.
จากการเดินทางมากว่ายาวนานของ
“เฟรเดอริค คองสตองท์” (Frederique Constant) เครื่องบอกเวลาสัญชาติสวิส สู่ผลงานสุดคลาสสิก คงเอกลักษณ์เหนือกาลเวลาที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ ถึงเวลาแล้วที่คุณจะได้สัมผัสกับความล้ำค่าของกลไกแบบฉบับนาฬิกาสวิตฯแท้ ที่มาพร้อมความหรูหรา สง่างาม บนข้อมือของคุณเอง
แบรนด์นาฬิกาที่ถือกำเนิดขึ้นในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ก่อตั้งบริษัทในปี 1988 โดยสามีภรรยาคู่หนึ่ง คือ Peter Constant Stas และ Aletta Francoise Frederique Bax ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างนาฬิกา กลไกจักรกลสวิสแบบดั่งเดิม คุณภาพสูง ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ได้ชื่นชมความหรูหราของแบรนด์นาฬิกาสวิสเมด 100% ได้มากยิ่งขึ้น
Collection ดัง อย่าง Heart Beat นาฬิกาจักรกล รุ่นแรกที่มีการเปิดช่องส่วนบนหน้าปัด ให้มองเห็นการทำงานของ Balance Wheel ของเครื่องได้ ก็ถือกำเนิดขึ้น จากความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นถึงคุณค่าแห่งนาฬิกาจักรกล ที่แตกต่างจากเครื่อง Quartz
ความก้าวหน้าอีกขั้นของ Frederique Constant ก็คือการเริ่มพัฒนาเครื่อง In House ของตนเอง เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในวงการอย่างมั่นคง เครื่องไขลาน In house เครื่องแรกสำเร็จเสร็จสิ้น และนำมาใช้เมือ่ปี 2004 ใน รุ่น Heart Beat Manufacture ก่อนจะต่อยอด ด้วยการเพิ่ม Function ต่างๆ และออกรุ่นต่อมา ซึ่งก็มีทั้งเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ ไปจนถึงเครื่องที่บรรจุจักรกล Tourbillon สุดยอดแห่งความเที่ยงตรง
ในปี 2006 Frederique Constant ได้เดินเครื่องการผลิตที่โรงงานของตัวเอง ที่ตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา ดินแดนแห่งการผลิตนาฬิการะดับสูงของสวิส เคียงคู่กับแบรนด์นาฬิกาดังอีกหลายแบรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในแถบเดียวกัน
ปัจจุบัน Frederique Constant มี Collection นาฬิกาออกมาให้เลือกหลากหลาย ตามความต้องการของทั้งคุณสุภาพบุรุษ และคุณสุภาพสตรี โดยแต่ละแบบล้วนบรรจงใส่รายละเอียดแห่งความเป็นนาฬิกาสวิสเข้าไป อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่การออกแบบ ความประณีตในการผลิต การขัดแต่ง ไปจนถึงงานลวดลายต่างๆ
จุดเด่นสำคัญ ของแบรนด์ Frederique Constant
In House Manufacture ที่ผ่านการออกแบบ ผลิตทุกชิ้นส่วนกลไก และประกอบขึ้น โดยช่างประกอบนาฬิกาที่มีความชำนาญ ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน อย่างรุ่น Flyback Chronograph Manufacture ที่ใช้เวลาพัฒนากลไกการทำงานถึง 6 ปีเต็ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของนาฬิกาให้ยาวนานขึ้น มีการใช้ Selicium Impluse Roller และ Escape Wheel ที่ทำให้การทำงานของนาฬิกามีเสถียรภาพมากขึ้นเพราะมีน้ำหนักเบา และไม่ต้องหยอดน้ำมัน
จุดเด่นอีกด้านของ Frederique Constant คือ เป็นนาฬิกาที่ราคาจับต้องได้ หรือ Accessible Luxury โดย Frederique Constant เป็นความหรูหรา ที่สามารถเข้าถึงได้ ด้วยดีไซน์คลาสสิก สวยงาม ประณีต ละเอียดทุกขั้นตอนการทำนาฬิกา และด้วยการมีดีไซน์หลากหลายแบบ ทำให้กลายเป็นจุดเด่นอีกด้าน ที่สามารถให้เลือกสรรสิ่งที่เหมาะสมที่สุดในการสวมใส่ เพื่อให้เข้าถึงบุคลิก ไลฟ์สไตล์ บ่งบอกความเป็นตัวตนได้อย่างลงตัว อย่างรุ่น Vintage Healey Rally Automatic นาฬิกาสไตล์ Sport Vintage ที่มีดีไซนน์คลาสสิก ประสานความสปอร์ตลงตัว ซึ่งผลิตเพียง 2,888 เรือนทั่วโลก เท่านั้น
มาดูกันว่านาฬิการุ่นที่อยากจะแนะนำมีเรือนไหนบ้าง
รุ่นแรกก็คือ
Classic Tourbillon Perpetual Calendar Limited มีแค่ 88 เรือนในโลก จัดอยู่ในนาฬิกาตระกูล Manufacture ซึ่งคำว่า Manufacture คือนาฬิกาที่ผ่านการออกแบบ ผลิตทุกชิ้นส่วนกลไกจักร และประกอบโดยช่างประกอบนาฬิกาประสบการณ์สูง ที่ประกอบด้วยความใส่ใจ ประณีต พิถีพิถัน สมกับสโสแกนของแบรนด์ที่ต้องการสื่อว่า Live Your Passion โดยในกล่องเล็กๆของ Tourbillon จะประกอบด้วยชิ้นส่วนมากกว่า 80 ชึ้น จึงเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกหรือ Master Piece นั่นเอง
Tourbillon ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดการคลาดเคลื่อนของเวลา เป็นกลไกที่มีความซับซ้อนระดับสูงสุดหนึ่งในสาม โดยออกแบบให้กลไกการทำงานกลางเป็นอิสระ เพื่อลดการต้านแรงโน้มถ่วงโลก แม้ปัจจุบันจะมีนาฬิกาแบบ Digital ที่มีความเที่ยงตรงมากขึ้นแล้วก็ตาม แต่นาฬิกาแบบ Tourbillon ก็ยังถูกวางตำแหน่งคุณค่า ว่าเป็นศิลปะแห่งเครื่องนาฬิกาชั้นสูง ซึ่งราคา Tourbillon ส่วนใหญ่จะสูงเป็นหลักล้าน Classic Tourbillon ของ Frederique Constant มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ กระจก Crystal Sapphire กันน้ำ 30 เมตร และสำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง มาในราคา 924,000 บาท
Classic Worldtimer Manufacture
Classic Worldtimer Manufacture รุ่นนี้เป็นหนึ่งใน Best Selling ของแบรนด์ ด้วยหน้าตา การดีไซน์หน้าปัดที่
ลงตัว สวยงาม และเป็นเครื่องกลไกนาฬิกา In House Manufacture โดยรุ่น Classic Worldtimer Manufacture มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ กระจก Crystal Sapphire สำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง โดยสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าเลือกรุ่นนี้ เป็นเพราะราคาที่จับต้องได้ และยังสวยงาม หรูหราเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นในระดับเดียวกัน
Slimline Power Reserve Manufacture
รุ่นถัดมา คือรุ่น
Slimline Power Reserve Manufacture รุ่นนี้มีหน้าปัดดีไซน์คลาสสิก แสดงเวลา Power Reserve ผ่านตัวเลข พื้นผิวหน้าปัดดีไซน์ Sunray สะท้อนแสงเงามุมต่างๆ เพิ่มความสวยงามสะดุดตาของหน้าปัด จุดเด่นของรุ่นนี้ คือการสำรองพลังงานสูงสุดถึง 50 ชั่วโมง สูงที่สุดในแบรนด์ แต่ยังคงขนาดตัวเรือนที่บาง มีเข็มชี้บอกพลังงานที่เหลือผ่านหน้าปัด ไม่ต้องกังวลว่านาฬิกาจะลานหมดอีกต่อไป Slimline Power Reserve Manufacture มีหน้าปัดขนาด 40 มิลลิเมตร มาในราคา 120,000 บาท สำหรับตัวเรือน Stainless Steel และ 131,000 บาทสำหรับตัวเรือน Rose gold
และรุ่นที่เป็นที่นิยมอีกรุ่นหนึ่ง ซึ่งถูกเลือกสวมใส่โดย Gwyneth Paltrow นักแสดงชาวอเมริกัน ก็คือ
Slimeline Moonphase Stars Manufacture ออกแบบโดย Mrs. Aletta Stars หนึ่งในผู้ให้กำเนิดแบรนด์ Frederique Constant นาฬิการุ่นนี้คงความคลาสสิกหรูหรา ตามแบบฉบับของ Frederique Constant อย่างคบถ้วน คุณสมบัติเด่นก็คือการ ผลิตชิ้นส่วน การออกแบบ และกลไกเครื่อง movement ทั้งหมดเป็น Inhouse Manufacture ตัวเรือนประกอบด้วยเพชร 60 เม็ด จัดวางบนขอบตัวเรือนที่มีหน้าปัดขนาด 38.8 มิลลิเมตร โชว์วงพระจันทร์ที่ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ฝาหลังโชว์กลไกการทำงานของเครื่อง โดยเครื่อง Inhouse 701 สามารถควบคุม ตั้งค่า Function ต่างๆภายใต้กลไกเม็ดมะยมปุ่มเดียว นาฬิการุ่นนี้มาในตัวเรือน rose gold สายหนังจระเข้สีน้ำเงินเคลือบเงา ราคา 176,000 บาท
และอีกรุ่นที่จะแนะนำ คือ
Slimline Moonphase Manufacture นาฬิกา Inhouse Manufacture ที่ผ่านการออกแบบเครื่องกลไก ผลิต และประกอบโดยช่างประกอบนาฬิกาผู้ผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน รุ่นนี้ออกแบบโดย Mr. Pim Koslang นาฬิกา Slimline Moonphase รุ่นนี้มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ ฝาหลังโชว์กลไกการทำงานของเครื่อง งดงามคลาสสิกลงตัว ด้วยราคา 133,500 บาท
รุ่น Classic Art Deco
สำหรับคุณสุภาพสตรี ขอแนะนำเป็นรุ่น
Classic Art Deco รุ่นใหม่ล่าสุด จากแรงบันดาลใจในงานสังคมหรูหราช่วงปี 1920 รังสรรค์เป็นความงดงามหรูหราเหนือกาลเวลาที่ผู้หญิงทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ดีไซน์วงรีรูปไข่ งดงามลงตัวบนข้อมือคุณสุภาพสตรี หน้าปัดออกแบบลวดลายศิลปะกิโยเช่
และตัวเรือนทรงกลมเกลี้ยงไร้รอยสะดุดขนาด 30.0 มิลลิเมตร พร้อมขาสายแบบก้านแขวนทรงแท่งที่ให้จุดบรรจบระหว่างขาสายกับตัวเรือนสัมผัสกันน้อยที่สุด เพื่อคงรูปความกลมกลึงของตัวเรือนไว้ให้ได้มากที่สุด แต่คงรักษาความแข็งแรงบนิเวณจุดสัมผัสเอาไว้อย่างเยี่ยมยอด และเสริมเสน่ห์ความงามด้วยการสลักลายร่องเป็นเส้นตรงแนวตั้งเสมอกันรอบขอบข้างตัวเรือน ในวัสดุที่เลือกได้ทั้งสเตนเลสสตีล และสเตนเลสสตีลสลับสเตนเลสสตีลเคลือบทองแบบสองกษัตริย์ ในแบบปกติและประดับเพชรหรูน่ารักบริเวณขั้วขาสาย กระจกหน้าปัดใช้คริสตัลแซพไฟร์ กันน้ำได้ 30 เมตร
บอกเวลาผ่านตัวเลขโรมัน หน้าปัดสีน้ำเงินและขาวมุก มาในขอบตัวเรือนสีทองโรสโกลด์ งดงามหรูหราแบบคลาสสิก และมีหน้าปัดสีขาวมุกและมาในขอบตัวเรือนสีเงิน เรียบง่ายแต่คงความคลาสสิก สวมใส่ได้ทุกโอกาส เม็ดมะยมเกลียว ประดับพลอย เพิ่มความวินเทจ รุ่นเพชร มีเพชรล้อม 76 เม็ด ขับเคลื่อนด้วยกลไกระบบ Quartz ประดับพลอย 7 ชิ้น หน้าปัดขนาด 24.5 มิลลิเมตร กระจก Sapphire กันรอยขีดข่วน
และนี่คือทั้งหมดที่จะแนะนำให้รู้จักกับแบรนด์นาฬิกา Frederique Constant เพื่อประกอบการเลือกรุ่นที่เหมาะสม เพื่อเสริมบุคคลิก บ่งบอกถึงความหรูหรา และรสนิยมการเลือกเครื่องบอกเวลาอันทรงคุณค่าได้อย่างชาญฉลาด
ขอขอบคุณเจ้าของคลิปรีวิว : Frederique Constant Worldtimer Manufacture นาฬิกาสุดหรูที่ดูเวลาได้ทุกประเทศ! - Pond Review
ทั้งนี้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ Frederique Constant ประเทศไทยได้ทางเพจ Facebook และ Instagram: Frederique Constant Thailand หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บริษัทศรืทองพาณิชย์ จำกัด โทร 02 694 1888 หรือสามารถเลือกรับชมนาฬิกา Frederique Constant ได้ที่เคาน์เตอร์แบรนด์นาฬิกา Frederique Constant ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม สยามทาคาชิมาย่า เซ็นทรัล และเดอะมอลล์
[Advertorial]
[BR] [Frederique Constant ] ค้นหานิยามความล้ำค่าที่ทุกคนเข้าถึงได้ แบรนด์นาฬิกาตระกูล Swiss Made “เฟรเดอริค คองสตองท์”
ความก้าวหน้าอีกขั้นของ Frederique Constant ก็คือการเริ่มพัฒนาเครื่อง In House ของตนเอง เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นที่จะเติบโตในวงการอย่างมั่นคง เครื่องไขลาน In house เครื่องแรกสำเร็จเสร็จสิ้น และนำมาใช้เมือ่ปี 2004 ใน รุ่น Heart Beat Manufacture ก่อนจะต่อยอด ด้วยการเพิ่ม Function ต่างๆ และออกรุ่นต่อมา ซึ่งก็มีทั้งเครื่องขึ้นลานอัตโนมัติ ไปจนถึงเครื่องที่บรรจุจักรกล Tourbillon สุดยอดแห่งความเที่ยงตรง
ในปี 2006 Frederique Constant ได้เดินเครื่องการผลิตที่โรงงานของตัวเอง ที่ตั้งอยู่ในเมืองเจนีวา ดินแดนแห่งการผลิตนาฬิการะดับสูงของสวิส เคียงคู่กับแบรนด์นาฬิกาดังอีกหลายแบรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในแถบเดียวกัน
ปัจจุบัน Frederique Constant มี Collection นาฬิกาออกมาให้เลือกหลากหลาย ตามความต้องการของทั้งคุณสุภาพบุรุษ และคุณสุภาพสตรี โดยแต่ละแบบล้วนบรรจงใส่รายละเอียดแห่งความเป็นนาฬิกาสวิสเข้าไป อย่างเต็มเปี่ยม ตั้งแต่การออกแบบ ความประณีตในการผลิต การขัดแต่ง ไปจนถึงงานลวดลายต่างๆ
In House Manufacture ที่ผ่านการออกแบบ ผลิตทุกชิ้นส่วนกลไก และประกอบขึ้น โดยช่างประกอบนาฬิกาที่มีความชำนาญ ด้วยความพิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน อย่างรุ่น Flyback Chronograph Manufacture ที่ใช้เวลาพัฒนากลไกการทำงานถึง 6 ปีเต็ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของนาฬิกาให้ยาวนานขึ้น มีการใช้ Selicium Impluse Roller และ Escape Wheel ที่ทำให้การทำงานของนาฬิกามีเสถียรภาพมากขึ้นเพราะมีน้ำหนักเบา และไม่ต้องหยอดน้ำมัน
มาดูกันว่านาฬิการุ่นที่อยากจะแนะนำมีเรือนไหนบ้าง
รุ่นแรกก็คือ Classic Tourbillon Perpetual Calendar Limited มีแค่ 88 เรือนในโลก จัดอยู่ในนาฬิกาตระกูล Manufacture ซึ่งคำว่า Manufacture คือนาฬิกาที่ผ่านการออกแบบ ผลิตทุกชิ้นส่วนกลไกจักร และประกอบโดยช่างประกอบนาฬิกาประสบการณ์สูง ที่ประกอบด้วยความใส่ใจ ประณีต พิถีพิถัน สมกับสโสแกนของแบรนด์ที่ต้องการสื่อว่า Live Your Passion โดยในกล่องเล็กๆของ Tourbillon จะประกอบด้วยชิ้นส่วนมากกว่า 80 ชึ้น จึงเปรียบเสมือนงานศิลปะชิ้นเอกหรือ Master Piece นั่นเอง
Tourbillon ถูกสร้างขึ้นเพื่อลดการคลาดเคลื่อนของเวลา เป็นกลไกที่มีความซับซ้อนระดับสูงสุดหนึ่งในสาม โดยออกแบบให้กลไกการทำงานกลางเป็นอิสระ เพื่อลดการต้านแรงโน้มถ่วงโลก แม้ปัจจุบันจะมีนาฬิกาแบบ Digital ที่มีความเที่ยงตรงมากขึ้นแล้วก็ตาม แต่นาฬิกาแบบ Tourbillon ก็ยังถูกวางตำแหน่งคุณค่า ว่าเป็นศิลปะแห่งเครื่องนาฬิกาชั้นสูง ซึ่งราคา Tourbillon ส่วนใหญ่จะสูงเป็นหลักล้าน Classic Tourbillon ของ Frederique Constant มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ กระจก Crystal Sapphire กันน้ำ 30 เมตร และสำรองพลังงาน 38 ชั่วโมง มาในราคา 924,000 บาท
Classic Worldtimer Manufacture
และอีกรุ่นที่จะแนะนำ คือ Slimline Moonphase Manufacture นาฬิกา Inhouse Manufacture ที่ผ่านการออกแบบเครื่องกลไก ผลิต และประกอบโดยช่างประกอบนาฬิกาผู้ผ่านประสบการณ์มาอย่างยาวนาน รุ่นนี้ออกแบบโดย Mr. Pim Koslang นาฬิกา Slimline Moonphase รุ่นนี้มีหน้าปัดขนาด 42 มิลลิเมตร สายหนังจระเข้ ฝาหลังโชว์กลไกการทำงานของเครื่อง งดงามคลาสสิกลงตัว ด้วยราคา 133,500 บาท
รุ่น Classic Art Deco
และตัวเรือนทรงกลมเกลี้ยงไร้รอยสะดุดขนาด 30.0 มิลลิเมตร พร้อมขาสายแบบก้านแขวนทรงแท่งที่ให้จุดบรรจบระหว่างขาสายกับตัวเรือนสัมผัสกันน้อยที่สุด เพื่อคงรูปความกลมกลึงของตัวเรือนไว้ให้ได้มากที่สุด แต่คงรักษาความแข็งแรงบนิเวณจุดสัมผัสเอาไว้อย่างเยี่ยมยอด และเสริมเสน่ห์ความงามด้วยการสลักลายร่องเป็นเส้นตรงแนวตั้งเสมอกันรอบขอบข้างตัวเรือน ในวัสดุที่เลือกได้ทั้งสเตนเลสสตีล และสเตนเลสสตีลสลับสเตนเลสสตีลเคลือบทองแบบสองกษัตริย์ ในแบบปกติและประดับเพชรหรูน่ารักบริเวณขั้วขาสาย กระจกหน้าปัดใช้คริสตัลแซพไฟร์ กันน้ำได้ 30 เมตร
ทั้งนี้สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแบรนด์ Frederique Constant ประเทศไทยได้ทางเพจ Facebook และ Instagram: Frederique Constant Thailand หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บริษัทศรืทองพาณิชย์ จำกัด โทร 02 694 1888 หรือสามารถเลือกรับชมนาฬิกา Frederique Constant ได้ที่เคาน์เตอร์แบรนด์นาฬิกา Frederique Constant ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม สยามทาคาชิมาย่า เซ็นทรัล และเดอะมอลล์
[Advertorial]
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน