กระทู้นี้อยากจะแชร์ประสบการณ์น้องหมาที่เป็น โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ น้องหมาที่บ้านเป็นหมาพันธ์ไทย อายุ 10 ปี ปกติแล้วน้องกินเก่งชอบว่ายน้ำในคลองเล่นอยู่ตลาดเวลา จนวันนึงน้องมีอาการแปลกๆท้องใหญ่ขึ้นแบบผิดสังเกตุคือใหญ่แต่ท้องครับ ผมก็นึกว่าหมากินเยอะจนอ้วน ผมก็ไม่สนใจอะไรมาก ผ่านไปหลายวันน้องมีอาการเบื่ออาหาร หายใจแรง เป็นลม ผมก็เริ่มสงสัยแล้วว่าน้องต้องเป็นอะไรแน่นๆ นี้คือจุดเริ่มต้นของการรักษาครับ
นี้คือรูปน้องเองครับ ท้องใหญ่มั้ยครับ การรักษาช่วงแรก พาไปคลินิกใกล้บ้านครับเป็นคนิลิกเล็กๆหมอทำการเจาะเลือดและอัลตร้าซาวด์ ก็พบว่ามีน้ำในท้องจำนวนนึง (ทำการเจาะระบายน้ำออก) และมีเกล็ดเลือดต่ำ มีค่าตับสูง ตอนนั้นหมอวินิจฉัยน่าจะเป็นโรคตับเสื่อม หมอเลยให้ยาขับน้ำ ยาบำรุงตับและบำรุงเลือดมากินแล้วดูอาการ 1 อาทิตย์ ช่วง 1-2 วันแรกก็มีอาการดีขึ้นกินได้ แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นแบบเดิม เบื่ออาหารไม่มีแรง
หลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ ผมลองเปลี่ยน คนิลิกที่ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยเพื่อตรวจดูว่าน้องเป็นอะไรกันแน่น คนิลิกอีกที่จับน้อง X- rays พบว่าหัวใจน้องมันโตมากๆแบบว่าเต็มช่องอกเลย หมอได้บอกว่าน้องเป็นโรคหัวใจอาจจะเป็นมะเร็งหรือติดเชื้อในเยื่อหุ้มหัวใจก็ได้ ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โรคแบบนี้น้องอาจจะอยู่กับเราได้ไม่นานนักต้องรีบรักษา หมอก็แนะนำไปคนิลิกอีกที่นึงในวันเดียวกัน ซึ่งที่นั้นจะมีหมอดรคหัวใจเฉพาะทางอยู่ ผมก็ตัดสินใจไปตรวจที่เดียวเลยครับ น้องจะได้หายๆ
นี้เป็นภาพ X- rays น้องครับ สังเกตุดูว่าหัวใจน้องใหญ่มากเนื่องจากมีน้ำขังอยู่ในเยื่อหุ้มหัวใจ ต้องทำการระบายออกเพื่อให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น หลังจากที่หมอ แนะนำหมอเฉพาะทางโรคหัวใจมาให้ ผมก็พาน้องไปคลินิกนั้น พอไปถึง หมอดูฟิลม์ X- rays แล้วก็จับน้องUltrasound หัวใจ (Echo)พบว่ามีน้ำในเหยื่อหุ้มหัวใจค่อนข้างมาก คุณหมอทำการเจาะน้ำที่เยื่อหุ้มหัวใจออกเพื่อให้หัวใจทำงานได้ปกติ และเจาะน้ำในช่องท้องออก ทำให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น คุณหมอเก่งครับรักษาไปอธิบายไปทำให้เราได้รู้ว่าโรคนี้มันเป็นยังไงสาเหตุที่เกิดน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ ก็มีด้วยกันหลายสาเหตุ
1.อาจเกิดจากก้อนเนื้อที่อยู่บริเวณ เยื่อหุ่มหัวใจ ก็คือมะเร็ง
2.ติดเชื้อในเยื่อหุ้มหัวใจ
3.อวัยวะช่องท้องมีเนื้องอก ทำให้ส่งผลต่อน้ำเยื่อหุ้มหัวใจ
ครั้งนี้แนวทางรักษาตอนนั้นจะเน้นไปทางหัวใจเป็นหลักครับ หมอเอาน้ำจากเยื่อหุ้มหัวใจไปตรวจ เจาะเลือดไปตรวจ ให้ยาขับน้ำ ยาฆ่าเชื้อ หลายอย่างมากิน ตอนนั้นหมดไป เกือบ 8000 กว่าบาทภายในวันเดียว แล้วนัดฟังผลเลือดอีก 1 อาทิตย์
ภายการUltrasound หัวใจ (Echo) อย่างละเอียด หลักจากที่ทำการเจาะระบายน้ำเยื่อหุ่มออก น้องกลับมาแข็งแรงดีขึ้นเลยแทบจะปกติเลยครับ หลักจากที่ทำการเจาะระบายน้ำเยื่อหุ่มออก ครั้งแรกผ่านไป 1 อาทิตย์ หมอก็นัดมา Ultrasound หัวใจ (Echo) อีกครั้งและฟังผลเลือด สรุป ผลเลือดปกติ ไม่พบเชื่อมะเร็ง แต่น้ำในเยื่อหุ้มหัวใจมาเร็วขึ้น ต้องทำการเจาะระบายออก หมอที่คนิลิกแนะนำให้ผมไป รพ สัตว์จุฬา หรือ ม.เกษรบางเขน เพื่อทำการผ่าตัดเยื่อหุ้มใจ หากปล่อยไว้นานน้องอาจเสียชีวิตได้ ผมเลยตัดสินใจพาน้องไปรักษาที่ รพ สัตว์จุฬา ครับ แนะนำต้องไปแต่เช้านะครับ เพื่อรับบัตรคิวตรวจและลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ ผมไปถึง รพ ประมาณ 7โมงกว่าๆ รับบัตรคิวก็เข้าห้องฉุดเฉินเลยครับ เพราะว่าน้องดูหายใจถี่ๆหอบๆหมอห้องฉุดเฉิน เลยทำการเจาะระบายน้ำเยื่อหุ้มหัวใจออก และส่งตัวไป X- rays เจาะเลือด และให้ยาปฏิชีวนะมากิน ค่ารักษาประมาณ 7409 บาท หมอนัดอีก 1 อาทิตย์มาติดตามผล จากนั้นก็พาน้องกลับบ้าน
น้องให้ออกซิเจนหลังจากเจาะเยื่อหุ้มหัวใจไป แข็งแรงขึ้นมาทันที ผ่านไป 1 อาทิตย์ฟังผลผลเลือดก็ปกติ ผล X- rays ไม่พบเนื้องอก มาอาทิตย์นี้น้องก็โดนเจาะเยื่อหุ้มหัวใจอีก น้ำในเยื่อหุ้มมาเร็วมาก สงสารน้องเลย
เจาะรอบนี้น้องอ่อนแรงมาก หลังจากเจาะเสร็จก็ส่งตัวไปหาหมอผ่าตัดเพื่อหาแนวทางการรักษา หมอแนะนำแนวทางการรักษาอยู่ 2 วิธีครับ
1.ผ่าเจาะเยื่อหุ้มหัวใจ เพื่อให้น้ำระบายออกมาที่ช่องอก เพื่อให้อนาคตเราพาน้องไปเจาะระบายน้ำออกจากช่องอกได้เลย คลินิกแถวบ้านก็เจาะได้ง่ายต่อการรักษา
2.ผ่าเจาะเยื่อหุ้มหัวใจ และฝังท่อบริเวณช่องอกเพื่อให้เราดูดออกเองได้
ทั้ง2วิธีค่ารักษาโดยประมาณนะครับ 30,000-40,000 บาท คร่าวๆนะครับ
หลังจากทีคุยกับหมอเสร็จหมอนัดตรวจอีก 1 อาทิตย์ เพื่อตรวจและวางแผนผ่าตัดอีกครับ
เริ่มมีความหวังที่จะรักษาน้องให้หาย เวลาผ่านไปเร็วระหว่างรอนัดอีก1 อาทิตย์ น้องเริ่มเบื่ออาหาร เริ่มเหนื่อยหอบง่าย เป็นลม จนทำให้ผมต้องพาไปคลินิกแถวบ้านเพื่อให้น้ำเกลือ ประคองน้องไว้ให้ถึงวันนัด ก่อนถึงวันนัด 1 วัน น้องเสียชีวิตครับ รวมระยะเวลารักษา 2 เดือนเศษ ตั้งแต่ที่เริ่มรู้ว่ามีน้ำที่เยื่อหุ้มหัวใจ ผมพยายามช่วยน้องสุดความสามารถ เสียใจที่ช่วยน้องไม่ทัน เหตุการณ์นี้ น้องเสียตั้งวันที่ 8 กพ 64 แล้วครับ ก็อยากแชร์ ข้อมูลให้ฟังเผื่อใครมีน้องที่เจอปัญหาเดียวกับผม โรคนี้ถ้าพบแล้วต้องรีบรักษาเลยครับอย่าปล่อยไว้นาน
อยากแชร์ประสบการณ์น้องหมาที่เป็น โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
นี้คือรูปน้องเองครับ ท้องใหญ่มั้ยครับ การรักษาช่วงแรก พาไปคลินิกใกล้บ้านครับเป็นคนิลิกเล็กๆหมอทำการเจาะเลือดและอัลตร้าซาวด์ ก็พบว่ามีน้ำในท้องจำนวนนึง (ทำการเจาะระบายน้ำออก) และมีเกล็ดเลือดต่ำ มีค่าตับสูง ตอนนั้นหมอวินิจฉัยน่าจะเป็นโรคตับเสื่อม หมอเลยให้ยาขับน้ำ ยาบำรุงตับและบำรุงเลือดมากินแล้วดูอาการ 1 อาทิตย์ ช่วง 1-2 วันแรกก็มีอาการดีขึ้นกินได้ แต่สุดท้ายก็กลับมาเป็นแบบเดิม เบื่ออาหารไม่มีแรง
หลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ ผมลองเปลี่ยน คนิลิกที่ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยเพื่อตรวจดูว่าน้องเป็นอะไรกันแน่น คนิลิกอีกที่จับน้อง X- rays พบว่าหัวใจน้องมันโตมากๆแบบว่าเต็มช่องอกเลย หมอได้บอกว่าน้องเป็นโรคหัวใจอาจจะเป็นมะเร็งหรือติดเชื้อในเยื่อหุ้มหัวใจก็ได้ ต้องตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โรคแบบนี้น้องอาจจะอยู่กับเราได้ไม่นานนักต้องรีบรักษา หมอก็แนะนำไปคนิลิกอีกที่นึงในวันเดียวกัน ซึ่งที่นั้นจะมีหมอดรคหัวใจเฉพาะทางอยู่ ผมก็ตัดสินใจไปตรวจที่เดียวเลยครับ น้องจะได้หายๆ
นี้เป็นภาพ X- rays น้องครับ สังเกตุดูว่าหัวใจน้องใหญ่มากเนื่องจากมีน้ำขังอยู่ในเยื่อหุ้มหัวใจ ต้องทำการระบายออกเพื่อให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น หลังจากที่หมอ แนะนำหมอเฉพาะทางโรคหัวใจมาให้ ผมก็พาน้องไปคลินิกนั้น พอไปถึง หมอดูฟิลม์ X- rays แล้วก็จับน้องUltrasound หัวใจ (Echo)พบว่ามีน้ำในเหยื่อหุ้มหัวใจค่อนข้างมาก คุณหมอทำการเจาะน้ำที่เยื่อหุ้มหัวใจออกเพื่อให้หัวใจทำงานได้ปกติ และเจาะน้ำในช่องท้องออก ทำให้น้องหายใจได้สะดวกขึ้น คุณหมอเก่งครับรักษาไปอธิบายไปทำให้เราได้รู้ว่าโรคนี้มันเป็นยังไงสาเหตุที่เกิดน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ ก็มีด้วยกันหลายสาเหตุ
1.อาจเกิดจากก้อนเนื้อที่อยู่บริเวณ เยื่อหุ่มหัวใจ ก็คือมะเร็ง
2.ติดเชื้อในเยื่อหุ้มหัวใจ
3.อวัยวะช่องท้องมีเนื้องอก ทำให้ส่งผลต่อน้ำเยื่อหุ้มหัวใจ
ครั้งนี้แนวทางรักษาตอนนั้นจะเน้นไปทางหัวใจเป็นหลักครับ หมอเอาน้ำจากเยื่อหุ้มหัวใจไปตรวจ เจาะเลือดไปตรวจ ให้ยาขับน้ำ ยาฆ่าเชื้อ หลายอย่างมากิน ตอนนั้นหมดไป เกือบ 8000 กว่าบาทภายในวันเดียว แล้วนัดฟังผลเลือดอีก 1 อาทิตย์
ภายการUltrasound หัวใจ (Echo) อย่างละเอียด หลักจากที่ทำการเจาะระบายน้ำเยื่อหุ่มออก น้องกลับมาแข็งแรงดีขึ้นเลยแทบจะปกติเลยครับ หลักจากที่ทำการเจาะระบายน้ำเยื่อหุ่มออก ครั้งแรกผ่านไป 1 อาทิตย์ หมอก็นัดมา Ultrasound หัวใจ (Echo) อีกครั้งและฟังผลเลือด สรุป ผลเลือดปกติ ไม่พบเชื่อมะเร็ง แต่น้ำในเยื่อหุ้มหัวใจมาเร็วขึ้น ต้องทำการเจาะระบายออก หมอที่คนิลิกแนะนำให้ผมไป รพ สัตว์จุฬา หรือ ม.เกษรบางเขน เพื่อทำการผ่าตัดเยื่อหุ้มใจ หากปล่อยไว้นานน้องอาจเสียชีวิตได้ ผมเลยตัดสินใจพาน้องไปรักษาที่ รพ สัตว์จุฬา ครับ แนะนำต้องไปแต่เช้านะครับ เพื่อรับบัตรคิวตรวจและลงทะเบียนผู้ป่วยใหม่ ผมไปถึง รพ ประมาณ 7โมงกว่าๆ รับบัตรคิวก็เข้าห้องฉุดเฉินเลยครับ เพราะว่าน้องดูหายใจถี่ๆหอบๆหมอห้องฉุดเฉิน เลยทำการเจาะระบายน้ำเยื่อหุ้มหัวใจออก และส่งตัวไป X- rays เจาะเลือด และให้ยาปฏิชีวนะมากิน ค่ารักษาประมาณ 7409 บาท หมอนัดอีก 1 อาทิตย์มาติดตามผล จากนั้นก็พาน้องกลับบ้าน
น้องให้ออกซิเจนหลังจากเจาะเยื่อหุ้มหัวใจไป แข็งแรงขึ้นมาทันที ผ่านไป 1 อาทิตย์ฟังผลผลเลือดก็ปกติ ผล X- rays ไม่พบเนื้องอก มาอาทิตย์นี้น้องก็โดนเจาะเยื่อหุ้มหัวใจอีก น้ำในเยื่อหุ้มมาเร็วมาก สงสารน้องเลย
เจาะรอบนี้น้องอ่อนแรงมาก หลังจากเจาะเสร็จก็ส่งตัวไปหาหมอผ่าตัดเพื่อหาแนวทางการรักษา หมอแนะนำแนวทางการรักษาอยู่ 2 วิธีครับ
1.ผ่าเจาะเยื่อหุ้มหัวใจ เพื่อให้น้ำระบายออกมาที่ช่องอก เพื่อให้อนาคตเราพาน้องไปเจาะระบายน้ำออกจากช่องอกได้เลย คลินิกแถวบ้านก็เจาะได้ง่ายต่อการรักษา
2.ผ่าเจาะเยื่อหุ้มหัวใจ และฝังท่อบริเวณช่องอกเพื่อให้เราดูดออกเองได้
ทั้ง2วิธีค่ารักษาโดยประมาณนะครับ 30,000-40,000 บาท คร่าวๆนะครับ
หลังจากทีคุยกับหมอเสร็จหมอนัดตรวจอีก 1 อาทิตย์ เพื่อตรวจและวางแผนผ่าตัดอีกครับ
เริ่มมีความหวังที่จะรักษาน้องให้หาย เวลาผ่านไปเร็วระหว่างรอนัดอีก1 อาทิตย์ น้องเริ่มเบื่ออาหาร เริ่มเหนื่อยหอบง่าย เป็นลม จนทำให้ผมต้องพาไปคลินิกแถวบ้านเพื่อให้น้ำเกลือ ประคองน้องไว้ให้ถึงวันนัด ก่อนถึงวันนัด 1 วัน น้องเสียชีวิตครับ รวมระยะเวลารักษา 2 เดือนเศษ ตั้งแต่ที่เริ่มรู้ว่ามีน้ำที่เยื่อหุ้มหัวใจ ผมพยายามช่วยน้องสุดความสามารถ เสียใจที่ช่วยน้องไม่ทัน เหตุการณ์นี้ น้องเสียตั้งวันที่ 8 กพ 64 แล้วครับ ก็อยากแชร์ ข้อมูลให้ฟังเผื่อใครมีน้องที่เจอปัญหาเดียวกับผม โรคนี้ถ้าพบแล้วต้องรีบรักษาเลยครับอย่าปล่อยไว้นาน