การฉีดโบท็อกซ์ หรือที่เรียกกันว่าการฉีดโบ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาก
เพราะข้อดีและจุดเด่นของการฉีดโบ ได้แก่
- ใช้เวลาฉีดไม่นาน
- ไม่ต้องพักหน้า/ลางาน
- เห็นผลเร็วและชัดเจน เช่น ลดริ้วรอย ผิวดูตึงเรียบเนียน หน้าเรียวขึ้น ลดเหงื่อ
แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโบเหมือนกันค่ะ 💉💉
1. ถ้ารู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์/กำลังให้นมบุตรอยู่ ยังไม่ควรฉีดโบ ❌
เพราะว่าข้อมูลในคนไข้กลุ่มนี้ยังค่อนข้างน้อยอยู่
เพื่อความปลอดภัยจึงยังแนะนำให้งดฉีดโบในช่วงนี้ก่อน
2. เลือกฉีดกับแพทย์ เลือกโบที่เป็นยาแท้ ผ่านอย. มีคุณภาพดี ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ✔️
- แพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง ✔️
จะช่วยดูวิเคราะห์ใบหน้า และให้แนะนำได้เป็นอย่างดีค่ะ ว่าควรจะฉีดตรงไหน ฉีดเท่าไหร่
การดูแลหลังฉีดมีอะไรที่ต้องระวังหรือดูแลเป็นพิเศษบ้าง เทคนิคและความแม่นยำในการฉีดโบ
ก็มีความสำคัญมากๆ ว่าฉีดแล้วจะปลอดภัย ฉีดแล้วสวย/ดูดีมากขึ้น
- ยาแท้ ที่ผ่าน อย. มีคุณภาพดี ตัวยามีความบริสุทธิ์ ✔️ทำให้ฉีดออกมาได้ผลดี
ถ้ายาปลอม ยาเก่า ยาเจือจางจะทำให้ไม่เห็นผล หรือเกิดการดื้อยาได้
3. การให้ความสำคัญกับราคาที่ถูกๆหรือโปรที่ให้ยูนิตที่เยอะๆเติมไม่อั้น อาจจะไม่ได้ดีจริง ❌
- ถ้าของเหมือนๆกัน เราอาจจะตัดสินใจเลือกจากการเปรียบเทียบราคา
แต่เนื่องจากการฉีดโบ แตกต่างจากการซื้อของทั่วๆไป จึงไม่ควรเอาราคาเป็นตัวตั้ง
นอกจากตัวยาที่มีคุณภาพแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อแล้ว
ยังมีเรื่องของปริมาณยา (จำนวนยูนิตที่เหมาะสมพอดี)
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ก็มีผลอย่างมาก
- ฉีดเยอะไป ทำให้หน้าตึงเกินไปดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ เสี่ยงดื้อยา
- ฉีดน้อยไป/ผสมยาเจือจาง ทำให้ไม่เห็นผล ฉีดแล้วไม่ตึง
ยาที่เจือจางมีผลต่อการกระจายยาไปโดนกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการเกิดผลข้างเคียงได้
- เปลี่ยนยี่ห้อบ่อยๆ เสี่ยงต่อการเกิดการดื้อโบ (ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือฉีดแล้วหมดฤทธิ์ไว
ต้องเติมบ่อยขึ้นหรือต้องใช้ปริมาณยูนิตมากขึ้น)
4. การฉีดโบทุก 4-6 เดือน ช่วยให้ได้ผลดีต่อเนื่อง ลดโอกาสดื้อยา ✔️
- ฉีดบ่อยๆ เช่น น้อยกว่า 3 เดือน เสี่ยงต่อการดื้อโบ
- ฉีดห่างเกินไป หรือเคยฉีดแล้วแต่ไม่ได้ฉีดต่อเนื่อง
ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป โบจะค่อยๆสลายจนหมดฤทธิ์ไปเอง
5. เตรียมตัว เตรียมความพร้อมก่อนไปฉีดโบ ✔️
- งดวิตามินและอาหารบางชนิด ที่อาจจะทำให้เกิดรอยเขียวช้ำได้ง่าย
เช่น วิตามินอี ใบแป๊ะก๊วย น้ำมันปลา โสม
- การฉีดโบสามารถทำเลเซอร์แบบไม่มีสะเก็ดไม่มีแผลก่อนฉีดได้
แต่ถ้าฉีดแล้วอยากจะทำเลเซอร์ต่อควรรออย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ถ้าเพิ่งฉีดวัคซีนโควิด ควรรออย่างน้อย 2 สัปดาห์ จึงค่อยนัดฉีดโบ
- หลังฉีด ห้ามนอนราบ 4 ชั่วโมง
- หลังฉีด ให้หลีกเลี่ยงความร้อน 2 สัปดาห์ เช่น ชาบู หมูกระทะ ซาวน่า อบไอน้ำ ไดร์ร้อน ออกกำลังกายหนักๆ
- หลังฉีดโบ ควรงดนวดหน้าประมาณ 1 เดือน
🔴 รู้อย่างงี้แล้ว อย่าลืมเช็ค 5 ข้อนี้ก่อนตัดสินใจโบท็อกซ์กันนะคะ
หมอยุ้ย เพจ Dr.Yui คุยทุกเรื่องผิว
แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและความงาม
🔍 5 ข้อที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโบ 🔍
การฉีดโบท็อกซ์ หรือที่เรียกกันว่าการฉีดโบ เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมมาก
เพราะข้อดีและจุดเด่นของการฉีดโบ ได้แก่
- ใช้เวลาฉีดไม่นาน
- ไม่ต้องพักหน้า/ลางาน
- เห็นผลเร็วและชัดเจน เช่น ลดริ้วรอย ผิวดูตึงเรียบเนียน หน้าเรียวขึ้น ลดเหงื่อ
แต่ก็มีข้อควรระวังที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจฉีดโบเหมือนกันค่ะ 💉💉
1. ถ้ารู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์/กำลังให้นมบุตรอยู่ ยังไม่ควรฉีดโบ ❌
เพราะว่าข้อมูลในคนไข้กลุ่มนี้ยังค่อนข้างน้อยอยู่
เพื่อความปลอดภัยจึงยังแนะนำให้งดฉีดโบในช่วงนี้ก่อน
2. เลือกฉีดกับแพทย์ เลือกโบที่เป็นยาแท้ ผ่านอย. มีคุณภาพดี ตัวยามีความบริสุทธิ์สูง ✔️
- แพทย์ที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง ✔️
จะช่วยดูวิเคราะห์ใบหน้า และให้แนะนำได้เป็นอย่างดีค่ะ ว่าควรจะฉีดตรงไหน ฉีดเท่าไหร่
การดูแลหลังฉีดมีอะไรที่ต้องระวังหรือดูแลเป็นพิเศษบ้าง เทคนิคและความแม่นยำในการฉีดโบ
ก็มีความสำคัญมากๆ ว่าฉีดแล้วจะปลอดภัย ฉีดแล้วสวย/ดูดีมากขึ้น
- ยาแท้ ที่ผ่าน อย. มีคุณภาพดี ตัวยามีความบริสุทธิ์ ✔️ทำให้ฉีดออกมาได้ผลดี
ถ้ายาปลอม ยาเก่า ยาเจือจางจะทำให้ไม่เห็นผล หรือเกิดการดื้อยาได้
3. การให้ความสำคัญกับราคาที่ถูกๆหรือโปรที่ให้ยูนิตที่เยอะๆเติมไม่อั้น อาจจะไม่ได้ดีจริง ❌
- ถ้าของเหมือนๆกัน เราอาจจะตัดสินใจเลือกจากการเปรียบเทียบราคา
แต่เนื่องจากการฉีดโบ แตกต่างจากการซื้อของทั่วๆไป จึงไม่ควรเอาราคาเป็นตัวตั้ง
นอกจากตัวยาที่มีคุณภาพแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อแล้ว
ยังมีเรื่องของปริมาณยา (จำนวนยูนิตที่เหมาะสมพอดี)
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์ก็มีผลอย่างมาก
- ฉีดเยอะไป ทำให้หน้าตึงเกินไปดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ เสี่ยงดื้อยา
- ฉีดน้อยไป/ผสมยาเจือจาง ทำให้ไม่เห็นผล ฉีดแล้วไม่ตึง
ยาที่เจือจางมีผลต่อการกระจายยาไปโดนกล้ามเนื้อที่ไม่ต้องการเกิดผลข้างเคียงได้
- เปลี่ยนยี่ห้อบ่อยๆ เสี่ยงต่อการเกิดการดื้อโบ (ฉีดแล้วไม่เห็นผล หรือฉีดแล้วหมดฤทธิ์ไว
ต้องเติมบ่อยขึ้นหรือต้องใช้ปริมาณยูนิตมากขึ้น)
4. การฉีดโบทุก 4-6 เดือน ช่วยให้ได้ผลดีต่อเนื่อง ลดโอกาสดื้อยา ✔️
- ฉีดบ่อยๆ เช่น น้อยกว่า 3 เดือน เสี่ยงต่อการดื้อโบ
- ฉีดห่างเกินไป หรือเคยฉีดแล้วแต่ไม่ได้ฉีดต่อเนื่อง
ไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป โบจะค่อยๆสลายจนหมดฤทธิ์ไปเอง
5. เตรียมตัว เตรียมความพร้อมก่อนไปฉีดโบ ✔️
- งดวิตามินและอาหารบางชนิด ที่อาจจะทำให้เกิดรอยเขียวช้ำได้ง่าย
เช่น วิตามินอี ใบแป๊ะก๊วย น้ำมันปลา โสม
- การฉีดโบสามารถทำเลเซอร์แบบไม่มีสะเก็ดไม่มีแผลก่อนฉีดได้
แต่ถ้าฉีดแล้วอยากจะทำเลเซอร์ต่อควรรออย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ถ้าเพิ่งฉีดวัคซีนโควิด ควรรออย่างน้อย 2 สัปดาห์ จึงค่อยนัดฉีดโบ
- หลังฉีด ห้ามนอนราบ 4 ชั่วโมง
- หลังฉีด ให้หลีกเลี่ยงความร้อน 2 สัปดาห์ เช่น ชาบู หมูกระทะ ซาวน่า อบไอน้ำ ไดร์ร้อน ออกกำลังกายหนักๆ
- หลังฉีดโบ ควรงดนวดหน้าประมาณ 1 เดือน
🔴 รู้อย่างงี้แล้ว อย่าลืมเช็ค 5 ข้อนี้ก่อนตัดสินใจโบท็อกซ์กันนะคะ
หมอยุ้ย เพจ Dr.Yui คุยทุกเรื่องผิว
แพทย์เฉพาะทางผิวหนังและความงาม