ขอบคุณคุณแอน นลินมณีกับภาพสวย ๆ
เรื่องสั้นเรื่องนี้ ยินดีให้ทุกท่าน ติ แก้ ปรับ แนะ ได้แบบเต็มที่ ถ้าเห็นอะไรผิดพลาดขัดใจ
มิต้องเกรงใจ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนไร้มาด ไม่ติดอีโก้ใด ๆ ไม่ถือตัว เกลียดการดูถูกเหยียดหยาม
นิสัยดี หล่อหลบใน กันน้ำกันสะเทือน อัตโนมัติพร้อมวันและวันที่ เก่าเก็บวินเทจ รับประกันหนึ่งวินาที
ผ่าน ISO 200000 ปราศจากสิ่งปลอมปน
ตอนที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/41006127
ด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้ตัดสินใจลางานกะทันหันติดต่อกันยาวไปจนถึงวันชกทันที ตายเป็นตาย เพื่อจะได้เอาเวลามาฝึกซ้อมร่างกายให้พร้อมต่อการชนะภรรยา คู่อาฆาตทางใจให้ได้
ไม่โหด ไม่ใช่ชาย ท่องเอาไว้! ธาราคิดปลุกปลอบขวัญและกำลังใจตัวเอง
บทที่ 4
บทที่ 4 ความรักความหลัง
ธาราย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านของเอกชัยชั่วคราว เพราะต้องการพื้นที่ฝึกซ้อมร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น จากนั้นเริ่มต้นด้วยการไปหาซื้อชุดนักกีฬามาพร้อมสรรพ ลุกขึ้นจากเตียงนอนตั้งแต่ตีห้า แต่งตัวชุดออกกำลังกายเต็มยศออกจากบ้านวิ่งเหยาะๆ ไปตามถนนในหมู่บ้านด้วยความกระตือรือร้นด้วยเปลวไฟแห่งความอยากเอาชนะ
แต่เพราะความเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ ทำให้บรรดาน้องหมาในหมู่บ้าน ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ผิดสีผิดกลิ่นผิดรูป วิ่งไปแถวไหนน้องหมาก็พากันออกมาเห่าหอนต้อนรับกันเป็นแถว จนเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้าน สร้างเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันทั้งหมู่บ้าน หมาหลายตัววิ่งประกบเป็นการให้กำลังใจ เห่าหอนซ้ายขวาหน้าหลัง เป็นเพื่อนร่วมทาง จากต้นซอยถึงท้ายซอย
เจ้าของบ้านบางหลังถึงกับคว้าปืนเดินออกมาดู เพราะคิดว่าหมากำลังเห่าผู้ร้ายโจรขโมย ทำให้วันแรกของการฟิตซ้อมล่มสลายกลางคันในเวลาแค่คืนเดียว
ออกกำลังกายโดยการวิ่งไม่ดีเป็นแน่แท้ เพราะเกรงว่าถ้าไม่โดนหมารุมกัดตาย คงโดนยิงตายด้วยความเข้าใจผิด ดูมันแย่มาก การเริ่มต้นการฝึกซ้อมไม่ดีเท่าที่ควร
จะออกไปฝึกคาราเต้ยูโดก็ไม่อยากไปเพราะคิดว่ามันน่าอายชอบกล มีอย่างที่ไหนไปฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อมาสู้กับภรรยาตัวเอง
อยู่กับเพื่อนได้วันเดียว ธาราต้องย้ายกลับไปอยู่โรงแรมตามเดิม เพราะการวิ่งออกกำลังกายไม่เวิร์ก คงตายเพราะถูกยิงหรือไม่ก็ โดนหมากัดตายก่อนชก เอกชัยเพื่อนรักคงโทรศัพท์มาสอบถามอาการเป็นระยะเพราะกลัวว่าธาราจะเป็นบ้าไปเสียก่อนจะทันได้ชก และมีข่าวดีมาบอกว่า วันชกจริงจะมีผู้ช่วยพี่เลี้ยงเป็นครูสอนวิชาคาราเต้ระดับเทพ มาให้คำแนะนำข้างเวที
นั่นทำให้ธารารู้สึกว่าโลกมนุษย์ยังไม่ได้ทอดทิ้งเขาไปจนหมดสิ้นเสียเลยทีเดียว ได้ครูสอนคาราเต้เป็นพี่เลี้ยง ยัยนิดเสร็จแน่!
ขอเพียงมีกำลังใจ ต่อให้มีมือข้างเดียวก็จะเอาชนะได้ หนังจีนพระเอกแขนสองข้างด้วน ยังใช้ปากคาบกระบี่ต่อสู้กับพวกมารได้ สูงสุดยอดคืนสู่สามัญ การฝึกปรือระดับสูงสุดไม่จำเป็นต้องออกแรงถาโถมเหงื่อโซมกาย เพียงฝึกด้วยใจก็บรรลุเคล็ดวิชา
การออกกำลังกาย มันเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกมากกว่า
คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย ให้หยาดเหงื่อไหลริน
คิดในใจว่า โธ่เอ้ย!... มือระดับนายธารา ไม่จำเป็นต้องออกแรงเตรียมสภาพความพร้อมให้เหนื่อยยากหรอก อย่างนิจพร....กระจอก... แค่ดีดนิ้วเบา ๆ ก็ขี้คร้านแต่จะลอยกระเด็นไปไกลแสนไกล ไม่ต้องมาเสียเวลาฝีกฝนร่างกายให้เสียเวลา สู้เอาเวลาไปหาน้องเจี๊ยบดีกว่า
ลองโทรศัพท์หาเอกชัยเพื่อนรัก เขาก็ยังไม่ว่างเพราะยังไม่เที่ยงวันเลย ปกติจะเจอกันก็โน่น...แดดร่มลมตก แต่เขาคงไม่รอให้เย็นถึงขนาดนั้น อยู่ในห้องพักก็ไม่มีอะไรทำ อย่ากระนั้นเลย พอคิดได้ก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ออกจากโรงแรม เดินทางไปร้านอาหารในสโมสรทันที จะขึ้นเวทีชกกับภรรยาทั้งที มันต้องทำอารมณ์ให้แจ่มใส
เขาชอบร้านอาหารในสโมสรแห่งนี้ เพราะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง บรรยากาศดี อาหารไม่แพง ธาราคุ้นเคยกับพนักงานสาวน้อง ๆ มาเป็นเวลาหลายปีก่อนจะแต่งงานเสียอีก เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกับเพื่อนฝูง ที่มักจะนัดกันมาที่นี่เสมอ ที่สำคัญคือ ถึงจะออกลีลาหมาหยอกไก่กับสาวๆ พนักงานในร้านแต่ก็ไม่เคยสานความสัมพันธ์ให้เกินเลยพูดคุยโน่นนี่นั่นตามประสา แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
“ผู้หญิงก็เหมือนดอกไม้ แค่มองก็สุขใจ ไม่ต้องเด็ดดมชมเชยเอามาเป็นเจ้าของ เสียค่าดูแลรักษา” เขาเคยประกาศจุดยืนของตัวเองในวงเหล้าก่อนจะแต่งงานไม่เท่าไร
“ที่พูดน่ะแน่ใจเหรอ” พวกเพื่อนพากันถามอย่างไม่เชื่อถือ ธารายืดอก ประกาศต่อไปอย่างมั่นใจ
“จริงแท้แน่นอนที่สุด สาว ๆ ทุกคน...พวกเธอก็เหมือนภาพเขียนสวยงามราคาแพง แขวนประดับตามพิพิธภัณฑ์ เราก็เพียงเดินดูชื่นชมเข้าถึงความงาม อาจถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แต่...คงไม่ถึงกลับลงทุนซื้อกลับมาที่บ้าน”
“ทำไมวะ”
“ม้นแพงโว้ย...” พูดแล้วก็พากันเฮฮาหัวเราะอย่างสนุกสนาน เป็นที่ถูกอกถูกใจตามประสาบรรดาหนุ่ม
“แล้วยังมีอีกนะ ผู้หญิงก็เหมือนนม”
“เฮ้ย ไอ้ธา แกพูดดี ๆ นะ หมายความว่ายังไง” พวกเพื่อนพากันโวยวาย เพราะความหมายมันคาบลูกคาบดอกชอบกล
“ฟังให้จบก่อนสิวะ อย่ามองไปทางไม่ดี ความหมายของข้าคือ ผู้หญิงเหมือนนมที่อาจจะเป็นนมจากแม่โคพันธุ์ดี หรือนมกล่องก็ได้ ถ้าแกคิดสั้นแต่งงาน ก็เหมือนอยากกินนมวัว โดยที่แกต้องลงทุนซื้อแม่โคพันธ์ุนมมาเลี้ยงด้วย เสียค่าดูแลรักษาเลี้ยงดู แต่...ถ้าซื้อนมกล่องกิน ก็ไม่ต้องซื้อนมกล่องมาดูแลจริงไหมวะ แล้วไอ้การซื้อนมกล่อง เราจะเลือกเปลี่ยนยี่ห้อไหนก็ได้ จะกินตอนไหนก็ได้ มากน้อยตามใจ ไม่จำเจ กินแล้วก็ทิ้งกล่องไป ไม่ต้องเก็บเอามาบูชา นี่คือข้อปรัชญาของข้าละ”
บรรดาเพื่อนพอฟังแล้วตั้งพากันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แม้แต่คนที่กำลังมีโคนมอยู่ในบ้านก็ยังเห็นด้วย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ธาราก็แต่งงานกับนิจพร หักปากกาด้ามเซียน หักหน้าตัวเอง เพราะกลายเป็นคนซื้อโคพันธุ์นมมาเลี้ยงเสียเอง ทั้งที่นมกล่องก็ไม่เคยได้กิน! ธารายอมรับว่า เขาหลงรักนิจพรตั้งแต่เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก เธอเป็นคนผิวขาว สวยอย่างที่เขาเคยวาดหวังเอาไว้ในใจ และมีอารมณ์ขันยิ้มแย้มแจ่มใส มีมุกแบบแปลก ๆ ต่างจากผู้หญิงคนอื่น นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงชีวิต
เธอทำงานอยู่บริษัทเดียวกับเขาแต่ต่างสาขากัน หลังจากเพียรพยายามตามจีบตามตื้ออยู่หลายเดือน เธอจึงตอบตกลงยอมแต่งงานกับเขา ท่ามกลางความอกหักของหนุ่มคู่แข่งหลายคน และแน่นอนว่าหลังจากนั้น ก็ถูกเพื่อนเอาเรื่องการแต่งงานของมนุษย์ดื่มนมไปล้อเลียน วิพากษ์วิจารณ์ ถากถางกันอย่างสาแก่ใจ ไหนบอกว่าจะเลือกกินนมกล่อง จะขอแค่ดูภาพสวย จะขอแค่ดูดอกไม้ แล้วเป็นไง ซื้อของดีมีราคามาเสียเอง
นี่ละ...ที่บรรดาเพื่อนทั้งหลาย ค่อนแคะว่าธาราเป็นคนมือถือสากปากดื่มเหล้า ทุกวันนี้เรื่องของธาราก็ยังถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นพูดคุยอยู่เป็นระยะและเพราะความเป็นคนติดเพื่อนมาก่อน ชอบเที่ยวแต่กลางคืน ในขณะที่นิจพรตรงกันข้ามกับเขาทุกอย่าง เธอไม่ชอบเที่ยว แต่คอยตรวจจับพฤติกรรมของเขาอย่างเข้มงวด ทำให้ทั้งคู่เริ่มมีข้อโต้แย้งกันเรื่อย ๆ
คนหนึ่งอยากทำตัวอิสระเหมือนก่อนแต่งงาน คนหนึ่งไม่ยอมพอสงครามเริ่มก่อ ย่อมมีแนวร่วมเข้ามาสนับสนุนแต่ละฝ่าย ญาติพี่น้องพากันออกหน้ามาเสนอแนะ โน่น... นี่... นั่น...
จากสงครามระหว่างบุคคล ขยายกลายเป็นสงครามใหญ่มากขึ้นทุกที จนท้ายที่สุด นำไปสู่การท้าดวลแบบไม่ตั้งใจ ขึ้นไปชกกันบนเวทีมวยให้รู้แล้วรู้รอด
ตอนที่นิจพรส่งเอกสารฉบับสำคัญในการท้าชก ความจริงธาราก็พอรู้อยู่หรอกว่าภรรยาตัวเองแกล้งประชด แต่เขาคิดจะซ้อนแผน โดยการทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นลงชื่อในสัญญาท้าชก โดยหวังว่านิจพรจะตกใจ ถอดใจล้มเลิกสัญญา แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างเหมือนเลยตามเลย เธอเอาจริง นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของธารา ทำให้ธาราต้องตกเวทีพลอยโจนเหมือนกัน
ซึ่งหลังจากนั้น ผลของสัญญาทำให้ฝ่ายผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย มาประชุมกันอยู่ที่ค่ายมวย อิเกิ้ง เพื่อประชุมหารือในการตั้ง กฎ กติกา มรรยาท เงื่อนไข ข้อแม้ต่าง ๆ ที่เหมาะสม การประชุมเป็นไปอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน จนพวกญาติผู้ใหญ่แทบจะเปิดฉากตะลุมบอน ดวลเดือดเลือดสาดกันเสียเอง
ร้อนถึงตำรวจ ทนายความ ต้องเข้ามาเป็นตัวกลาง นั่นละ... ความวุ่นวายทางการบ้านจึงยุติลง หนังสือสัญญากลายเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการในที่สุด
นิจพรเอาจริง ถึงกับลงทุนลาพักร้อน มาฝีกมวยกับค่ายมวยของคุณลุงอย่างเอาเป็นเอาตาย
ศึกมหาวุ่นวายครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นครั้งแรกของโลก ที่สามีและภรรยา ขึ้นสังเวียนเพื่อชกมวยกันอย่างเป็นทางการ กองเชียร์แต่ละฝ่ายก็มั่นใจในคนของตน มีการวางเดิมพันนอกรอบกันอีกต่างหาก ข่าวการชกแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ธาราชนะ นิจพรจ่ายเงินหนึ่งล้าน ยอมเซ็นใบหย่า
นิจพรชนะ ธาราจ่ายหนึ่งล้าน พร้อมต้องยอมทำตามคำสั่งของนิจพรเป็นเวลาหนึ่งปี
มันคือ ‘ศึกวันสู้เมีย’ ในฝั่งของธารา และคือ ‘ศึกสั่งสอนผัว’ ในฝั่งของนิจพร
ธาราขับรถตรงมาที่ร้านอาหารของสโมสร วันนี้เขาอยากมีเพื่อนคุย จะเป็นใครก็ได้ แต่จะให้ดีต้องเป็นน้องเจี๊ยบคนน่ารักคนนั้น ขณะที่เลี้ยวรถเข้าลานจอดรถ สายตาของเขาก็เห็นภาพที่ไม่ควรจะเป็นไปได้
เขาจำได้ดีว่ามีรถยนต์คันหนึ่ง เหมือนรถของภรรยาไม่มีผิด
ยัยนิดตัวแสบควรจะอยู่ค่ายมวยอิเก้งไม่ใช่เหรอ แต่พอดูป้ายทะเบียนแล้วก็เป็นการยืนยันประจักษ์ชัดเจนว่า เป็นรถของนิจพรอย่างไม่ต้องสงสัย นี่มันสถานที่ของเขานะ ยัยนิดตัวแสบมาทำไม...
ธาราหมุนซ้ายหันขวาพักหนึ่ง เริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์อัปมงคล ไม่รู้ว่าภรรยาคนเก่งจะมาไม้ไหน ถึงกล้าบุกเข้ามาถ้ำเสือธารา
ร้านอาหารมีผนังด้านทางเข้าเป็นกระจกใส ชายหนุ่มเดินไปดูอย่างระมัดระวังตัว ป้องมือกันแสงมองผ่านกระจกเข้าไปแล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมองเห็นภาพที่ไม่คาดคิด
นิจพรอยู่ในร้านอาหารของสโมสรจริง ๆ แต่ที่ร้ายกาจคือ เธอมากับหนุ่มหน้าอ่อนกว่าหลายปี ทั้งคู่นั่งกินอาหารเที่ยงใกล้ชิดกันราวกับคนรัก! ธารารู้สึกว่าความดันโลหิตวิ่งขึ้นทะลุพิกัดทันที หนอย... ยัยนิด มันจะมากเกินไปแล้วนะ กล้าขนาดควงหนุ่มหล่อหน้าอ่อน...เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว คิดจะกินเด็กหรือไง
เกือบจะถลาเข้าไปแล้ว ถ้าสายตาไม่บังเอิญเห็นคนแปลกหน้าสองสามคน ยืนอยู่ใกล้ประตูทางเข้าด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจ คนพวกนี้ไม่ใช่คนของสโมสรและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ทำให้ชายหนุ่มลังเลใจ พวกนี้อาจเป็นคนคุ้มกันของภรรยาก็เป็นได้ ทำให้ต้องพยายามสงบใจ ตรวจดูสถานการณ์โดยทั่วไป
ขนาดของห้องอาหารกว้างยาวไม่ถึงสิบเมตร แค่เขาเปิดประตูเข้าไป ก็เข้าสู่ระยะพิฆาตทันทีเพราะไม่มีอะไรกางกั้น สิบเมตรอันตรายทำงานทันที คนที่เป็นฝ่ายเดินเข้าหาจะถือว่าเป็นฝ่ายผิด ทำให้ชายหนุ่มหันรีหันขวางอยู่ด้านนอก ไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไป กลัวว่าเสือจะเข้าไปติดจั่น
ภาพที่เห็นวันนี้นิจพรแต่งตัวสวย กระโปรงสีดำสั้น เสื้อสีขาวเหมือนจงใจไม่ติดกระดุมเม็ดบน
ถึงไม่ได้เข้าไปมองใกล้ ๆ ก็พอจะรู้ว่าเนินอกอวบอิ่มจะต้องโผล่ออกมาเป็นเป้าสายตาของพลโลกแน่นอน
นี่เธอกล้าแต่งตัวอ่อยเหยื่อขนาดนั้น! และแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าหนุ่มหน้าอ่อนที่นั่งตรงกันข้ามมันจะจ้องมองจนแทบถลนเพียงใด! นั่นคือความคิดที่ระอุพล่านในความรู้สึก ไม่ต้องบอกก็รู้เรื่องแบบนี้ถนัดนักแล
สังเวียนรัก สังเวียนร้าง...4 (ความรักความหลัง)
ขอบคุณคุณแอน นลินมณีกับภาพสวย ๆ
เรื่องสั้นเรื่องนี้ ยินดีให้ทุกท่าน ติ แก้ ปรับ แนะ ได้แบบเต็มที่ ถ้าเห็นอะไรผิดพลาดขัดใจ
มิต้องเกรงใจ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนไร้มาด ไม่ติดอีโก้ใด ๆ ไม่ถือตัว เกลียดการดูถูกเหยียดหยาม
นิสัยดี หล่อหลบใน กันน้ำกันสะเทือน อัตโนมัติพร้อมวันและวันที่ เก่าเก็บวินเทจ รับประกันหนึ่งวินาที
ผ่าน ISO 200000 ปราศจากสิ่งปลอมปน
ตอนที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/41006127
ด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้ตัดสินใจลางานกะทันหันติดต่อกันยาวไปจนถึงวันชกทันที ตายเป็นตาย เพื่อจะได้เอาเวลามาฝึกซ้อมร่างกายให้พร้อมต่อการชนะภรรยา คู่อาฆาตทางใจให้ได้
ไม่โหด ไม่ใช่ชาย ท่องเอาไว้! ธาราคิดปลุกปลอบขวัญและกำลังใจตัวเอง
บทที่ 4
บทที่ 4 ความรักความหลัง
ธาราย้ายมาอาศัยอยู่ที่บ้านของเอกชัยชั่วคราว เพราะต้องการพื้นที่ฝึกซ้อมร่างกายให้แข็งแรงยิ่งขึ้น จากนั้นเริ่มต้นด้วยการไปหาซื้อชุดนักกีฬามาพร้อมสรรพ ลุกขึ้นจากเตียงนอนตั้งแต่ตีห้า แต่งตัวชุดออกกำลังกายเต็มยศออกจากบ้านวิ่งเหยาะๆ ไปตามถนนในหมู่บ้านด้วยความกระตือรือร้นด้วยเปลวไฟแห่งความอยากเอาชนะ
แต่เพราะความเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ ทำให้บรรดาน้องหมาในหมู่บ้าน ไม่คุ้นหน้าคุ้นตา ผิดสีผิดกลิ่นผิดรูป วิ่งไปแถวไหนน้องหมาก็พากันออกมาเห่าหอนต้อนรับกันเป็นแถว จนเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้าน สร้างเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันทั้งหมู่บ้าน หมาหลายตัววิ่งประกบเป็นการให้กำลังใจ เห่าหอนซ้ายขวาหน้าหลัง เป็นเพื่อนร่วมทาง จากต้นซอยถึงท้ายซอย
เจ้าของบ้านบางหลังถึงกับคว้าปืนเดินออกมาดู เพราะคิดว่าหมากำลังเห่าผู้ร้ายโจรขโมย ทำให้วันแรกของการฟิตซ้อมล่มสลายกลางคันในเวลาแค่คืนเดียว
ออกกำลังกายโดยการวิ่งไม่ดีเป็นแน่แท้ เพราะเกรงว่าถ้าไม่โดนหมารุมกัดตาย คงโดนยิงตายด้วยความเข้าใจผิด ดูมันแย่มาก การเริ่มต้นการฝึกซ้อมไม่ดีเท่าที่ควร
จะออกไปฝึกคาราเต้ยูโดก็ไม่อยากไปเพราะคิดว่ามันน่าอายชอบกล มีอย่างที่ไหนไปฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อมาสู้กับภรรยาตัวเอง
อยู่กับเพื่อนได้วันเดียว ธาราต้องย้ายกลับไปอยู่โรงแรมตามเดิม เพราะการวิ่งออกกำลังกายไม่เวิร์ก คงตายเพราะถูกยิงหรือไม่ก็ โดนหมากัดตายก่อนชก เอกชัยเพื่อนรักคงโทรศัพท์มาสอบถามอาการเป็นระยะเพราะกลัวว่าธาราจะเป็นบ้าไปเสียก่อนจะทันได้ชก และมีข่าวดีมาบอกว่า วันชกจริงจะมีผู้ช่วยพี่เลี้ยงเป็นครูสอนวิชาคาราเต้ระดับเทพ มาให้คำแนะนำข้างเวที
นั่นทำให้ธารารู้สึกว่าโลกมนุษย์ยังไม่ได้ทอดทิ้งเขาไปจนหมดสิ้นเสียเลยทีเดียว ได้ครูสอนคาราเต้เป็นพี่เลี้ยง ยัยนิดเสร็จแน่!
ขอเพียงมีกำลังใจ ต่อให้มีมือข้างเดียวก็จะเอาชนะได้ หนังจีนพระเอกแขนสองข้างด้วน ยังใช้ปากคาบกระบี่ต่อสู้กับพวกมารได้ สูงสุดยอดคืนสู่สามัญ การฝึกปรือระดับสูงสุดไม่จำเป็นต้องออกแรงถาโถมเหงื่อโซมกาย เพียงฝึกด้วยใจก็บรรลุเคล็ดวิชา
การออกกำลังกาย มันเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกมากกว่า
คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย ให้หยาดเหงื่อไหลริน
คิดในใจว่า โธ่เอ้ย!... มือระดับนายธารา ไม่จำเป็นต้องออกแรงเตรียมสภาพความพร้อมให้เหนื่อยยากหรอก อย่างนิจพร....กระจอก... แค่ดีดนิ้วเบา ๆ ก็ขี้คร้านแต่จะลอยกระเด็นไปไกลแสนไกล ไม่ต้องมาเสียเวลาฝีกฝนร่างกายให้เสียเวลา สู้เอาเวลาไปหาน้องเจี๊ยบดีกว่า
ลองโทรศัพท์หาเอกชัยเพื่อนรัก เขาก็ยังไม่ว่างเพราะยังไม่เที่ยงวันเลย ปกติจะเจอกันก็โน่น...แดดร่มลมตก แต่เขาคงไม่รอให้เย็นถึงขนาดนั้น อยู่ในห้องพักก็ไม่มีอะไรทำ อย่ากระนั้นเลย พอคิดได้ก็ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ออกจากโรงแรม เดินทางไปร้านอาหารในสโมสรทันที จะขึ้นเวทีชกกับภรรยาทั้งที มันต้องทำอารมณ์ให้แจ่มใส
เขาชอบร้านอาหารในสโมสรแห่งนี้ เพราะมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูง บรรยากาศดี อาหารไม่แพง ธาราคุ้นเคยกับพนักงานสาวน้อง ๆ มาเป็นเวลาหลายปีก่อนจะแต่งงานเสียอีก เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจกับเพื่อนฝูง ที่มักจะนัดกันมาที่นี่เสมอ ที่สำคัญคือ ถึงจะออกลีลาหมาหยอกไก่กับสาวๆ พนักงานในร้านแต่ก็ไม่เคยสานความสัมพันธ์ให้เกินเลยพูดคุยโน่นนี่นั่นตามประสา แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
“ผู้หญิงก็เหมือนดอกไม้ แค่มองก็สุขใจ ไม่ต้องเด็ดดมชมเชยเอามาเป็นเจ้าของ เสียค่าดูแลรักษา” เขาเคยประกาศจุดยืนของตัวเองในวงเหล้าก่อนจะแต่งงานไม่เท่าไร
“ที่พูดน่ะแน่ใจเหรอ” พวกเพื่อนพากันถามอย่างไม่เชื่อถือ ธารายืดอก ประกาศต่อไปอย่างมั่นใจ
“จริงแท้แน่นอนที่สุด สาว ๆ ทุกคน...พวกเธอก็เหมือนภาพเขียนสวยงามราคาแพง แขวนประดับตามพิพิธภัณฑ์ เราก็เพียงเดินดูชื่นชมเข้าถึงความงาม อาจถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก แต่...คงไม่ถึงกลับลงทุนซื้อกลับมาที่บ้าน”
“ทำไมวะ”
“ม้นแพงโว้ย...” พูดแล้วก็พากันเฮฮาหัวเราะอย่างสนุกสนาน เป็นที่ถูกอกถูกใจตามประสาบรรดาหนุ่ม
“แล้วยังมีอีกนะ ผู้หญิงก็เหมือนนม”
“เฮ้ย ไอ้ธา แกพูดดี ๆ นะ หมายความว่ายังไง” พวกเพื่อนพากันโวยวาย เพราะความหมายมันคาบลูกคาบดอกชอบกล
“ฟังให้จบก่อนสิวะ อย่ามองไปทางไม่ดี ความหมายของข้าคือ ผู้หญิงเหมือนนมที่อาจจะเป็นนมจากแม่โคพันธุ์ดี หรือนมกล่องก็ได้ ถ้าแกคิดสั้นแต่งงาน ก็เหมือนอยากกินนมวัว โดยที่แกต้องลงทุนซื้อแม่โคพันธ์ุนมมาเลี้ยงด้วย เสียค่าดูแลรักษาเลี้ยงดู แต่...ถ้าซื้อนมกล่องกิน ก็ไม่ต้องซื้อนมกล่องมาดูแลจริงไหมวะ แล้วไอ้การซื้อนมกล่อง เราจะเลือกเปลี่ยนยี่ห้อไหนก็ได้ จะกินตอนไหนก็ได้ มากน้อยตามใจ ไม่จำเจ กินแล้วก็ทิ้งกล่องไป ไม่ต้องเก็บเอามาบูชา นี่คือข้อปรัชญาของข้าละ”
บรรดาเพื่อนพอฟังแล้วตั้งพากันพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แม้แต่คนที่กำลังมีโคนมอยู่ในบ้านก็ยังเห็นด้วย
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ธาราก็แต่งงานกับนิจพร หักปากกาด้ามเซียน หักหน้าตัวเอง เพราะกลายเป็นคนซื้อโคพันธุ์นมมาเลี้ยงเสียเอง ทั้งที่นมกล่องก็ไม่เคยได้กิน! ธารายอมรับว่า เขาหลงรักนิจพรตั้งแต่เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก เธอเป็นคนผิวขาว สวยอย่างที่เขาเคยวาดหวังเอาไว้ในใจ และมีอารมณ์ขันยิ้มแย้มแจ่มใส มีมุกแบบแปลก ๆ ต่างจากผู้หญิงคนอื่น นั่นเองเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงชีวิต
เธอทำงานอยู่บริษัทเดียวกับเขาแต่ต่างสาขากัน หลังจากเพียรพยายามตามจีบตามตื้ออยู่หลายเดือน เธอจึงตอบตกลงยอมแต่งงานกับเขา ท่ามกลางความอกหักของหนุ่มคู่แข่งหลายคน และแน่นอนว่าหลังจากนั้น ก็ถูกเพื่อนเอาเรื่องการแต่งงานของมนุษย์ดื่มนมไปล้อเลียน วิพากษ์วิจารณ์ ถากถางกันอย่างสาแก่ใจ ไหนบอกว่าจะเลือกกินนมกล่อง จะขอแค่ดูภาพสวย จะขอแค่ดูดอกไม้ แล้วเป็นไง ซื้อของดีมีราคามาเสียเอง
นี่ละ...ที่บรรดาเพื่อนทั้งหลาย ค่อนแคะว่าธาราเป็นคนมือถือสากปากดื่มเหล้า ทุกวันนี้เรื่องของธาราก็ยังถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นพูดคุยอยู่เป็นระยะและเพราะความเป็นคนติดเพื่อนมาก่อน ชอบเที่ยวแต่กลางคืน ในขณะที่นิจพรตรงกันข้ามกับเขาทุกอย่าง เธอไม่ชอบเที่ยว แต่คอยตรวจจับพฤติกรรมของเขาอย่างเข้มงวด ทำให้ทั้งคู่เริ่มมีข้อโต้แย้งกันเรื่อย ๆ
คนหนึ่งอยากทำตัวอิสระเหมือนก่อนแต่งงาน คนหนึ่งไม่ยอมพอสงครามเริ่มก่อ ย่อมมีแนวร่วมเข้ามาสนับสนุนแต่ละฝ่าย ญาติพี่น้องพากันออกหน้ามาเสนอแนะ โน่น... นี่... นั่น...
จากสงครามระหว่างบุคคล ขยายกลายเป็นสงครามใหญ่มากขึ้นทุกที จนท้ายที่สุด นำไปสู่การท้าดวลแบบไม่ตั้งใจ ขึ้นไปชกกันบนเวทีมวยให้รู้แล้วรู้รอด
ตอนที่นิจพรส่งเอกสารฉบับสำคัญในการท้าชก ความจริงธาราก็พอรู้อยู่หรอกว่าภรรยาตัวเองแกล้งประชด แต่เขาคิดจะซ้อนแผน โดยการทำไม่รู้ไม่ชี้ ทำเป็นลงชื่อในสัญญาท้าชก โดยหวังว่านิจพรจะตกใจ ถอดใจล้มเลิกสัญญา แต่กลายเป็นว่าทุกอย่างเหมือนเลยตามเลย เธอเอาจริง นี่เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของธารา ทำให้ธาราต้องตกเวทีพลอยโจนเหมือนกัน
ซึ่งหลังจากนั้น ผลของสัญญาทำให้ฝ่ายผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย มาประชุมกันอยู่ที่ค่ายมวย อิเกิ้ง เพื่อประชุมหารือในการตั้ง กฎ กติกา มรรยาท เงื่อนไข ข้อแม้ต่าง ๆ ที่เหมาะสม การประชุมเป็นไปอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน จนพวกญาติผู้ใหญ่แทบจะเปิดฉากตะลุมบอน ดวลเดือดเลือดสาดกันเสียเอง
ร้อนถึงตำรวจ ทนายความ ต้องเข้ามาเป็นตัวกลาง นั่นละ... ความวุ่นวายทางการบ้านจึงยุติลง หนังสือสัญญากลายเป็นข้อตกลงอย่างเป็นทางการในที่สุด
นิจพรเอาจริง ถึงกับลงทุนลาพักร้อน มาฝีกมวยกับค่ายมวยของคุณลุงอย่างเอาเป็นเอาตาย
ศึกมหาวุ่นวายครั้งนี้ จึงน่าจะเป็นครั้งแรกของโลก ที่สามีและภรรยา ขึ้นสังเวียนเพื่อชกมวยกันอย่างเป็นทางการ กองเชียร์แต่ละฝ่ายก็มั่นใจในคนของตน มีการวางเดิมพันนอกรอบกันอีกต่างหาก ข่าวการชกแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว
ธาราชนะ นิจพรจ่ายเงินหนึ่งล้าน ยอมเซ็นใบหย่า
นิจพรชนะ ธาราจ่ายหนึ่งล้าน พร้อมต้องยอมทำตามคำสั่งของนิจพรเป็นเวลาหนึ่งปี
มันคือ ‘ศึกวันสู้เมีย’ ในฝั่งของธารา และคือ ‘ศึกสั่งสอนผัว’ ในฝั่งของนิจพร
ธาราขับรถตรงมาที่ร้านอาหารของสโมสร วันนี้เขาอยากมีเพื่อนคุย จะเป็นใครก็ได้ แต่จะให้ดีต้องเป็นน้องเจี๊ยบคนน่ารักคนนั้น ขณะที่เลี้ยวรถเข้าลานจอดรถ สายตาของเขาก็เห็นภาพที่ไม่ควรจะเป็นไปได้
เขาจำได้ดีว่ามีรถยนต์คันหนึ่ง เหมือนรถของภรรยาไม่มีผิด
ยัยนิดตัวแสบควรจะอยู่ค่ายมวยอิเก้งไม่ใช่เหรอ แต่พอดูป้ายทะเบียนแล้วก็เป็นการยืนยันประจักษ์ชัดเจนว่า เป็นรถของนิจพรอย่างไม่ต้องสงสัย นี่มันสถานที่ของเขานะ ยัยนิดตัวแสบมาทำไม...
ธาราหมุนซ้ายหันขวาพักหนึ่ง เริ่มรู้สึกถึงลางสังหรณ์อัปมงคล ไม่รู้ว่าภรรยาคนเก่งจะมาไม้ไหน ถึงกล้าบุกเข้ามาถ้ำเสือธารา
ร้านอาหารมีผนังด้านทางเข้าเป็นกระจกใส ชายหนุ่มเดินไปดูอย่างระมัดระวังตัว ป้องมือกันแสงมองผ่านกระจกเข้าไปแล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อมองเห็นภาพที่ไม่คาดคิด
นิจพรอยู่ในร้านอาหารของสโมสรจริง ๆ แต่ที่ร้ายกาจคือ เธอมากับหนุ่มหน้าอ่อนกว่าหลายปี ทั้งคู่นั่งกินอาหารเที่ยงใกล้ชิดกันราวกับคนรัก! ธารารู้สึกว่าความดันโลหิตวิ่งขึ้นทะลุพิกัดทันที หนอย... ยัยนิด มันจะมากเกินไปแล้วนะ กล้าขนาดควงหนุ่มหล่อหน้าอ่อน...เข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว คิดจะกินเด็กหรือไง
เกือบจะถลาเข้าไปแล้ว ถ้าสายตาไม่บังเอิญเห็นคนแปลกหน้าสองสามคน ยืนอยู่ใกล้ประตูทางเข้าด้วยท่าทางไม่น่าไว้ใจ คนพวกนี้ไม่ใช่คนของสโมสรและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ทำให้ชายหนุ่มลังเลใจ พวกนี้อาจเป็นคนคุ้มกันของภรรยาก็เป็นได้ ทำให้ต้องพยายามสงบใจ ตรวจดูสถานการณ์โดยทั่วไป
ขนาดของห้องอาหารกว้างยาวไม่ถึงสิบเมตร แค่เขาเปิดประตูเข้าไป ก็เข้าสู่ระยะพิฆาตทันทีเพราะไม่มีอะไรกางกั้น สิบเมตรอันตรายทำงานทันที คนที่เป็นฝ่ายเดินเข้าหาจะถือว่าเป็นฝ่ายผิด ทำให้ชายหนุ่มหันรีหันขวางอยู่ด้านนอก ไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้าไป กลัวว่าเสือจะเข้าไปติดจั่น
ภาพที่เห็นวันนี้นิจพรแต่งตัวสวย กระโปรงสีดำสั้น เสื้อสีขาวเหมือนจงใจไม่ติดกระดุมเม็ดบน
ถึงไม่ได้เข้าไปมองใกล้ ๆ ก็พอจะรู้ว่าเนินอกอวบอิ่มจะต้องโผล่ออกมาเป็นเป้าสายตาของพลโลกแน่นอน
นี่เธอกล้าแต่งตัวอ่อยเหยื่อขนาดนั้น! และแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจ้าหนุ่มหน้าอ่อนที่นั่งตรงกันข้ามมันจะจ้องมองจนแทบถลนเพียงใด! นั่นคือความคิดที่ระอุพล่านในความรู้สึก ไม่ต้องบอกก็รู้เรื่องแบบนี้ถนัดนักแล