แม่ร่มเมือง (จะทิ้งพระ สงขลา)




แม่ร่มเมือง  อยู่ที่หมู่ 1 บ้านดอนแย้ 
ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา 
ชาวบ้านในพื้นที่นับถือกันมาก 
เรื่องบนรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย
และบนหาของหาย เชื่อกันว่า ศักดิ์สิทธิ์และแน่นอน 
แก้บนด้วย น้ำชา น้ำแดง น้ำดื่ม

เทียบเท่ากับการบนหาของหาย
ขอให้รอดปลอดภัยจากท้องทะเล 
บนกับ หลวงพ่อสงค์ วัดปากบางภูมี ควนเนียง 
ที่ต้องแก้บนด้วยเหล้า ด้วยเบียร์
มีวางอยู่หลายขวดหน้ารูปเหมือนของท่าน 




หลวงพ่อสงค์ วัดปากบางภูมี ควนเนียง สงขลา
มีขวดเหล้า ขวดเบียร์ แก้บนหน้ารูปเหมือน


ที่วัดแห่งนี้มีภาพเขียนจิตรกรรมของ
ครูจูหลิง ปงกันมูล ก่อนไปรับราชการ 
แล้วถูกโจรก่อการร้ายแบ่งแยกดินแดน
และแนวร่วมโจร  รุมกันฆ่าเธอจนตาย
หลายคนยังหนีคดีและหนีเวรหนีกรรมอยู่





ภาพเขียนบางส่วนของ ครูจูหลิง ปงกันมูล



ตามตำนานท่านเป็นน้องสาว พระเจ้ากรุงทอง 
เจ้าเมืองพัทลุง กินอาณาเขตบริเวณจาก 
บ้านควนชะลิก (หัวไทร นครศรีธรรมราช) 
ถึง บ้านพังยาง (จะทิ้งพระ สงขลา) 
จะทิ้ง คือ ชัก/ลาก ทึ้งของ  มึก =  จมึก ดื่มน้ำ (คำเขมร)
ที่นี่ยังมีประเพณีลากเรือแห่เรือลากพระในทะเลน้อย
ในวันหลังออกวันออกพรรษา คือ การเริ่มเดือนฤดูฝน
ฝนจะเริ่มตกหนักในภาคใต้ตอนล่างช่วงนี้
แต่ภาคกลาง ภาคเหนือ เริ่มเป็นฤดูหนาว
จะเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวกันแล้ว เพื่อไปขาย/เก็บไว้ปีหน้า
แต่แถวนี้จะเริ่มต้นปลูกข้าวกัน
จะไปเริ่มต้นเก็บเกี่ยวช่วง มีนาคม-เมษายน ปีหน้า

ภาษาภาคใต้ยังมีคำเขมร ที่หลงเหลือ 1,320 คำ
มีในดุษฏีนิพนธ์ ปรมินทร์ คาระวี
แต่เขมรกระจอกกว่าไทย การยอมรับนิรุกติศาสตร์เลยยากมาก
ยิ่งไทยแพ้คดีเขาพระวิหารในชั้นศาลโลก  เลยยิ่งเกลียดเขมรเข้าไส้

สทึง อักษร ท ทางเขมรออกเสียงว่า ต
สทึง หรือ สตึง แปลว่า แม่น้ำ/คลอง
เปรี๊ยะ = พระ แต่เดิมอาจจะอ่านว่า สะ ตึง เปรี๊ยะ
ก่อนจะกร่อนเป็น จะ ทิ้ง พระ ให้เข้ากับภาษาไทย
คาดว่า อาจจะมาจากการเจอพระพุทธรูปในแม่น้ำ
แล้วอัญเชิญพระขึ้นมาตั้งเป็นวัด หรือเป็นท่าน้ำที่พระมาอาบน้ำกัน
หรือเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางไปที่อื่น ๆ
การเปลี่ยนเป็นสทิงพระ เพราะอำมาตย์รู้ดี ขัดหู ขัดตา สั่งให้เปลี่ยน
พร้อมเขียนตำนานนิยายตอบสนองการสำเร็จความใคร่ทางปัญญาของตน
แบบหลายคำ หลายชื่อเมืองต่าง ๆ ในอดีตของไทย
ถ้าภาษาอาจารย์รุ่นดิ (The Old) หลายท่าน
เคยด่าให้ผมฟังว่า พวกอำมาตย์นี้  เสxอก





ถ่ายเมื่อหลายปีก่อนวันบุญเดือนสิบ
มีตัวทองสูง ตัวโตงเตง หุ่นจำลองเปรตชายหญิง
ด้านหลังสุดมี พระพี่น้อง 2 พระองค์
ราชบุตรราชธิดาพระเจ้าอโศกมหาราช
ตามนิยาย พี่จะทิ้งพระหรือนี่
เพราะ พระเชษฐาลืมพระไว้ที่ชายหาด
ก่อนแล่นเรือ กลับมาเอาคืน แล้วไปบรรจุ
ที่วัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
ยังมีรูปปั้น 2 พระกุมาร ตามตำนานที่นครฯ


พัทลุง เมืองนี้มีปัญหามากในเรื่องเขตพื้นที่
การปกครองในอดีต เวลาจะศึกษาประวัติศาสตร์ 
เพราะบางครั้งก็ขึ้นกับนครศรีธรรมราช 
เป็นเอกเทศบ้าง ขึ้นกับสงขลาบ้าง

แม่ร่มเมือง มีพี่ชายคนรองชื่อ รองเมือง 
ท่านคือ น้องสาวคนสุดท้องของครอบครัว

แม่ร่มเมือง ทำหน้าที่เป็นหมอตำแย 
(ในอดีตต้องผ่านพิธีกรรมการครอบครู 
และมีคนทำอาชีพนี้เพียงไม่กี่คน 
จัดว่าเป็นอาชีพที่มีเกียรติได้รับการนับถือมาก
เพราะสมัยก่อนหมอมีน้อยคนมาก
และตามตัวหมอไปรักษาถึงที่บ้านได้)

และท่านยังเป็นหมอยารักษาโรค 
ครั้งหนึ่งเกิดโรคระบาด ไข้น้ำ และไข้ป่า 
ชาวบ้านล้มตายกันเป็นจำนวนมาก 
ท่านได้ดูแลรักษาจนโรคระบาดหายไป
ท่านจึงเป็น  เทพธิดา ของชาวบ้าน
เมื่อท่านตาย  เชื่อกันว่า ท่านได้สิงสถิตอยู่ที่ต้นยาง 
บ้านดอนแม่ แต่ทุกวันนี้เปลี่ยนชื่อเป็น บ้านดอนแย้ 
ที่ตั้งศาลแม่ร่มเมืองทุกวันนี้
ที่มา พงศาวดารพัทลุง พระยาศรีธรรมาโศกราช พ.ศ.1800
พระเจ้ากรุงทอง - เจ้าเมืองพัทลุงเก่า (จะทิ้งพระ ButNow) 
ก่อนลายสือไท พ่อขุนรามคำแหง พ.ศ.1826

700 กว่าปีก่อน ตำแหน่ง/สถานะเจ้าเมือง
พื้นที่และการปกครองทำแบบพ่อปกครองลูก
พอ ๆ กับตำแหน่งกำนันของไทยในยุคอดีต
ที่ทุกคนในครอบครัวต้องทำมาหากิน
เพียงแต่กำนันมีงานราษฏร์งานหลวงเพิ่มขึ้น




วังเก่าเจ้าเมืองพัทลุง ก็ยังเป็นบ้านไม้ยกพื้น


ไม่ได้ร่ำรวยหรูหราอยู่สบายเหมือนกษัตริย์
อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ที่ยืนยาว 417 ปี
มีกษัตริย์ 34 พระองค์ มีการปฏิวัติ/รัฐประหาร 21 ครั้ง (ขบถไม่นับ)
เฉลี่ยทุกรอบ 19 ปีเศษจะมีการปฏิวัติ/รัฐประหาร
และกษัตริย์แต่ละพระองค์ครองราชย์เฉลี่ย 12 ปีเศษ






มีการทำเหรียญและผ้ายันต์แม่ร่มเมือง 
ปลุกเสกโดยอาจารย์คลังแสง 
พระเกจิอาจารย์วัดเขากูฏ 
สถานที่จำพรรษาเดิมของ สมเด็จเจ้าเกาะยอ 
รุ่นราวคราวเดียวกับสมเด็จวัดพะโคะ 
สมเด็จรัตภูมิ ตามตำนานสามสมเด็จสงขลา

สมเด็จ คือ คำยกย่องและให้เกียรติอย่างสูงสุด 
คำนี้มีใช้ในไทย และเขมร 
เช่น สมเด็จฮุนเซน สมเด็จนโรดม สีหมุณี 
ตามคำบอกเล่าคนเขมรว่า 
มีคำขอก่อนสวรรคตของสมเด็จนโรดม สีหนุ 
ว่าจะตั้งตำแหน่งสมเด็จให้ฮุนเซน 
แล้วออกปากฝากฝังให้สมเด็จฮุนเซ็น 
ดูแลปกป้องคุ้มครองไว้ชีวิต สมเด็จนโรดม สีหมุณี 
ให้เหมือนน้องชายของฮุนเซนด้วย
แต่จริง ๆ ฮุนเซนประกาศตั้งให้ตนเองในปี 2559

คำว่า สมเด็จ เป็นคำภาษาเขมรโบราณที่แผลงมาจากคำว่า  สฺตจ (เสด็จ) 
ดังปรากฏหลักฐานการใช้มาตั้งแต่ศิลาจารึกของเขมรโบราณสมัยพระนคร 
โดยมีการใช้อักขรวิธีตามศิลาจารึกว่า 
สํตจ และ  สํเตจ มีความหมายว่า 
พระนามศักดิ์สิทธิ์ของ กษัตริย์ เทพเจ้า นักบวช 
ทำไมต้อง สมเด็จ-อัครมหาเสนาบดี-เดโช ฮุน เซน
นามบรรดาศักดิ์นี้เกี่ยวอะไรกับสยาม


เสด็จให้มาทูลถามเสด็จว่า 
จะเสด็จไปพร้อมกับเสด็จ ไปในงานเสด็จเตี่ย 
(กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) หรือไม่เพค
(จากนวนิยายอิงพงศาวดาร จำชื่อไม่ได้แล้ว) 
ประโยคนี้ครบองค์ประกอบประโยค
บุรุษ สรรพนาม กริยา (ประธาน กริยา กรรม/บุคคลที่ 3)







อาจารย์คลังแสง พระมาจากทางภาคอีสาน
ถือวัตรเงียบ มา 10 พรรษา(ปีแล้ว) 
เปล่งเสียงสวดมนตร์ไหว้พระได้ แต่เวลาสนทนากับคนอิ่น 
ท่านจะฟังแล้วเขียนตอบในกระดาษให้เพียงอย่างเดียว 

เหรียญและผ้ายันต์แม่ร่มเมือง ของปลอมยังไม่มีคนผลิต 
เพราะเล่นกันแค่ภายในทัองถิ่น เพราะออกแจกจ่ายทำบุญ 
วันแรกก็หมดเกลี้ยงแล้ว  คนในชุมชนนำไปบูชาแจกจ่ายลูกหลาน
คาดว่าผลิตเพียงหลักพันองค์







ศาลแม่ร่มเมืองที่ชาวบ้านร่วมกันสร้าง



ต้นยางที่เชื่อว่า แม่ร่มเมือง สิงสถิตย์อยู่



ต้นเก่าที่งอกใหม่ออกด้านข้าง หลังจากล้มลง



มีร่องรอยคนเผาเอาน้ำมันยางในอดีต



ต้นลูกที่งอกขึ้นใกล้ ๆ กัน



ตังแค ติ้วอัง รอยเขียนบนปูน อยู่ใกล้ศาลแม่ร่มเมือง
ฮวงจุ๊ย  ภาษาจีนแต๊จิ๋ว ภาษาจีนกลาง เฟิงสุ่ย
(ฮวง=ลม จุ๊ย=น้ำ คนไทยมักเรียกกันผิดว่า ฮวงซุ้ย)



หมดสภาพฮวงจุ้ยไม่ส่งผลใด ๆ กับลูกหลานแล้ว
เพราะพังทลาย ไม่เป็นเนินรูปหลังเต่า
ทั้งยังเห็นทรายกลบฝังหลุม กับหญ้าขึ้นรก
ตามความเชื่อของคนจีนบางกลุ่ม



เจ้ากวั้น ที่เขียนบนปูนหน้าฮวงจุ้ย



สภาพรกร้าง เหมือนหลุมแรก



จุดสังเกต ทางไปศาลแม่ร่มเมือง
บ้านสีเขียวซ้ายมือคนขับรถยนต์



ป้ายซอยบ่อหมาเลีย มาจากสนามชัย วัดพะโค๊ะ
อยู่ซ้ายมือคนขับ ก่อนถึง หจก.วไลก่อสร้าง ฝั่งตรงข้าม
ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป จะเจอสี่แยกเล็ก ๆ
จะมีร้านขายน้ำ/ของชำ ตรงสี่แยก ซ้ายมือคนขับ
เลี้ยวซ้าย ไปอีกราว 50 เมตร จะถึงศาลแม่ร่มเมือง
จะอยู่ด้านขวามือคนขับ มีอาคารบังสายตา


โรงงานผลิตปุ๋ยชีวภาพชาวบ้าน
อาคารริมสุด จะเลย ศาลแม่ร่มเมือง


ป้ายของทางการ สุดแนวเขตตำบลกระดังงา




หมายเหตุ

ร่มเมือง มาจาก ร่มเย็นเป็นสุข ให้คุณชาวบ้าน

ถ้า ล่มเมือง คือ ทำให้บ้านเมือง ราชันย์ ฉxบหาย
เช่น ไซซี เตียวเสี้ยน ในพงศาวดารจีน

ท้าวศรีสุดาจันทร์ ที่มีตำนาน คบชู้ ฆ่าผัว ฆ่าลูก
ชู้ คือ ขุนวรวงศาธิราช ที่ตำนานไม่ยอมรับกันว่า
เป็นกษัตริย์ แม้ว่าผ่านพิธีราชาภิเษกแล้วก็ตาม
ผัว คือ สมเด็จพระไชยราชาธิราช
ลูก คือ พระยอดฟ้า
ต่อมา ชู้ถูกรัฐประหาร ถูกฆ่าตายในเรือ
ตอนถูกหลอกให้ลงเรือจะไปจับช้างเผือกที่ลพบุรี
ส่วนท้าวศรีสุดาจันทร์/บริวารทั้งหมดถูกกำจัด
แบบชนะ คือ ราชา แพ้ คือ ขึ้ข้า

แล้วต่อมา ตาอยู่ก็ได้ขึ้นครองราชย์แบบ Bird Bird สบาย ๆ
เพราะให้ตาอินกับตานา ทะเลาะกันแย่งหัวปลาหางปลา
ตาอยู่มาเดี๋ยวเดียว คว้าพุงเพรียว ๆ ไปกิน
คือ สมเด็จพระมหาจักรพรรดื์ (พระเจ้าช้างเผือก)
เพราะมีและครอบครองช้างเผือก 7 เชือก
ต่อมา พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ ขอช้างเผือก 2 เชือก
แลกกับเชลยศึก พระมหินทราธิราช ที่ไปท้ารบแต่แพ้

ต่อมา พระมหินทราธิราช ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์
ที่มีตำนานว่าไม่สนพระทัยการศึก/การรบ
แต่จริง ๆ ทรงสู้ศึก แต่โดนพระยาจักรีเป็นไส้ศึกจึงแพ้ 
พระองค์ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์แบบส้มหล่น
เพราะพระบิดาชิ่งหนีไปตั้งหลักก่อนที่พิษณุโลก
รอดูท่าทีและการรบกับพม่าก่อนในโยเดีย (อยุธยา)
ทำให้พระองค์ต้องรบกับบุเรงนอง ตามลำพัง
แต่รบยังไงก็แพ้ เพราะฝีมือคนละชั้น แถมยังขาดกองหนุนด้วย
ทำให้เสียกรุงครั้งที่ 1 ใน พ.ศ.2112 ในสมัยพระองค์
ทรงเสด็จสวรรคตตอนเดินทางไปเป็นเชลยศึกที่พม่า
พระมหินทราธิราชเป็นพระอนุชา พระนเรศ
พระนางสุพรรณกัลยา และเป็นพระเชษฐา พระเอกาทศรถ

ตำนานระบุ พระบิดาเอาใจออกห่างไม่คิดสู้ศึก
แต่แล้วก็อยากกลับมาเป็นกษัตริย์อีกหลังศึกสงบ
ด้วยการไปเข้าข้างถือหางบุเรงนอง
ก็ได้กลับมาเป็นอีกครั้งสมใจนึกบางลำพู
จนพระราชโอรสพระนเรศต้องมาประกาศกู้ชาติ
ประกาศเอกราชจากพม่าในภายหลัง
แล้วปลดพระบิดาลงจากตำแหน่งขึ้นครองราชย์แทน
ต่อมามีการขนานนาม/แก้พงศาวดารเปลี่ยนชื่อเป็น
พระนเรศวรมหาราช ให้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่