเลยค่ะ
เพราะบ้านแม่มีคนอาศัยอยู่หลายคน แม่เปิดร้านอาหาร กับพี่สาวเริ่มนั่งรถไปทำงาน กับญาติที่ไปเที่ยวแบบไม่พัก แถมช่วงนี้แม่ไปดูหนังบ่อยอีก
พอเอาเรื่องนี้ไปคุยกับสามี โมโหใหญ่เลยค่ะ สามีบอกทุกวันนี้เขาทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว บอกว่าถ้าเอาโรคมาติดคือจบเลยนะ ได้พากันไปรักษาโควิด บริษัทคงเจ๊งแน่ แค่งานทุกวันนี้ก็เครียดอยู่แล้ว ป้องกันกันแทบตายสุดท้ายมาเจออะไรแบบนี้หรอ ใจนึงคืออยากให้แม่มาเล่นกับหลาน แต่แม่ใช้ชีวิตเสี่ยงมาก พูดด้วยเหตุผลก็แล้วว่าทำไมถึงไม่ให้มา แต่ทุกวันก็พูดแต่อยากมาเล่นกับหลาน เมื่อไหร่จะให้ไปหา แบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนลืมว่า จขกท บอกเหตุผลที่ไม่ให้มาซะงั้น จนประสาทจะกินแล้วค่ะ
ไม่รู้ว่า จขกท เล่าอะไรพลาดไปส่วนไหนหรือเปล่า หากสงสัยอะไรเพิ่มเติมจะเล่าเพิ่มให้ค่ะ
อยากปรึกษาชาวพันทิป ช่วยหาทางออกที่ดีทั้ง 2 ฝ่ายให้ จขกท ที
ถ้าหาทางออกไม่ได้ สุดท้ายว่าจะเอากระทู้นี้ไปให้คุณแม่อ่านแล้วค่ะ