คือเราคบกับแฟนมา4 ปี พอเราได้บรรจุงานที่มั่นคงได้ เราก็เอาทองของตัวเองของแม่ไปจำนำเพื่อลงทุนร้านขายของกินร้านนึง โดยเราลงทุน แฟนเป็นคนขาย แรกๆเราก็ช่วย แต่สักพักเราก็ไม่ไหว เพราะตัวเองก็มีงานประจำอยู่แล้ว ปล่อยให้แฟนจัดการร้านไปเอง
พอได้ปีกว่า เราตัดสินใจกู้ซื้อที่ดินพร้อมปลูกบ้านด้วยงานที่ทำมันกู้ง่าย เลยรีบกู้ตอนอายุยังไม่มาก เราเลือกของกันเองทุกอย่าง โดยแฟนจะเป็นคนคอยคุมงานช่าง คอยโทรสั่งของมาส่งเองเพื่อประหยัดค่าแรง เรากู้ซื้อชื่อเราคนเดียว และส่งคนเดียวหักตรงผ่านบัญชีเงินเดือนเลย
สร้างเสร็จก็อยู่กันไปสักพัก เริ่มมีปัญหากับแฟนเรื่อยๆ เขาก้าวร้าว หยาบคายกับแม่เราน้องเรา เขาคิดว่าเขาเหนื่อยกว่าเรา ทำงานมากกว่าเรา เงินหมุนไม่ทัน ทำให้ทะเลาะกันบ่อยๆ จะเลิกหลายครั้งละจนมีลูก จนในที่สุดเราก็ไม่ไหว ตัดสินใจบอกเลิกไล่เขาออกจากบ้าน แต่เขาบอกบ้านหลังนี้เขามีสิทธิ์ บ้านเขาหาที่ดินมา เขาคอยคุมงานก่อสร้าง บ้านนี้เป็นของเขา ถ้าเขาไม่ได้อยู่ เรากับลูก และคนอื่นๆต้องไม่ได้อยู่เหมือนกัน เขาจะฟ้องให้เราล้มละลาย ให้โดนไล่ออกจากงาน ในขณะที่เขาเอารถยนต์ไปขับใช้ทำงาน ซึ่งรถก็เป็นชื่อเรา และเขาบอกเราต้องเป็นคนผ่อนรถยนต์เอง เพราะบ้านเราก็ผ่อนเอง แต่บ้านเราอยู่ เขาเอารถไปขับ เพราะฉะนั้นเราต้องผ่อนค่ารถให้เขาด้วย เขาพยายามให้เราไม่เหลืออะไร ให้เราเสียอนาคตเลยก็ว่าได้ เขาใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่ต้องรับจ่ายภาระครอบครัว ให้เราจ่ายอยู่คนเดียวทั้งหมด ค่าบ้าน ค่ารถยนต์ ค่ารถมอเตอร์ไซค์ ค่าบัตรเครดิต ค่าเงินกู้สหกรณ์ ทั้งที่กู้มาใช้ด้วยกัน
เราพยายามบอกให้เขาช่วยจ่ายค่าใช่จ่ายบ้าง แต่เขาไม่ยอมจ่ายสักบาท เราก็ทวงค่าดูแลลูก เขาให้เดือนละ 500 เราก็บอกนะว่าถ้ามีเมียใหม่เราไม่ว่า แต่ต้องให้ความสำคัญกับลูกก่อน ลูกยังขวบกว่าอยู่เลย ค่านมค่าแพมเพิสจะหนักหน่อย เขาก็บอกไม่มีเงินอย่างเดียว จนเรามารู้ตอนหลัง เขามีเงินเที่ยวร้านเหล้า มีเงินบำเรอผู้หญิงคนอื่น เลิกกันไม่ถึงเดือนเขาผู้หญิงใหม่คบกันเป็นแฟน มีเงินไปเที่ยวตจว.ไกลๆ แต่กับลูกบอกไม่มีเงิน กับเราบอกไม่มีเงินมาช่วยค่าใช้จ่าย มันจุก เราได้แต่นอนร้องไห้ชีวิตทำไมต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้
เราควรทำไงต่อดี ชีวิตมันตัน หาเงินส่งทุกอย่างไม่ไหว