Fabbrica d'Armi Pietro Beretta หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Beretta เป็นบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาวุธปืนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงดำเนินกิจการ Beretta ก่อตั้งในราวๆต้นยุคปี 1500 โดยBartolomeo Beretta ซึ่งธุรกิจแรกคือการผลิตลำกล้องปืน Bartolomeo Beretta เป็นชาวอิตาลีเกิดที่หมู่บ้าน Gardone ริมแม่น้ำ Mella ในเมือง Gardone Val Trompia ในหุบเขา Trompia จังหวัด Brescia ในแคว้น Lombardy ซึ่งในยุคนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ สาธารณรัฐ Venetian ทางเหนือของอิตาลี ในปี 1490 เขาได้ก่อตั้งร้านทำลำกล้องปืนในบ้านเกิดของเขา Val Trompia ซึ่งเดิมในหุบเขา Trompia เป็นแหล่งแร่เหล็กและมีการถลุงแร่เหล็กมาใช้งานตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมัน ในยุคหลังจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา(Renaissance)ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางในการผลิตอาวุธของอิตาลี ซึ่งมีเหมืองแร่เหล็ก 15 แหล่ง และ โรงถลุงเหล็ก 8 โรง
หลักฐานเก่าแก่ที่สุดคือใบเสร็จรับเงินระบุปี1526 ที่มีชื่อของ Maestro di Canne (ช่างทำลำกล้องปืน) Bartolomeo Beretta ที่ได้รับเงินในการผลิตลำกล้องขายให้ Arsenal of Venice. จำนวน 185 ชิ้น เป็นเงิน 296 ducats ซึ่งปัจจุบันเอกสารถูกเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุโรงงาน Beretta ในGardone Val Trompia.
Bartolomeo Beretta ได้ถ่ายทอดการทำลำกล้องปืนให้กับลูกชายของเขาคือ Jacopo Beretta จากนั้นความรู้ได้ส่งต่อให้แก่ลูกชายคือ Giovannino Beretta (ดำเนินงานช่วง 1550 –1577) และต่อมาคือหลานของเขาคือ Giovan Antonio Beretta(ดำเนินงานในช่วง1577 –1649 ) ซึ่งการดำเนินงานในช่วงนี้อยู่ภายใต้ระบบ ระบบสมาคมอาชีพ (guild system) ซึ่งเป็นการผูกขาดการค้าระบบหนึ่ง(
https://hmong.in.th/wiki/Guild) ซึ่งธุรกิจของพวกเขาได้กอ่ตั้งเป็นบริษัทเป็นทางการในปี ในปี 1680. ซึ่งส่งต่อธุระกิจมาในครอบครัวในรุ่นถัดๆมาคือ
-Jacomo Beretta
- Lodovico Beretta
- Giuseppe Beretta
จนกระทั้งนโปเลียนสามรารถพิชิต สาธารณรัฐ Venetian ได้ในปี1797 ระบบสมาคมอาชีพจึงถูกยกเลิกไป แต่ครอบครัว Beretta ก็ยังดำเนินธุรกิจของพวกเขาและพัฒนางานมาเรื่อย ๆ ซึ่งได้รัยการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตลำกล้องที่มีฝีมือและคุณภาพสูงที่สุดใน Val Trompia ซึ่งดำเนินการต่อมาโดย
- Antonio Lodovico Beretta
- Giuseppe Antonio Beretta
- Piero Antonio Beretta
ในต้นยุค 1800 ได้ชื่อเป็นทางการคือ Fabbrica d’Armi Pietro Beretta(ปี1832) ซึ่ง Pietro Antonio Beretta (มีชีวิตในช่วงปี 1791 – 1853) ได้เดินทางทั่วอิตาลีเพื่อนำเสนอผลิตภัทร์ของเขาถึงแม้จพประสบความยากลำบากในช่วงสงครามก็ตาม
-Giuseppe Antonio Beretta (มีชีวิตในช่วงปี 1840 – 1903) ซึ่งเป็นลูกชายของ Antonio ได้สานต่อธุรกิจของบรรพบุรุษด้วยความยากลำบากโดยความพยายามส่งออกผลิตภัทร์ของพวกเขา โดยเขา ได้พัฒนาระบบการผลิตจนสามารถผลิตปืนได้ทั้งกระบอก ซึ่งมีการผลิตชิ้นส่วนต่างๆราว 7,000 ชิ้นและผลิตปืนได้ 300 ต่อปี ในปี 1860 ในยุคนี้ได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์เบเร็ตต้า “Beretta Museum” ซึ่งมาจากห้องแสดงปืน
จนถึงช่วงของ Piero Beretta เขารับช่วงต่อในปี 1903. และบริหารงานจนถึงปี 1957.รวม54ปี ในช่วงของเขา เขาได้พัฒนาธุรกิจโดยซื้อ บ. Mival ซึ่งในช่วงการบริหารงานในช่วงนี้ บ. Beretta เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากโดย โรงงานมีโรงไฟฟ้าเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถผลิตอาวุธปืนได้ถึง 8,000กระบอกต่อปี ซึ่งได้มีสัญญาจ้างจากรัฐบาลอิตาลี (Royal Army of Italy)
ในช่วงต้นยุค1910 บ. Beretta ได้รับสัญญาจ้างผลิตลำกล้องปืนกลแบบ FIAT, Model 1914(FIAT Revelli Modelo 1914) จำนวน 1,000 ชิ้นให้แก่ กองทัพอิตาลี(Royal Army of Italy) และได้ซื้อกิจการบริษัทผลิตอาวุธปืน Fabbrica d’Armi Lario, แล้วย้ายเครื่องจักรมาที่ Gardone Val Trompia. ซึ่งลูกชายทั้งสองของ Piero Beretta คือ Giuseppe Beretta. และ Carlo Beretta ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจ
ในปี1915 บ. Beretta ได้ออกแบบปืนพกกึ่งอัตโนมัติรุ่นแรกของบริษัทคือ Beretta Model 1915 ออกแบบโดย Tullio Marengoni ซึ่งมีการผลิต 4,000 กระบอกต่อเดือน ในช่วงท้ายๆของสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้ผลิตปืนพกสั้น ในช่วงWWI -WWII ได้แก่
-Beretta M1923
-Beretta 418
-Beretta M1934 / Beretta M1935
.ในปี1918 ปืนกลมือแบบ Beretta Model 1918 เป็นปืนกลมือของ บ.ที่กองทัพอิตาลีรับเข้าประจำการ
ในช่วงต่อมามีการพัฒนาปืนกลมือ ในช่วง WWII คือ
-Beretta Model 38
-Beretta Model 38A
-Beretta Model 38/42
-Beretta Model 38/44
ในปี1938 บ. Beretta เคยได้ผลิตปืนเล็กยาวแบบ Type I rifle ที่ออกแบบโดย Fabbrica d'Armi Terni ซึ่งการผลิตมีจุดประสงค์เพื่อขายให้แก่กองทัพจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น ในปี1938 -39 โดย ผลิตทั้งสิ้น 30,000 กระบอก และ Fabbrica Nazionale d'Armi ผลิตจำนวน 60,000 กระบอก ถูกนำออกจากอิตาลีโดยเรือดำน้ำแบบ U-boat ของเยอรมันในปี 1942
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บ. Beretta ได้ผลิตปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ Beretta BM-59 ซึ่งนำพื้นฐานมาจากปืนแบบ M1 Garands ซึ่งได้ถูกใช้งานโดยกองทัพอิตาลี ปืนหลายแบบของ Beretta ถูกนำไปใช้ทั้งในส่วนของพลเรือนและรัฐ ในหลายๆที่บนโลก
ตั้งแต่ช่วงสงครามเย็นได้ออกแบบปืนพกแบบ Beretta M1951, Beretta 70 series, Beretta Cheetah, Beretta 8000 , Beretta 90, Beretta 9000
ในปี1972 ยุคของ Ugo Gussalli Beretta ได้มีการก่อตั้ง Beretta U.S.A. Corp. ในมลรัฐ Maryland ประสบความสำเร็จกับ Beretta 92 ซึ่งถูกนำเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ในชื่อ M9 ในปี1985 .ในอิตาลีได้มีการประจำการปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AR70/223 ในช่วงปี 1972–1990 และ AR70/90: ประจำการในปี 1990 – ปัจจุบัน ประสบความสำเร็จปืนปืนกลมือแบบ Beretta M12
ในยุคของ Pietro Gussalli Beretta, Franco Gussalli Beretta และ Carlos Benito Beretta ได้ยกระดับธุรกิจเป็น Beretta Holding S.p.A ในปี 1990 ซึ่งมีธุรกิจ อาวุธปืน อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า ซึ่งมี บริษัทในเครือมากมายที่งในยุโรปและ อเมริกา
ในปัจจุบัน Beretta มีอาวุธปืนในแคตตาล๊อกได้แก่
Beretta ARX 160
Beretta ARX 200
Beretta PMX
Beretta Mx4 Storm
90 Series
APX Family
PX4 Storm Family
A300 Ultima Family
A400 Family
A400 Xtreme Plus Family
680 Family
690 Family
1301 Family
DT Family
Bobcat Family
Tomcat Family
Manurhin Revolvers
ซึ่ง บ. Fabbrica d'Armi Pietro Beretta S.p.A. เป็นของตระกูล Beretta มาอย่างยาวนานถึง กว่า 500 ปี ผ่านคนมาถึง 16 รุ่น และยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในตระกูลนี้ต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใด มา ณ. ที่นี้ครับ
Cr.
https://www.beretta.com/en-us/world-of-beretta/since-1526/
https://blog.cheaperthandirt.com/beretta-history-oldest.../
https://en.wikipedia.org/wiki/Beretta
#Beretta #ป_ปืน
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 862 ประวัติศาสตร์ของ Beretta
Fabbrica d'Armi Pietro Beretta หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Beretta เป็นบริษัทเอกชนผู้ผลิตอาวุธปืนที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ยังคงดำเนินกิจการ Beretta ก่อตั้งในราวๆต้นยุคปี 1500 โดยBartolomeo Beretta ซึ่งธุรกิจแรกคือการผลิตลำกล้องปืน Bartolomeo Beretta เป็นชาวอิตาลีเกิดที่หมู่บ้าน Gardone ริมแม่น้ำ Mella ในเมือง Gardone Val Trompia ในหุบเขา Trompia จังหวัด Brescia ในแคว้น Lombardy ซึ่งในยุคนั้นเป็นส่วนหนึ่งของ สาธารณรัฐ Venetian ทางเหนือของอิตาลี ในปี 1490 เขาได้ก่อตั้งร้านทำลำกล้องปืนในบ้านเกิดของเขา Val Trompia ซึ่งเดิมในหุบเขา Trompia เป็นแหล่งแร่เหล็กและมีการถลุงแร่เหล็กมาใช้งานตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมัน ในยุคหลังจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา(Renaissance)ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางในการผลิตอาวุธของอิตาลี ซึ่งมีเหมืองแร่เหล็ก 15 แหล่ง และ โรงถลุงเหล็ก 8 โรง
หลักฐานเก่าแก่ที่สุดคือใบเสร็จรับเงินระบุปี1526 ที่มีชื่อของ Maestro di Canne (ช่างทำลำกล้องปืน) Bartolomeo Beretta ที่ได้รับเงินในการผลิตลำกล้องขายให้ Arsenal of Venice. จำนวน 185 ชิ้น เป็นเงิน 296 ducats ซึ่งปัจจุบันเอกสารถูกเก็บไว้ที่หอจดหมายเหตุโรงงาน Beretta ในGardone Val Trompia.
Bartolomeo Beretta ได้ถ่ายทอดการทำลำกล้องปืนให้กับลูกชายของเขาคือ Jacopo Beretta จากนั้นความรู้ได้ส่งต่อให้แก่ลูกชายคือ Giovannino Beretta (ดำเนินงานช่วง 1550 –1577) และต่อมาคือหลานของเขาคือ Giovan Antonio Beretta(ดำเนินงานในช่วง1577 –1649 ) ซึ่งการดำเนินงานในช่วงนี้อยู่ภายใต้ระบบ ระบบสมาคมอาชีพ (guild system) ซึ่งเป็นการผูกขาดการค้าระบบหนึ่ง(https://hmong.in.th/wiki/Guild) ซึ่งธุรกิจของพวกเขาได้กอ่ตั้งเป็นบริษัทเป็นทางการในปี ในปี 1680. ซึ่งส่งต่อธุระกิจมาในครอบครัวในรุ่นถัดๆมาคือ
-Jacomo Beretta
- Lodovico Beretta
- Giuseppe Beretta
จนกระทั้งนโปเลียนสามรารถพิชิต สาธารณรัฐ Venetian ได้ในปี1797 ระบบสมาคมอาชีพจึงถูกยกเลิกไป แต่ครอบครัว Beretta ก็ยังดำเนินธุรกิจของพวกเขาและพัฒนางานมาเรื่อย ๆ ซึ่งได้รัยการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตลำกล้องที่มีฝีมือและคุณภาพสูงที่สุดใน Val Trompia ซึ่งดำเนินการต่อมาโดย
- Antonio Lodovico Beretta
- Giuseppe Antonio Beretta
- Piero Antonio Beretta
ในต้นยุค 1800 ได้ชื่อเป็นทางการคือ Fabbrica d’Armi Pietro Beretta(ปี1832) ซึ่ง Pietro Antonio Beretta (มีชีวิตในช่วงปี 1791 – 1853) ได้เดินทางทั่วอิตาลีเพื่อนำเสนอผลิตภัทร์ของเขาถึงแม้จพประสบความยากลำบากในช่วงสงครามก็ตาม
-Giuseppe Antonio Beretta (มีชีวิตในช่วงปี 1840 – 1903) ซึ่งเป็นลูกชายของ Antonio ได้สานต่อธุรกิจของบรรพบุรุษด้วยความยากลำบากโดยความพยายามส่งออกผลิตภัทร์ของพวกเขา โดยเขา ได้พัฒนาระบบการผลิตจนสามารถผลิตปืนได้ทั้งกระบอก ซึ่งมีการผลิตชิ้นส่วนต่างๆราว 7,000 ชิ้นและผลิตปืนได้ 300 ต่อปี ในปี 1860 ในยุคนี้ได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์เบเร็ตต้า “Beretta Museum” ซึ่งมาจากห้องแสดงปืน
จนถึงช่วงของ Piero Beretta เขารับช่วงต่อในปี 1903. และบริหารงานจนถึงปี 1957.รวม54ปี ในช่วงของเขา เขาได้พัฒนาธุรกิจโดยซื้อ บ. Mival ซึ่งในช่วงการบริหารงานในช่วงนี้ บ. Beretta เติบโตขึ้นเป็นอย่างมากโดย โรงงานมีโรงไฟฟ้าเป็นของตัวเอง ทำให้สามารถผลิตอาวุธปืนได้ถึง 8,000กระบอกต่อปี ซึ่งได้มีสัญญาจ้างจากรัฐบาลอิตาลี (Royal Army of Italy)
ในช่วงต้นยุค1910 บ. Beretta ได้รับสัญญาจ้างผลิตลำกล้องปืนกลแบบ FIAT, Model 1914(FIAT Revelli Modelo 1914) จำนวน 1,000 ชิ้นให้แก่ กองทัพอิตาลี(Royal Army of Italy) และได้ซื้อกิจการบริษัทผลิตอาวุธปืน Fabbrica d’Armi Lario, แล้วย้ายเครื่องจักรมาที่ Gardone Val Trompia. ซึ่งลูกชายทั้งสองของ Piero Beretta คือ Giuseppe Beretta. และ Carlo Beretta ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจ
ในปี1915 บ. Beretta ได้ออกแบบปืนพกกึ่งอัตโนมัติรุ่นแรกของบริษัทคือ Beretta Model 1915 ออกแบบโดย Tullio Marengoni ซึ่งมีการผลิต 4,000 กระบอกต่อเดือน ในช่วงท้ายๆของสงครามโลกครั้งที่ 1 และได้ผลิตปืนพกสั้น ในช่วงWWI -WWII ได้แก่
-Beretta M1923
-Beretta 418
-Beretta M1934 / Beretta M1935
.ในปี1918 ปืนกลมือแบบ Beretta Model 1918 เป็นปืนกลมือของ บ.ที่กองทัพอิตาลีรับเข้าประจำการ
ในช่วงต่อมามีการพัฒนาปืนกลมือ ในช่วง WWII คือ
-Beretta Model 38
-Beretta Model 38A
-Beretta Model 38/42
-Beretta Model 38/44
ในปี1938 บ. Beretta เคยได้ผลิตปืนเล็กยาวแบบ Type I rifle ที่ออกแบบโดย Fabbrica d'Armi Terni ซึ่งการผลิตมีจุดประสงค์เพื่อขายให้แก่กองทัพจักรวรรดิ์ญี่ปุ่น ในปี1938 -39 โดย ผลิตทั้งสิ้น 30,000 กระบอก และ Fabbrica Nazionale d'Armi ผลิตจำนวน 60,000 กระบอก ถูกนำออกจากอิตาลีโดยเรือดำน้ำแบบ U-boat ของเยอรมันในปี 1942
ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 บ. Beretta ได้ผลิตปืนเล็กยาวบรรจุเองแบบ Beretta BM-59 ซึ่งนำพื้นฐานมาจากปืนแบบ M1 Garands ซึ่งได้ถูกใช้งานโดยกองทัพอิตาลี ปืนหลายแบบของ Beretta ถูกนำไปใช้ทั้งในส่วนของพลเรือนและรัฐ ในหลายๆที่บนโลก
ตั้งแต่ช่วงสงครามเย็นได้ออกแบบปืนพกแบบ Beretta M1951, Beretta 70 series, Beretta Cheetah, Beretta 8000 , Beretta 90, Beretta 9000
ในปี1972 ยุคของ Ugo Gussalli Beretta ได้มีการก่อตั้ง Beretta U.S.A. Corp. ในมลรัฐ Maryland ประสบความสำเร็จกับ Beretta 92 ซึ่งถูกนำเข้าประจำการในกองทัพสหรัฐฯ ในชื่อ M9 ในปี1985 .ในอิตาลีได้มีการประจำการปืนเล็กยาวจู่โจมแบบ AR70/223 ในช่วงปี 1972–1990 และ AR70/90: ประจำการในปี 1990 – ปัจจุบัน ประสบความสำเร็จปืนปืนกลมือแบบ Beretta M12
ในยุคของ Pietro Gussalli Beretta, Franco Gussalli Beretta และ Carlos Benito Beretta ได้ยกระดับธุรกิจเป็น Beretta Holding S.p.A ในปี 1990 ซึ่งมีธุรกิจ อาวุธปืน อุปกรณ์กีฬา เสื้อผ้า ซึ่งมี บริษัทในเครือมากมายที่งในยุโรปและ อเมริกา
ในปัจจุบัน Beretta มีอาวุธปืนในแคตตาล๊อกได้แก่
Beretta ARX 160
Beretta ARX 200
Beretta PMX
Beretta Mx4 Storm
90 Series
APX Family
PX4 Storm Family
A300 Ultima Family
A400 Family
A400 Xtreme Plus Family
680 Family
690 Family
1301 Family
DT Family
Bobcat Family
Tomcat Family
Manurhin Revolvers
ซึ่ง บ. Fabbrica d'Armi Pietro Beretta S.p.A. เป็นของตระกูล Beretta มาอย่างยาวนานถึง กว่า 500 ปี ผ่านคนมาถึง 16 รุ่น และยังมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในตระกูลนี้ต่อไป
ขอบคุณที่ติดตามและขออภัยหากมีข้อผิดพลาดประการใด มา ณ. ที่นี้ครับ
Cr.
https://www.beretta.com/en-us/world-of-beretta/since-1526/
https://blog.cheaperthandirt.com/beretta-history-oldest.../
https://en.wikipedia.org/wiki/Beretta
#Beretta #ป_ปืน