พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 ปลุกระดมความมันส์ของแฟนลูกหนังตลอดสุดสัปดาห์นี้ ด้วยโปรแกรมถ่ายทอดสดอัดแน่น 3 ลีกดัง ที่แฟนบอลต้องไม่พลาด นำโดย ศึกบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก เชลซี พบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์ที่ 25 ก.ย. นี้ เวลา 18.30 น. ต่อด้วย 2 แมตช์เดือดจาก บุนเดสลีกา แอร์เบ ไลป์ซิก พบ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน เวลา 20.30 น. และ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค พบ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เวลา 23.30 น. จากนั้นมันส์กันต่อกับ ศึก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก วันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย. สุพรรณบุรี เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป
สุดสัปดาห์นี้ สปอร์ตไลต์ทุกดวงต่างสาดแสงไปที่เวที พรีเมียร์ลีก กับบิ๊กแมตช์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ สังเวียน สแตมฟอร์ดบริดจ์ กรุงลอนดอน เมื่อทีมที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง และน่าจับตามองที่สุดทีมหนึ่งในเวลานี้ อย่าง “สิงห์โตน้ำเงินคราม” เชลซี ของกุนซือ “โธมัส ทูเคิล” ที่นำโดย ดาวยิงสุดแกร่งอย่าง “โรเมลู ลูกากู” ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ภายใต้การนำทัพของ “เปป กวาร์ดิโอลา” โดยสถานการณ์ปัจจุบัน เชลซี คือหนึ่งใน 3 ทีม ที่ยังคงไม่แพ้ใคร นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา และยังผ่านทีมใหญ่มาแล้วถึง 3 แมตช์ ซึ่งผลงานเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก จากการบุกไปคว่ำ อาร์เซนอล 0-2 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 และบุกไปถล่ม สเปอร์ส 0-3 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมลงเล่น 5 นัด มี 13 แต้ม เท่ากับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสถานการณ์ยังเข้มข้นขึ้นไปอีก เมื่อ เชลซี และ ลิเวอร์พูล มีลูกได้เสียเท่ากัน ยิงได้ 12 เสีย 1 มีผลต่าง 11 ลูก ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ฤดูกาลนี้เปิดตัวได้ไม่สวยนัก บุกไปพ่าย สเปอร์ส 1-0 แม้จะกลับมาโชว์โหดด้วยการเปิดบ้านถล่ม นอริช และ อาร์เซนอล 5-0 บุกไปเชือด เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาพลาดท่าเปิดบ้านเสมอ เซาแธมป์ตัน 0-0 ทำให้พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 5 มี 10 แต้ม แต่ก็ห่างจากกลุ่มผู้นำเพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น โดยหากทัพเรือใบสามารถเค้นฟอร์มและบุกมาเอาชนะให้กับสิงบลูได้สำเร็จ ก็มีโอกาสจะขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ศึกบิ๊กแมตช์ครั้งนี้จึงถือเป็นการเดิมพันด้วยตำแหน่งจ่าฝูง ถึงแม้จะเป็นแค่ชั่วคราวก็ตาม แต่ก็ถือเป็นการตัดแต้มและขวัญกำลังใจของคู่แข่ง ซึ่งจะมีบทบาทในการขับเคี่ยวแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน ร่วมชม ร่วมลุ้นพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. นี้ เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังพลาดไม่ได้กับหลากหลายโปรแกรมสุดเดือด เริ่มที่บุนเดสลีกา ในวันเดียวกัน เวลา 20.30 น. “กระทิงหนุ่ม” แอร์เบ ไลป์ซิก รองแชมป์เก่า ที่ฟอร์มหล่นจนน่าใจหาย ต้องเปิดบ้านเรียกความมั่นใจในการพบกับ “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ต่อด้วยเวลา 23.30 น. “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่ต้องการทำแต้มเพื่อขึ้นจากโซนท้ายตาราง แต่กลับต้องชนของแข็งอย่าง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่กำลังไล่ล่าแต้มจี้จ่าฝูงมาติด ๆ และคว้าชัยมา 3 นัดติด ปิดท้ายด้วยศึก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก วันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย. เวลา 18.00 น. “ช้างศึก” สุพรรณบุรี เอฟซี ที่กำลังควานหา 3 แต้มแรกของฤดูกาล หลังเสมอมา 3 นัดติด คราวนี้พวกเค้าจะต้องเปิดบ้านพบก้างชิ้นโต “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 4 ซึ่งประเดิมชัยได้ไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา มาร่วมลุ้นว่าช้างศึกจะประเดิมชัยแรก หรือ สิงห์เจ้าท่า จะคว้า 3 แต้มต่อเนื่อง
พีพีทีวี ยิงสด! บิ๊กแมตช์จ่าฝูง สิงห์บลู ชน เรือใบ พ่วงบุนเดส 2 คู่ ต่อด้วยไทยลีก สุพรรณ พบ ท่าเรือ
สุดสัปดาห์นี้ สปอร์ตไลต์ทุกดวงต่างสาดแสงไปที่เวที พรีเมียร์ลีก กับบิ๊กแมตช์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ สังเวียน สแตมฟอร์ดบริดจ์ กรุงลอนดอน เมื่อทีมที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง และน่าจับตามองที่สุดทีมหนึ่งในเวลานี้ อย่าง “สิงห์โตน้ำเงินคราม” เชลซี ของกุนซือ “โธมัส ทูเคิล” ที่นำโดย ดาวยิงสุดแกร่งอย่าง “โรเมลู ลูกากู” ต้องเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่า ภายใต้การนำทัพของ “เปป กวาร์ดิโอลา” โดยสถานการณ์ปัจจุบัน เชลซี คือหนึ่งใน 3 ทีม ที่ยังคงไม่แพ้ใคร นับตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา และยังผ่านทีมใหญ่มาแล้วถึง 3 แมตช์ ซึ่งผลงานเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก จากการบุกไปคว่ำ อาร์เซนอล 0-2 เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1 และบุกไปถล่ม สเปอร์ส 0-3 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมลงเล่น 5 นัด มี 13 แต้ม เท่ากับ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และสถานการณ์ยังเข้มข้นขึ้นไปอีก เมื่อ เชลซี และ ลิเวอร์พูล มีลูกได้เสียเท่ากัน ยิงได้ 12 เสีย 1 มีผลต่าง 11 ลูก ในขณะที่ แมนฯ ซิตี้ ฤดูกาลนี้เปิดตัวได้ไม่สวยนัก บุกไปพ่าย สเปอร์ส 1-0 แม้จะกลับมาโชว์โหดด้วยการเปิดบ้านถล่ม นอริช และ อาร์เซนอล 5-0 บุกไปเชือด เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1 แต่สัปดาห์ที่ผ่านมาพลาดท่าเปิดบ้านเสมอ เซาแธมป์ตัน 0-0 ทำให้พวกเขาอยู่ในอันดับที่ 5 มี 10 แต้ม แต่ก็ห่างจากกลุ่มผู้นำเพียงแค่ 3 คะแนนเท่านั้น โดยหากทัพเรือใบสามารถเค้นฟอร์มและบุกมาเอาชนะให้กับสิงบลูได้สำเร็จ ก็มีโอกาสจะขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำ ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ศึกบิ๊กแมตช์ครั้งนี้จึงถือเป็นการเดิมพันด้วยตำแหน่งจ่าฝูง ถึงแม้จะเป็นแค่ชั่วคราวก็ตาม แต่ก็ถือเป็นการตัดแต้มและขวัญกำลังใจของคู่แข่ง ซึ่งจะมีบทบาทในการขับเคี่ยวแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน ร่วมชม ร่วมลุ้นพร้อมกันในวันเสาร์ที่ 25 ก.ย. นี้ เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ยังพลาดไม่ได้กับหลากหลายโปรแกรมสุดเดือด เริ่มที่บุนเดสลีกา ในวันเดียวกัน เวลา 20.30 น. “กระทิงหนุ่ม” แอร์เบ ไลป์ซิก รองแชมป์เก่า ที่ฟอร์มหล่นจนน่าใจหาย ต้องเปิดบ้านเรียกความมั่นใจในการพบกับ “หญิงชรา” แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ต่อด้วยเวลา 23.30 น. “สิงห์หนุ่ม” โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ที่ต้องการทำแต้มเพื่อขึ้นจากโซนท้ายตาราง แต่กลับต้องชนของแข็งอย่าง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ที่กำลังไล่ล่าแต้มจี้จ่าฝูงมาติด ๆ และคว้าชัยมา 3 นัดติด ปิดท้ายด้วยศึก ไฮลักซ์ รีโว่ ไทยลีก วันอาทิตย์ที่ 26 ก.ย. เวลา 18.00 น. “ช้างศึก” สุพรรณบุรี เอฟซี ที่กำลังควานหา 3 แต้มแรกของฤดูกาล หลังเสมอมา 3 นัดติด คราวนี้พวกเค้าจะต้องเปิดบ้านพบก้างชิ้นโต “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ทีมอันดับ 4 ซึ่งประเดิมชัยได้ไปแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา มาร่วมลุ้นว่าช้างศึกจะประเดิมชัยแรก หรือ สิงห์เจ้าท่า จะคว้า 3 แต้มต่อเนื่อง