ขออนุญาตขอความคิดเห็นนะคะ พอดีเราโดนเพื่อนก็อปงานไปค่ะ

กระทู้คำถาม
เรื่องของเรื่องคือ เราเปิดร้านขายกรอบรูป AR เราเริ่มทำร้านมาตั้งแต่ประมาณเดือนเมษา 64 ปกติเราเป็นคนที่ชอบเล่นสตอรี่ไอจีอยู่แล้ว ตอนนั้นเวลาเราลงงานขาย เราก็จะลงทั้ง ไอจีหลัก และไอจีร้าน จนวันนึงเราสังเกตุเห็นว่า สตอรี่ในไอจีหลักเรา จะมีผู้หญิงคนนึงเข้ามาส่องตลอด ซึ่งผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเพื่อนแฟนเรา เขามาส่องเราบ่อยมาก แต่ไม่กดติดตาม เราก็เริ่มแปลกใจ แล้วก็รู้สึกไม่เป็นส่วนตัวแล้ว เลยตั้งล็อคแแอคเป็นส่วนตัวไป แต่หลังจากนั้นก็ยั
เหมือนเดิม ยังเห็นเขามาส่องไอจีร้านตลอด แต่ไม่กดติดตามเหมือนเดิม งงไหม5555 

จนวันนึงมีคนทักมาบอกเราว่า มีร้านนึง ก็อปงานเราไป คือเหมือนทุกอย่าง
ตอนนั้นเราคิดจะปล่อยผ่าน เพราะที่ผ่านมาก็มีคนลอกงานเราไปเยอะ แต่ไม่รู้ว่าอะไรดลใจ ให้เราลองเข้าไปส่อง ตอนแรกเราเอาไอจีหลักเราเข้าไปส่องแต่หาร้านไม่เจอ เหมือนโดนบล็อค ทีนี้เราเลยลองเอาไอจีแฟนเข้าไปส่อง ก็ยังหาร้านไม่เจออีก จนสุดท้ายเราลองยืมแอคเคาท์เพื่อนเข้าไปส่อง ปรากฏว่าเจอ นั่นทำให้มั่นใจแน่นอนว่าต้องเป็นฝีมือคนใกล้ตัวแน่ ๆ

และไอ้ความคิดที่จะปล่อยผ่านตอนแรก พอรู้ว่าเป็นนคนใกล้ตัว มันเลยทำให้ปล่อยผ่านไม่ได้จริง ๆ

เปรียบเทียบงานนะคะ สีชมพูคือของเขา ส่วนสีเบจน้ำตาลคือของเรา 
หลังจากที่รู้ว่าเป็นฝีมือของคนใกล้ตัวแล้ว เหลืออย่างเดียวคือ คนใกล้ตัวคนนี้เป็นใคร เราตามสืบ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เรารู้เลยว่าเป็นผู้หญิงคนนั้นที่เราพูดถึงตอนแรก เพราะหลักฐานหลาย ๆ อย่างมันฟ้อง (เขาเอาไอจีแอคหลักตัวเองมาเปลี่ยนเป็นแอคร้าน ทำให้ผู้ติดตามเก่า ๆ เป็นคนรอบตัวเขาหมด) 

ตอนนั้นเราโคตรไม่เชื่อ เพราะไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำ ในสายตาเราที่เรารู้จักเขา เรามองว่าเขาเป็นคนเก่ง คนขยัน คนนึง เราชื่นชมเขามาตลอดทั้งที่ไม่เคยคุยกัน เราเถียงเพื่อนและแฟนของเราขาดใจ ว่าไม่ใช่เขาแน่นอน สุดท้ายสืบต่อจนหลอกตัวเองไม่ได้แล้ว เพราะมันคือเขาจริงๆ 

ตอนนั้นเราร้องไห้ ขาดสติเลย มันเป็นความรู้สึกที่ตีกันไปหมด ทั้งโกรธ ทั้งผิดหวัง เราทักไปในไลน์ร้านของเขาแบบนี้

จนสุท้าย ตอนเช้า เขาทักแชทแฟนเรามาแบบนี้

แฟนเราไล่ให้เขาทักมาขอโทษเรา โดยก็อปเอาข้อความที่เขาพิมพ์ไปให้แฟนเรา ส่งให้เราต่อ (เปลี่ยนแค่ชื่อ555)

วันนั้นเขาขอโทษเราจริง แต่ไม่ยอมลบอะไรเลย ลบทีละนิด ทีละอย่าง จนเราฟีลขาดละด่าเขาไป ทุกอย่างถึงถูกลบออกจนหมด

เขาก็อปแล้วยังกดราคาลลงจากของเรา ตรงนี้คือเราปวดใจเพราะเขาไม่ให้เกียรติสิ่งที่ทำอยู่ งาน handmade มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เราเริ่มจาก 0 ใส่ใจทุกอย่าง รายละเอียด ดีเทล ต่าง ๆ ซึ่งมันเหนื่อยมาก ๆ 

เขากล้าราคาเพราะเขาไม่ได้มารับรู้ว่าเริ่มต้นจาก 0 มันเหนื่อยแค่ไหน แล้วประเด็นคือเขาเป้นคนใกล้ตัวด้วย ระดับความเฮิร์ทตีขึ้นเป็นเท่าตัว555

หลังจากที่เขาทักมาขอโทษ เราให้เขาทำได้ต่อ โดยที่ต้องไม่มีอะไรที่เหมือนของเรา ทุกอย่างเหมือนจะจบ แต่!!!
อาทิตย์ต่อมา เขาเปิดร้านใหม่ เขาเปลี่ยนชื่อร้านแล้วก็เปิดร้านขายปกติ แต่มันรู้สึกแย่คือ เขาก็ยังก็อปเราอยู่ ก็อปไปหมดแม้กระทั่งแคปชั่น ทุกอย่างที่มันเป็นเรา เขาก็ยังก็อปอยู่ เราไม่โอเคและแย่มาก ๆ


อันนี้แค่บางส่วนที่แคปทัน ที่เหลือนางก็ลบทันเหมือนกัน 555555555555

เรากลับมาโกรธรอบสอง เลยตัดสินใจ เอาเรื่องของเขาโพสต์ลง facebook ส่วนตัว ซึ่งแฟนของเขา (ผชที่ถูกอ้างว่าไม่เกี่ยว) ได้โทรมาและ ใช้คำว่า “เคลียร์ให้จบ” โดยในประโยคสนทนาตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีคำว่าขอโทษหลุดออกมาจากปากเขาเลยสักคำ เขาหาเหตุผลทุกอย่างมา support ว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่มันไม่ได้ผิด และยืนยันที่จะทำต่อ


ซึ่งรูปที่เราแคปมาเเปรียบเทียบเป็นรูปที่เขาเพิ่งลงหลังเปิดร้านใหม่ เป็นโพสต์ที่เขาบอกว่าสแกนแล้ว สแกนอีก กลัวจะมาเหมือนเรานั่นแหละ555 
อันนี้ทำไมเขาไม่ปรึกษากันก่อน 55555555

จนเรายอมแล้ว ยอมในความไม่มีจิตสำนึก เราเลยตัดปัญหาไปว่าจะทำก็ทำ อยากทำอะไรก็ทำแต่ต้องปรับราคาเท่ากัน

เราเหนื่อยมาก ๆ คุยกับคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิด มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น จนสุดท้ายเราจะวางสาย เสียงของตัวผู้หญิงเองตะโกนเข้ามาว่า “แล้วก็ช่วยไปลบโพสต์ออกให้ด้วยนะ” ซึ่งเราจุกมาก

ไม่มีคำขอโทษยังกล้าตะโกนสั่งเราแบบนั้น จุกมากจริง ๆ 

เราไม่รู้ มันหมดกำลังใจ มันเหนื่อย มันนอยด์ สิ่งที่เจ็บปวดคือ เรามองเขาเป็นเพื่อน ทำกับเราแบบนี้ จงใจก็อปแล้วบล็อกเราทุกช่องทาง มันก็แสดงถึงความไม่บริสุทธิ์ใจตั้งแต่แรกแล้วอะ ทุกวันยังคิดวน ๆ ว่าเขากล้าทำได้ยังไง เขาทำแบบนั้นกับเราได้ยังไง ทำไมเขาใจร้ายได้ขนาดนั้น มันจุกมาก ๆ

ตอนนี้เขาลบร้านนั้นออกแล้ว กลับไปเป็นแอคหลักเขาเหมือนเดิม และเปิดร้านใหม่ (อีกรอบ) เพิ่มเติมเติมคือยังกดราคาเหมือนเดิม อ้าวววเห้ยยยย!! 55555 แล้วก็ดูภูมิใจกับธรุกิจที่ไม่ได้สร้างเอง ทุกวันนี้เขาก็มีความสุขดี อิจฉาเขานะคะ ที่ทำแบบนั้นได้โดยไม่รู้สึกอะไร 5555555

ครั้งสุดท้ายที่เขาอ้างว่าทางเราจบ นั่นคือเราพูดจริง แต่จบในที่นี้ คำที่ตกลงกัน คือเขาจะเลิกก็อป และปรับราคาให้เท่ากัน
แต่ปรากฏว่า หลังจากที่ตกลงกันไปแล้ว ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ราคาก็ยังไม่ปรับ แถมแคปชั่นก็ยังก็อปอยู่

คำพูดที่เขาคุยกับเราตอนที่โทรมาเคลียร์ เขาบอกกับแฟนเราว่า...

"มันก็เหมือนตอนที่เราทำงานส่งอาจารย์ตอนมหาลัย"

คืองง เปรียบเทียบได้ยังไง นั่นงานส่งอาจารย์ อันนี้ธุรกิจไหม?? มันก็อปได้เหรอ?? หรือยังไง??

แล้วยังเอาเรื่องตัดราคาไปเปรียบเทียบกับการขายแก๊สอีก ได้เหรอ?? (ธุรกิจบ้านฝั่งผู้ชาย บ้านเขาเปิดร้านขายแก๊ส)
เขาอ้างว่า "ถ้าเรื่องราคาที่ตัดหน้าไป เราอยู่ในฐานะที่ไม่รู้จักกันล่ะ เราจะไปตามเอาเรื่องเขาไหม??"

ใช่!! ข้อนี้ ถ้าเขาเป็นคนอื่นที่เราไม่รู้จัก เราคงไม่รู้สึกอะไร แต่นี่คือเพื่อนไง
เขาคือเพื่อนกลุ่มเดียวกับแฟนเรา นั่งกินข้าวด้วยกัน 5 ปี เขากล้าใช้คำว่า "คนอื่น หรือคนไม่รู้จัก" มาอ้าง

นั่นหมายถึง เขาไม่ได้เห็นเราเป็นเพื่อนเลยถูกไหม??

อันนี้ร้านใหม่เขา ความภูมิใจของเขาทำไมเราเจ็บ 5555555555555555555555555

ส่วนอันนี้ร้านเราเอง ตรงนี้เราอยากให้ช่วยเข้าไปส่องแล้วเราขอความคิดเห็นหน่อยนะคะ ว่าทุกวันนี้ที่เขาบอกว่าเลิกก็อปแล้วมันจริงไหม ทั้งรูปแบบ และ แคปชั่น 

เราควรจะทำยังไงต่อไปดี 

ใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ เราขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่รับฟัง เราแค่อยากระบาย เพราะตอนนี้เราดาวน์จริง ๆ มันหดหู่ ท้อ หมดกำลังใจ จริง ๆ

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่